ไม่เคยรู้...แต่ดูฮวงจุ้ยได้


[ 12 ส.ค. 2549 ] - [ 18274 ] LINE it!

CASE STUDY
ไม่เคยรู้...แต่ดูฮวงจุ้ยได้ 
(ผมเกือบจะเป็นเจ้าพ่อ ตอนที่ 2)
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
  
 
กราบเรียนพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

    ชีวิตของผมเหมือนเป็นชีวิตที่พลิกผัน อยู่ดีๆจากชีวิตที่อยากเป็นเจ้าพ่อ ก็หันเข้าหาการปฏิบัติธรรม ถึงวันนี้...เมื่อผมได้มาเป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ผมจึงตัดสินใจที่จะส่ง Case Study ของตนเองมาเป็นตัวอย่างในการศึกษาความเป็นจริงของชีวิตด้วยครับ
 
    ช่วงที่ผมเป็นเด็ก ผมยิ้มง่าย แต่ไม่ค่อยพูด รับรู้เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นกับครอบครัวมาโดยตลอด คุณพ่อของผม ทำธุรกิจหลายอย่าง ต่อมาถูกกลุ่มมือปืนยิงเสียชีวิต ตอนผมอายุได้ 14ปี จากนั้นผมก็ช่วยงานคุณแม่มาตลอด จนอายุ 19–20ปี ผมก็ดูแลโรงงานเต็มตัว ผมต้องทำงานหนัก ต่อสู้กับทุกคนที่คิดข่มเหงรังแก สู้อย่างไม่กลัวตาย เคยถูกจี้ตัวและลอบยิง แต่ก็รอดตายมาได้
 
    จากเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ ทำให้ผมเชื่อมั่นว่า หากมีสองอย่าง คือ “หัวใจกับปืน” ผมมั่นใจว่าไม่ต้องกลัวอะไร ไม่ต้องกลัวใคร อยู่รอดปลอดภัย ผมจึงพกปืนทั้งยาวและสั้น และมีลูกระเบิดประจำตัวอยู่เสมอ แม้แต่ยามนอนก็ต้องมีอาวุธเหล่านี้อยู่ข้างตัวตลอดเวลา ทำให้ผมคิดจะเป็นเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพล แต่ผมก็ต้องเลิกล้มความตั้งใจและปิดโรงงาน บินไปเรียนต่อที่อเมริกา
 
    เมื่อผมกลับมาถึงเมืองไทย ผมขอบวชก่อนที่คิดจะทำอะไรต่อไป หลังลาสิกขาผมก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับที่ดินและซื้อขายหุ้น ช่วงแรกกำไรดีมาก ต่อมาเกิดการปฏิวัติ ทำให้ขาดทุนหมดตัว และผมก็มีครอบครัว อีกทั้งยังทำธุรกิจหนังสือพิมพ์ แต่ก็ล้มเหลวทั้งสองอย่าง เหลือแต่หนี้สิน ผมมีปณิธานชัดเจน คือ ต้องรวย มีชื่อเสียงและอำนาจเหนือคนอื่น จากจุดนี้เองผมจึงได้เข้าสู่วงการเมืองอย่างเต็มตัว
 
    เริ่มจากช่วยงานเป็นเลขารัฐมนตรี ผมเป็นคนมีแนวความคิด อุดมการณ์การปฏิรูปการเมืองเป็นอย่างมาก จึงจัดตั้งพรรคการเมืองกับพรรคพวก แต่ต่อมาก็มีการแตกแยกหักหลังกัน แต่ผมได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี จนเกิดเหตุการณ์บ้านเมืองวุ่นวาย การเมืองมีแต่การคิดร้าย เล่ห์เหลี่ยมสกปรก หักหลัง ทำลายกันทุกรูปแบบ ผมจึงถอนตัวจากการเมือง
 
    ในช่วงที่ทุกอย่างล้มเหลว และมีแต่หนี้สิน ผมคิดมากจนไม่อยากคิดอะไรอีก ต่อมาผมเกิดอยากนั่งสมาธิขึ้นมาเอง ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าการปฏิบัติสมาธิ คือ อะไร ทำอย่างไร แต่ผมใช้ความสงบหยุดนิ่งเป็นหลัก เมื่อจิตนิ่งสงบ อยู่ๆก็เกิดสิ่งหนึ่งเหมือนผุดขึ้นมาท่ามกลางความสงบ สอนให้ผมนั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ โดยการหยุดใจให้สงบนิ่งเฉยๆ และหยุดพักการดิ้นรน ซึ่งผมเรียกท่านว่า “ครูบาอาจารย์” ไม่นานก็มีงานเข้ามาหาผมชิ้นหนึ่ง จนผมสามารถปลดหนี้สินได้ทั้งหมด ทำให้ผมประหลาดใจเป็นอย่างมากครับ
 
