มงคลที่ ๖ ตั้งตนชอบ - สร้างผังรวยข้ามชาติ


[ 10 ก.ค. 2550 ] - [ 18265 ] LINE it!

 
มงคลที่ ๖

ตั้งตนชอบ - สร้างผังรวยข้ามชาติ
 
        บัณฑิตทั้งหลายบำรุงท่านผู้มีศีล ผู้ดำเนินไปโดยชอบ ด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะและเภสัชอันเป็นปัจจัยแก่คนไข้ ชื่อว่าย่อมปฏิบัติปฏิปทาสมควรแก่คฤหัสถ์ บุญย่อมเจริญแก่เขาทุกเมื่อ ทั้งกลางวันและกลางคืน เขาทำกรรมอันเจริญแล้ว ย่อมเข‰าถึงฐานะคือสวรรค์

        เสบียงติดตัวที่ดีที่สุดของการเดินทางไกลในสังสารวัฏ คือ บุญ บุญเท่านั้นที่เป็นเพื่อนแท้ของเราทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ใครมีบุญมาก บุญจะช่วยหล่อเลี้ยง ให้เป็นผู้สมบูรณ์บริบูรณ์ไปด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ทำให้ดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุข สำเร็จสมปรารถนาในทุกสิ่ง บุญจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องเร่งรีบขวนขวาย สั่งสมไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ก่อนที่พญามัจจุราชจะเข้ามาเยือน โดยเฉพาะบุญจากการนั่งสมาธิเจริญภาวนาเป็นประจำสม่ำเสมอ จะช่วยกลั่นใจของเราให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ เป็นเหตุให้หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ ได้พบกับความสุขอันเป็นนิรันดร์

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน คิหิสามีจิสูตร ว่า

        "ดูกรคฤหบดี อริยสาวกผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติปฏิปทาสมควรแก่คฤหัสถ์ อันเป็นเหตุให้ได้ยศและเป็นไปเพื่อเกิดในสวรรค์ ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน คือ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้บำรุงภิกษุสงฆ์ด้วยจีวร ๑ ด้วยบิณฑบาต ๑ ด้วยเสนาสนะ ๑ ด้วยเภสัชบริขารอันเป็นปัจจัยแก่คนไข้  ดูกรคฤหบดี อริยสาวกผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการนี้แล ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติปฏิปทาอันสมควรแก่คฤหัสถ์ อันเป็นเหตุให้ได้ยศ และเป็นไปเพื่อเกิดในสวรรค์ฯ บัณฑิตทั้งหลายบำรุงท่าน  ผู้มีศีล ผู้ดำเนินไปโดยชอบ ด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะและเภสัชอันเป็นปัจจัยแก่คนไข้ ชื่อว่าย่อมปฏิบัติปฏิปทาสมควรแก่คฤหัสถ์ บุญย่อมเจริญแก่เขาทุกเมื่อ ทั้งกลางวันและกลางคืน เขาทำกรรมอันเจริญแล้ว ย่อมเข้าถึงฐานะคือสวรรค์"
 
        ชีวิตของเราจะมีสุขมากทุกข์น้อย หรือมีสุขน้อยทุกข์มาก ขึ้นอยู่กับการกระทำในปัจจุบัน และกรรมในอดีตที่เคยทำไว้ ถ้าทำบุญกุศลไว้มาก ความสุขและความสำเร็จก็มีมาก หากทำบุญไว้น้อย ทั้งยังเพิ่มบาปอกุศลเข้าไปอีก ความทุกข์ก็ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น และความทุกข์ยังติดตามตัวเราไปข้ามภพข้ามชาติ จนกว่าวิบากกรรมนั้นจะหมดสิ้นไป เราจะมีสุขหรือทุกข์มากน้อยเพียงไร วัดกันที่บุญในตัว
 
        เพราะฉะนั้นการสั่งสมบุญจึงเป็นหน้าที่หลักของทุกคนที่เกิดมาเป็นมนุษย์ บุญจะส่งผลให้เรา มีความสุขไปทุกภพทุกชาติ รวมไปถึงสามารถขจัดอุปสรรคต่างๆ นานาในชีวิต ที่เป็นผลมาจากการทำอกุศลเอาไว้ให้หมดสิ้นไปได้ และยังเป็นพลวปัจจัยให้ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน วิธีการสั่งสมบุญง่ายๆ  ที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ คือ ให้ทำทาน โดยหาโอกาสบำรุงภิกษุผู้มีศีล ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ทำบุญให้ถูกเนื้อนาบุญ หากทำด้วยจิตที่เลื่อมใสกันจริงๆ บุญจะส่งผลให้ไปเป็นเศรษฐีในปัจจุบันชาติ หรือแม้ละโลกไป ก็จะได้ไปสู่สุคติโลกสวรรค์

        *มีเรื่องเล่าว่า เด็กหญิงลูกเศรษฐีคนหนึ่ง ตั้งแต่เกิดมาก็เป็นที่เกลียดชังของบิดามารดา ไม่เป็นที่รักของหมู่ญาติ เหตุจากภพชาติในอดีตเธอเคยเกิดเป็นชาย แล้วประพฤติผิดในภรรยาของคนอื่น จึงได้ตกนรกหมกไหม้เสวยทุกข์ทรมานอยู่เป็นเวลายาวนาน พอมาเกิดเป็นมนุษย์ แรงกรรมนั้นยังส่งผลให้เธอไม่เป็นที่รักของใคร แม้จะเกิดเป็นลูกสาวเศรษฐีก็ตาม ครั้นแต่งงาน ได้ไปอยู่กับครอบครัวของสามีแล้ว ก็ยังเป็นที่รังเกียจของญาติฝ่ายสามีอีก

        เนื่องจากเธอมีปัญญา จึงหันกลับมาพิจารณาตัวเอง นี่ถือเป็นปกติของบัณฑิตที่มีการเพ่งโทษตัวเอง ไม่มัวไปจับผิดคนอื่น เธอเห็นว่า แม้ตัวเธอเองจะประพฤติตัวดีมาโดยตลอด ไม่เคยบกพร่องในหน้าที่ของศรีภรรยาหรือลูกสะใภ้ แต่ยังไม่เป็นที่รักของใครๆ จึงคิดว่า เราจะต้องสั่งสมบุญให้มากกว่านี้ เพื่อจะได้เป็นที่รักของหมู่ญาติ เธอได้พยายามทำความดีทุกอย่าง ก็ยังไม่สามารถเอาชนะใจคนรอบข้างได้ ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ท้อ พยายามที่จะฝึกตัวให้ยิ่งๆ ขึ้นไปอีก

        วันหนึ่ง เธอได้เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าเดินบิณฑบาตผ่านหน้าบ้าน บังเกิดความเลื่อมใส จึงรีบนำอาหารหวานคาวมาใส่บาตร ถวายดอกปทุมกำหนึ่ง พลางตั้งความปรารถนาว่า  "ไม่ว่าจะเกิดไปกี่ภพกี่ชาติก็ตาม ขอให้เป็นที่รักของมหาชนเหมือนดอกปทุมนี้" 
 
        ทั้งยังอธิษฐานเพิ่มเติมอีกว่า "การอยู่ในครรภ์มารดาเป็นสิ่งลำบาก ขอให้ได้เกิดในดอกปทุม ไม่ต้องไปอาศัยอยู่ในครรภ์มารดาอีก"   
 
        เท่านั้นยังไม่พอ นางยังตั้งความปรารถนาประการต่อมาว่า "การเกิดเป็นหญิงนั้นแสนลำบาก เป็นเพศที่อาภัพ แม้ธิดาของพระเจ้าจักรพรรดิ ก็ยังจะต้องไปสู่อำนาจของบุรุษอื่น เพราะฉะนั้นขออย่าได้เข้าถึงความเป็นหญิงอีกเลย พึงเป็นบุรุษไปทุกภพทุกชาติ"
 
        ครั้งสุดท้าย เธอได้ตั้งความปรารถนาต่อ พระปัจเจกพุทธเจ้าว่า "ท่านผู้เจริญ ด้วยบุญที่ดิฉันได้ถวาย  ภัตตาหาร ถวายดอกบัวด้วยจิตที่เลื่อมใสอันไม่มีประมาณนี้  ขอให้ดิฉันพึงล่วงพ้นจากทุกข์ในสังสารวัฏ พึงได้บรรลุอมตธรรม ที่ท่านได้บรรลุแล้วด้วยเทอญ"    
 
        ครั้นทำความปรารถนา ๔ ประการนี้แล้ว นางได้ดอกปทุมอีกกำหนึ่ง บูชาพระปัจเจกพุทธเจ้า ไหว้ด้วยเบญจางคประดิษฐ์ ได้กระทำความปรารถนาว่า "ขอให้กลิ่นกายและผิวพรรณของข้าพเจ้า จงเป็นเหมือนดอกปทุมนี้ด้วยเถิด"
 
        พระปัจเจกพุทธเจ้าเห็นว่า สะใภ้ของท่านเศรษฐีนี้เป็นคนที่ทำบุญด้วยจิตศรัทธาอันไม่มีประมาณ จึงรับบาตรและดอกปทุม แล้วได้เหาะขึ้นไปบนอากาศ ทำการอนุโมทนาแก่สะใภ้เศรษฐี

        เมื่ออนุโมทนาแล้ว ก็เหาะกลับไปยังเงื้อมเขานันทมูลกะ สะใภ้เศรษฐีเห็นดังนั้น เกิดความปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ทำบุญกับพระอรหันต์ผู้เป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ วิบากฝ่ายกุศลจึงทำหน้าที่อย่างเต็มที่ วันนั้นเองอกุศลกรรมที่ได้ทำไว้ในภพชาติก่อนๆ ก็หมดสิ้นไปทันที คนที่เคยหน่ายก็รัก สามีที่เคยจืดจางต่อเธอมาโดยตลอด ก็หันกลับมาดีด้วย เธอเป็นที่รักของมหาชน และมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขมาโดยตลอด เมื่อตายไปแล้ว ได้ไปเกิดเป็นมหาปทุมเทพบุตร เปลี่ยนอัตภาพจากหญิงเป็นชายทันทีด้วยแรงอธิษฐานนั้น อีกทั้งมีดอกปทุมเป็นวิมานในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

