ดื่มเหล้ามันขม มาดื่มนมกันดีกว่า 1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก Update !


[ 30 พ.ค. 2554 ] - [ 18277 ] LINE it!

วันดื่มนมโลก World Milk Day
 
วันดื่มนมโลก World Milk Day
 
วันดื่มนมโลก world milk day
1 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันดื่มนมโลกหรือ World Milk Day
 
     องค์การอาหารแห่งสหประชาชาติ หรือ The Food and Agriculture Organization หรือ FAO กำหนดให้วันที่ 1 มิถุนายน ของทุกปี เป็น “วันดื่มนมโลก (World Milk Day) เพื่อให้ประเทศต่าง ๆ และองค์กรที่ให้ความสำคัญและสนับสนุนการบริโภคนม ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์และกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการบริโภคนม ด้วยการให้ความรู้และคุณประโยชน์ของนมให้แก่ประชาชน โดยปัจจุบันมีมากกว่า 35 ประเทศทั่วโลกที่ได้มีการจัดกิจกรรมวันดื่มนมโลก
 
     ธาตุอาหารใน "นม" ทั้งโปรแตสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียม ล้วนมีส่วนช่วยไม่ให้ความดันโลหิตสูงเกินกว่าปกติ เพื่อสุขภาพฟันที่ดี โดยปกติเนื้อฟันมีสารเคลือบที่ถือเป็นส่วนที่แข็งแรงที่สุดในร่างกาย ซึ่งประกอบด้วยแคลเซียม ฟันจึงต้องการแคลเซียมเพื่อช่วยเสริมสร้างให้ฟันแข็งแรงมีสุขภาพดี นมอุดมด้วยแคลเซียมและแร่ธาตุอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อฟัน มีโปรตีนที่ช่วยให้ฟันเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และช่วยเคลือบผิวฟันอีกด้วย ช่วยคุมน้ำหนัก หลายๆ คนหลีกเลี่ยงไม่ดื่มนมเพราะเชื่อว่านมทำให้อ้วน แต่จริงแล้วไม่ว่าจะเป็นนมสด นมพร่องไขมัน หรือนมไม่มีไขมัน มีปริมาณไขมันแค่เพียง 3.9%, 1.7%, และ 0.3% เท่านั้น
 
วันดื่มนมโลก จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนรู้ประโยชน์ของนม
ปัจจุบันมีมากกว่า 35 ประเทศทั่วโลกที่ได้มีการจัดกิจกรรมวันดื่มนมโลก
 
     นอกจากนี้ "นม" ยังเป็นเครื่องดื่มที่มอบความสดชื่นไม่แตกต่างจากน้ำดื่ม การดื่มนมเพียงหนึ่งหรือสองแก้วจะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นและยังทำให้ได้รับคุณค่าสารอาหารที่ร่างกายต้องการอีกด้วย นม 1 กล่อง เท่ากับทุกคุณค่าของสารอาหารที่ร่างกายต้องการ แคลเซียม สร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟันวิตามินบี 12 ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงคาร์โบไฮเดรต ให้พลังงานกับร่างกายแมกนีเซียม สร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อฟอสฟอรัส สร้างพลังงานให้กับเซลล์ในร่างกาย และทำให้กระดูกแข็งแรงโปรแตสเซียม ช่วยรักษาระดับความดันเลือดให้เป็นปกติ โปรตีนสร้างเสริมการเจริญเติบโต และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ วิตามินบี 2 ทำให้ผิวหนังมีสุขภาพดี ช่วยระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
 
ประโยชน์ของน้ำนม
 
     น้ำนมดิบมีสารอาหารครบ 5 หมู่ ประกอบไปด้วย โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ คาร์โบไฮเดรต และ ไขมัน ร่างกายสามารถนำสารอาหารจากน้ำนมไปใช้ประโยชน์ในการเจริญเติบโต ช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ที่สำคัญอย่างยิ่งคือนมมีแร่ธาตุ แคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยสร้างกระดูกและฟัน นมจึงถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาร่างกายและสมองของเด็ก
 