    ครูบาอาจารย์ ที่ผมสัมผัสได้ขณะนั่งสมาธิ ท่านสอนผมเรื่อง “ธรรมจิต” (คือ ธรรมะ, ธรรมชาติ+จิตที่สงบบริสุทธิ์) การเข้าถึงได้ต้องหยุด นิ่ง สงบ เปรียบจิตเราเหมือนเพชรดิบที่ต้องเจียระไน โดยอาศัยธรรมะเป็นเครื่องมือ จนเพชรเป็นประกายใส ดั่งดวงแก้ว เรียกว่า “จิตเจียระไน” ท่านเคยให้นิมิต เห็นนรกและให้ผมมองเห็นเขตนิพพาน (มีลักษณะคล้ายพระใสๆ หน้าตาเหมือนกันหมด จำนวนมากมาย นั่งสมาธิสงบนิ่งเหมือนอยู่ในห้วงอวกาศ)
 
    ตอนนั้น ผมเริ่มสับสน ไม่เข้าใจ และงงมาก เพราะว่าผมเป็นคนใจแข็ง ไม่เคยเชื่ออะไร ไม่รู้เรื่องธรรมะ แต่กลับมารู้มาเห็นสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร ผมพยายามคิดหาเหตุผล กลัวว่า “จะหลอกตัวเองหรือเปล่า, คิดเอาเองหรือเปล่า” แต่เมื่อคิดให้ดี ผมไม่เคยรู้เรื่อง ไม่เคยอ่าน ไม่สนใจ สิ่งเหล่านี้มาก่อนเลย จึงคิดที่จะเลิกนั่งสมาธิหลายครั้ง แต่ทุกวันนี้ก็ยังนั่งสมาธิอยู่เสมอ
 
    มีอยู่ครั้งหนึ่ง ขณะเลิกจากนั่งสมาธิ ลุกขึ้นมาก็เห็นตะปูขนาดขนาด 4นิ้ว อยู่บนเบาะนั่ง ผมประหลาดใจมาก เพราะผมอยู่บ้านคนเดียวเป็นที่มิดชิด ไม่มีใครเข้าออกได้ ผมเอาด้ายแดงพันรอบตะปู เอาไปวางไว้ใต้หนังสือสวดมนต์ จนลืมไป วันหนึ่งนึกได้ไปเปิดดูปรากฏว่า ตะปูหายไปแล้ว...ผมงงมากเลยครับ
 
    ผมนั่งสมาธิอย่างต่อเนื่อง วันหนึ่งได้นิมิตผุดว่า พรุ่งนี้ผมจะปฏิบัติสมาธิได้ปฐมฌาน (ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร) และให้ผมเตรียมขอพรได้หนึ่งประการ ผมคิดขอพรให้ผมร่ำรวยมหาศาลกว่าใคร ผมท่องจำจนขึ้นใจ เมื่อนั่งสมาธิในวันรุ่งขึ้น จิตสงบชุ่มชื่นดีมาก เมื่อถึงเวลาขอพร ผมกลับลืมขอพรความร่ำรวย แต่ผมกลับขอพรให้ผมมีสมาธิจิตตราบชั่วนิรันดร์ พอออกจากสมาธิ ผมนึกโกรธตัวเองมาก
 
    ต่อมาจากการนั่งสมาธิ ผมก็ได้รู้วิชาดูฮวงจุ้ย (ทั้งๆที่ไม่เคยรู้ ไม่เคยเรียน และไม่คิดอยากได้เลย) ครั้งแรกที่ดูฮวงจุ้ย ผมได้ไปบ้านเพื่อนของเพื่อน เจ้าของบ้านเล่าว่า เขาวิตกกังวลมาก เพราะว่าบ้านของเขาหลังนี้ รู้ข่าวมาว่า เจ้าของบ้านคนก่อนๆ ใครมาอยู่มักมีอันเป็นไป หมดเนื้อหมดตัว เอาชีวิตแทบไม่รอด
 
