ผ่าตัดข้อต่อสะโพก 5 ครั้ง

Case study

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

ลูก เป็นลูกสาวคนโต ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 3 คน ลูกมีอาการป่วยตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ประมาณปี พ.ศ.2525 อายุได้ 17 ปี แต่ตอนนั้นยังเป็นๆ หายๆ คือ เป็นเองและหายเอง โดยมีอาการปวดตามข้อนิ้ว จะเป็นสลับไปสลับมาเกือบทุกนิ้ว แล้วก็หายเอง ไปตรวจที่โรงพยาบาล หมอก็ระบุไม่ได้ว่าเป็นโรคอะไร ให้แต่ยาแก้อักเสบมาทาน จนเมื่อปี พ.ศ.2530 อายุ 22 ปี กำลังเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย ก็มาตรวจพบโรคเมื่อมีอาการหนักมากแล้วคือ SLE หรือ “ภูมิแพ้ตนเอง” คือ มีอาการของไตอักเสบแบบเฉียบพลัน และระบมทั้งตัว โดยเฉพาะช่วงท้องจนถึงปลายเท้าจะบวมมาก และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ลูกก็รักษาตัวเข้าออกโรงพยาบาลอยู่โดยตลอด เป็นคนไข้ในของโรงพยาบาลรวมประมาณ 8 ครั้ง เช่น

ไปเจาะหนองที่โคนขาซ้าย เพราะผิวหนังอักเสบจากการติดเชื้อ ทำให้เป็นฝี แล้วลุกลามอย่างรวดเร็วจนเกือบถึงกระดูก,
ไปผ่าตัดไส้เลื่อนข้างขวา,
ไปเจาะไตเพื่อเอาชิ้นเนื้อไปตรวจและอีกหลายอย่าง

จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ควบคุมโรคได้และโรคสงบไม่แสดงอาการ แต่คุณหมอบอกว่า ลูกจะต้องทานยาเพื่อรักษาโรคนี้ไปตลอดชีวิต และผลของการทานยานี้เอง ทำให้ลูกต้องผ่าตัดเปลี่ยนกระดูกข้อสะโพกถึง 5 ครั้ง เพราะหัวกระดูกสะโพกตายและยุบตัว

ลูกต้องผ่าตัดเปลี่ยนกระดูกสะโพกด้านซ้าย เป็นครั้งแรกต้นปี พ.ศ.2533 ต่อมาก็ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกด้านขวาเป็นครั้งที่สอง เมื่อปลายปี พ.ศ.2533
หลังจากนั้น ลูกก็ใช้ชีวิตเป็นปกติ คือไปเรียนต่อจนจบปริญญาตรี และทำงานกับเพื่อนที่โรงพิมพ์ในจังหวัดปทุมธานี ทำงานได้ประมาณ 8 ปี
จนถึงต้นปี พ.ศ.2545 ลูกก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดอีก เป็นครั้งที่ 3 เพราะข้อสะโพกเทียมข้างซ้ายที่ใส่ไว้เสื่อม และกระดูกหัวสะโพกยุบตัวลงไปมาก ทำให้เดินไม่สะดวก เพราะขายาวไม่เท่ากัน เวลาเดินจะปวดสะโพกมาก การผ่าตัดครั้งนี้ เป็นการผ่าตัดเอาข้อสะโพกเทียมอันเก่าออก แต่ยังไม่ใส่ข้อใหม่ จะเจ็บปวดมากกว่าทุกครั้งและนอนโรงพยาบาลนานถึง 21 วัน เพราะว่าหมอต้องเจาะขา เพื่อถ่วงน้ำหนัก ประมาณ 10 กิโลกรัม เพื่อดึงกระดูกหัวสะโพกที่ยุบตัวให้ขึ้นมา จะได้ใส่ข้อสะโพกอันใหม่ได้ แต่ผลการ X-ray ก็ออกมาว่า ดึงกระดูกให้ขึ้นมาไม่ได้ ต้องไปพักรักษาตัวที่บ้านและออกกำลังกาย เพื่อให้กระดูกใหม่งอกขึ้นมาเอง โดยต้องรออีกเป็นเวลา 1 ปี จึงจะผ่าตัดใส่กระดูกเทียมอันใหม่ได้ ซึ่งช่วงนี้ต้องใช้ไม้เท้าช่วยเดินตลอด
ต่อมาต้นปี พ.ศ.2546 ลูกก็เข้ารับการผ่าตัดครั้งที่ 4 เพื่อใส่ข้อสะโพกเทียมอันใหม่ข้างซ้าย
และเมื่อเดินได้ดีแล้ว หมอก็นัดผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมข้างขวาอีก ลูกจึงต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกเป็นครั้งที่ 5 เมื่อต้นปี พ.ศ.2547 นี้