    โปรตีน ในน้ำนมเกือบทั้งหมดประกอบด้วยสารอาหารโปรตีน ที่เรียกว่า เคซีน , โกลบูลิน, อัลบูมิน และมีกรดอะมิโนอยู่ 19 ชนิด ซึ่งมีประโยชน์ต่อการสร้างเนื้อเยื่อ เลือด กระดูก และเอนไซม์ชนิดต่าง ๆ ในน้ำนมมีน้ำตาลที่มีชื่อว่า แล็คโตส (Lactose) ซึ่งช่วยในการเจริญเติบโตของสมอง และ ที่น่าสนใจคือโปรตีนที่เรียกว่า เคซีน (Casein) จะพบในธรรมชาติคือในน้ำนมเท่านั้น
 
    วิตามิน วิตามินเอ มีหน้าที่สำคัญต่อระบบสายตา , วิตามินบี B1 ช่วยในการทำงานของระบบประสาท หัวใจ และระบบขับถ่าย , B2 ช่วยในการทำงานของระบบประสาท และผิวหนัง , B6 ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเด็ก , B12 สร้างเซลล์ในโพรงกระดูก และเม็ดเลือดแดง วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างกระดูก และฟันให้แข็งแรง สร้างภูมิป้องกันต้านทานโรค และทำลายสารพิษต่าง ๆ วิตามินดี ก่อให้เกิดการป้องกันความผิดปกติของกล้ามเนื้อ และลดไขมันในเส้นเลือด
 
    เกลือแร่ ในน้ำนมประกอบด้วยเกลือแร่หลายชนิด คือแคลเซียม เป็นสารอาหารจำเป็นในการสร้างกระดูกและฟัน (เสริมสร้างในวัยเด็กและซ่อมแซมในวัยผู้ใหญ่) , ฟอสฟอรัส ทำงานร่วมกับแคลเซียม , โปตัสเซียม ควบคุมความสมดุลของเซลล์เกี่ยวกับความดันโลหิต นอกจากนี้ยังมี โซเดียม แมกนีเซียม และเหล็ก
 
    ไขมัน ปกติเราเรียกไขมันจากน้ำนมว่า "มันเนย" เป็นส่วนที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย (แต่นมจะให้ไขมันเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับขนมปัง นมถั่วเหลือง หรือเนื้อ)
 
     นมเป็นแหล่งสำคัญของแคลเซียมและโปรตีน ช่วยให้กระดูกเจริญเติบโตและแข็งแรง นมมีความสำคัญกับเด็กมากโดยเฉพาะเด็กในช่วงก่อนเข้าวัยรุ่นและช่วงวัยรุ่น เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายเจริญเติบโตเร็วมาก
 
นมมีประโยชน์อย่างมากมายจึงต้องตั้งวันดื่มนมโลก World Milk Day ขึ้น
นมมีประโยชน์ต่อร่างกาย ดื่มได้ทุกเพศทุกวัย
 
     แคลเซียมช่วยให้เด็กมีความหนาแน่นของมวลกระดูกมากขึ้น พอเข้าสู่วัยรุ่น จะช่วยให้กระดูกยาวขึ้น ถ้าในวัยเด็กและวัยหนุ่มสาว ร่างกายเรามีการสะสมไว้เพียงพอ จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน กระดูกเปราะแล้วยังช่วยในเรื่องของฟันอีกด้วย แต่ถ้าใครมีไม่เพียงพอ จะทำให้เสี่ยงต่อโรคกระดูกเปราะได้ง่าย
 
     ความจริงประโยชน์ของแคลเซียมในน้ำนมไม่ได้มีแค่นั้น ยังทำหน้าที่ยืดหดของกล้ามเนื้อ ช่วยให้ระบบประสาทไวต่อสิ่งเร้ามากขึ้น ช่วยให้เลือดแข็งตัว
 
     งานวิจัยระยะหลังออกมามากว่า แคลเซียมช่วยลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งขณะนี้ในหลายประเทศทั้งสหรัฐและยุโรป ศึกษาวิจัยกันมาก โดยใช้นมพร่องมันเนยให้กับเด็กวัยรุ่นที่อยู่ในโปรแกรมลดน้ำหนัก โดยพบว่ากลุ่มเด็กที่ดื่มนมพร่องมันเนยสามารถลดน้ำหนักได้ดีกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ดื่มนม ทำให้เข้าใจว่าแคลเซียมมีผลต่อการใช้ไขมัน ซึ่งอยู่ในขั้นศึกษาอยู่ แต่พอสรุปได้ว่านมยังช่วยในเรื่องลดน้ำหนักอีกด้วย
 
