อีก 17 วัน จะออกพรรษา : จะซาบซึ้งต้องเข้าถึง


[ 3 ต.ค. 2556 ] - [ 18268 ] LINE it!

จะซาบซึ้งต้องเข้าถึง
 
ศูนย์กลางกายฐานที่ 7

      อีก 17 วัน จะออกพรรษาแล้ว เหลืออีกสองอาทิตย์นิดหน่อย ผ่านไปเดี๋ยววันเดี๋ยวคืนเดี๋ยวก็มืดอีกแล้ว พรรษานี้เราตั้งใจจะให้เป็นพรรษาแห่งการบรรลุพระธรรมกาย ซึ่งมีอยู่ในตัวของเราและของทุก ๆ คนในโลก ไม่ว่าเชื้อชาติศาสนาและเผ่าพันธุ์ใด จะเชื่อหรือไม่เชื่อ จะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม ล้วนมีหมด เป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริงเพียงอย่างเดียว สิ่งอื่นไม่ใช่เลย

     คำสอนนี้มาจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ก็มายืนยันซ้ำอีกว่า พระรัตนตรัยเท่านั้นเป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง สิ่งอื่นไม่ใช่ พระรัตนตรัย คือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ รวมประชุมอยู่ภายในกลางกายฐานที่ 7

      พุทธรัตนะ ก็คือ พระธรรมกายที่อยู่ในตัว เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้วมีลักษณะสวยงามมาก ประกอบไปด้วยลักษณะมหาบุรุษครบถ้วนทุกประการมีเกตุดอกบัวตูม ใสเกินใส สวยเกินสวย ใสกว่าความใสใด ๆ ในโลก

     ธรรมรัตนะ เป็นดวงใสๆ อยู่ภายในพุทธรัตนะ เป็นคลังปริยัติ ความรู้ 84,000 พระธรรมขันธ์ รวมบรรจุอยู่ในธรรมรัตนะ ความรู้ที่แท้จริงออกมาจากตรงนั้น

     สังฆรัตนะ ก็อยู่ในกลางธรรมรัตนะ เป็นพระธรรมกายละเอียดรักษาธรรมรัตนะเอาไว้ ใสบริสุทธิ์ผุดผ่องทีเดียว สามอย่าง คือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ รวมประชุมอยู่ที่เดียวกันเรียกว่า พระรัตนตรัย สามอย่างนี้เท่านั้นเป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง

     พระธรรมกายภายในเป็นที่ประชุมรวมสิ่งดี ๆ ทุกสิ่งที่เราพึงปรารถนาท่านมีจักษุ ญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่าง รวมประชุมอยู่ในนั้น ท่านจึงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว เมื่อเราได้เข้าถึงท่านแล้วก็จะเปลี่ยนจากสภาวะผู้ไม่รู้มาเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว

     เราจะเข้าใจเรื่องราวความจริงของชีวิตก็ต้องเข้าถึงพระธรรมกายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ถ้ายังเข้าไม่ถึง ดูเหมือนจะเข้าใจ แม้เราจะฟังคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงไรก็ตาม ได้แค่ทราบแต่มันยังไม่ซึ้ง ถ้าจะให้ซาบซึ้งก็ต้องเข้าถึงพระธรรมกายเพียงประการเดียวเท่านั้น

     เพราะฉะนั้น พรรษานี้เราตั้งใจจะปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกายที่ว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นคฤหัสถ์หรือบรรพชิต พระก็ต้องเห็นพระ เณรก็ต้องเห็นพระโยมก็ต้องเห็นพระ เห็นกันหมดทุกคนเลย

อะไรจะมาสู้ความเพียร

      ผ่านมาแล้ว 73 วัน เหลืออีก 17 วันเท่านั้นก็จะออกพรรษาแล้ว เวลาที่เหลืออยู่นี้ ตั้งใจทำความเพียรกันให้ดี แล้วก็ให้ถูกหลักวิชชาด้วยอะไรจะมาสู้ความเพียร ขยันทำกันไปเรื่อย ๆ แต่ต้องขยันให้ถูกหลักวิชชา สิ่งที่ยากก็ง่าย สิ่งที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ มันก็จะเป็นไปได้สำหรับเรามืดก็จะสว่าง ทุกข์ก็จะมาเป็นสุข จากผู้ไม่รู้ก็จะมาเป็นผู้รู้ เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับความเพียรความพยายามของเรา พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ท่านพูดเสมอว่า ของจริงคู่กับคนจริง จริงแค่ไหน ก็ต้องแค่ชีวิตซิ เนื้อเลือดจะแห้งเหือดหายไป เหลือแต่กระดูกหนังช่างมัน ไม่ได้ตายเถอะ ต้องจริงนะลูกนะ มีโยมท่านหนึ่ง ตอนนั้นครูไม่ใหญ่เพิ่งบวชใหม่ ๆ ได้ไม่กี่พรรษา โยมท่านนี้น่ารัก พูดจาเรียบร้อย อายุท่านตอนนั้นสักเจ็ดสิบกว่า ถ้าท่านอยู่ตอนนี้ก็เก้าสิบเศษ ๆ หรือไม่ก็ร้อยปี ไม่ทราบว่าตอนนี้ท่านยังมีอารมณ์หายใจอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ
 

