สามีเป็นหมอ เรียนเก่ง...ยิงตัวตาย


[ 10 ส.ค. 2547 ] - [ 18277 ] LINE it!

Case study
สามีเป็นหมอ เรียนเก่ง...ยิงตัวตาย
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพยิ่ง
 
    ลูก รับราชการเป็นแพทย์ระดับ 8 หัวหน้าแผนกเวชกรรมสังคม ชีวิตในวัยเด็กของลูกลำบากมาก  คุณพ่อ รับราชการเป็นศึกษานิเทศก์ซึ่งมีบุตรถึง 5 คน ที่ต้องส่งให้เรียนหนังสือทุกคน ในขณะที่ คุณแม่ เป็นแม่บ้านเลี้ยงดูบุตร  หลายครั้งที่ลูกจะต้องออกไปยืมเงินจากคนข้างบ้านหรือเพื่อนคุณพ่อ มาใช้จ่ายในครอบครัว  ลูกๆทุกคนต้องทำงานเสริมเพื่อหารายได้ เช่น พับถุงกระดาษขาย, ทอเสื่อ, มัดแฝก, เลี้ยงหมู จนกระทั่งจบการศึกษาด้วยกันทุกคน
 
    ในช่วงเดือนธันวาคม  พ.ศ.2540  ลูกได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่ดอยสุเทพ-ปุย ในคราวนั้น ได้ปวารณาที่จะเชิญชวนผู้มีบุญมาสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว  และลูกก็ได้ทำหน้าที่เชิญชวนญาติๆ และเพื่อนๆสร้างพระแกนกลางได้ถึง  32  องค์ สำหรับลูกนั่นคือ ความอัศจรรย์  และยิ่งใหญ่แม้จะเป็นจำนวนไม่มากนัก  จนถึงช่วงที่มีการจัดบวชอุบาสิกาแก้ว ลูกได้ทำหน้าที่ชวนคนมาบวชได้ถึง  13 คันรถบัส ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของจังหวัดอุทัยธานี จนท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแปลกใจ  ทนไม่ได้ต้องออกมาช่วยส่งคนขึ้นรถในเวลาตี 2  ด้วยตัวของท่านเอง  เพิ่มความปีติใจให้ลูกมากขึ้น  ต่อจากนั้นลูกก็ได้ทำบุญ  และมาวัดเกือบทุกวันอาทิตย์  รู้สึกสบายใจ  มีที่พึ่ง  มีเป้าหมาย  แต่สามีของลูกกลับไม่เห็นด้วย  ได้ขอร้องแกมบังคับ  ไม่ให้มาวัดในช่วงที่มีข่าวเกือบ 2 ปี  แต่ลูกก็คอยฟังข่าวอยู่เสมอ  ทำบุญอยู่เรื่อยๆแต่ไม่มากนัก  บางครั้งก็มาวัดบ้างแต่ก็อยู่ไม่ได้เต็มวันต้องรีบกลับ   
 
    สามีของลูก เป็นคนเรียนเก่งมาก  เคยได้รับทุนไปเรียนที่ประเทศอเมริกาเป็นเวลา 1 ปี      เคยเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมแพ จังหวัดขอนแก่น  และได้เป็นแพทย์เฉพาะทางศัลยศาสตร์ระบบทางเดินปัสสาวะอีกด้วย  ต่อมาได้ลาออกจากราชการไปทำงานเอกชน  ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยโรงพยาบาลรวมแพทย์ชัยนาท เป็นเวลา 6  ปี จนกระทั่งมีอาการป่วยเป็นโรคประสาท ได้รับการผ่าตัด 2 ครั้ง ต้องดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น จึงลดกิจกรรมต่างๆลง และสุดท้ายป่วยเป็นโรคซึมเศร้าทางจิตประสาท เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวช นครสวรรค์ รวม 2 ปี  สภาพจิตใจเศร้าหมองมากขึ้นเรื่อยๆ 
 
    ประมาณเดือนตุลาคม  พ.ศ.2546 สามีของลูกบอกว่า อยากพ้นทุกข์  ลูกถามว่า “คิดฆ่าตัวตายหรือเปล่า” สามีของลูกเขาพยักหน้ารับ เขาบอกว่า “มันเป็นความคิดที่แวบเข้ามา โดยห้ามไม่ได้” ซึ่งเขาเองก็กลัวอารมณ์แบบนี้มาก เพราะเป็นแพทย์เอง จะรู้ว่าอาการแบบนี้แสดงว่าเป็นมากแล้ว 
 