     ทั้งนี้ มีข้อมูลระบุว่า เด็กไทยตัวเตี้ยกว่ามาตรฐานสากลค่อนข้างเยอะ ถ้าอยากให้เด็กไทยเติบโตเต็มศักยภาพ พ่อแม่ผู้ปกครองควรให้ลูกหลานดื่มนมอย่างเพียงพอ เพราะนมมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์กับเด็ก โดยเฉพาะนมจืด เพราะไม่เป็นปัญหาในเรื่องอ้วนและฟันผุ
 
     จากภาพรวมในรายงานของสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร ระบุด้วยว่าคนไทยดื่มนม 12.3 ลิตรต่อคนต่อปี เทียบแล้วตกวันละ 33 ม.ล.หรือประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ถือว่าค่อนข้างน้อย
 
      บางคนไม่ชอบดื่มนม เพราะดื่มแล้วไม่สบายท้อง ท้องเสีย จริงๆ แล้วคนอายุ 6 ขวบ ขึ้นไป น้ำย่อยที่จะย่อยน้ำตาลแลกโตสในนม ซึ่งอยู่ในทางเดินอาหารจะน้อยหรือแทบจะไม่มีแล้ว น้ำตาลจะถูกแบคทีเรียใช้ สร้างเป็นกรดขึ้นมา เกิดเป็นแก๊ส ทำให้ท้องเสีย ซึ่งเป็นปัญหาของคนที่ไม่ได้ดื่มนมต่อเนื่อง แต่คนที่ดื่มนมต่อเนื่องจะมีการปรับตัว ทำให้ไม่รุนแรงหรือไม่มีอาการ
 
นม ดื่มได้ทุกเพศทุกวัย
นมมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์กับเด็กโดยเฉพาะนมจืด
 
     ดังนั้น คนที่ดื่มนมแล้วมีอาการ จะมีความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนสูง จึงควรปรับมาดื่มนมหลังอาหารหรือดื่มปริมาณน้อยแต่ดื่มหลายๆ ครั้ง ให้ได้วันละ 1 แก้ว เพื่อไปชะลอไม่ให้กระดูกพรุนเร็วขึ้น
 
นมมีกี่ประเภท 
 
ประเภทของนมในท้องตลาดหลักๆมี 3 ประเภท คือ พาสเจอร์ไรส์  สเตอริไรส์ และ ยู เอช ที
 
    1. พาสเจอร์ไรส์ คือ นมโคสดที่ผ่านขบวนการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูง (75 C) ภายในระยะเวลารวดเร็ว (15 วินาที) ทำให้นมมีคุณค่าทางอาหารอยู่ครบถ้วน มีความสดใหม่ กลิ่นหอมและคุณภาพดี (ควรเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำกว่า 8 c) มีอายุในการเก็บรักษา 14 วัน (ถ้าเป็นนมที่บรรจุในกล่อง Fresh Pak จะสามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้นานถึง 21วัน)
   
     2. ยู เอช ที คือนมโคสดที่ผ่านขบวนการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูง (140 c) ภายในเวลา 4 วินาที มีอายุการเก็บรักษาประมาณ 6-9 เดือน
 
     3. สเตอริไรส์ คือนมโคสดที่ผ่านขบวนการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูง (115-120 c) ภายในเวลา 20-30 นาที มีอายุในการเก็บรักษานาน 1 ปี
 
นมเหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย
 
     คนทุกเพศทุกวัยจำเป็นต้องได้ดื่มนม เพราะร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ในนมมาสร้างเสริมร่างกายให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา

     สำหรับหญิงตั้งครรภ์ควรดื่มนมเป็นประจำโดยเฉพาะนมที่มีแคลเซียมสูง จะช่วยเสริมสร้างกระดูกทั้งของทารกในครรภ์และสำหรับตัวคุณแม่เอง เพราะทารกที่อยู่ในครรภ์จะดึงแคลเซียมของแม่ไปเพื่อสร้างกระดูกของทารก นอกจากนี้ ยังสามารถดื่มนมเปรี้ยวเพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารในร่างกายเป็นปกติ , ลดไขมันในเส้นเลือด, สร้างภูมิคุ้มกันโรค และช่วยระบบขับถ่ายดียิ่งขึ้น เนื่องจากหญิงตั้งครรภ์จะมีอาการท้องผูกอยู่เสมอ

     ส่วนผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงนมที่มีรสหวาน แนะนำให้ดื่มนมพร่องมันเนย (Low fat) หรือ นมขาดมันเนย (Non fat) แทน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยลดความกังวลเรื่องระดับน้ำตาลคลอเรสเตอรอลในเลือดได้
 
เพราะนมมีความสำคัญต่อร่างกายจึงได้มีวันดื่มโลก World Milk Day ขึ้น
ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงนมที่มีรสหวาน ควรดื่มนมพร่องมันเนยหรือนมขาดมันเนย
 
ปริมาณในการดื่มนมที่เหมาะสม
 
วัยเด็ก (อายุ 1-12 ปี) ควรดื่มนมไม่น้อยกว่าวันละ 3 แก้ว

วัยหนุ่มสาว (13-25 ปี) ควรดื่มนมไม่น้อยกว่าวันละ 4 แก้ว

ผู้ใหญ่ (25 ปีขึ้นไป) ควรดื่มนมไม่น้อยกว่าวันละ 2 แก้ว (นม 1 แก้ว ปริมาณ 200 ซีซี (ขนาดเท่านมขวดเล็ก)

     โดยเฉลี่ยแล้วทุกคนควรดื่มไม่น้อยกว่าวันละ 2 แก้ว แต่ถ้าเป็นสตรีมีครรภ์ หรือหลังคลอดบุตรควรดื่มไม่น้อยกว่าวันละ 3 แก้ว
 
ทำไมดื่มนมแล้วท้องเสีย
 
     ผู้ที่มีอาการปวดท้องหรือท้องเสียภายจากการดื่มนม มีสาเหตุมาจากการขาดน้ำย่อยสำหรับย่อยน้ำตาลแลคโตสในนม (ขาดเอนไซม์ที่เรียกว่า บี-กาแลคโทซิเดส) อาการนี้ส่วนมากจะพบในผู้ใหญ่ เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ดื่มนมสดมาตั้งแต่เด็ก ทำให้มีอาการปวดท้องเวลาดื่มนม ทางแก้ไขคือ ควรค่อยๆ ดื่มนมทีละน้อยเพื่อให้ร่างกายเริ่มสร้างน้ำย่อยสำหรับย่อยน้ำตาลใน นม

     สำหรับผู้ที่มีปัญหาจากการดื่มนม แนะนำให้เลือกดื่มนมเปรี้ยวแทน เนื่องจากเชื้อจุลินทรีย์ในนมเปรี้ยวจะสร้างกรดแลคติกซึ่งจะช่วยย่อยน้ำตาล แลคโตสในนมได้ง่ายกว่าการบริโภคนมโดยตรง
 
การดื่มนมกับความอ้วน
 
     การดื่มนมไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอ้วน เนื่องจากในนมสดจะมีไขมันเพียง 3.8% หรือประมาณ 1 ช้อนชาต่อนม 1 ขวดใหญ่เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับอาหารชนิดอื่น ผู้ที่เป็นโรคอ้วน ส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหารมัน อาหารจุบจิบ แต่หากกังวลเกี่ยวกับความอ้วนแล้ว ควรดื่มนมพร่องมันเนยหรือนมไม่มีไขมันที่มีแคลเซียมสูงแทน
 
อีก 1 ทางเลือกสำหรับผู้ที่ชอบดื่มนม
 
    นมเปรี้ยว เป็นน้ำนมหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนม ที่มีการเติมเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น เชื้อ แลกโต บาซิลลัส ที่ช่วยในการย่อยอาหาร และผลิตวิตามินเค และทำให้เกิดการหมักตัว มีความเปรี้ยวขึ้น น้ำนมที่นำมาใช้ทำนมเปรี้ยวนั้น มีทั้งเป็นน้ำนมสด และนมที่ได้สกัดเอามันเนยออก แล้วอาจมีการเติมสี กลิ่นรสชาติ เช่นเติมผลไม้เชื่อม หรือเติมรสส้ม องุ่น ลิ้นจี่ ฯลฯ
 
