Case Study

Case study

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

คุณพ่อ เป็นคนรับผิดชอบ มีภรรยา 2 คน แม่ใหญ่ มีลูก 9 คน คุณแม่ เป็นแม่น้อย มีลูก 13 คน สาเหตุที่คุณพ่อมีภรรยา 2 คน เนื่องจากแม่ใหญ่เจ็บออดๆ แอดๆ ประกอบกับคุณพ่อเป็นคนหล่อ มีคนงานไทยสาวๆที่บ้านมาก แม่ใหญ่เกรงว่าคุณพ่อจะได้คนไทยเป็นภรรยา แม่ใหญ่จึงให้ญาติของคุณพ่อหาภรรยาใหม่ที่เมืองจีนให้ คุณพ่อ-คุณแม่มีอายุต่างกันประมาณ 17 ปี

ต่อมาเมื่อ ลูกชายคนที่ 2 ของแม่ใหญ่ มีภรรยา ภรรยาก็มักจะยุแม่ใหญ่และลูกๆของแม่ใหญ่ให้เกลียดและด่าว่าคุณแม่ของลูก บางครั้งถึงกับทำร้ายร่างกาย คุณแม่ก็ไม่ต่อสู้อะไร คุณพ่อก็ได้แต่เอายาแก้ช้ำในมารักษาคุณแม่ คุณพ่อห้ามแม่ใหญ่กับลูกๆ แต่พวกเขาไม่ฟัง อยู่มาวันหนึ่ง ลูกชายคนที่ 2 ของแม่ใหญ่ได้ขนเงิน-ขนเช็คไปหมด และขอแยกไปอยู่เอง ตอนนั้นตัวลูกอายุได้ 1 เดือน แม่ใหญ่บอกให้คุณพ่อทิ้งคุณแม่แล้วไปอยู่กับแม่ใหญ่ คุณพ่อตอบว่า “ไปไม่ได้หรอก พวกลูกยังเล็กอยู่ จะทิ้งได้อย่างไร” แม่ใหญ่ไม่สนใจ ขนเงินไปหมด คุณพ่อขอเงินบางส่วนไว้สำหรับเลี้ยงลูกบ้าง แต่ก็ไม่ได้ผล คุณพ่อจึงต้องหาเงินเอาใหม่

คุณพ่อเสียชีวิตเมื่ออายุ 88 ปี ตอนจะสิ้นชีวิต คุณพ่อนอนอยู่บนเตียงคนไข้ที่บ้าน ลูกนวดขาให้ท่าน สังเกตว่าขาทั้ง 2 ข้าง เป็นจ้ำๆเหมือนเลือดเดินไม่ทั่ว หลังจากนวดแล้วสีของขาก็จะเป็นปกติ สักพักหนึ่งก็กลับเป็นจ้ำๆเหมือนเดิม และมีเหงื่อไหลอยู่ตลอดเวลา ตัวเย็น หายใจเสียงดัง คุณพ่อเสียบท่อให้ออกซิเจนอยู่แต่ก็ส่ายหัวทำนองอึดอัด ลูกจึงเอาออก เวลาประมาณเที่ยงคืน เหงื่อคุณพ่อไหลออกมาจนเสื้อเปียก ลูกก็หยิบผ้ามาเช็ดเหงื่อ สักพักหนึ่งเสียงลมหายใจก็เงียบลง ลูกจึงเรียกคุณพ่อพร้อมกับเอามือไปใกล้จมูกดูว่ามีลมหายใจอยู่หรือเปล่า และเอาสายให้ออกซิเจนเสียบที่จมูกคุณพ่อ ท่านก็เฉยๆ จึงรู้ว่าคุณพ่อเสียแล้ว ลูกได้บอกคุณแม่และทุกคนว่า คุณพ่อเสียแล้ว ทุกคนตื่นลงมาพร้อมเอาเสื้อสูทมาใส่ให้ท่าน เพราะขณะหมดลมหายใจคุณพ่อใส่แต่เสื้อ ท่อนขาเอาผ้าแพรคลุมไว้

คุณแม่ เป็นคนสมถะ ฉลาด เป็นคนมีระเบียบ รักความสะอาด มีเมตตา ใจดี ไม่ค่อยช่างพูดช่างคุย คุณพ่อคุณแม่มักจะสอนลูกๆว่า “ศาสนาพุทธดีที่สุด ใครชวนให้ไปเข้าศาสนาคริสต์ ห้ามเด็ดขาด” คุณแม่เสียชีวิตเมื่ออายุ 73 ปี ก่อนที่คุณแม่จะเสียชีวิต ได้เข้าโรงพยาบาล 2 ครั้ง ด้วยอาการหอบ ไม่พูด เหมือนหายใจไม่ทัน ความจำก็จำได้บ้างไม่ได้บ้าง วันที่ท่านเสียชีวิตลูกไปเยี่ยมคุณแม่ เห็นเลือดกองอยู่ข้างเตียง มองไปที่ตัวท่านเห็นเข็มฉีดยาขนาดประมาณ 1 นิ้ว ฉีดที่ตัวแม่ จับมือ-ขาของคุณแม่ รู้สึกว่าเย็นผิดปกติ แต่หน้าผากอุ่น ลิ้นจุกปากเล็กน้อย หมอบอกว่าคุณแม่เสียแล้ว เพราะออกซิเจนตามส่วนต่างๆของร่างกายตายหมดแล้ว แต่หัวใจยังเต้นอยู่ ลูกตัดสินใจเองเลยว่า ให้หมอเอาสายฉีดยาออก เพราะไม่อยากให้คุณแม่ทรมาน ลูกก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ตอนนั้นท่านตายแล้วจริงๆ หรือไม่