    จนถึงวันที่ 10 ตุลาคม  พ.ศ.2546  เขากลับมาบ้านในตอนเย็นไม่เจอกับลูก เพราะลูกต้องไปรักษาคนไข้ที่คลินิก  ประมาณ  20.00 น. เขาเดินมาไหว้พ่อกับแม่ของลูก พูดอะไรไม่ทราบ 2-3 คำ แม่ของลูกฟังไม่รู้เรื่อง เพราะฤทธิ์ยาทำให้เขาลิ้นแข็ง  พูดไม่ค่อยชัด  พ่อกับแม่ไม่ได้ระแวงสงสัย  เขาเอาพินัยกรรมมาให้ดู  พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ดู  เขาจึงถือขึ้นไปบนห้อง สักพักเสียงปืนก็ดังขึ้นมา พี่สาวของลูกที่บ้านอยู่ใกล้ๆกันก็รีบขึ้นไปดู พบร่างที่หมดลมหายใจนอนนิ่งจมกองเลือดอยู่  พร้อมกับเอกสารสำคัญที่วางอยู่รอบกาย เตรียมไว้สำหรับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่  จะได้ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาเมื่อเขาต้องจากไป ขณะนั้นสามีอายุได้  53 ปี
 
    ก่อนที่สามีของลูกจะเสียชีวิต ลูกได้มีโอกาสรู้จักกับ เพื่อนชายท่านหนึ่ง ซึ่งเพื่อนชายท่านนี้สามีของลูกไม่ชอบเขาเลย  เขาอายุ 26 ปี  เป็นคนทำงานด้านศิลปะ ทำได้ดีมากมักได้รับรางวัลเสมอทั้งระดับจังหวัด, เขต, ประเทศ จิตใจดีเป็นคนชอบทำบุญให้ทาน อุปนิสัยเป็นคนฉุนเฉียวง่าย แต่เขามีบางอย่างที่น่าสนใจคือ เขาจะมีสัมผัสที่ 6 หรือ six sense เขามักคาดการณ์อะไรๆได้ถูกต้อง  บางครั้งฝันเห็น  บางครั้งก็คิดเอง เช่นบอกว่า “วันนี้มาวัดจะเก็บเงินได้ 100 บาท”  ตอนบ่ายก็มีคนทำเงินตกไว้ 100 บาท เขาก็เก็บได้จริงๆ หรือวันหนึ่งเขาบอกว่า “วันนี้จะมีเรื่องเกิดขึ้นกับรถ” ในลานจอดรถวันนั้นรถก็ถูกเฉี่ยวจริงๆ  เขาบอกว่า “เหมือนมีคนมาบอก”  และเขาก็เชื่อว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกันมากที่เสียชีวิตแล้วมาคอยเตือน หยอกล้อและปกป้อง  แต่บางคราวก็ทำให้เขารู้สึกอึดอัดเหมือนผีอำเป็นประจำ ปัจจุบันลูกก็พาเพื่อนท่านนี้ไปทำบุญที่วัด  ทำให้เขามีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง  คิดเรื่องภูตผีน้อยลง  ก็คบหากันในฐานะเพื่อนเรื่อยมา จนกระทั่งสามีของลูกเสียชีวิต
 
ขอกราบเรียนถามคุณครูไม่ใหญ่ดังนี้
 
1.ทำไมชีวิตครอบครัวของลูกตอนเด็กๆ จึงได้ลำบากนักคะ
 
2.สามีของลูกทำกรรมอะไรมาคะ จึงเป็นโรคเศร้าซึมจนกระทั่งต้องฆ่าตัวตาย นอกจากอาการของโรค แล้วยังมีสาเหตุอื่นอีกไหมคะ ที่ทำให้เขาตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพื่อนชายของลูกคนนั้น มีผลต่อการตัดสินใจฆ่าตัวตายของสามีของลูกไหมคะ เราทั้งสามคนเคยมีวิบากกรรมร่วมกันมาไหมคะ
 
3.จิตสุดท้ายของเขาหมองหรือใสคะ   ในช่วง 7 วัน หลังตายเขาไปอยู่ที่ไหนคะ ทำไมลูกไม่รู้สึกว่าเขาอยู่ใกล้ๆเลย และตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้างคะ
 
4.การที่สามีเขาไม่ให้ลูกไปทำบุญร่วมกับหมู่คณะนั้น หลังจากตายแล้วเขาจะได้รับผลกรรมอย่างไร   และเมื่อต้องเกิดมาใหม่จะเป็นอย่างไรคะ แล้วเขาจะพ้นจากวิบากกรรมเหล่านั้นได้อย่างไรคะ
 
5.พ่อ-แม่-ลูก บุญกรรมจะใกล้เคียงกัน แล้วบุตรของลูกจะมีอาการทางประสาทจนต้องฆ่าตัวตายเหมือนคุณพ่อของเขาหรือไม่คะ ลูกจะต้องดูแลบุตรอย่างไรดีคะ
 
6.เพื่อนชายของลูกคนนี้มีวิบากกรรมอะไร จึงได้เกิดมาในครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน ทำไมจึงชอบงานศิลปะเขาเคยเป็นสายวิทยาธรมาหรือไม่คะ เพราะเขาชอบงานศิลป์ตั้งแต่ตัวเองเริ่มเขียนหนังสือได้และการที่เขามี six sense ดังกล่าวข้างต้นจริงหรือไม่คะ หากจริงเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เป็นประโยชน์ต่อชีวิตเขาหรือไม่ หากไม่ดีจะมีวิธีแก้ไขอย่างไรคะ
 
