วิธีการเลี้ยงดูลูกในยุค Generation Alpha


[ 8 ก.ย. 2558 ] - [ 18265 ] LINE it!

Generation Alpha

วิธีการเลี้ยงดูลูกในยุค Generation Alpha

Generation Alpha
 
แสดงธรรมโดยพระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ
จากรายการทันโลกทันธรรม 
 
 
Generation Alpha
Generation Alpha

ความแตกต่างของเด็กในแต่ละยุค

 
     - ยุค Baby boomers  เป็นคนที่เกิดในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งหลังจากสงครามมีคนล้มตายเป็นจำนวนมาก ช่วงนั้นจึงเป็นช่วงที่พ่อแม่เริ่มมีลูกกันมากเพิ่มขึ้น เพื่อมาทดแทนประชากรที่ลดลงไป ยุคนี้มีเด็กเกิดขึ้นมาก เลยเรียกว่ายุค Baby boomers ซึ่งคนที่เกิดในยุคนี้จะมีอายุประมาน 50-70 ปีแล้ว ซึ่งยุคนี้เป็นยุคของการฟื้นฟูจึงทำให้คนในยุคนี้เป็นคนทำงานหนัก ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจในการทำงาน เเละมีความอดทนสูง ซื่อสัตย์ต่อองค์กร ไม่ค่อยเปลี่ยนงาน ทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้องค์กรประสบความสำเร็จ ใช้ทั้งแรงกายและความคิดเพื่อคิดค้นผลงานชิ้นใหม่ขึ้นมา
 
     - ยุค Gen X  ยุคของคนที่เกิดในช่วง 1965-1976 ปัจจุบันจะมีอายุ 40-50 ปี คนยุคนี้จะไม่ต่อสู้ดิ้นรนเท่ากับยุคของ Baby boomers มีการเปลี่ยนแปลงงานที่บ่อยมากขึ้น ไม่ค่อยผูกมัดกับอาชีพของตัวเองเท่าไหร่ มักใช้ชีวิตตามเส้นทางที่พ่อแม่วางไว้ ปูทางเอาไว้ ชอบใช้จ่ายเงินมากกว่ารุ่นแรก ชอบใช้ชีวิตที่หรูหรา ฟุ่มเฟื่อยมากขึ้น 
 
     - ยุค Gen Y  ยุคของคนที่เกิดในยุค 1977-1994 ปัจจุบันจะมีอายุ 21-38 ปี เป็นคนที่โตมาพร้อมกับเทคโนโลยี สามารถรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้รอบด้าน มีนิสัยที่ชอบกล้าแสดงออกมากขึ้น เป็นตัวของตัวเองสูงขึ้น ไม่ชอบอยู่ในกรอบ ไม่ชอบการวางเงื่อนไข มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ทางด้านการเงินจะมีปัญหานิดหน่อย เพราะเป็นยุคที่มีการใช้จ่ายเงินผ่านทางบัตรเครดิต อาจมีปัญหาเรื่องหนี้สินติดตามมา
 
     - ยุค Gen Z  เด็กที่เกิดในปี 1995-2009 อายุระหว่าง 6-20 ปี เป็นเด็กที่เกิดจะเติบโตมาในยุคเทคโนโลยี โซเซียลมิเดีย จึงเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านอินเตอร์เน็ต ทางด้านทีวี หรือสื่อต่างๆที่เราใช้ในปัจจุบัน เด็กในกลุ่มนี้มักจะมีทางเลือกเยอะ มีความคิดที่เป็นอิสระของตนเอง เริ่มเรียนรู้ที่เร็วมากขึ้น เรียนนานขึ้น การศึกษาสูงขึ้น ทำให้ใช้เวลากับการเรียนรู้ค่อนข้างนาน มีความสนใจในเรื่องรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของศิลปะ สิ่งแวดล้อม ความรู้รอบตัวต่างๆ ทำให้สามารถทำอะไรหลายๆอย่างได้ในเวลาเดียวกัน
 