ประเภทของนมเปรี้ยว นมเปรี้ยวที่วางขายในท้องตลาดมีหลายชนิดสามารถแบ่งได ้ดังนี้
 
นมเปรี้ยวชนิดผง
 
     ดัดแปลงมาจากน้ำนมวัวธรรมดาและคงคุณค่าของสารอาหารในน้ำ นมได้ ทั้งด้านโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และเกลือแร่ต่างๆ แต่ผ่านกระบวนการหมัก จนเกิดกรดที่มีรสเปรี้ยวเสียก่อน จึงนำมาทำให้แห้งเป็นผงนมเปรี้ยวชนิดนี้ใช้สำหรับเด็ก โดยใช้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาโรคระบบทางเดินอาหารของเด็ก
 
โยเกิตท์อาหารเพื่อสุขภาพที่ทำจากนม
โยเกิร์ตอีกทางเลือกหนึ่งของสุขภาพ
 
โยเกิร์ต
 
     เป็นผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวที่มีลักษณะกึ่งแข็งกึ่งเหลว ทำโดยการเติมเชื้อจุลินทรีย์ หรือเชื้อราบางชนิดตามธรรมชาติ ที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย ลงไปในนมและทิ้งไว้ให้เกิดการหมักและเกิดรสเปรี้ยว ในอดีตการผลิตนมเปรี้ยวจะไม่มีการปรุงแต่งสี กลิ่น รส ต่อมาได้มีการพัฒนาดัดแปลงปรุงแต่งเติมทั้งสี กลิ่น รส ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างกันหลายอย่างให้ผู ้บริโภคเลือกซื้อได้ตามพอใจ
 
นมเปรี้ยวที่เป็นของเหลว
 
     มักจะทำมาจากนมขาดมันเนยและมีการเติมน้ำตาลลงไปเพื่อให้ เชื้อจุลินทรีย์เจริญเติบโตได้ดี เชื้อจุลินทรีย์ที่ใช้มักจะเป็นแลกโตบาซิลลัส แล้วปล่อยให้เกิดการหมักและย่อยนมบางส่วนจนกระทั่งมี รสเปรี้ยวจึงนำออกมาจำหน่าย
 
นมเปรี้ยวเทียม
 
     คือน้ำนมที่นำมาเติมกรดแลคติกหรือกรดอื่นๆ เพื่อทำให้เกิดรสเปรี้ยว โดยไม่ผ่านการหมักหรือเติมจุลินทรีย์ใดๆ แล้วปรุงแต่งสี กลิ่น รส แล้วนำออกมาจำหน่าย ซึ่งทำให้ไม่จำเป็นต้องเก็บในที่ที่เย็น และสามารถเก็บได้นานกว่านมเปรี้ยวธรรมดา
 
     สารอาหารที่ได้รับจากการบริโภคนมเปรี้ยวจะแตกต่างกันออกไปตามนมที่นำมาใช้ในการทำ โดยแยกตามปริมาณของไขมัน มี 3 ระดับคือ นมเปรี้ยวที่มีไขมันสูง จะมีไขมันประมาณ 3% ขึ้นไป นมเปรี้ยวไขมันต่ำ จะมีไขมันปริมาณ 1.5 - 3% และชนิดที่มีไขมันน้อยมาก
 
     นอกจากนี้จะมีปริมาณโปรตีนประมาณ 12 - 18% ส่วนปริมาณคาร์โบไฮเดรทจะมีมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการปรุงแต่งรส และมีปริมาณเหล็กและทองแดงต่ำมาก คุณค่าทางโภชนาการของนมเปรี้ยว จึงขึ้นอยู่กับชนิดของนมที่นำมาใช้ และปรุงแต่งลงไป ถ้าทำมาจากนมสด คุณค่าจะเท่ากับนมสด ถ้าทำมาจากหางนมที่ได้สกัดไขมันออกจะมีคุณค่าทางโภชนาการน้อยลงไป จึงไม่ควรรับประทานนมเปรี้ยวเป็นอาหารหลัก
 
