คุณแม่รักการทำบุญแต่ก็ชอบไหว้เจ้าบุญนี้จะส่งผลอย่างไรกับท่านคะ

บุญก็ทำ เจ้าก็ไหว้

 

คำถามจากทางบ้าน:

        แม่ของลูกรักการทำบุญ แต่ก็ชอบไหว้เจ้า ลูกจะชอบชวนท่านทำบุญกับหมู่คณะ และทันทีที่ท่านทราบว่า ลูกเป็นประธานกองกฐินสร้างอาคาร ๑๐๐ ปีคุณยายอาจารย์ฯ ท่านก็ร่วมบุญกับลูกทันที บุญนี้จะส่งผลอย่างไรกับท่านต่อไปคะ

 

แม่ของลูกรักการทำบุญ แต่ก็ชอบไหว้เจ้า

 

ที่นี่มีคำตอบ:

        แปลว่าตอนนี้ท่านยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการทำบุญและความเป็นจริงของชีวิต แต่ทำตามประเพณี ในกรณีทั่วไป สำหรับผู้ที่ศรัทธาในการไหว้เจ้า และการสร้างบุญบูชาเทพเจ้าในแบบที่ยังไม่เข้าใจเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตและทำอย่างนี้เรื่อยๆ จนกระทั่งหมดอายุขัยพวกเขาเหล่านั้นเมื่อละโลกก็จะไปเป็นภุมเทวา ที่มีวิมานอยู่ที่ศาลเจ้าที่ตนเองไปไหว้เป็นประจำนั่นเอง

 

เมื่อละโลกก็จะไปเป็นภุมเทวา ที่มีวิมานอยู่ที่ศาลเจ้าที่ตนเองไปไหว้เป็นประจำนั่นเอง

 

        ในกรณีที่ชอบไหว้เจ้าควบคู่ไปกับการทำบุญในพระพุทธศาสนาแบบตามประเพณี หรือทำตามที่มีคนมาบอกมาชวน แต่ก็เป็นแบบที่ยังไม่เข้าใจในเรื่องการสร้างบารมี คือชวนก็ทำ ก็จะมีภพภูมิที่สูงขึ้นอีกหน่อย คือ อัพเกรดไปเป็นเทวดาที่อยู่ชั้นจาตุมหาราชิกา โดยมักจะไปเป็นคนธรรพ์อยู่ในกลุ่มที่มีความศรัทธาในเทพเจ้าเหมือนๆ กัน

 

ลูกจะต้องแนะนำให้คุณแม่เข้าใจในเรื่องการสร้างบารมี

 

        ในกรณีคุณแม่ของลูก ถ้าลูกอยากให้คุณแม่ไปดุสิตบุรี ลูกจะต้องแนะนำให้คุณแม่เข้าใจในเรื่องการสร้างบารมี ซึ่งตัวลูกก็ต้องเข้าใจก่อน และให้ท่านมีศรัทธาในพระรัตนตรัย เคารพกราบไหว้เฉพาะพระรัตนตรัยแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แล้วก็ชวนท่านหมั่นสร้างทานบารมีกับหมู่คณะ ไม่ว่าจะเป็นบุญเล็ก บุญน้อย บุญใหญ่ ก็ให้ท่านทำเต็มที่ เต็มกำลัง แล้วชักชวนให้ผู้อื่นทำด้วย แต่แค่นั้นก็ยังไม่พอ ต้องแนะนำให้คุณแม่รักษาศีล ๕ และรักษาศีล ๘ ในวันพระเป็นประจำ แล้วก็หมั่นเจริญสมาธิภาวนา จนกระทั่งท่านเห็นองค์พระภายในตัว ชัด ใสสว่าง และให้อธิษฐานจิตให้ได้สร้างบารมีกับหมู่คณะ ตามติดไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ ไปทุกภพทุกชาติ

 

ต้องแนะนำให้คุณแม่รักษาศีล ๕ และรักษาศีล ๘ ในวันพระเป็นประจำ และเจริญสมาธิภาวนา

 

        ถ้าทำได้ดังนี้ คุณแม่ก็จะสามารถตามลูกสาวไปสร้างบารมีกับหมู่คณะ และกลับดุสิตบุรีได้ คือ ตอนยังมีชีวิตอยู่จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ก็ต้องแนะนำให้ท่านดังกล่าวนั่นแหละ

 

โดย คุณครูไม่ใหญ่

๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๒