        ครั้นมหาปทุมเทพบุตรเสวยบุญจนครบอายุขัยของเทวดา ก็จุติจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ไปเกิดใหม่ในสวรรค์ชั้นสูงยิ่งๆ ขึ้นไปตามลำดับ ตั้งแต่ชั้นยามา ดุสิตา นิมมานนรดี และปรนิมมิวสวัตดี เมื่อครบทั้งหกชั้นแล้ว ก็ถอยกลับลงตามลำดับ ทั้งอนุโลมและปฏิโลมเป็นอย่างนี้ยาวนานทีเดียว ไม่ว่าจะอยู่ชั้นไหน ก็เป็นเทพบุตรที่อุบัติขึ้นในท่ามกลางมหาปทุมวิมาน เสวยทิพยสมบัติอย่างมีความสุขมาโดยตลอด

        เมื่อจุติลงมาเกิดเป็นมนุษย์ ท่านได้บังเกิดในดอกปทุมในสระโบกขรณี อยู่ในอุทยานของพระเจ้าพาราณสี คืนวันนั้นพระมเหสีทรงสุบินว่า พระองค์แวดล้อมด้วยสตรี ๒๐,๐๐๐ นาง เสด็จไปอุทยาน ได้พบพระโอรสในดอกปทุม  เมื่อราตรีสว่าง พระนางรีบเสด็จไปยังอุทยานทันที  ทรงเห็นดอกปทุมใหญ่ดอกหนึ่ง ได้เสด็จตรงเข้าไปหา ทันทีที่พระนางทรงจับเท่านั้น กลีบดอกปทุม ก็แย้มบาน ทรงเห็นพระกุมารผู้มีผิวพรรณเปล่งปลั่งดั่งทองคำ นอนอยู่บนเกสรอันอ่อนนุ่ม จึงทรงรับมาเลี้ยงเป็นพระโอรส

        ปทุมกุมารได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีเหมือนเทพกุมาร มี หญิง ๑๐,๐๐๐ คน เป็นพี่เลี้ยง แต่ถึงอย่างไร พระกุมารก็สามารถสอนตนเองได้ คิดว่า ความสุขในสวรรค์เราได้เสวยมานับภพนับชาติไม่ถ้วนแล้ว ทุกข์ในมหานรกก็เคยไปชดใช้กรรมมามากแล้ว เหลือแต่สุขอันเป็นอมตะ ที่ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก ซึ่งเรายังไม่สมหวัง ดังนั้นท่านจึงปรารถนาสุขในนิพพาน

        วันหนึ่ง พระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ทรงพิจารณาเห็นว่า พระกุมารนี้เคยถวายอาหารแก่ทักขิไณยบุคคล แล้วตั้งความปรารถนาไว้ ๔ ประการ ซึ่งสำเร็จไปแล้ว ๓ ประการ ท่านปรารถนาจะอนุเคราะห์ให้พระกุมารได้สมปรารถนาในทุกสิ่ง จึงเหาะมาโปรดที่พระราชวัง ทันทีที่พระกุมารเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ก็รู้ว่านี่คือวิถีทางสู่ความสุขอันเป็นอมตะ ได้ยึดดอกปทุมเป็นอารมณ์ ท่านพิจารณาเห็นการเกิดขึ้น และความเสื่อมไปของดอกปทุม ในที่สุดก็ได้ตรัสรู้ปัจเจกโพธิญาณ เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าครองเพศบรรพชิต สมปรารถนาในทุกเรื่องตามที่ได้อธิษฐานจิตไว้

        เราจะเห็นว่า บุญและบาปที่เคยทำไว้นั้น จะคอยตาม ส่งผลตลอดเวลา เพียงแต่วิบากกรรมฝ่ายไหนจะส่งผลก่อน  ถ้าบุญส่งผล เราก็สำเร็จสมปรารถนาในทุกสิ่งได้อย่างอัศจรรย์ 
 
พระธรรมเทศนาโดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

*มก. อรรถกถาขัคคริสาณสูตร เล่ม ๔๖ หน้า ๑๔๙


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
มงคลที่ ๖ ตั้งตนชอบ - บุญยังความปรารถนาให้สําเร็จมงคลที่ ๖ ตั้งตนชอบ - บุญยังความปรารถนาให้สําเร็จ

มงคลที่ ๖ ตั้งตนชอบ - เปลี่ยนวิถีชีวิตด้วยบุญบารมีมงคลที่ ๖ ตั้งตนชอบ - เปลี่ยนวิถีชีวิตด้วยบุญบารมี

มงคลที่ ๖ ตั้งตนชอบ - ปลอดภัยเพราะอาศัยผู้รู้มงคลที่ ๖ ตั้งตนชอบ - ปลอดภัยเพราะอาศัยผู้รู้



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ธรรมะเพื่อประชาชน