ขณะนี้ลูกยังพักฟื้นเพื่อรอที่จะเดินได้อีก เพราะหมอยังไม่ให้เดินลงน้ำหนัก ต้องใช้ไม้เท้าช่วยเดินไปอีกประมาณ 3 เดือน

ทุกครั้งที่ลูกผ่าตัด จะต้องเกิดเหตุการณ์ประหลาด หลังจากผ่าตัดได้ 2-3 วัน เช่น ในการผ่าตัดกระดูกครั้งที่ 3 ทุกคนบอกว่า ลูกนอนหลับไปไม่รู้สึกตัวอยู่ 2 วัน แต่ตัวลูกเองรู้สึกว่า นอนหลับแล้วฝันไป ฝันว่า มีคนพาไปที่ไหนก็ไม่รู้ แล้วก็เห็นเปรตด้วย แล้วตัวลูกเองก็เป็นเปรตที่กินมูตร-คูถ (น้ำปัสสาวะ-อุจจาระ) เรื่องนี้ลูกไม่ค่อยกล้าเล่าให้ใครฟัง กลัวเขาจะหาว่าไม่จริง

และในการผ่าตัดกระดูกครั้งที่ 5 ที่เพิ่งผ่านมาครั้งล่าสุด เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ลูกก็ไม่รู้สึกตัวอีก 2 วัน ต่างกันเพียงว่า ลูกไม่ได้หลับ แต่เพียงแค่หลับตา ไม่รู้สึกตัวว่า ตัวเองทำอะไรไปบ้าง แต่ในความคิดนั้นเหมือนเป็นความฝัน และฝันนั้นเหมือนจริง ฝันว่า ลูกถูกผ่าตัดออกเป็นชิ้นๆ เลือดไหลนองเต็มไปหมด แล้วลูกก็ไปเกิดเป็นเปรตอีก เหตุการณ์นี้คล้ายกับครั้งแรกที่ฝันมากค่ะ

น้องสาวของลูก ก็มีโรคประจำตัว คือ โรค SLE เหมือนกันแต่พบเมื่อเริ่มแรกจึงไม่ได้เป็นเฉียบพลันเหมือนลูก อาการของโรคยังไม่กำเริบมากยังรักษาให้หายขาดได้ สามีของน้องสาว เป็นตำรวจและมี ลูกสาว ด้วยกัน 1 คน อายุ 8 ปี น้องเขยเป็นตำรวจที่ทำงานดี ได้เลื่อนขั้นอย่างรวดเร็วและเป็นที่รัก ของเจ้านายและพวกพ้อง แต่ก็มาเสียชีวิตลงด้วยการใช้ปืนยิงที่ขมับตัวเอง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2546 ปีที่ผ่านมา

สำหรับคำถามมีดังนี้ค่ะ

1.วิบากกรรมอันใด จึงทำให้ลูกป่วยด้วยโรค SLE หรือ ภูมิแพ้ตนเอง คะ

2.ทำไมหลังการผ่าตัด ลูกจึงหลับไป 2 วัน 2 ครั้ง และฝันเห็นเปรต ตัวเองเป็นเปรตกินมูตร-คูถ

3.ทั้งตัวลูกเองและน้องสาวลูกเป็นโรค SLE ซึ่งเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม อยากทราบว่าในอดีตเคยทำกรรมใดร่วมกันมา จึงได้เป็นโรคเดียวกัน

4.ลูกเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร และบุญอะไรที่จะช่วยให้พ้นจากวิบากกรรมนี้ไปได้ หรือเบาบางลงคะ

5.มีเหตุมาจากอะไร จึงทำให้น้องเขยอายุสั้น หลังจากเสียชีวิตแล้ว น้องเขยต้องไปชดใช้กรรมอย่างไรบ้างคะ

กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างสูง

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที

แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ

1.ลูกเป็นโรค SLE เพราะกรรมในอดีตชาติเป็นธิดาเศรษฐี เมื่อพ่อตายก็ยึดสมบัติไม่แบ่งให้น้องซึ่งยังเล็กๆ และมีนิสัยไม่ซื่อสัตย์ในการค้าขายเช่นปลอมปนข้าวเปลือกหรือพันธุ์พืชด้วยของไม่ดี

ลูกเป็นไตวายเฉียบพลัน เพราะในชาตินั้นปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ใครไม่มีใช้ก็ยึดไร่นาสาโท ถ้าไม่มีไร่นาสาโทก็จะยึดลูกเมียมาเป็นทาส

ลูกเป็นโรคกระดูกทำให้เดินไม่สะดวก เพราะในชาตินั้นเวลาตัวเองโกรธข้าทาสบริวาร จะสั่งให้ล่ามโซ่ตรวนทำให้เดินไม่สะดวก บางครั้งยังทุบตีจนบาดเจ็บ

2.หลังการผ่าตัดฝันเห็นตนเองเป็นเปรตกินคูถ เพราะเป็นสัญญาเก่าจากชาติที่ตนเป็นธิดาเศรษฐีฮุบมรดกหมด ชาตินั้นตายแล้วไปเกิดเป็นเปรตกินคูถ

3.ลูกและน้องสาวเป็นโรค SLE เหมือนกัน เพราะในอดีตชาติทำกรรมมาคล้ายกัน คือ เคยเกิดเป็นเพื่อนกันในชาติที่ลูกเป็นธิดาเศรษฐี ในชาตินั้นลูกได้ชวนเพื่อนทำการค้าแบบเดียวกับตนคือปลอมแปลงสินค้า แต่เพื่อนคนนั้นทำน้อยกว่า

4.ลูกหลังจากชาตินั้นลูกเกิดเป็นเปรตกินคูถทุกข์ทรมานอยู่ยาวนาน

เมื่อพ้นกรรมจากเปรต ก็มาเกิดเป็นคนอยู่ในครอบครัวยากจนเพราะกรรมตระหนี่ เกิดมาก็ไม่แข็งแรงเพราะกรรมที่ไปทุบตีข้าทาส

แล้วถูกนำไปเป็นทาสขัดดอกเบี้ยที่พ่อแม่ขอยืมมา ทุกข์ทรมานคับแค้นมาก ใช้กรรมแบบนี้อยู่หลายชาติ

เมื่อกรรมเบาบาง ก็ได้ไปเกิดเป็นคนรับใช้ในเรือนเศรษฐีที่มีศรัทธาต่อหมู่คณะ แต่ตนเองก็ไม่แข็งแรง เจ็บป่วยออดแอดๆ ทำงานไม่เต็มที่

แต่ท่านเศรษฐีก็เมตตาได้พามาทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนากับหมู่คณะบ่อยๆ จึงทำให้ตัวเองรู้ซึ้งถึงกฎแห่งกรรม

เมื่อตายแล้วก็ไปดีและได้กลับมาเกิดใหม่ในชาตินี้ เพื่อมาสร้างบารมีกับหมู่คณะอีก แต่ยังมีเศษกรรมอยู่จึงเป็นดังในชาติปัจจุบัน

ให้หมั่นทำบุญทุกๆบุญ รักษาศีล เจริญภาวนาให้มากๆก็จะพ้นวิบากกรรมได้

5.น้องเขยอายุสั้นเพราะกรรมในอดีตและปัจจุบัน กรรมในอดีต คือ เคยเป็นราชบุรุษได้ฆ่าพวกโจร ขโมย ผู้ร้ายเอาไว้เยอะ กรรมปัจจุบัน คือ ความเครียดที่จะต้องหลบหนีความผิดบางอย่างของตนเอง

ตายแล้วถูกเจ้าหน้าที่พาไปยมโลก ถูกพิพากษาให้ไปโดนลงทัณฑ์ยิงตัวตาย โดยเจ้าหน้าที่บังคับจับมือให้ยิงตัวเองตาย ทุกข์ทรมานมาก
ให้ทำบุญอุทิศไปให้เรื่อยๆ หนักก็จะเป็นเบา เบาก็จะพ้นกรรม