      ท่านเล่าให้ฟังว่า เข้าไปกราบพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ทีไร ท่านมักจะเล่าเรื่องการปฏิบัติธรรมให้ฟังอยู่เรื่อย ๆ ว่า “การปฏิบัติธรรมนี่ มันอร่อยจริง ๆ นะ แล้วยิ่งอร่อยเพิ่มขึ้น เหมือนอาหารที่ใส่เถาปิ่นโตที่มีอยู่หลายชั้น รับประทานชั้นแรกว่าอร่อยแล้ว ชั้นถัดไปอร่อยกว่านั้นเข้าไปอีก มันอร่อยจริงๆ” โยมก็ถาม “หลวงพ่อ แล้วเมื่อไรผมจะได้อร่อยบ้างล่ะ” “เอ้า จะไปยากอะไร อยากได้เมื่อไรล่ะ” “อยากได้วันนี้เลย ฟังพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูดแล้ว อยากได้จังเลย” “เอ้า ไม่ยาก วันนี้ไปจุดธูปหน้าโต๊ะหมู่บูชา อธิษฐานจิตให้ดี ไม่ได้ตายเถอะ แล้วนั่งไปเลยหน้าโต๊ะหมู่บูชานั่นละ จนกว่าใจจะหยุดนิ่ง มันไม่ตายหรอกคนจะตายต้องป่วย เราไม่เจ็บไม่ป่วยแล้วมันจะไปตายทำไม ฉันเอง สองคราว ...” ท่านว่าอย่างนั้นนะเอาอีกแล้ว ท่านชอบยกตัวอย่างตรงนี้ เพราะว่าถ้าได้ทำสิ่งที่ยากสักครั้งสองครั้งในชีวิต มันจะปีติและภาคภูมิใจกันไปตลอดชาติเลย ลืมไม่ลง คงไม่ลืม ปลื้มทั้งชาติ แล้วก็ปลื้มทุกชาติด้วยแล้วครูไม่ใหญ่ก็ถาม “แล้วโยมกลับไปทำหรือเปล่า”

     ท่านบอกว่า “มันยังใจไม่ถึง”“โยมงั้นเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ถ้าใจยังไม่ถึงตรงนี้ ก็ค่อย ๆ ทำไป ใจเย็น ๆ ให้ม่วนอ๊กม่วนใจ๋ สบายอกสบายใจ ฝึกหยุดฝึกนิ่งไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เข้าถึงเองแหละ”รู้สึกท่านจะชอบอย่างนี้ ตอนนี้ไม่ทราบว่ายังอยู่หรือเปล่า แต่ว่าท่านรู้สึกจะทำอย่างนี้ นี่ก็เป็นเรื่องราวของผู้มีบุญในกาลก่อน ที่เขาตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมกัน

      เพราะฉะนั้น พรรษานี้เราต้องทำให้ได้นะ อย่างน้อยก็ให้เห็นพระในระดับที่พระอะไรก็ได้ พอหลับตาลืมตาก็เห็นท่านชัดใสแจ่มเลย จะเป็นพุทธปฏิมากร สิ่งที่แทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ได้ หลากหลายอย่างไรก็เอาเถอะ จะทำด้วยวัสดุอะไรก็ได้ จะเป็นเงิน เป็นทองคำ เป็นเพชร เป็นพลอยเป็นทองเหลือง โลหะอะไรก็แล้วแต่ หน้าตาจะแตกต่างหลากหลายก็ทำไปก่อน ให้เห็นภาพเสียก่อน แล้วก็รักษาไว้ให้ดี อย่าให้หาย แล้วก็จากองค์นั้นจะนำเข้าไปสู่พระธรรมกายภายในได้ในภายหลัง ถ้าเรารักษาเอาไว้อย่างดีที่ศูนย์กลางกาย สักวันก็ต้องได้ เห็นแค่นี้ก็ยังได้ชื่อว่าเห็นพระภายในพรรษานี้ แล้วพอออกพรรษาเรามีเวลามาก ลุยนั่งให้สะบั้นหั่นแหลกให้หนักกว่าในพรรษา เดี๋ยวก็เข้าถึงได้ในที่สุด

24 กันยายน พ.ศ. 2546
จากหนังสือบางสิ่งที่แสวงหา
โดย พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

บางสิ่งที่แสวงหา


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ถ้าไม่มีหลวงปู่ คิดแล้วหนาวถ้าไม่มีหลวงปู่ คิดแล้วหนาว

วิธีหาอริยทรัพย์ภายในวิธีหาอริยทรัพย์ภายใน

อิทธิบาท 4 ธรรมแห่งความสำเร็จอิทธิบาท 4 ธรรมแห่งความสำเร็จ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

บางสิ่งที่แสวงหา