ลูกมี เพื่อนคู่ใจคนหนึ่ง ซึ่งเข้าวัดพระธรรมกายพร้อมกัน ทำบุญทุกบุญร่วมกัน แต่สุขภาพเพื่อนไม่ดี อารมณ์ร้อน ไม่ยอมแพ้ใคร ห้ามพูดอะไรให้ผิดใจ ขี้โมโห บางครั้งบอกว่า ถ้าฆ่าคนตายแล้วไม่ผิดศีลก็จะฆ่าหรืออยากจะฆ่าตัวตาย ตอนนี้เพื่อนของลูกมีโรคประจำตัวคือ โรคความดันและคันทั้งตัว เริ่มเป็นตั้งแต่ 7-8 เดือนที่แล้ว เกิดจากไปหาหมอเพื่อรักษาความดัน แต่ลูกน้องหมอให้ยาผิด หลังจากนั้นก็มีแผลพุพองตามร่างกาย ลักษณะคล้ายน้ำร้อนลวก ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ตั้งแต่หัวจรดเท้า หน้าบวมและก็คัน ปวดแสบปวดร้อนไปทั้งตัว

ลูกขอกราบเรียนถามคำถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ค่ะ

1.คุณแม่มีกรรมอะไร แม่ใหญ่และลูกๆ จึงทำร้ายคุณแม่ และเอาเงินไปจนหมด

2.คุณพ่อทำกรรมอะไรไว้ จึงต้องมาเลี้ยงลูกถึง 21 คน คุณพ่อตายเพราะหมดอายุขัยหรือกรรมอะไรมาตัดรอนคะ คุณพ่อตายแล้วไปไหน กายละเอียดมีเสื้อผ้าใส่หรือเปล่าคะ (เพราะตอนตายคุณพ่อใส่แค่เสื้อและมีผ้าแพรคลุมขาเท่านั้น)

3.ตอนที่ลูกบอกให้หมอเอาสายฉีดยาออก คุณแม่เสียชีวิตแล้วหรือยังคะ ถ้ายัง เท่ากับลูกฆ่าคุณแม่หรือเปล่า ที่ทำลงไปเพราะหมอบอกว่าคุณแม่ตายแล้ว และลูกไม่อยากให้คุณแม่อยู่อย่างทรมาน ลูกจะต้องรับกรรมอะไรบ้างคะ จะแก้ได้อย่างไร สาเหตุที่แท้จริงที่คุณแม่ตายเพราะอะไรคะ คุณแม่ตายแล้วไปที่ไหนคะ ท่านได้ใส่เสื้อผ้าชุดไหน เพราะตอนตายท่านใส่ชุดโรงพยาบาล และมาเปลี่ยนเป็นชุดที่ท่านโปรดในภายหลัง

4.ก่อนที่คุณแม่ตายประมาณครึ่งปี ลูกพาคุณแม่ไปอาบน้ำ คุณแม่ได้ลื่นล้มหน้าผากกระแทกขอบธรณีประตู จนหน้าผากแตก เลือดไหลมาก ลูกร้องไห้เสียใจอย่างมากในความประมาท ลูกจะมีบาปติดตัวมากไหมคะ

5.ทำไมคุณพ่อกับคุณแม่ถึงได้ตายวันเดียวกันแต่คนละปี มีสาเหตุอะไรหรือเปล่าคะ

6.ลูกและเพื่อนเคยมีความสัมพันธ์กันอย่างไรในอดีตชาติ จึงได้มาเป็นเพื่อนคู่ใจในชาตินี้ และจะได้เจอกันอีกในชาติต่อไปหรือเปล่าคะ

7.ทำอย่างไรจึงจะแก้นิสัยเป็นคนอารมณ์ร้อน ขี้โมโหของเพื่อนคนนี้ได้ และเพื่อนของลูกทำกรรมอะไรมาจึงได้มีโรคประจำตัว และคันไปทั้งตัวโดยหมอก็รักษาไม่หาย และมีวิธีแก้อย่างไรคะ

กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างสูง

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที

แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ

1.คุณแม่ มีเศษกรรมกาเม และเศษกรรมริษยา จึงต้องมาเป็นภรรยาน้อย และถูกทำร้าย

เรื่องมีอยู่ว่า ชาติที่คุณแม่เกิดเป็นผู้ชาย ท่านมีหลายบ้าน กรรมนั้นจึงทำให้ท่านมาเกิดเป็นผู้หญิงในชาติถัดมา

