ข่าวภัยธรรมชาติ 2011
รวมข่าวภัยธรรมชาติจากทั่วโลก 2011
ข่าวภัยธรรมชาติ ข่าวภัยธรรมชาติในประเทศไทยและทั่วโลก คลิปภัยธรรมชาติ 2011
ข่าวภัยธรรมชาติในปี 2011
ไฟป่าเท็กซัส อีกหนึ่งภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นที่อเมริกาหลังจบเหตุพายุเฮอร์ริเคน
(12 ก.ย.) เจ้าหน้าที่รัฐเทกซัส เปิดเผยว่า จำนวนบ้านเรือนที่ถูกทำลายจากไฟป่าครั้งใหญ่ที่ลามไหม้ ทางตะวันออกของเมืองออสติน เมืองเอกของรัฐเทกซัส ตลอดช่วงกว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 1,554 หลัง นอกจากนี้ยังมีประชาชนอีก 17 คนสูญหาย
เทอร์รี พิคเคอริง นายอำเภอเทศมณฑลแบสทร็อป รัฐเทกซัส กล่าวว่า ผู้สูญหายอาจออกนอกเมือง แต่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังติดต่อไม่ได้
ไมค์ ฟิชเชอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินเทศมณฑลแบสทร็อป เชื่อว่า จำนวนบ้านที่เสียหายอาจเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบในเขตที่ไฟเพิ่งจะถูกดับ
ไฟป่าเทศมณฑล แบสทร็อป เริ่มขึ้นเมื่อกว่า 1 สัปดาห์ก่อน เมื่อลมแรงจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนลี พัดผ่านรัฐเทกซัส ที่แห้งผากจากภัยแล้ง ไฟป่าที่นี่เป็นไฟป่าที่ใหญ่ที่สุดจากไฟป่าทั้งสิ้นกว่า 190 จุด ที่ลามไหม้ทั่วรัฐเทกซัส
ไฟป่าเผาผลาญผืนป่าไปแล้วกว่า 20,000 เอเคอร์ หรือ 50,000 ไร่
ไฟป่าเท็กซัส อีกหนึ่งภัยธรรมชาติ
ฟ้าผ่าฐานทัพอากาศสหรัฐฯ เจ็บ 77 นาย !
ข่าวภัยธรรมชาติ เหตุฟ้าผ่าใส่ฐานทัพอากาศแคมพ์ เชลบี
(9 มิ.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ได้เกิดเหตุฟ้าผ่า ใส่ฐานทัพอากาศแคมพ์ เชลบี ใกล้เมืองแฮตตีส์เบิร์ก ในมลรัฐมิสซิสซิปปี ของสหรัฐฯ เป็นเหตุให้มีหน่วยกำลังพลสำรองของกองทัพอากาศ ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 77 นาย โดยจำนวนนี้ มี 2 นาย ที่มีอาการสาหัส ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียง
ทั้งนี้ เทอร์รี สตีด ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ของเขตฟอร์เรสต์ เคาน์ตี ซึ่งดูแลครอบคลุมพื้นที่ดังดังกล่าว ออกมายืนยันว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 77 ราย ไม่มีรายใดที่ถูกฟ้าผ่าโดยตรง
ขณะที่ ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศในสหรัฐฯ ระบุว่า ในแต่ละปีจะเกิดฟ้าผ่าประมาณ 16 ล้านครั้งทั่วโลก โดยที่ในประเทศสหรัฐอเมริกา พื้นที่ที่เกิดฟ้าผ่ามากที่สุดคือ บริเวณตอนกลางของมลรัฐฟลอริดา แถบเมืองแทมปา เรื่อยไปจนถึงเมืองออร์แลนโด มีสถิติมากกว่า 50 ครั้ง ต่อตารางไมล์ต่อปี
วิกฤต ! น้ำท่วมน่าน
ภาพข่าวน้ำท่วมน่าน