การประยุกต์นมมาทำเป็นโยเกิร์ต
โยเกิร์ตเพิ่มความอร่อยด้วยการใส่ผลไม้ต่างๆ ลงไป
 
คำแนะนำในการบริโภคนมเปรี้ยว
 
     เนื่องจากนมเปรี้ยวเป็นผลิตภัณฑ์ที่เติมสารจุลินทรีย์เข้าไป จึงจำเป็นต้องเก็บในที่ๆ มีอุณหภูมิที่ไม่เกิน 10 องศาเซลเซียส และเก็บไว้ไม่เกิน 7 วัน และควรบริโภคให้หมดก่อนวันหมดอายุ หากเปิดภาชนะบรรจุแล้วบริโภคไม่หมดภายในวันเดียว ควรเก็บไว้ในตู้เย็นและปิดผาให้มิดชิด
 
การสังเกตลักษณะของนมเปรี้ยวที่ดี
 
     ถ้าเป็นนมเปรี้ยวที่เป็นน้ำ ต้องไม่มีตะกอนหรือลักษณะเป็นก้อนๆ ที่ก้นขวดหรือภาชนะบรรจุ ถ้าเป็นโยเกิร์ต จะต้องอยู่ในลักษณะกึ่งแข็งกึ่งเหลว กลิ่นและรสไม่ผิดไปจากปกติ (ยกเว้นกลิ่นและรสที่ปรุงแต่งลงไป)
 
สัญลักษณ์ของแลกโตบาซิลลัตในนมเปรี้ยว
นมเปรี้ยวช่วยปรับสภาพความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้ดูดซึมดีขึ้น
 
     การบริโภคนมเปรี้ยวและโยเกิร์ตจะได้รับกรดแลคติก ที่เกิดจากการหมักตัวของจุลินทรีย์ในนมเปรี้ยวซึ่งจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซี่ยมและฟอสฟอรัสได้ดียิ่งขึ้น ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสีย ที่กระเพาะมีปริมาณความเป็นกรดลดลง ทำให้อาหารไม่สามารถย่อยได้ดี การบริโภคนมเปรี้ยวจะช่วยปรับสภาพของกระเพาะอาหารให้เป็นกรดขึ้น และทำให้การดูดซึมอาหารดีขึ้น รวมทั้งป้องกันไม่ให้เชื้อโรคตัวอื่นๆ รุกล้ำเข้าไปใน ระบบย่อยอาหารและนอกจาก นี้จุลินทรีย์ที่เติมในนมเปรี้ยวยังมีส่วนช่วยในการขับถ่ายอีกด้วย และจากที่นมเปรี้ยวบางชนิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนมสด และนำมาสกัดไขมันออก จึงมีบางคนเข้าใจว่า เป็นอาหารที่ให้พลังงานต่ำ จึงใช้เป็นอาหารหลักในการลดน้ำหนัก ดังนั้นก่อนเลือกซื้อให้พิจารณาก่อนว่า การเลือกซื้อที่ปรุงแต่งเติมน้ำตาลและผลไม้ลงไป ก็เท่ากับเป็นการเพิ่มพลังงานให้มากขึ้นด้วย แทนที่จะเป็นการลดน้ำหนัก ก็อาจจะเป็นการเพิ่มน้ำหนักโดยไม่ตั้งใจ
 
     การบริโภคนมเป็นสิ่งที่ดีร่างกายจะได้รับสารอาหารที่ มีประโยชน์ต่อร่างกายครบถ้วน ดังนั้นการบริโภคนมเปรี้ยวจึงต้องพิจารณาวัตถุดิบที่นำมาผลิต รวมทั้งราคาเมื่อเทียบกับปริมาณของอาหาร และสารอาหารที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์อื่นๆในลักษณะใกล้เคียงกัน แต่ถ้าท่านคิดจะบริโภคเป็นอาหารว่าง เพื่อเป็นการเปลี่ยนรสชาติบ้างคงไม่เป็นไร
 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
Bipolar Disorder โรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้วBipolar Disorder โรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว

Facebook คืออะไร ประวัติของ Facebook และวิธีการสมัคร FacebookFacebook คืออะไร ประวัติของ Facebook และวิธีการสมัคร Facebook

การนอนดึกส่งผลต่อสุขภาพอย่างไรการนอนดึกส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

Review รายการ