พุทธวิธีเพื่อเศรษฐกิจที่มั่นคง


[ 27 พ.ค. 2556 ] - [ 18282 ] LINE it!

พุทธวิธีเพื่อเศรษฐกิจที่มั่นคง

 
     การประพฤติธรรมให้อยู่ในกรอบของความถูกต้องดีงาม เพื่อพัฒนาคุณธรรมและคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญสำหรับผู้ปรารถนาความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต เพราะชีวิตของมนุษย์นั้น เป็นชีวิตของผู้มีใจประเสริฐ มีจิตใจสูงส่งดีงาม สามารถฝึกหัดขัดเกลาตนเองให้เข้าถึงพระรัตนตรัย เพื่อเป็นคนดีที่โลกต้องการ การประพฤติธรรมนำสุขมาให้ ผู้ประพฤติธรรมย่อมได้รับความสุขความเจริญรุ่งเรือง และยังทำให้สังคมประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองอีกด้วย ถ้าครอบครัวไหนประพฤติธรรม ครอบครัวนั้นย่อมมีความสุข ถ้าบ้านเมืองไหนผู้นำประพฤติธรรม ประชาชนในบ้านเมืองนั้นจะอยู่เย็นเป็นสุข ไม่อดอยากอัตคัดขาดแคลน มีกินมีใช้ และประพฤติธรรมตามไปด้วย ดังนั้น การประพฤติปฏิบัติธรรม ชำระกายวาจาใจให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ จึงเป็นการพัฒนาตนเอง สังคม และประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองอีกทางหนึ่ง
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน สิงคาลกสูตร ความว่า
 
                            “ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา   โย ธมฺมํ นาติวตฺตติ
                             อาปูรติ ตสฺส ยโส           สุกฺกปกฺเขว จนฺทิมา
 
     ผู้ใดไม่ละเมิดความยุติธรรม เพราะความรัก ความชัง ความกลัว และความหลง ยศของผู้นั้น ย่อมเต็มเปี่ยมดุจดวงจันทร์ เปล่งแสงสว่างในข้างขึ้นทุกค่ำคืน”
 
     คุณธรรม ความไม่ลำเอียง เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำให้เกิดขึ้นในใจของเราและในสังคมปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นผู้นำผู้ปกครอง หากปรารถนาความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรือง ต้องฝึกฝนคุณธรรมความไม่ลำเอียงนี้ให้เกิดขึ้นในใจ จะได้เป็นคนซื่อตรงเที่ยงแท้เที่ยงธรรม ไม่มีอคติ มีใจตั้งมั่น  เวลาตัดสินใจหรือวิเคราะห์สิ่งใด จะตัดสินได้ถูกต้องไม่ผิดพลาด ไม่เอียงซ้ายเอียงขวา ไม่เลือกที่รักผลักที่ชัง จะเลือกเอาแต่ความถูกต้องยุติธรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ ต้องเริ่มจากการฝึกฝนใจให้หยุดนิ่ง
 
     * เหมือนในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้เสด็จไปยังหมู่บ้านขานุมัตตะ ซึ่งในขณะนั้น กูฏทันตพราหมณ์ผู้เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ได้นำโคตัวผู้ ลูกโคตัวผู้-ตัวเมีย แพะ แกะ อย่างละ ๗๐๐ ตัว มาผูกไว้กับหลักเพื่อทำพิธีบูชายัญ   เมื่อพราหมณ์รู้ข่าวการเสด็จมาของพระพุทธเจ้า จึงพักการบูชายัญไว้ก่อน แล้วไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ และทูลถามพระบรมศาสดาว่า “จะบูชายัญอย่างไรถึงจะดี พระบรมศาสดาทรงทราบว่าพราหมณ์เป็นผู้มีปัญญา จึงตรัสเล่าเรื่องการบูชายัญในอดีตของพระเจ้ามหาวิชิตราชว่า
 
     ในสมัยหนึ่ง พระเจ้ามหาวิชิตราชทรงดำริที่จะบูชายัญ เพราะมีความเชื่อว่าเทพเจ้าจะพอใจ แล้วจะได้ลงมาช่วยปกปักรักษาบ้านเมือง ครั้งนั้น พระราชามีปุโรหิตผู้เป็นบัณฑิตเป็นที่ปรึกษา ได้กราบทูลว่า ก่อนที่จะบูชายัญนั้น ต้องปราบโจรร้ายในแผ่นดินเสียก่อน ด้วยวิธีการไม่ฆ่า พระราชาทรงสงสัยว่า การปราบโจรโดยไม่ใช้อาวุธฆ่าฟันนั้น เป็นอย่างไร
 
     ปุโรหิตกราบทูลว่าที่บ้านเมืองยังไม่สงบสุข เพราะอบายมุขระบาดไปทั่วเมือง ประชาชนยังอดอยากยากจน จึงแสวงหาทรัพย์มาด้วยวิธีการไม่สุจริต ฉะนั้นพระองค์ต้องปราบโจรร้ายโดยแก้ไขที่ต้นเหตุ คือต้องแก้ไขเรื่องปัญหาเศรษฐกิจและจิตใจของคนให้ดีเสียก่อน ด้วยการพระราชทานเมล็ดพันธุ์พืชให้เกษตรกร ให้ทุนพ่อค้าที่มีปัญญาแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ มอบรางวัลให้ข้าราชการที่ซื่อสัตย์ยุติธรรม และปลูกฝังคุณธรรมในจิตใจของประชาชน
 
     เมื่อเกษตรกรขยันทำงาน ผลผลิตก็มาก พ่อค้านักธุรกิจที่ทำงานด้วยความสุจริต ก็จะพลิกฟื้นให้เศรษฐกิจคล่องตัว ข้าราชการจะมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน ไม่คอรัปชั่นคดโกงทรัพย์สินของแผ่นดิน ความสงบสุขเรียบร้อยก็จะเกิดขึ้นในราชอาณาจักร การสงเคราะห์เอื้อเฟื้อแบ่งปันความสุขและสิ่งที่ดีงามให้แก่กัน นั่นแหละคือการบูชายัญอันวิเศษ
 
     เมื่อปุโรหิตแนะนำวิธีการบูชายัญที่ถูกต้องแล้ว พระราชาทรงพอพระทัยมาก จึงรับสั่งให้ข้าราชการ และประชาชน ไปทำตามคำแนะนำของท่านปุโรหิต ครั้นวันเวลาผ่านไปเพียงไม่นาน สภาพสังคมเศรษฐกิจก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
 
     จากนั้นท่านปุโรหิตกราบทูลให้พระราชาขอความร่วมมือจากกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงมีอำนาจ ตั้งแต่อนุกษัตริย์ที่อยู่ตามหัวเมืองต่างๆ มหาเศรษฐีจากนานาประเทศมาร่วมกันทำการบูชายัญ ด้วยการสร้างโรงทานให้คนที่มาจากทิศทั้ง ๔ เมื่อผู้มีทรัพย์มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันถ้วนหน้า ปัญหาความขาดแคลนอดอยากยากจนก็หมดสิ้นไป ทุกคนในบ้านเมืองพากันสมัครสมานสามัคคีกลมเกลียวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โจรผู้ร้ายจึงหมดไปจากบ้านเมืองโดยไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อ ประเทศชาติก็เจริญรุ่งเรืองเป็นปึกแผ่นมั่นคง สังคมก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
 
     กูฏทันตพราหมณ์ได้ฟังแล้ว เข้าใจทันทีว่าการบูชายัญของตนเอง เป็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่ถูกวิธี ท่านได้ทูลถามต่อว่า “ยังมีการบูชายัญที่ทำน้อยแต่ให้ผลมากบ้างไหม พระพุทธองค์ทรงแนะนำการทำน้อยแต่ได้ผลมากว่า จะต้องทำทานกับสมณพราหมณ์ผู้มีศีล ผู้ประพฤติธรรม ต้องทำบุญให้ถูกเนื้อนาบุญ และให้ยึดเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง พร้อมกับรักษาศีลเจริญภาวนาให้เป็นปกติ บูชายัญอย่างนี้ จึงเป็นการลงทุนน้อยแต่ให้ผลบุญมาก และยังเป็นเหตุให้ไปสู่สุคติสวรรค์อีกด้วย
 