(29 มิ.ย.) ชาวบ้านอำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ยังคงต้องอาศัยอยู่บนหลังคาบ้าน พื้นที่ 7 ตำบลถูกน้ำท่วมสูง ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 15,000 หลังคาเรือน เนื่องจากอำเภอเวียงสาเป็นพื้นที่รับน้ำ ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน แต่ที่อำเภอเมือง, ปัว, ท่าวังผา และภูเวียง สถานการณ์น้ำท่วมกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ชาวบ้านเริ่มทำความสะอาดบ้านเรือนและร้านค้าเพื่อกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง
ฝนกระหน่ำดินถล่มในเกาหลี
ภัยธรรมชาติ เหตุการณ์ดินถล่มในเกาหลี
(27 ก.ค.) สถานการณ์ดินถล่มและฝนตกหนักในเกาหลีใต้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 18 คน และยังมีผู้สูญหายอีก 3 คน ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเกาหลีใต้ระบุว่า ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ดินถล่มและฝนตกหนักเพิ่มขึ้นเป็น 18 คนแล้ว ในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่มในเมืองชุนชอน 12 คน โดย 10 คนในจำนวนนี้เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอินฮา ในเมืองอินชอน ที่เข้าไปทำงานอาสาสมัคร ส่วนอีก 5 คนเสียชีวิตจากเหตุดินถล่มในเขตบังแดดองทางใต้ของกรุงโซล นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 1 คน ในเขตภูเขาอึมยอนในกรุงโซล
หิมะตกกลางทะเลทรายชิลี
ภัยธรรมชาติ ทำหิมะตกกลางทะเลทรายชิลี
ศูนย์ฉุกเฉินแห่งชาติของชิลี รายงานว่า คลื่นความเย็นจัด ได้ทำให้เกิดหิมะตกในทะเลทรายอะตาคาม่า ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ทราบกันดีว่า เป็นสถานที่ที่แห้งแล้งที่สุดในโลก และดินแห่งนี้ไม่เคยมีหิมะตกขนาดนี้มาก่อนในรอบเกือบ 20 ปี และพบว่า บางพื้นที่มีหิมะตกหนาถึง 80 เซ็นติเมตร ทำให้ถนนหลายสายต้องปิดและยานพาหนะไม่สามารถแล่นผ่านได้
สื่อมวลชนในท้องถิ่น รายงานว่า ทางการได้ช่วยเหลือชาวโบลิเวียจำนวน 36 คน เมื่อวันอังคารหลังจากรถประจำทางที่พวกเขาโดยสารมา ติดอยู่ท่ามกลางหิมะที่กำลังตกหนัก และเป็นไปได้ว่า ผู้โดยสารบนรถคันนี้ ต้องทนต่อสภาพหนาวเย็นเพราะอุณหภูมิต่ำถึงจุดเยือกแข็งนานถึง 48ชั่วโมง ก่อนจะได้รับความช่วยเหลือ
ผู้โดยสารคนหนึ่ง เปิดเผยว่า พวกเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและปราศจากอาหาร ขณะที่อุณหภูมิในกรุงซานติอาโก้ ลดลงไปอยู่ที่ ลบ 8.5 องศาเซลเซียส เมื่อวันพุธ ส่วนประเทศอื่นในละตินอเมริกา เช่น อุรุกวัย และอาร์เจนติน่า ก็ได้รับผลกระทบจากอากาศที่เย็นจัดเช่นกัน
คลิปภัยธรรมชาติ หิมะตกกลางทะเลทรายชิลี
ทอร์นาโดถล่มรัสเซีย
พายุทอร์นาโดพัดถล่มเมืองบลาโกเวชเชสก์ รัสเซีย