7.ลูกเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร และชาตินี้ต้องทำอย่างไรจึงจะกลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษพร้อมกับหมู่คณะได้ค่ะ
 
กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา นะจ๊ะ
 
1.ชีวิตครอบครัวของลูกลำบากตอนเด็กๆ เพราะกรรมในอดีตชาติไม่เชื่อเรื่องผลของกรรม แต่เชื่อเรื่อง หนึ่งสมองสองมือ คือ ในชาตินั้นเกิดในตระกูลทำมาค้าขายที่เริ่มจากศูนย์ ได้ขยันหมั่นเพียรเก็บหอมรอมริบจนตั้งตัวได้
 
 
  • ต่อมามีคนชวนทำบุญ ตัวเองก็ไม่ทำ เพราะไม่เชื่อว่าทำบุญแล้วรวย แต่เชื่อว่าต้องขยัน เป็นอย่างนี้อยู่นาน
 
 
  • ต่อมาค้าขายขาดทุนประสบความทุกข์ก็เริ่มได้คิด จึงได้ทำตามคำแนะนำของเพื่อนกัลยาณมิตรที่มาชวนสร้างบุญอีก ก็เลยเริ่มสร้างบุญกับหมู่คณะเรื่อยมาตอนบั้นปลายชีวิตของตน
 
 
  • ชาตินี้ก็เลยเริ่มต้นชีวิตที่ลำบาก ต่อมาทานเริ่มส่งผลชีวิตก็เริ่มดีขึ้นมาภายหลัง
 
 
2.สามีลูกเป็นโรคซึมเศร้าและฆ่าตัวตาย เพราะกรรมสุราในอดีต คือ ชาติก่อนผิดหวังในชีวิต จึงหาทางออกด้วยการดื่มสุราเพื่อลืมความทุกข์ แต่หายเมาแล้วก็ทุกข์เหมือนเดิม แล้วก็ฆ่าตัวตายในที่สุด จึงมีกรรมฆ่าตัวตายติดมา
 
 
  • และมีเรื่องเสริม คือ เรื่องในปัจจุบันที่ลูกปันใจให้หนุ่มน้อยศิลปิน ก็เลยมีความน้อยใจภรรยาบ้าง
 
 
3.ก่อนตายใจเศร้าหมอง เมื่อตายแล้วเจ้าหน้าที่มารับตัวไปยมโลกเพื่อพิจารณาบุญบาป
 
 
  • บุญ คือ การเป็นหมอช่วยเพื่อนมนุษย์ และทำบุญตามประเพณี
 
 
  • บาป คือ การฆ่าตัวตายเพราะกรรมบีบคั้น ถูกพิพากษาให้ไปอยู่ในยมโลก ของมหานรกขุม 1 ถือปืนยิงตัวเองตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
 
 
  • ต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้บ่อยๆ จึงจะได้รับลดหย่อนผ่อนโทษ
 
 
4.การที่สามีห้ามไม่ให้ลูกมาทำบุญกับหมู่คณะในช่วง 2 ปีแรกที่มีข่าวนั้น วิบากกรรมนี้ ทำให้ชาติต่อไปจะไปเกิดในตระกูลที่ไม่เข้าใจการสร้างบุญ เป็นอันตรายต่อชีวิตในสังสารวัฏ
 
 
  • จะพ้นกรรมนี้ได้ ต้องอุทิศบุญใหญ่ให้ เช่น ให้ลูกชายบวชเป็นสามเณรหรือเป็นพระ แล้วตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรม อุทิศไปให้
 
 
5.ลูกต้องให้ความรักความอบอุ่นแก่ลูก ให้ความใกล้ชิดและคำสั่งสอนที่ดี อีกทั้งต้องเป็นต้นบุญต้นแบบที่ดีของลูกด้วย อย่าไปคิดเรื่องว่าลูกอาจมีกรรมเหมือนพ่อ เดี๋ยวจะเป็นผังสำเร็จ
 
 
6.เพื่อนชายของลูกที่เกิดมาในครอบครัวมีฐานะยากจน เพราะกรรมในอดีตไม่ชอบทำทาน แต่ชอบศิลปะวาดรูป เหมือนชาตินี้ เป็นคนเฟื่องๆหน่อย ไม่มีวิทยาธรอะไรมาบอกหรอก
 
 
  • ให้บอกเพื่อนว่าอย่าไปสนใจเรื่องเหล่านี้เลย และชวนให้หันมาสนใจพระรัตนตรัยอย่างเดียว
 
 
7.ลูกเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบตามอารมณ์และตามโอกาส
 
 
  • ชาตินี้ก็ให้สร้างบารมีให้เต็มที่ อย่าให้ตกบุญแม้แต่บุญเดียว ทั้งทำด้วยตนเองและชวนคนอื่นทำด้วย แล้วอธิษฐานจิตติดตามไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม