กฎแห่งกรรม ร้องเหมือนนกแสก

Case study

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

กราบนมัสการ พระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

เตี่ย เกิดที่เมืองจีน แล้วมาเมืองไทยตอนวัยรุ่น ต่อมา ได้มาแต่งงานกับคุณแม่ ซึ่งมาจากเมืองจีนเหมือนกัน มีลูกด้วยกัน 9 คน ผมเป็นคนที่ 8 เตี่ยและคุณแม่เปลี่ยนอาชีพหลายอย่าง ทั้งเกษตรกรรม และค้าขาย จนกระทั่ง เมื่อเตี่ยอายุได้ 60 ปี ท่านยังแข็งแรงอยู่ได้แยกตัวออกมาเลี้ยงหมูขาย ส่วนคุณแม่ค้าขายในตลาดสดกับลูกๆที่ยังโสด เตี่ยเสียชีวิตในขณะที่กำลังนั่งโบกปูนสร้างกำแพงคอกหมู โดยคาดว่า เป็นลมหมดสติไป แล้วศีรษะก้มลงแบบคำนับ ทำให้จมูกถูกอุดด้วยปูนที่ยังไม่แข็งตัว จึงขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้านี้ท่านเคยเป็นลม ล้มลง 2 – 3 ครั้งแล้ว แต่มีคนช่วยไว้ได้ทัน

คุณแม่ เสียชีวิตอายุ 59 ปี ซึ่งก่อนหน้าที่จะเสียชีวิต คุณแม่หลงๆลืมๆเพราะ เป็นโรคเบาหวาน และความดันขึ้นเป็นระยะๆ ขณะที่คุณแม่นอนป่วยหนักอยู่ที่บ้าน ผมนอนเฝ้าอยู่ก็ได้ยินเสียง นกแสก ร้องดังมาก และเสียงดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นนกเรียกวิญญาณ และจะมาตอนคนใกล้ตาย ผมจึงออกจากห้องเพื่อจะไปไล่ แต่ไม่ได้ผล มันบินมาเกาะใกล้ๆแล้วร้องเสียงดังมาก ผมจึงตั้งจิตอธิษฐานว่า “อย่าพึ่งมาเอาคุณแม่ของผมไปเลย ให้ผมได้ตอบแทนท่านก่อน” คุณแม่ก็อาการดีขึ้นบ้าง แต่ต่อมา ท่านก็ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแบบนอนหลับไปในตอนเช้าตรู่โดยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

พี่ชายคนที่สาม ในอดีต เรียนเก่งจน Pass ชั้นเรียน ตอนประถมต้น ต่อมา ได้มาเรียนที่เทคนิคกรุงเทพฯ ในช่วงปิดเทอม ได้ขี่รถมอเตอร์ไซด์ขนาดใหญ่ วิ่งจากกรุงเทพจะกลับบ้านที่ฉะเชิงเทรา รถได้คว่ำลงข้างถนนในคูน้ำ รถทับขาสลบไป พอฟื้นขึ้นมาพบว่า พิการครึ่งตัวส่วนล่าง รักษาไม่หาย และต่อมาเป็นนิ่วที่ไต ต้องตัดเอาลำไส้มาออกมา ถ่ายที่หน้าท้องน้อยแทน และภายหลังพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง เพราะคิดว่าเป็นภาระของพี่ๆน้องๆที่จะต้องดูแล สุดท้ายก็สำเร็จโดยการดึงขั้วต่อสายหลอดเลือดที่ใช้ในการฟอกไตออก ทำให้ เลือดไหลออกไม่หยุด จนสิ้นใจตายไปในเวลากลางดึก สิริอายุได้ 40 ปี

พี่สาวคนที่สี่ หน้าตาดีกำลังจะแต่งงาน ได้ขี่มอเตอร์ไซด์ไปวัดกับพี่สาวคนที่ห้า เพื่อพูดคุยกับเจ้าอาวาสใกล้บ้านเป็นประจำ ซึ่งท่านเปรียบเสมือนเป็นที่พึ่งที่ปรึกษาแทนคุณพ่อ-คุณแม่ที่เสียชีวิตไป ขากลับยางหน้าระเบิด ทำให้รถเสียหลักล้มลง พี่สาวคนที่สี่ซ้อนท้าย เสียหลักหัวฟาดพื้นสลบ เลือดคั่งในสมอง และในภายหลังได้เสียชีวิตหลังผ่าตัด

ภรรยาของผม เธอป่วยอยู่บ่อยๆ แต่ไม่นานก็หายป่วย วันหนึ่งเธอมีอาการลมขึ้น อาเจียนคล้ายคนแพ้ท้อง (แต่เธอทำหมันแล้ว) พาไปพบแพทย์ก็หาสาเหตุไม่พบ ได้แต่รักษาตามอาการเรื่อยๆมา เธอทรมานมากอ่อนเพลีย บางครั้งคิดสั้น บางครั้งได้ยินเสียงในหูบอกให้วิ่งๆๆไป บางครั้งก็อยากจะร้องกรี๊ดๆๆออกมา แต่เธอก็พยายามสงบนิ่งเอาไว้ ใครบอกให้เอาผ้ายันต์มาปิด เธอก็เอามาปิดป้องกัน ใครบอกให้สร้างศาลพระภูมิ เธอก็สร้าง และบางครั้งสัมผัสได้กับเงาดำๆลอยไปมาในบ้าน และได้ยินเสียงแปลกๆ ทำให้ไม่สามารถอยู่บ้านได้ จึงย้ายออกไปอยู่ห้องเช่าใกล้โรงเรียนของลูกๆ ต้องเสียค่าเช่า ทั้งๆที่มีบ้านอยู่ ตอนนี้ไม่ยอมเข้าบ้านตัวเองเลยครับ

สำหรับคำถามมีดังนี้ครับ

1.มีสาเหตุอื่นใดอีกหรือไม่ครับ ที่ทำให้เตี่ยต้องนั่งเป็นลมหน้าก้มจมปูนซีเมนต์จนเสียชีวิต เตี่ยมีคตินิมิตเป็นอย่างไร ตอนนี้อยู่ไหนครับ

2.บุญที่ลูกชาย 2 คนบวชหน้าศพให้ เตี่ยเห็น และได้รับบุญหรือไม่ครับ

3.นกแสกมาร้องใกล้ๆดังๆ แสดงว่า คนป่วยใกล้จะตายแล้ว จริงหรือไม่ครับ นกแสกเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้าหน้าที่ที่จะมารับตัวคนที่จะตายหรือไม่ครับ คุณแม่มีคตินิมิตเป็นอย่างไร ตอนนี้อยู่ไหนครับ

4.พี่ชายคนที่สาม ทำกรรมอะไรไว้ ทำไมตอนเด็กดูเหมือนชีวิตจะรุ่งโรจน์ เรียนเก่งมาก แต่แค่รถคว่ำครั้งเดียวหมดอนาคตไปเลย และต้องป่วยเป็นโรคไต, ต้องผ่าตัดเอาลำไส้ออกมา ถ่ายปัสสาวะข้างนอกที่หน้าท้องแทน ตอนนี้พี่ชายอยู่ที่ไหนครับ ได้รับบุญสร้างองค์พระหรือไม่ครับ

5.พี่สาวคนที่สี่ กำลังจะแต่งงาน แต่มาเสียชีวิตก่อนเพราะเหตุใดครับ ผมเคยเห็นพี่สาวต้มปูเป็นๆ จะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ครับ ตอนนี้พี่สาวคนที่สี่อยู่ที่ไหนครับ

6.ภรรยาของผมป่วยเป็นอะไรครับ สามารถแก้ไขได้อย่างไรครับ เงาดำๆในบ้านที่เธอเห็นคืออะไรครับ ตอนนี้ผมนอนอยู่คนเดียวในบ้านก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ นอกจากปลวกขึ้นบ้าน การที่เราปลูกบ้านคร่อมจอมปลวก จะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น จริงหรือไม่ครับ

7.การที่ไปขอพรจากพระพุทธรูป ให้มีบุตรสืบสกุลสำหรับคนที่มีบุตรยาก จะได้ผลจริงหรือไม่ครับ, ถ้าเทวดาท่านช่วยให้มีลูก เป็นการกระทำที่ทำให้เทวดาได้บุญ หรือเป็นหน้าที่ครับ และผมก็เป็นคนหนึ่งที่คุณพ่อ-แม่ อธิษฐานขอมาจากหลวงพ่อพระพุทธโสธร ที่แปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา ครับ

8.ผม ภรรยา บุตรชาย บุตรสาว เคยทำบุญมากับหมู่คณะหรือไม่ครับ จะมีสิทธิ์ไปวงบุญพิเศษทุกคนหรือไม่ครับ

กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างสูง

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที

แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ

1.เตี่ย เป็นลมเสียชีวิต เพราะหมดอายุขัย มีกรรมทั้งในอดีตและปัจจุบัน คือ เลี้ยงสัตว์ไว้ขายและฆ่า

ตอนตายใหม่ๆ คตินิมิตไม่ชัดเจน เนื่องจากตายโดยไม่ได้ตั้งตัว จึงวนเวียนอยู่กับครอบครัว 7 วัน

2.ท่านได้รับบุญที่อุทิศให้ แม้จะเป็นการบวชหน้าไฟ แต่ก็ส่งผลช่วยปิดอบายให้เตี่ยได้ แม้ว่าท่านจะทำปาณาติบาตมาตลอด

ดังนั้น เตี่ยจึงไปเป็นภุมมเทวาชั้นล่าง มีวิมานเล็กๆอยู่แถวๆนั้น แต่ไม่ค่อยจะมีอาหารทิพย์สักเท่าใด
บุญนี้จะคุ้มเตี่ยได้ไม่นาน เพราะกรรมปาณาติบาตมาจ่อรอส่งผลอยู่
ลูกจะต้องรีบสั่งสมบุญแล้วอุทิศไปให้ท่านอย่างต่อเนื่อง อย่าประมาท บุญที่แรงในตอนนี้ คือ บุญสร้างองค์พระสามแสนองค์ หรือจะให้หลานชายบวชให้ท่านอีกก็ยิ่งดี หรือ ลูกต้องปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย

3.การที่นกแสกบินมาร้องเสียงดังใกล้ๆ คนป่วยใกล้ตาย เพราะนกชนิดนี้มีสัมผัสพิเศษ คล้ายสุนัขที่เห็นผีแล้วหอน คือ นอกจากจะหากินในตอนกลางคืนแล้ว นกแสกยังเห็นเจ้าหน้าที่ยมโลกจะมารับตัวผู้ที่จะตาย แต่จะเป็นกับบางคน ไม่ใช่กับทุกคน เช่นเดียวกับกรณีของสุนัข ซึ่งก็ไม่ได้หอนทุกครั้งที่มีคนตาย

คุณแม่ เมื่อละโลกแล้ว เจ้าหน้าที่ได้มารับตัวไปยมโลก เพื่อพิจารณาบุญ-บาป
บาป คือ ฆ่าสัตว์ทำอาหาร เป็นหลัก
บุญ คือ บุญที่ได้ทำตามประเพณีตามเรื่องตามราวที่มีคนมาชวนให้ทำนิดๆหน่อยๆ

จึงถูกพิพากษาให้ส่งกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง และขณะนี้ก็ได้มาเกิดแล้ว เป็นผู้หญิง

4.พี่ชายคนที่สาม ในวัยเด็กดูว่าจะมีอนาคตไกล เนื่องจากเรียนเก่ง ต่อมา ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ ทำให้หมดอนาคต เป็นอัมพาตและโรคไต จนต้องผ่าตัดเอาลำไส้ออกมาถ่ายปัสสาวะข้างนอกที่หน้าท้องแทน และได้ฆ่าตัวตายในภายหลังด้วยการดึงขั้วต่อสายหลอดเลือดที่ใช้ในการฟอกไตออก

เพราะในอดีตพี่ชายได้เคยเกิดในสังคมเกษตรกรรม ได้เลี้ยงสัตว์ไว้ฆ่าและขาย เวลาที่จะนำสัตว์ไปขายหรือนำไปฆ่า มักจะมัดขาสัตว์นั้นไว้ และร้อยกับลำไม้ไผ่หลายๆตัว แต่สัตว์เหล่านั้นยังไม่ตาย ไม่ว่าจะเป็นหมู หรือ เป็ด ไก่ ก็จะทำคล้ายๆกัน ต่อจากนั้น จึงทำการเชือด หรือนำไปขาย

ชาตินั้น พี่ชายจะเป็นคนขยันทำหากิน จึงทำให้มีฐานะดีกว่าคนอื่นๆในหมู่บ้านเดียวกัน ภายหลังจึงทำอาชีพเสริม คือ ปล่อยเงินกู้ โดยชาวบ้านจะเอาข้าวเปลือก หรือที่ดิน เป็นต้น มาจำนำ และพี่ชายในชาตินั้นจะคิดดอกเบี้ยแพงๆ โหดๆ

ด้วยเหตุที่ชอบผูกขาสัตว์ดังกล่าว จึงทำให้เป็นอัมพาต กรรมที่ฆ่าสัตว์ทำอาหาร จึงทำให้ถูกผ่าตัดเอาลำไส้ออกมา โดยให้ขับถ่ายที่หน้าท้อง

ที่ต้องเป็นโรคไต เพราะกรรมที่คิดดอกเบี้ยโหด และแพง

ตายแล้ว เจ้าหน้าที่มาพาตัวไปยมโลก เพื่อพิจารณาบุญ-บาป
บาป คือ การที่พยายามฆ่าตัวตายในชาตินี้ ทำต้องตายก่อนอายุขัย
ส่วนบุญก็ไม่ค่อยได้ทำ
แต่เนื่องจากพื้นฐานใจเป็นคนที่มีความกตัญญู จึงถูกพิพากษาให้ปล่อยตัวมา ได้มาเป็นผีเร่ร่อนในเมืองมนุษย์ มีความลำบากมาก