     ยิ่งหากต้องการให้การบูชายัญเป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพาน ต้องออกประพฤติพรหมจรรย์ ขจัดกิเลสอาสวะให้หลุดล่อนออกจากใจ เพื่อทำให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ อย่างนี้คือการบูชายัญที่ใช้เครื่องประกอบน้อย แต่ได้ผลมากเกินควรเกินคาดทีเดียว กูฏทันตพราหมณ์ได้ฟังแล้วเกิดความเลื่อมใสมาก จึงประกาศตนเป็นอุบาสก ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต แล้วได้ทำการปล่อยสัตว์ที่เตรียมไว้บูชายัญทั้งหมดให้เป็นอิสระ ท่านได้ตั้งใจบำเพ็ญภาวนาจนสำเร็จเป็นพระโสดาบัน
 
     เราจะเห็นว่า ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ เพียงแต่รู้จักใช้ปัญญาแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ แนะนำประชาชนให้รู้จักการทำความดี ให้กำลังใจสนับสนุนผู้ทำความดีที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ เมื่อแนะนำทุกคนให้รู้จักเสียสละแบ่งปัน ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ปัญหาทั้งหมดจะหมดไป  เพราะฉะนั้น การแก้ไขปัญหาสังคมเศรษฐกิจในปัจจุบันนี้ ต้องเริ่มจากจุดเล็กๆ คือที่ตัวเรา และครอบครัวของเราเสียก่อน การสถาปนาบ้านกัลยาณมิตรขึ้นมา ก็เพื่อพิชิตปัญหาสังคม โดยมุ่งปลูกฝังคุณธรรมให้เกิดขึ้นในครอบครัว ให้ทุกคนรู้จักการทำความดี และสร้างคนดีที่โลกต้องการให้เกิดขึ้นในสังคม
 
     ดังนั้นให้ช่วยกันสถาปนาบ้านกัลยาณมิตรให้เกิดขึ้นมากๆ เพราะในยุคนี้เป็นยุคที่เเปลก คนทำความดีกลับถูกมองว่าไม่ดี แต่ทำไม่ดีกลับถูกมองว่าดี ได้รับการยกย่องสรรเสริญ เป็นสิ่งที่พวกเราได้รู้ได้เห็นกันอยู่ เมื่อความเป็นจริงถูกบิดเบือนไปทำให้เกิดความเข้าใจผิด สังคมก็เกิดความสับสน คนไม่มั่นใจในการทำบุญ ง่อนแง่นคลอนแคลนในพระรัตนตรัย เพราะฉะนั้น เราต้องช่วยกันแก้ไขสิ่งผิดพลาดนี้ โดยไปช่วยกันสถาปนาบ้านกัลยาณมิตรให้เกิดขึ้นทั่วทุกหนทุกแห่ง ให้กระแสแห่งการทำความดีได้ดีแล้วบังเกิดขึ้น ให้ทุกคนเข้าใจในเรื่องบุญกุศลที่นักปราชญ์บัณฑิตเขาทำกันมาทุกยุคทุกสมัย
 
     บุญเท่านั้นเป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นเพื่อนแท้ในทุกหนทุกแห่ง บุญจะติดตามตัวเราไปทุกภพทุกชาติ สมบัติทั้งหลายในเมืองมนุษย์ คือรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข จะบังเกิดขึ้นกับเราด้วยอานุภาพแห่งบุญนี่เอง แม้ละโลกไปแล้ว เราจะจากไปอย่างไปอย่างผู้มีชัยชนะ ไปเสวยทิพยสมบัติครองความเป็นใหญ่ในเทวโลก จะสมบูรณ์ด้วยสมบัติอันเป็นทิพย์ กระทั่งบารมีเต็มเปี่ยม นิพพานสมบัติก็จะเกิดขึ้น สมบัติทั้งหลายเกิดขึ้นเพราะอาศัยบุญอย่างเดียวเท่านั้น

 
พระธรรมเทศนาโดย: หลวงพ่อธัมมชโย (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) 
 
* มก. เล่ม ๑๒ หน้า ๔๐
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
วิธีตัดเหตุแห่งทุกข์วิธีตัดเหตุแห่งทุกข์

สุกธรรมคุ้มครองโลกสุกธรรมคุ้มครองโลก

เส้นทางสู่สันติเส้นทางสู่สันติ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ธรรมะเพื่อประชาชน