   - ยุค Generation Alpha เด็กกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่เกิดในปี 2010 เป็นต้นมา ก็คือเด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ขวบ กำลังเรียนอยู่ในชั้นอนุบาลเลยทีเดียว เด็ก Generation Alpha เราคาคว่า เป็นกลุ่มเด็กที่ได้รับการศึกษามากที่สุด ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ  เป็นยุคที่เทคโนโลยีข่าวสารเฟื่องฟู  มีพ่อแม่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็น พ่อแม่มีความพร้อมทางด้านการศึกษา ทางด้านการเงิน พร้อมที่จะมีบุตร พร้อมที่จะเลี้ยงดูบุตร ทำให้บุตรที่เกิดมานั้นมีความพร้อมในทุกๆด้าน มารดาตั้งครรภ์มีการดูแล เทคแคร์ ครรภ์เป็นอย่างดี ทำให้เด็กที่เกิดมานั้นมีความสมบูรณ์ทั้งทางด้านกาย และเมื่อเด็กเกิดมาแล้วพ่อแม่ก็ดูแลทั้งกายและใจ ทำให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น  “เด็กยุค Generation Alpha ถือว่าเป็นเด็กที่โชคดีมากๆ เหมือนเทวดาลงมาเกิดเลย”
 
การคาดการของเด็กยุค Generation Alpha
 
     เมื่อโตขึ้นแล้วเขาจะมีการศึกษาที่สูงขึ้น และมีอายุที่ยืนยาวขึ้น เนื่องจากความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์  โรคที่รักษายากๆในปัจจุบัน เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ มีทางเลือกในการรักษาที่ดีขึ้น อายุจะยืนยาวขึ้น นอกจากนี้เด็กยุค Generation Alpha จะมีความรู้ความสามารถที่เพิ่มมากขึ้น สามารถประกอบอาชีพหลายๆอาชีพได้พร้อมกัน เรียกว่าต้องฉลาดขึ้น รวยขึ้น และอายุยืนยาวขึ้นด้วย
“เด็กยุค Generation Alpha ถือว่าโชคดีมากๆๆ”
 
      - แง่คิดของนิสัยและการเป็นอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมของเด็ก Generation Alpha อาจมีปัญหานิดหนึ่งเพราะเด็กยุค Generation Alpha มีความเป็นปัจเจคบุคคลมากขึ้นเพราะว่าคุ้นเคยกับการใช้โซเซียลมีเดีย แชทกับเพื่อน คุยกับเพื่อนโดยไม่ต้องเห็นหน้า ไม่ต้องส่งความรู้สึก แววตา หรือทางกาย ทำให้ทักษะพื้นฐานไม่ค่อยดีสู้คนยุคก่อนๆไม่ได้
 
     - แง่การทำธุรกิจ ในวงการของผลิตภัณฑ์ต่างๆ มีการวางแผน เกี่ยวกับเด็กยุค Generation Alpha ว่า เด็กกลุ่มนี้มีกำลังซื้อค่อนข้างมาก เพราะพ่อแม่ของเด็กกลุ่มนี้เป็นคนมีฐานะ แล้วเด็กกลุ่มนี้อยากได้อะไรพ่อแม่ก็จะพร้อมซื้อให้กับลูก เพราะฉะนั้นหลายๆบริษัทก็พยายามสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองให้กับเด็กใช้ตั้งแต่เด็กๆ เพื่อให้เด็กรู้จักยี่ห้อของตนเอง แล้วก็มีความภักดีต่อสินค้า รู้สึกว่าใช้สินค้านี้ดีแล้วอยากให้ใช้สินค้ายี่ห้อนี้ต่อไป
 
     - แง่คิดของการศึกษาเด็กยุค Generation Alpha คาดว่าจะมีการศึกษาทางเลือกมากขึ้นเพราะว่าเด็กสามารถเรียนรู้และเลือกช่องทางการศึกษาด้วยตนเองได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นสื่อต่างๆ ในโลกออนไลน์ ในปัจจุบันนี้ ทำให้เด็กในยุค Generation Alpha มีความรู้ความสามารถมากขึ้น เลือกประกอบอาชีพที่มีหนทางที่มีอิสระมากขึ้น ในอนาคตอาจมีอาชีพใหม่ๆมากขึ้นที่เราคาดไม่ถึง 
   

ปัญหาและข้อเสียการใช้เทคโนโลยีในยุค Generation Alpha

     เนื่องจากปัจจุบันเด็กอยู่กับเทคโนโลยีมากกว่า บ้าน วัด โรงเรียน หรือบุคคลในครอบครัว จะทำให้เด็กขาดทักษะในการสื่อสารด้วยแววตาหรือการสัมผัสทางกายกับบุคคลใกล้ชิด ไม่มีการพัฒนาทางด้านนี้ ทำให้เด็กยุค Generation Alpha ขาดความเอื้ออาทร ขาดความเห็นอกเห็นใจซึ่งและกัน เพราะว่าทุกอย่างมันอยู่ในโลกของอินเทอร์เน็ต ในปัจจุบันเห็นได้ว่าคนคอมเมนต์ต่างๆในอินเทอร์เน็ต เมื่อไม่เห็นหน้ากันบางทีคำคอมเมนต์ค่อนข้างแรง ถ้าเจอกันซึ่งๆหน้า คำตำหนิ คำทักท้วง อาจไม่รุนแรงเท่ากับคอมเมนต์ในอินเทอร์เน็ต เรื่องนี้เป็นเหตุผลหลักว่า ที่เราไม่เห็นหน้ากัน จะทำให้การสื่อสารนั้นอาจจะไม่มีประสิทธิภาพ หรือการสื่อสารนั้นมีความรุนแรงกว่าการเห็นหน้ากัน  มีความผูกพันกับองค์กรน้อยลง มีความผูกพันกับท้องถิ่นของตัวเองน้อยลง ขาดความสำนึกรักบ้านเกิดของตนเอง ขาดความจงรักภักดีต่อองค์กรทั้งหมดเลย
     
     นอกจากปัญหาที่กล่าวมา อีกเรื่องหนึ่งคือ การถูกหลอก ถ้าเด็กไม่รู้เท่าทันคน รู้ไม่เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของคนลวงในโซเซียลมีเดีย ซึ่งมีข้อมูลทั้งที่เป็นเท็จและเป็นจริง เด็กในยุค Generation Alpha อาจจะหลงไปตามนั้น อาจจะทำผิดได้หรือโดนหลอกลวงได้ เพราะฉะนั้นคนที่มีลูกในยุค Generation Alpha ควรมีวิธีการเลี้ยงลูกที่ดี
 
 
Generation Alpha
Generation Alpha

วิธีการเลี้ยงดูลูกในยุค Generation Alpha

     “พ่อแม่ผู้ปกครองต้องรู้จักฝึกทักษะการรู้คิด รู้เท่าทัน และมีจิตสำนึก”
 
     - ทักษะการรู้คิด ก็คือฝึกลูกให้คิดและวิเคราะห์เป็นว่าสิ่งที่ได้รับมาได้ยินมา มีความถูกต้องชัดเจนมากน้อยแค่ไหน จะต้องพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบว่าข้อมูลนั้นน่าเชื่อถือเพียงไร ก่อนที่จะตัดสินใจที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ 
 
     - ทักษะการรู้เท่าทัน คือรู้เท่าทันสถานการณ์ สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข รู้จักคิด รู้จักตัดสินใจเอง รู้จักวางแผนแก้ไขปัญหาต่างๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์เฉพาะหน้าขึ้นมาจะได้แก้ไขสถานการณ์และรู้เท่าทันสถานการณ์ได้ด้วยตัวเอง
 
     - สร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับเด็ก เพราะว่าพ่อแม่ในปัจจุบันบางทีเลี้ยงลูกโดยให้อาหารเขา ให้เงินเขาไปใช้ ให้เครื่องแต่งตัว ให้คอมพิวเตอร์ไปใช้ อันนี้ไม่ใช่การเลี้ยงดูที่ถูกต้อง จะต้องมีการอบรมคุณธรรม จริยธรรม สร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับเด็ก เพื่อจะได้เป็นภูมิคุ้มกันโซเซียลเน็ตเวิร์คได้ ทำให้เด็กเลือกใช้แต่สิ่งดีๆ นำสิ่งดีๆจากโซเซียลเน็ตเวิร์ค มาปฏิบัติ และมาใช้ในชีวิตประจำวัน ของตนเอง 
 
     นอกจากทั้ง 3 ข้อนี้แล้ว ขอแนะนำให้คุณพ่อและคุณแม่ต้องมาศึกษา “ธรรมะและปฏิบัติธรรม” ด้วยตนเองก่อนเพื่อจะมาเป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูกๆได้ และน่าจะนำลูกไปอบรมในค่ายคุณธรรมที่ต่างๆที่จัดไว้ และเด็กดีวีสตาร์ ถ้าโตขึ้นแนะนำให้เข้าโครงการนี้  ลูกของท่านจะได้เป็นเด็กเก่งและดี 
 
     เรื่องราวที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเรื่องราวให้เรารู้เท่าทันโลก เรามาเรียนรู้เรื่องราวทางธรรมของเด็กยุค Generation Alpha ในทางธรรม กับ พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย 
 
     เด็กในยุค Generation Alpha คือ เด็กที่เกิดตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา เด็กโตสุดของยุคนี้ คือ อายุ 5 ขวบ มีการกล่าวว่า เด็กยุคนี้ จะเป็นยุคที่ได้รับการศึกษาสูงที่สุดในประวัติศาสตร์  เพราะมีช่องทางการศึกษารอบตัวเต็มไปหมด เทคโนโลยีก้าวหน้ามาก ครูบาร์อาจารย์สามารถใช้สื่อในการสอน และสามารถให้นักเรียนเข้าไปใช้สื่ออินเทอร์เน็ตต่างๆ เพื่อเข้าไปหาความรู้เพิ่มเติมได้ เด็กจะมีความรู้อย่างไร้ที่สิ้นสุด เพราะฉะนั้นเด็กมีโอกาสศึกษาได้อย่างมากมาย ทุกคนต้องแข่งขัน ต่างฝ่ายต่างศึกษา เด็กยุค Generation Alpha จึงเป็นยุคที่ได้รับการศึกษามากที่สุดในประวัติศาสตร์ พ่อแม่จะทุ่มเทดูแลลูกอย่างเต็มที่ ส่วนใหญ่จะทุ่มเทเรื่องการศึกษาอย่างดีที่สุด เด็กยุคนี้ จะเก่งมีความสามารถหลายๆด้าน  
     
     แต่พร้อมๆ กันนั้นจะมีสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ เด็กยุค Generation Alpha จะมีโลกส่วนตัวเยอะ เพราะใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารมาก อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ อยู่หน้าจอโทรศัพท์  แท็บแล็ต ทำให้จมอยู่ในโลกของการสื่อสาร ไม่ต้องไปยุ่งกับใครมากเท่าไหร่ มีแนวโน้มที่จะมีความเป็นส่วนตัวสูง ความสามารถในการปฎิสัมพันธ์ พูดคุย เจรจาต่างๆ ในโลกแห่งความเป็นจริงจะสู้ยุคก่อนๆไม่ได้ เด็กในยุค Generation Alpha จะอยู่ในโลกเสมือนจริงมากกว่า พ่อแม่เอาใจมาก คัดสรรสิ่งดีๆ ให้มากๆ เด็กเลยคิดว่าเป็นสิ่งที่เขาควรได้รับ คนรอบๆตัวเขา ควรให้ความใส่ใจเขา ให้ความสนใจเขา ดูแลเขา มันเป็นหน้าที่ของคนรอบๆตัวเขาที่จะต้องมาให้ความสำคัญกับเขา เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง จึงมีแนวโน้มที่จะเป็นคนที่  “เอาแต่ใจตัวเอง” ถือตัวเองเป็นใหญ่ ซึ่งถ้าอย่างนี้โตขึ้นไปแล้วก็ลำบาก แม้จะเก่ง แม้จะมีความรู้ ความสามารถเยอะ แต่เอาแต่ใจตัวเอง ถือตัวเองเป็นหลัก แล้วถ้าชายกับหญิงแต่งงานกัน แล้วเอาแต่ใจตนเองทั้งคู่ บ้านแตก ต้องหย่าร้าง ต้องอยู่คนเดียวเพราะว่าปฏิสัมพันธ์กับใครก็ไม่ค่อยเป็น เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว พ่อแม่ควรเลี้ยงลูกให้ดี
 
 
Generation Alpha
Generation Alpha

วิธีเตรียมตัวของพ่อแม่ในการเลี้ยงดูเด็กยุค Generation Alpha 

     เรื่องการศึกษาของลูกให้พ่อแม่สนับสนุนได้เต็มที่ ให้สิ่งที่ดีกับลูกได้เต็มที่ แต่อย่าโอ๋ลูก ถ้าลูกทำผิดต้องตักเตือน ต้องลงโทษ  การลงโทษไม่จำเป็นต้องตี แต่ใช้วิธีการสอน หรือลงโทษอย่างอื่นว่า นี่คือความผิดของลูก เช่น ลดค่าขนมหรือว่าให้ลูกทำงานเพิ่มเติมพิเศษ  ฯลฯ หาวิธีการที่พอดีๆ พอเหมาะ ให้เด็กรู้ว่าสิ่งนี้ไม่ถูก ถ้าทำไม่ถูกจะต้องถูกลงโทษ 
      
     ให้ฝึกลูกให้ทำงานตั้งแต่เล็กๆ การที่ลูกได้ทำงานเป็นช่วงที่ลูกจะได้ถอนตัวออกจากโลกเสมือนจริง แล้วได้มาเจอกันพ่อแม่ลูก อยู่ด้วยกัน มีปฏิสัมพันธ์กัน มีความอบอุ่นในครอบครัวเกิดขึ้น บางครั้งบางคราวให้มีกิจกรรมที่ทำร่วมกับเพื่อนบ้าน ทำกิจกรรมกับ เพื่อนฝูง เด็กจะได้เข้าสังคมเป็น รู้หลักในการปฏิบัติต่อผู้อื่น เด็กจะได้ปฏิบัติตัวต่อผู้คนในสังคม ในสถานะต่างๆได้ถูกต้อง สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อลูก ถ้าคนไหนรักลูกเกินไป และโอ๋ลูก ไม่ให้ลูกทำอะไรเลย ทำอย่างนี้ไม่นี้ จะทำให้ลูกเสียคน ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็รู้กันแล้ว จนมีคำยอดฮิตว่า “พ่อแม่รังแกฉัน” คงจะได้ยินผ่านหูกันมา   คำว่าพ่อแม่รังแกฉันก็คือ การที่พ่อแม่เอาใจลูกมากเกินไป เลี้ยงลูกผิดวิธี จึงกลายเป็นการรังแกลูก ทำให้ลูกโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีอารมณ์ไม่สมดุล วางตัวในสังคมไม่เป็น แล้วชีวิตมีแต่ปัญหา มีแต่ทุกข์ ทั้งหลาย ทั้งมวลนี้ เกิดจากพ่อแม่เลี้ยงลูกไม่เป็น เอาใจลูกมากเกินไป โอ๋ลูกเกินไป จนลูกกลายเป็นเด็กมีปัญหา  ถ้าจะไม่ให้ลูกเป็นแบบนี้ ต้องเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ 
 
พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า “หน้าที่ของพ่อแม่” มีดังนี้ 
 
     1. กันลูกจากความชั่ว
     2. ปลูกฝังลูกไว้ในทางที่ดี
     3. ให้ลูกได้รับการศึกษาที่ดี
 
พ่อแม่ส่วนใหญ่จะทุ่มเทให้ลูกในข้อ 3 เยอะ แต่มองข้ามใน 2 ข้อแรก คือต้องฝึกนิสัยลูกให้คบแต่คนดี รับแต่สิ่งดีๆ ฝึกแต่สิ่งดีๆ เอาไว้ในตัวเองด้วย  2 ข้อแรกมีความสำคัญมาก ก่อนที่จะศึกษาสิ่งต่างๆ 