ภายหลังได้รับ บุญสร้างองค์พระ จึงได้ไปเป็นภุมมเทวาชั้นล่าง อาศัยอยู่ที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่ง คล้ายผีตีนโรงตีนศาล

5.พี่สาวคนที่สี่ มีวิบากกรรมเก่า คือ เคยเกิดในสังคมเกษตรกรรม และทำปศุสัตว์ คล้ายเตี่ยในชาตินี้ กรรมที่เลี้ยงสัตว์ไว้เพื่อฆ่าขาย และกิน จึงทำให้อายุสั้น

ตายแล้วไปเป็นภุมมเทวาชั้นล่าง โดยอยู่บริเวณวัดที่ใกล้บ้าน ด้วยบุญที่ปัจจุบันได้ทำตามประเพณี มีสภาพไม่ค่อยสบายนัก แต่ไม่ถึงกับอดอยาก
ได้รับบุญที่อุทิศไปให้ แต่ก็ต้องทำบุญอุทิศไปให้อีกบ่อยๆ จึงจะทำให้มีสภาพที่ดีกว่านี้

6.อาการป่วยของภรรยาไม่เกี่ยวกับการสร้างบ้านคร่อมจอมปลวก แต่เป็นวิบากกรรมเก่าของภรรยาในอดีต เรื่องมีอยู่ว่า ชาตินั้นภรรยาได้เกิดเป็นผู้หญิง ได้ไปหลงชอบคนที่มีคู่รักแล้ว จึงไปว่าจ้างหมอไสยเวทให้ทำเสน่ห์ เพื่อให้ผู้ชายคนนั้นมาชอบตน ซึ่งก็ได้ผล ทำให้ผู้ชายคนนั้นเลิกกับคู่รัก และหันมาแต่งงานกับตน กอปรกับกรรมสุราของตนเองในชาตินั้น

สองกรรมนี้ทำให้มีอาการดังกล่าว

วิธีแก้ไข ให้ภรรยาทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา หรือรักษาศีลแปดช่วงสั้นอย่างน้อย 7 วัน แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้คู่กรรม

7.การไปขอลูกจากพระพุทธรูปซึ่งมีภุมมเทวารักษาอยู่ ก็เป็นไปได้ที่ภุมมเทวานั้น จะดูภุมมเทวาซึ่งหมดบุญ หรือผีที่เร่ร่อน แถวๆนั้นซึ่งหมดกรรม และถึงเวลาที่จะต้องไปเกิด และก็จะชี้ให้ไปเกิดกับคนที่มาขอให้มีลูก ไม่เกี่ยวกับพระพุทธรูป

ถ้าอยากได้บุตรที่มีบุญ ให้ทำบุญ อยู่ในศีล ในธรรมมากๆ ก็จะได้บุตรที่มีบุญมาเกิดกับเรา ดีกว่าไปขอกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ

ลูก ก่อนมาเกิดเป็นมนุษย์ในชาตินี้ เคยเป็นภุมมเทวาชั้นดีแถวๆวัดที่คุณแม่ไปอธิษฐานขอดังกล่าว ซึ่งภุมมเทวาผู้ดูแลรักษาพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร ได้ชี้ให้มาเกิดกับพ่อแม่ในปัจจุบัน เพราะลูกพลัดกับหมู่คณะมานาน แต่บุญเก่าที่ได้เคยสร้างไว้ร่วมกัน บันดาลให้มาเจอกันอีกในยุคที่หมู่คณะได้มาเกิดสร้างบารมีในชาตินี้

เหตุที่พลัดกับหมู่คณะ เพราะลูกทำบุญแบบตามอารมณ์ คือ บางทีก็ทำบุญแบบเสียไม่ได้ ใครมาชักชวนก็ทำไปเพราะความเกรงใจ หรือเพื่อตัดความรำคาญ บางครั้งอารมณ์ดีก็ทำเต็มที่ บางทีก็ไม่ค่อยจะเข้าใจหมู่คณะ ว่ามาทำอะไรกัน บางทีกระทบกระทั่งกัน จนเกิดความน้อยใจไม่มาร่วมกับหมู่คณะก็มี
ชาตินี้ ลูกต้องแก้ไขตัวเองใหม่ เพราะโอกาสที่จะมาประจวบเหมาะเจอกับหมู่คณะไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อได้มาเจอกันแล้ว ให้สร้างบารมีให้เต็มที่ จะได้ไม่พลัดกันอีก เมื่อตายแล้ว จะได้ไปอยู่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ ด้วยกัน เวลาทำบุญแล้วก็ให้อธิษฐานจิตให้ดีว่า “อย่าได้พลัดพรากจากหมู่คณะอีกเลย”