เมื่อเป็นผู้หญิงแล้วก็มามีสามีที่มีหลายบ้านคล้ายในชาติที่ตนเองเป็นผู้ชาย ด้วยเหตุนี้ต่อมา เกิดความริษยา จึงได้ยุให้สามีในชาตินั้น ให้เลิกกับภรรยาหลวงมาอยู่กับตนเองได้สำเร็จ

ด้วยกรรมนี้ จึงมีวิบากดังเช่นชาติปัจจุบัน
อีกประการหนึ่งภรรยาของลูกชายคนที่ 2 ของแม่ใหญ่ ที่ได้คอยยุแหย่สามีของตน ก็คืออดีตภรรยาหลวงคนดังกล่าวนั้นเอง ที่ได้ผูกเวรผูกอาฆาตกันมา

2.คุณพ่อ มีนิสัยติดข้ามชาติมา คือ ท่านอยากจะมีลูกเยอะๆ ตามความนิยมของสังคมเกษตรกรรมในชาตินั้น

คุณพ่อตาย เพราะหมดอายุขัย ตายแล้วไปเป็นภุมมเทวาชั้นธรรมดา มีเสื้อผ้าใส่ เป็นเสื้อผ้าแบบภุมมเทวา
ได้มาวนเวียนอยู่ที่บ้านใกล้ๆกับคุณแม่ จนกระทั่งคุณแม่เสียชีวิต
ต่อมาเมื่อคุณพ่อได้รับบุญที่ลูกได้อุทิศไปให้ จึงทำให้ท่านมีสภาพที่ดีขึ้น และได้พาคุณแม่ไปอยู่ที่วิมานเดียวกัน ณ หมู่บ้านภุมมเทวาแห่งหนึ่ง

3.คุณแม่ตาย เพราะหมดอายุขัย ลูกก็ไม่ได้มีบาปกรรมอะไรกับท่าน

เมื่อคุณแม่ตาย คุณพ่อก็มารับตัวไปอยู่ด้วยกันดังกล่าว
คุณแม่มีเสื้อผ้าสวมใส่ตามกำลังบุญของท่าน และบุญที่ลูกได้อุทิศไปให้ ไม่เกี่ยวกับเสื้อผ้าตอนก่อนตายแต่อย่างใด

4.ก่อนที่คุณแม่จะตายครึ่งปี ลูกได้พาท่านไปอาบน้ำ และท่านลื่นหกล้มจนหน้าผากแตก เพราะกระทบกับขอบธรณีประตูนั้น ลูกก็ไม่ได้มีบาปกรรมอะไรกับท่าน เพราะไม่ได้มีเจตนา

ดังนั้น อย่าได้ไปกังวลใจเลย ให้ตั้งหน้าตั้งตาสั่งสมบุญบารมีให้มากๆ แล้วอุทิศไปให้คุณพ่อคุณแม่จะดีกว่า ท่านทั้งสองจะได้มีสภาพที่ดีขึ้นไปกว่านี้อีก

5.คุณพ่อมักจะเป็นห่วงและสงสารคุณแม่ตั้งแต่เป็นมนุษย์ เพราะเหตุนี้เองเมื่อตายใหม่ๆท่านจึงวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ได้แต่ดูแลแต่ไม่รู้จะสื่อสารกันอย่างไร

ส่วนคุณแม่ก็มีความผูกพันอยู่กับคุณพ่อ และคิดถึงอยู่ตลอดเวลา และคิดว่าตายแล้วขอให้ได้ไปอยู่ด้วยกันกับพ่อ เมื่อหมดอายุขัย (มาพ้องกับวันตายของคุณพ่อแต่คนละปี) จึงได้ไปอยู่ร่วมกันสมความปรารถนา ไม่ได้มีสาเหตุอื่นใดที่พิเศษนอกเหนือจากนี้

6.ลูกและเพื่อนก็เคยคบหาสมาคมสนิทสนมกันมาหลายชาติ

7.เพื่อนของลูกมีกรรม 2 อย่างมารวมกัน คือ กรรมมักโกรธที่ติดข้ามชาติมา ทำให้มีวจีกรรม คือ เวลาโกรธใครก็มักจะด่าว่าบุคคลนั้น อย่างสาดเสียเทเสีย ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

รวมกับกรรมในอดีตที่เคยต้มสัตว์ทั้งเป็น เช่น ปลา เพื่อความอร่อยในการทำอาหาร

จึงทำให้ในชาตินี้ เป็นโรคความดันเพราะความโกรธ มีแผลพุพองเพราะวจีกรรม ปวดแสบปวดร้อนคล้ายน้ำร้อนลวกเพราะกรรมต้มสัตว์ทั้งเป็น

ให้แก้ไขด้วยการนั่งสมาธิแผ่เมตตาให้มากๆ อย่าผูกโกรธใคร ให้อภัยทุกๆคน และให้ปล่อยสัตว์ปล่อยปลาเป็นเนืองนิตย์ สร้างบุญทุกบุญอย่างเต็มที่ต่อไป อุทิศส่วนกุศลให้กับคู่กรรม คู่เวรของเราทุกครั้ง

ให้ลูกทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ชักชวนคนติดจานดาวธรรม และให้อธิษฐานจิตไปอยู่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษด้วยกัน