(2 ส.ค.) พายุทอร์นาโดพัดถล่มเมืองบลาโกเวชเชสก์ ทางภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซียไม่ห่างจากพรมแดนที่ติดกับประเทศจีน ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 220,000 คน โดยพายุหมุนซึ่งพัดกระหน่ำถึง 13 นาที ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 30 คน ในจำนวนนี้ถูกนำส่งโรงพยาบาล 4 คน ซึ่งมีอาการสาหัส 1 คน ทั้งนี้แรงลมทำให้ต้นไม้ใหญ่กว่า 150 ต้นหักโค่น หลังคาโลหะที่มีน้ำหนักเบาปลิวออกจากตัวอาคาร บ้านและร้านค้าต่างๆ นอกจากนี้ยังทำให้รถยนต์กว่า 150 คันรวมถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่พลิกคว่ำ ขณะที่สายไฟฟ้ายาวกว่า 30 กิโลเมตร และเสาไฟ 50 ต้นได้รับความเสียหาย ทำให้ผู้คนกว่า 10,000 คนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้
คลิปภัยธรรมชาติ พายุถล่มตะวันออกไกลรัสเซีย
ขณะที่ชาวเมืองหลายคนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ด้านสำนักข่าวของทางการรายงานว่าพายุทอร์นาโดลูกนี้ได้สร้างความเสียหายคิด เป็นมูลค่าประมาณ 87 ล้านบาท และถือเป็นพายุทอร์นาโดลูกแรกที่พัดถล่มเมืองใหญ่ของรัสเซีย
หมุ่ยฟ้า ถล่มจีน
พายุโซนร้อนหมุ่ยฟ้าที่ถล่มจีน
(8 ส.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศได้ประมวลภาพความเสียหายจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนหมุ่ยฟ้า ที่พัดเข้าถล่มบริเวณทะเลเหลือง ระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่และคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งได้สร้างความเสียหายและมีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งแล้ว โดยพายุโซนร้อนหมุ่ยฟ้าที่เพิ่งอ่อนกำลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นและพายุ ไต้ฝุ่นตามลำดับ เมื่อเข้าสู่ทะเลเหลือง แม้ว่าพายุลูกดังกล่าวจะยังไม่ขึ้นชายฝั่งแต่อิทธิพลของพายุก็สร้างความเสีย หายไปทั่วพื้นที่ดังกล่าง โดยเฉพาะหลายเมืองในมณฑลซานตง มณฑลเจียงซู รวมทั้งเมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้ และกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน
พายุไอรีนถล่มนิวยอร์ก
ข่าวภัยธรรมชาติ พายุเฮอริเคนไอรีนถล่มสหรัฐอเมริกา
(29 ส.ค.) พายุเฮอริเคนไอรีนที่เข้าพัดถล่มชายฝั่งทางภาคตะวันออกของสหรัฐอเมริกา สร้างความเสียหายอย่างหนัก ล่าสุดมีรายงานแจ้งยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 18 ราย ในขณะที่ล่าสุด พายุได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน พัดขึ้นเหนือเข้าสู่ประเทศแคนาดา
นอกจากนี้ยังมีรายงานล่าสุดจากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ ว่ามีพายุโซนร้อนลูกใหม่ชื่อ โจเซ่ (Jose) กำลังก่อตัวและกำลังเคลื่อนเข้าใกล้หมู่เกาะเบอร์มิวด้า ซึ่งทางศูนย์ฯ ได้เฝ้าจับตาการเคลื่อนตัวของพายุลูกนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป
คลิปภัยธรรมชาติ พายุไอรีนถล่มสหรัฐฯ
ภัยธรรมชาติ กำเนิดภัยธรรมชาติ
นับตั้งแต่เริ่มกำเนิดโลกมา โลกของเราได้ประสบกับวิกฤติการณ์ความรุนแรงและการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันโลกก็ยังคงประสบอยู่ ภัยธรรมชาตินี้เป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั้งในบรรยากาศภาคพื้นสมุทรและภาคพื้นดิน
ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นนับเป็นภัยพิบัติที่มีต่อมนุษย์ ทรัพย์สินและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาล ชีวิตและทรัพย์สินทั้งของส่วนตัวและของส่วนรวม รัฐและประชาชนต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากเพื่อ ช่วยเหลือและบูรณะฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ
สำหรับประเทศไทย นับว่ายังโชคดีกว่าหลาย ๆ ประเทศในแถบเอเซียและแปซิฟิก เพราะตั้งอยู่ในภูมิประเทศที่เหมาะสม พื้นดินมีความอุดมสมบูรณ์ลมฟ้าอากาศดี มีฝนตกต้องตามฤดูกาลเป็นส่วนมาก และมีปริมาณฝนเพียงพอแก่กสิกรรม เรื่องภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดจากสภาวะอากาศ หรือเกิดจากธรรมชาติเองก็ตาม จึงมักไม่ใคร่เกิดได้บ่อยนัก และแม้จะเกิดขึ้นแต่ก็ไม่รุนแรง
ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมีอยู่หลายรูปแบบ ที่สำคัญและสามารถสร้างความเสียหายได้เป็นอย่างมาก คือ วาตภัย อุทกภัย อัคคีภัยและแผ่นดินไหว วาตภัยและอุทกภัยมีสาเหตุหลักจากพายุหมุนเขตร้อนและพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง ในขณะที่อัคคีภัยและแผ่นดินไหว มนุษย์มีส่วนกระทำให้เกิดขึ้น
ภัยจากธรรมชาติที่มนุษย์มีส่วนร่วมในการเกิด
พายุฝนฟ้าคะนองมักปรากฏในบริเวณที่มีการก่อตัวขึ้นของมวลอากาศ เช่น ในริองความกดอากาศต่ำ เป็นต้น และมีลักษณะการก่อตัวรุนแรงเป็นพิเศษในฤดูร้อน โดยเฉพาะในเดือนเมษายนพายุฟ้าคะนองเป็นลักษณะอากาศร้ายที่ก่อให้เกิด ลมแรง ลูกเห็บ ฟ้าผ่า และบางครั้งเกิดพายุหมุนซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แม้จะเกิดในบริเวณแคบ ๆ ในขณะที่พายุหมุนเขตร้อนสามารถทำความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง แต่จะมีการก่อตัวน้อยกว่า พายุหมุนเขตร้อนเข้าสู่ประเทศไทยปีละ 3-4 ลูก โดยเริ่มต้นในฤดูฝนถึงกลางฤดูหนาวและมีอัตราของจำนวนพายุหมุนเขตร้อนเข้าสู่ประเทศไทยมากที่สุดในเดือนตุลาคม มีลมแรงและฝนตกหนักเนื่องจากพายุหมุนเขตร้อนทำลายอาคาร บ้านเรือน ชีวิตมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ฯลฯ ความรุนแรงของความเสียหายเป็นไปตามความรุนแรงของพายุหมุนเขตร้อนนั้น
อัคคีภัยและแผ่นดินไหวแม้จะเป็นภัยธรรมชาติซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ แต่มนุษย์ก็มีส่วนทำให้เกิดภัยดังกล่าวขึ้น เช่น การทดลองระเบิดนัวเคลียร์ การทำสงคราม ฯลฯ มีส่วนในก่อให้เกิดแผ่นดินไหว ความประมาทเลินเล่อก่อให้เกิดอัคคีภัย
ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สามารถแบ่งออกได้เป็น 8 ชนิด ดังนี้
1. พายุหมุนเขตร้อน (Tropical Cyclones)
2. แผ่นดินไหว (Earthquakes)
3. อุทกภัย (Floods)
4. พายุฟ้าคะนองหรือพายุฤดูร้อน (Thunderstorms)
5. แผ่นดินถล่ม (Land Slides)
6. คลื่นพายุซัดฝั่ง (Storm Surges)
7. ไฟป่า (Fires)
8. ฝนแล้ง (Droughts)
สาเหตุภัยธรรมชาติ
โดย พระมหาดร.สมชาย ฐานวุฑโฒ
พระมหา ดร.สมชาย ฐานวุฑโฒ รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
เราจะเห็นว่าภัยธรรมชาติเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อย คนเลยค่อนข้างจะตื่นตัวกันเยอะ ซึ่งสาเหตุของภัยธรรมขาติ ถ้าแบ่งกันจริงๆ มี 2 อย่าง คือ
1. เกิดจากธรรมชาติจริงๆ เช่น ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว
2. ภัยธรรมชาติที่เกิดจากมนุษย์ เช่น พายุพัด ที่ดูเผินๆ เป็นภัยธรรมชาติ แต่เชื่อหรือไม่ว่ามนุษย์เราทำให้พายุเกิดขึ้นมาได้เยอะ และแรงขึ้นด้วย หรือว่าภาวะภัยแล้ง ภาวะโลกร้อน น้ำท่วม ไฟป่า ล้วนเกิดจากมือมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันทั้งนั้น
มนุษย์เราเองมีการบริโภคพลังงานมาก ทั้งน้ำมัน แก๊ส ถ่านหิน ก็เกิดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ไปสู่ชั้นบรรยากาศมาก ซึ่งคาร์บอนไดออกไซด์ที่ออกไปก็ไปคลุมโลกอยู่ เพราะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มันหนัก หนักกว่าออกซิเจน ผลก็คือคาร์บอนไดออกไซด์ที่หนักกว่าก็จะอยู่คลุมใกล้ๆ โลก พอแสงแดดที่ส่องมาที่โลกแล้ว ความร้อนก็จะถูกกักไว้ในโลก หรือที่เรียกกันว่าปฏิกิริยาเรือนกระจก ผลคือทำให้โลกร้อนขึ้น
หากเราเคยเห็นลมบ้าหมูกลางสนามหญ้าที่พัดหมุนเอาอะไรต่อมิอะไรขึ้นมา ซึ่งสักพักมันก็จะหายไป นั่นแหละคือปฏิกิริยาของการเกิดพายุ คือ พออากาศร้อนแดดส่องมันลอยขึ้น อากาศเย็นข้างๆ ก็จะเคลื่อนเข้ามาแทนที่ พอมาเจอตรงกลางมันก็จะบิดหลบกันตามสนามแม่เหล็กโลกเกิดเป็นเกลียวลมขึ้นมา ถ้าเป็นพื้นที่เล็กๆ เหมือนสนามฟุตบอล มันก็จะเป็นเกลียวไม่ใหญ่ แต่ถ้าพื้นที่กว้างๆ อย่างเช่น มหาสมุทร ถ้าเกิดในมหาสมุทรแปซิฟิก เราเรียกว่า ไต้ฝุ่น เกิดในมหาสมุทรอินเดียเราเรียกว่า ไซโคลน และถ้าเกิดในมหาสมุทรแอตแลนติกเราเรียกว่า เฮอริเคน
เฮอริเคน ภัยธรรมชาติที่สร้างความเสียหายได้อย่างมากมาย
เพราะฉะนั้นแค่อุณหภูมิเพิ่มเพียง 1 – 2 องศา อากาศร้อนลอยสูงเร็วขึ้นไปอีกหน่อย อากาศเย็นเคลื่อนเร็วอีกนิด ผลคือพายุที่เกิดขึ้นจะแรงขึ้นมาเป็นสิบๆ เท่า แล้วโอกาสจะเกิดพายุนั้นมันมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว แหละนี้คือผลที่เกิดขึ้นจากมือมนุษย์นั่นเอง เพราะฉะนั้นเราจะได้ยินข่าวภาวะโลกร้อน หรือข่าวเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาวถี่ขึ้น พายุหนัก ๆ แรงๆ จะได้ยินถี่ขึ้น เพราะอะไร ก็เพราะว่าโลกเราตอนนี้เหมือนคนกำลังเป็นไข้ แล้วถ้าเราสังเกตให้ดีจะพบว่า ภัยธรรมชาติที่ทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงนั้น มักจะเป็นภัยธรรมชาติที่มีพื้นที่กระจายคลุมกว้างขวาง บางอย่างดูรุนแรงน่ากลัวแต่อาจไม่หนักเท่า ยกตัวอย่างเช่น แผ่นดินไหว น่ากลัว