เทคนิคการเลี้ยงลูก ในยุค Generation Alpha ให้เป็นคนดี
 
     1. เล่านิทานให้ลูกฟัง ตั้งแต่ลูกยังเล็กๆ ให้เล่านิทาน ให้เวลากับลูก จัดเวลาเล่านิทานให้ลูกฟัง เช่น เล่านิทานชาดก ธรรมบท เรื่องราวกฏแห่งกรรม ค่อยๆเล่าให้ลูกฟังไปทุกๆวัน  เรื่องที่เล่าให้ลูกฟังก็จะค่อยๆ ซึมเข้าไปอยู่ในใจของลูก จนปลูกฝังและติดแน่นในใจลูก ตั้งแต่เด็กๆ ลูกจะไม่กล้าทำความชั่ว รักในการทำความดี เชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรม บาป บุญ คุณ โทษ จะได้เป็นกรอบในการประพฤติ ปฏิบัติตน ที่ถูกต้องและดีงาม  การเล่านิทานทำให้ลูกเข้าใจง่าย และซึมเข้าสู่ใจลูกได้ลึกด้วย ในพระพุทธศาสนา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์เผยแผ่ธรรมะ โดยใช้วิธีการเล่านิทานมากที่สุด จะเป็นธรรมบท ชาดก เรื่องราวต่างๆในพระไตรปิฏก ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเล่าทั้งนั้น พระองค์จะเล่าและลงท้ายด้วยหลักธรรม ทำให้คนฟังเข้าใจที่มาที่ไป พอฟังหลักธรรมก็เข้าใจง่าย เราก็สามารถเอาหลักของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาใช้ได้  “ขยันเล่านิทานให้ลูกฟังแล้วลูกจะเป็นคนดีอย่างไม่น่าเชื่อ”
 
     2. พาลูกไปวัด พ่อแม่ไปวัดก็พาลูกไปวัดด้วย ตั้งแต่เล็กๆ ถ้าพาลูกไปวัด ลูกจะมีสังคมที่ดีงาม แล้วรู้จักการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ไปช่วยงานวัดตั้งแต่ยังเล็กๆ ลูกก็จะค่อยๆ เก่งขึ้นๆ แล้วทำงานเป็น มีเพื่อนฝูง จะรู้จักเข้าหาผู้ใหญ่ และจะคุ้นเคยกับบุญกับกุศล ได้ศึกษาธรรมะซึมซับเข้าไปในใจ จนกระทั่งเป็นเด็กดี เป็นการกันให้ลูกออกมาจากความชั่ว แล้วก็ปลูกฝังในทางที่ดีให้ลูก
 
     3. ฝึกลูกให้ทำงาน  ฝึกให้ลูกช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ ใหลูกช่วยพ่อแม่ กวาดบ้าน ถูบ้าน ดูแลน้อง ซักผ้า อันไหนที่พอให้ลูกทำได้ก็ให้ลูกทำ  มันจะฝึกให้ลูกทำงานเป็น ทำให้มีความผูกพันกับครอบครัว อยู่อย่างมีความสุข เพราะฉะนั้นพ่อแม่อย่าโอ๋ลูกมากเกินไป ฝึกให้ลูกทำงานตั้งแต่เล็กๆ มันจะเป็นประโยชน์ต่อตัวลูกโดยตรง 

     ถ้าทำได้อย่างนี้ลูกของเราในยุค Generation Alpha จะทั้งเก่งและดี จะนำความสุขใจและความชื่นใจมาสู่พ่อแม่  เอาจุดเด่นของ Generation Alpha ที่สิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีมีการพัฒนามากมาใช้ได้ แต่ต้องรู้จักอุดช่องโหว่และจุดอ่อนของความเป็นปัจเจคบุคลและความเป็นส่วนตัว ความมีอีโก้สูงให้คลาย และหายไป จนกลายเป็นเด็กที่สมบูรณ์ทั้งสองส่วนแล้วก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขความสำเร็จในชีวิต 
 
Generation Alpha
Generation Alpha

     เด็กที่เกิดในยุค Generation Alpha เป็นเด็กที่มีความพร้อมทางด้านวัตถุทุกอย่าง ถ้าได้รับการอบรมเลี้ยงดูอย่างดีจากผู้ปกครอง ทั้งทางด้านจิตใจ ทางด้านคุณธรรม จริยธรรม หรือทักษะการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น จะทำให้เด็กโตเป็นผู้ใหญ่อย่างสมบูรณ์ที่สุด “ลูกจะได้เป็นทั้งคนเก่ง คนดี และมีความสุข” 
 

รับชมคลิปวิดีโอGeneration Alpha
ชมวิดีโอGeneration Alpha   Download ธรรมะGeneration Alpha


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เป้าหมายชีวิตของมนุษย์เป้าหมายชีวิตของมนุษย์

ต้นบัญญัติมารยาทไทย ตอน บ่อเกิดของมารยาทไทยต้นบัญญัติมารยาทไทย ตอน บ่อเกิดของมารยาทไทย

มหันตภัยโซเชียลมีเดียมหันตภัยโซเชียลมีเดีย



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

Review รายการ