    อยู่ๆผมก็พูดออกมา เป็นการแก้ไขฮวงจุ้ยบ้านหลังนั้น โดยที่ผมไม่รู้เรื่องมาก่อน ผมยังแปลกใจตัวเอง พูดออกไปได้อย่างไร แต่เจ้าของบ้านเชื่อผม และแก้ไขอย่างที่ผมบอกทุกประการ ต่อมามีคนส่งข่าวมาบอกผมว่า เขาถูกล็อตเตอรี่ รางวัลที่หนึ่ง หลายครั้ง ทั้งธุรกิจการค้าเจริญก้าวหน้า มีที่ดินจำนวนมาก และเขาดูแลบ้านหลังนั้นเป็นอย่างดี (เป็นบ้านชั้นเดียว) ไม่ยอมย้ายไปไหนอีกเลย
 
    จากนั้นมา ก็มีคนอีกมากมายให้ผมแก้ไขฮวงจุ้ย ส่วนใหญ่ก็แก้ไขสถานการณ์ได้ บ้างก็หายเจ็บจากโรคร้าย และผมจะสอนให้ทุกคนรู้จักทำบุญ...ทาน ศีล ภาวนา อย่ายึดติดกับฮวงจุ้ย ผมคิดแค่เพียงช่วยเหลือคนอื่นเพื่อเป็นบุญกุศล ส่วนตัวผมแล้วไม่ชอบดู ไม่มีความสุข ไม่มีความภูมิใจเลย (ผมห้ามทุกคนเรียกผมว่า อาจารย์ หมอ หรือซินแส ให้เรียกชื่อเฉยๆ) หลายครั้งขออธิฐานให้ลืมวิชาฮวงจุ้ย ก็ยิ่งต้องดูหนักยิ่งขึ้น เพราะยิ่งมีคนมาขอร้องอยู่เสมอ ก็อดปฏิเสธไม่ได้ จึงปล่อยเลยตามเลย คิดว่าเป็นการสร้างบุญกุศล
 
    ต่อมา ผมได้รู้จักกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง ชวนผมขึ้นพนาวัฒน์ ขณะนั่งรถเดินทาง ผมนั่งด้านหลัง ขณะนั่งสมาธิ ผมเห็นคุณยายอาจารย์ (ตอนนั้นไม่รู้จักท่าน ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร) ลอยอยู่ด้านหลังศีรษะของพี่ท่านนั้น ผมจึงเล่าให้พี่ท่านนั้นฟัง พี่ท่านนั้นจึงบอกว่ามีล็อกเกตคุณยายอาจารย์ติดตัวมาด้วย ซึ่งรับมาจากมือคุณยายอาจารย์ คุณยายอาจารย์เคยบอกว่า “ไปไหนเอายายไปด้วย ยายจะได้ไปอยู่กับคุณ”
 
    ก่อนเข้าวัดพระธรรมกาย ผมนั่งสมาธิอยู่บ้าน เกิดความสงสัยว่า “ผมมีบุญปฏิบัติธรรมกับวัดพระธรรมกายไหมหนอ” พลันปรากฏนิมิต เห็นคุณยายอาจารย์ยืนอยู่หน้าวัดพระธรรมกาย หันหลังให้ผม ท่านเดินนำหน้าผมเข้าวัด เหมือนผมได้ยินท่านพูดว่า “ยายและทุกคนยินดีต้อนรับ แต่คุณจะเข้ามาหรือไม่ก็อยู่ที่ตัวคุณ” แล้วท่านก็เดินหายไป
 
    แต่ผมก็ยังมีข้อสงสัยอยู่อีก เนื่องจากข่าวต่างๆเกี่ยวกับวัด ต่อมาข้อสงสัยที่คาใจผม ก็ได้รับทราบจากครูบาอาจารย์ในสมาธิที่บ้าน ท่านบอกให้ผมรีบเข้าไปเอาบุญกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย อย่างสม่ำเสมอ อย่าคิดมาก เพราะพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นผู้มีบุญบารมีสูง (โดยเฉพาะบุญเมตตาและลาภผล) พระเดชพระคุณหลวงพ่อสั่งสมบุญบารมี เพื่อหวังช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ และมหาปูชนียาจารย์ทั้ง 3ท่าน ปรารถนาพุทธภูมิ
 