เสียหายเยอะ แต่ตัวแผ่นดินไหวจริงๆ มันเกิดเป็นจุด เมืองหลักที่สั่นสะเทือนก็จะเสียหายเยอะ เมืองที่ห่างออกไปก็จะไม่เท่าไหร่แล้ว แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าแผ่นดินไหว คือผลกระทบต่อเนื่องที่ตามมาหลังจากแผ่นดินไหว เช่นการเกิดสึนามิ เช่น แผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย เกาะสุมาตรา ตัวแผ่นดินไหวจริงๆ ความเสียหายไม่เท่าไหร่ ถ้าเทียบกับสึนามีที่แผ่ออกมาไกลเป็นพันกิโล มีผู้เสียชีวิตกว่า 3 หมื่นราย หรืออีกอย่างคือ พายุพัด ความเสียหายจากตัวพายุก็เพียงแค่บริเวณที่ลงพัดผ่าน แต่สิ่งที่น่ากลัวคือพายุมันหอบเอาน้ำมามหาศาลด้วยทำให้เกิดน้ำท่วมได้อย่างมหาศาลตามไปด้วย
เมื่อโลกร้อน ก็เกิดคลื่นความร้อนเป็นพื้นที่กว้างขวาง ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย หรือเกิดภัยจากความหนาวเย็น ผิดฤดูกาล อากาศหนาวเย็นผิดธรรมชาติ อะไรก็ตามที่ผลกระทบเกิดในพื้นที่กว้าง ความเสียหายจะเกิดขึ้นมาเยอะ แล้วสิ่งเหล่านี้ร้อยละเก้าสิบเกิดจากน้ำมือมนุษย์ทั้งนั้น พอเราเองทำตามใจตัวเอง ถือเอาความสะดวกสบาย ตามความพอใจ โลกมันรับมือไม่อยู่ จึงถึงเวลาแล้วที่คนทั้งโลกจะต้องหันมาสร้างกติกาใหม่ เช่น จะควบคุมการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างไร จะช่วยกันปลูกป่าอย่างไร จะช่วยกันก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศอย่างไร ช่วยกันลดภาวะโลกร้อนได้อย่างไร ช่วยกันลดภัยธรรมชาติได้อย่างไร เพราะถ้าใจทุกคนมองในทางสร้างสรรค์ คิดถึงส่วนร่วมผลคือว่าแม้แต่ภัยธรรมชาติที่เกิดจากธรรมชาติจริงๆ เช่น ภูเขาไฟระเบิด หรือ แผ่นดินไหว ก็จะลดการเกิดลงไปด้วย สาเหตุเพราะว่าภัยธรรมชาติโดยตรงเหล่านี้ จริงๆ มนุษย์ก็ทำให้เกิดขึ้นมาโดยทางอ้อม คือ จากวิบากกรรมที่ทำมาในอดีตบ้าง จากสภาวะใจของคนเหนี่ยวนำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้ พอใจมนุษย์ร้อนด้วยไฟโทสะ จะเหนี่ยวนำให้อากาศมันร้อนขึ้น จนเกิดไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลกในที่สุด ใจมนุษย์หนาแน่นไปด้วยโลภะจะเกิดน้ำบรรลัยกัลป์ล้างโลก ใจมนุษย์หนาแน่นไปด้วยโมหะ ความลุ่มหลงมัวเมาจะเกิดลมบรรลัยกัลป์ล้างโลก นี้คือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา
คิดบวก คิดแต่เรื่องที่ดีที่เป็นกุศล โลกของเราจะสงบและน่าอยู่
ดังนั้นถ้าใจทุกคนคิดในเรื่องที่ดี เรื่องที่เป็นกุศล ภัยธรรมชาติโดยตรงก็จะสงบลง และยิ่งภัยธรรมชาติที่เกิดจากมนุษย์ที่มีส่วนในการสร้างให้เกิดขึ้นก็ยิ่งลดน้อยลงไปอีก โลกเราจะสงบและน่าอยู่
สรุปรวมทั้งหมดก็อยู่ที่มนุษย์เรานี่เอง แล้วจะแก้ปัญหาให้จบคือ ทุกคนต้องอยู่ในศีล ในธรรม อย่างนี้ล่ะก็ภัยธรรมชาติก็เกิดน้อย ถ้าเกิดแล้วก็พอจะรับมืออยู่ เพราะทุกคนมีน้ำใจเกื้อกูล ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
รับชมวิดีโอ
Desktop Version