    ความค้างคาใจของผมหมดสิ้นไป และผมได้สร้างพระธรรมกายประจำตัว ร่วมกับครอบครัวและมิตร 11องค์ มาวัดทุกวันอาทิตย์ ทำทุกบุญที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อบอก แล้วก็ถืออุโบสถศีลในวันพระ ทำบุญตักบาตรทุกวัน และชวนคนเข้าวัดและร่วมทำบุญ
 
    มีอยู่วันหนึ่ง ผมคิดว่าจะมาวัดวันสุดท้ายแล้ว เพราะเพื่อนที่มาวัดด้วยกันเริ่มกีดกันไม่อยากให้ผมมาวัด ผมก็รู้สึกรำคาญ เมื่อผมเริ่มนั่งสมาธิก็นั่งด้วยความหงุดหงิด แต่สักครู่อารมณ์เริ่มสงบ ผมได้เห็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เดินลงมาจากที่นั่ง มายืนตรงหน้าผมแล้วพูดเบาๆว่า “คุณทำใจให้สบาย อย่าว้าวุ่นใจ นั่งสมาธิให้สงบ” กลายเป็นว่าวันนั้นผมนั่งสมาธิได้ดีที่สุด ชุ่มชื่นใจมาก จึงยังคงมาวัดตราบจนทุกวันนี้
 
ผมขอกราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ดังนี้ครับ
 
1.ทำไมชีวิตของผม ประกอบธุรกิจก็ล้มเหลว, ชีวิตครอบครัวก็ล้มเหลว, เข้าสู่การเมือง ตั้งพรรคการเมืองก็ล้มเหลว, ทำไมเหตุแห่งความล้มเหลวเหล่านี้ จึงเป็นสาเหตุให้ผมได้มาเริ่มนั่งสมาธิครับ
 
2.ทำไม อยู่ๆผมก็นั่งสมาธิได้เอง และครูบาอาจารย์ในสมาธิ ที่มาให้ความรู้วิชาต่างๆ เป็นใคร มีกี่ท่าน มีจริงหรือไม่ครับ
 
3.ผมรู้เรื่อง “ธรรมจิต” การหยุดใจ ดวงแก้ว วิชาฮวงจุ้ย และอีกหลายอย่างได้อย่างไรครับ
 
4.การดูฮวงจุ้ยของผม เพื่อช่วยเหลือคนอื่น จะเป็นบุญกุศลหรือไม่ครับ การดูฮวงจุ้ยจะเป็นบาปหรือเป็นสายวิทยาธร หรือเกี่ยวโยงกับเรื่องธาตุ4 ตามหลักพุทธศาสนาหรือไม่ และมีผลกำหนดชะตาชีวิตของคนเรามากน้อยแค่ไหน ผมควรช่วยเหลือคนโดยดูฮวงจุ้ยต่อไป หรือควรเลิกเด็ดขาดดีกว่าครับ
 
5.การที่ผมได้ไปช่วยล้างไสยศาสตร์ของขลัง ที่ไม่ใช่พระรัตนตรัย ออกจากบ้านของคนอื่นๆ และให้พวกเขาหันมาบูชาแต่พระรัตนตรัยเท่านั้น จะมีผลดีหรือผลร้ายต่อตัวผมอย่างไรครับ
 
6.การที่ผมพบตะปูขนาด 4นิ้ว บนเบาะที่ผมนั่งสมาธินั้น เกิดจากอะไร และต่อมาตะปูหายไปได้อย่างไรครับ
 
7.นิมิตคุณยายอาจารย์ (คุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง) และพระเดชพระคุณหลวงพ่อ (พระราชภาวนาวิสุทธิ์) ที่ผมเห็น และที่ครูบาอาจารย์ในสมาธิของผมได้บอกเกี่ยวกับท่านทั้งสอง เหล่านี้เป็นจริงหรือไม่อย่างไรครับ ทำไมผมจึงเห็นนิมิตเช่นนั้นครับ
 
8.ในวันหล่อรูปเหมือนทองคำของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ องค์ที่3 ผมได้เห็นพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ เป็นภาพลางๆใหญ่มาก อยู่เหนือโดมมหาวิหารพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ที่ผมเห็นนั้น คือ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ มาปรากฏให้เห็น จริงหรือไม่ครับ
 
9.ก่อนเกิดมาชาตินี้ ผมมาจากไหน เคยสร้างบารมีกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และหมู่คณะมาอย่างไร, หน้าที่ที่แท้จริงของผมในชาตินี้ควรทำอะไรดี, ไม่ทราบว่าจะสามารถตั้งตัวได้อย่างที่ผมตั้งใจหรือไม่ครับ ผมจะได้สั่งสมบุญกุศลได้อย่างเต็มที่ สมความตั้งใจหรือไม่ครับ
 
10.คุณแม่และพี่น้องของผม เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาหรือไม่อย่างไร และผมเคยได้นิมิตขณะนั่งสมาธิ ให้ทำบุญกุศลและนั่งสมาธิสม่ำเสมอ เพื่อช่วยคุณแม่ หมายความว่าอย่างไรครับ
 
11.ผมจะมีบุญได้เป็นผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนาหรือไม่ หรือมีหน้าที่อย่างไรในกองทัพธรรม ร่วมกับหมู่คณะครับ
 
12.คุณพี่ที่เป็นกัลยาณมิตรให้ผม เคยรู้จักเกี่ยวข้องกับตัวผมมาก่อนหรือไม่อย่างไร เคยเป็นกัลยาณมิตรให้ผมในอดีตหรือไม่ครับ และทำไมชาตินี้ เธอจึงได้เป็นพยาบาลและมีโอกาสดูแลพระอาพาธที่วัดพระธรรมกายหลายรูปครับ

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง

ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.ชีวิตของลูกประสบความล้มเหลวทั้งธุรกิจการงาน, การเมือง และครอบครัว จนเป็นสาเหตุให้ได้มานั่งสมาธิ เพราะในอดีต เวลาตั้งใจจะทำบุญอะไรก็ตาม เมื่อเจอปัญหานิดหน่อย ก็มักจะล้มเลิกการทำบุญนั้น วิบากกรรมนี้มาส่งผล แต่ก็พอมีบุญอยู่บ้างในระดับที่พออยู่ได้ แต่ไม่ถึงกับประสบความสำเร็จ

  • ชีวิตครอบครัวล้มเหลว เพราะสร้างบุญร่วมกันมาแค่นั้น
 
2.อยู่ๆนั่งสมาธิได้เองและเห็นครูบาอาจารย์ต่างๆในสมาธิมาให้วิชานั้น ก็เป็นบุญเก่าในตัว จากอดีตที่เคยฝึกสมาธิมาก่อน มาส่งผล
  • ส่วนการเห็นครูบาอาจารย์ต่างๆ ก็แค่เป็นกุศลนิมิตเท่านั้น ไม่ได้มีจริง
 
3.ลูกรู้เรื่อง “ธรรมจิต” การหยุดใจ, ดวงแก้ว, ฮวงจุ้ย และอีกหลายอย่างนั้น เพราะในอดีตได้เคยฝึกสมาธิมา โดยเวลาทุ่มเทฝึกก็จะทุ่มเทอย่างจริงจัง แต่พอมีอะไรมากระทบกระทั่งใจนิดหน่อยก็หยุดฝึกไปเฉยๆ
  • อีกทั้งในชาติหนึ่ง ก็เคยเป็นหมอดูต่างๆ เช่น ฮวงจุ้ย เป็นต้น จึงทำให้มีนิสัยนี้ติดข้ามชาติมา 
 
4.การดูฮวงจุ้ยเพื่อช่วยเหลือคนอื่นนั้น ก็ไม่ถือว่าเป็นบุญหรือบาปโดยตรง แต่เป็นความหลง ซึ่งจะทำให้ใจติดยึดวนเวียนอยู่กับสิ่งเหล่านี้
  • การดูฮวงจุ้ยแค่เป็นส่วนประกอบเท่านั้น แต่การที่คนเราจะรุ่งหรือไม่รุ่ง ก็แล้วแต่บุญกุศลที่ทำมา มากน้อยเพียงใด
 
  • ดูตัวลูกเองเป็นตัวอย่าง...ตัวลูกรู้หลักฮวงจุ้ยเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ตัวลูก อยากจะได้ อยากจะเป็น
  • ลูกควรจะเลิกดีกว่า เพราะเสียเวลา ไม่ได้ประโยชน์ แถมเกิดโทษ คือ ความหลง

 
5.การที่ลูกช่วยเหลือให้ผู้คนหันมานับถือพระรัตนตรัยอย่างเดียวนั้น ก็เป็นบุญกุศลอย่างแรงของลูก ที่จะทำให้ลูกอยู่ในร่มเงาพระพุทธศาสนา เป็นต้น

 
6.การที่ลูกพบตะปูขนาด 4นิ้ว บนเบาะที่นั่งสมาธิ และต่อมาได้หายไปนั้น ก็เป็น “ของ” ที่พวกมีวิชาไสยเวท เขาต้องปล่อยมาเป็นปกติของเขา ใครมีเชื้อทางนี้ก็จะดึงดูดมา เช่น ตัวลูกก็มีเชื้อทางนี้มาในอดีต ก็ดึงดูดมา แต่ไม่เคยทำร้ายใครให้เป็นอันตราย จึงทำให้ “ของ” นั้น แค่มาให้เห็นและหายไป
 
 
7.นิมิตเห็นมหาปูชนียาจารย์ และอาจารย์ในสมาธินั้น ก็เป็นกุศลนิมิตที่เคยสร้างบุญร่วมมากับหมู่คณะ จึงทำให้เห็นมหาปูชนียาจารย์
  • ส่วนอาจารย์ในสมาธิก็ไม่ได้มีจริง แต่เป็นเรื่องบุญในตัวที่เคยฝึกสมาธินอกตัวในบางชาติ บันดาลให้เห็นไป 
 
8.ในวันหล่อรูปเหมือนทองคำพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ องค์ที่3 ลูกได้เห็นภาพของท่านลางๆใหญ่มาก อยู่บนโดมมหาวิหารของท่านนั้น ก็เป็นกุศลนิมิตที่เกิดจากการสร้างบุญในวันนั้น บันดาลให้เห็นลางๆ
  • แต่ถ้าเป็นปาฏิหาริย์ของท่าน ก็จะเห็นกัน...จะจะ...เหมือนวันอัศจรรย์ตะวันแก้ว
 
9.ลูกเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบกองเสบียง ประเภทเวลาตั้งใจจะทำบุญก็จะทุ่มเท
  • แต่เวลามีอะไรสะดุดใจนิดหน่อยก็จะเลิกเองดื้อๆ จึงทำให้บางชาติก็เจอกับหมู่คณะ บางชาติก็ไม่เจอกัน ชาตินี้กว่าจะมาเจอหมู่คณะก็สะบักสะบอมมาแล้ว

  • ดังนั้น ชาตินี้ก็ให้สั่งสมบุญทุกบุญให้เต็มที่ด้วยความอดทน เยือกเย็น ไม่ว่าจะมีอะไรมาทำให้สะดุดใจ ก็อย่าล้มเลิกในการสร้างบารมีเช่นชาติที่ผ่านๆมา แล้วอธิษฐานจิตให้ประสบความสำเร็จในชีวิตในธุรกิจการงาน
  
 
10.คุณแม่และพี่น้อง เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบกองเสบียง ประเภททำบ้างไม่ทำบ้าง คล้ายๆตัวลูก จึงทำให้บางชาติก็เจอกัน บางชาติก็ไม่เจอกัน ทำให้มีสายบุญกับหมู่คณะเบาบาง

  • ดังนั้น ชาตินี้ก็จะต้องชวนกันมาสร้างบุญให้เต็มที่ในทุกบุญ จนตลอดชีวิต จะได้ไม่พลัดกับหมู่คณะ และจะได้ประสบความสำเร็จในชีวิตและธุรกิจการงาน
 
 
11.คุณพี่ที่เป็นกัลยาณมิตรให้ลูก ก็เคยเป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช และได้ออกบวชตามพระราชา มีหน้าที่เผยแผ่จนตลอดชีวิต และเคยเป็นพระอาจารย์ของตัวลูก อีกทั้งชอบดูแลเพื่อนสหธรรมิกที่อาพาธ
 

  • ในปัจจุบันที่เป็นผู้หญิง เพราะกรรมเจ้าชู้ในชาติต่างๆ มารวมส่งผล ส่วนการเป็นพยาบาล ก็เป็นเรื่องของการประกอบเหตุในปัจจุบัน
  • ชาตินั้นก็เข้าถึงดวงใสๆ เป็นต้น พอเอาตัวรอดกลับดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ
  • ลงมาสร้างบามีในพุทธันดรที่ผ่านมา 2รอบ

  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลย



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม