นิสัยไทยๆ


[ 14 ส.ค. 2561 ] - [ 18278 ] LINE it!

  นิสัยไทยๆ
คนไทยมีนิสัยดีที่เป็นเอกลักษณ์ แต่นิสัยที่ไม่ดีเราจะปรับปรุงกันอย่างไร     

เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)
จากรายการข้อคิดรอบตัว ออกอากาศทางช่อง DMC


ขอบคุณภาพจาก httpswww.bhubeth.com
 
นิสัยของคนไทย คือคนที่ทำอะไรตามใจและเป็นคนที่รักสบาย จริงหรือไม่?

          คำที่เราได้ยินกันจนคุ้น คือ “ทำอะไรตามใจคือไทยแท้” อีกคำที่สั้นๆที่จำกันได้ คือ “ไม่เป็นไร ๆ”  คนไทยเราพูดจนติดปาก คำว่าไม่เป็นไร มีความหมายกว้างมาก เนื่องจากขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ส่วนสำคัญคือ สภาพสิ่งแวดล้อมของคนไทย ดินฟ้าอากาศสภาพภูมิประเทศไทยถือว่าอุดมสมบูรณ์มาก และจำนวนผู้คนเบาบาง ในสมัยก่อน เมื่อไทยรบกับพม่าถ้าไทยชนะจะกวาดต้อนคนพม่าเข้าไทย หากพม่ารบชนะไทยก็กวาดต้อนคนไทยไปพม่า เนื่องจากต้องการคน เพราะดินแดนแถบนี้อยู่ในเขตร้อน สมัยก่อนมีโรคภัยไข้เจ็บเยอะ เช่น มาลาเรีย โรคระบาดต่างๆ อายุเฉลี่ยไม่มากนัก ในสมัยสุโขทัย อยุธยา จนถึงต้นรัตนโกสินทร์ ประชากรไทยมี 1,000,000 คน ประชากรมีน้อย แต่พื้นดินมีกว้าง ดังนั้นคนไทย จะมีอัธยาศัยคือ ไม่ค่อยจะสนใจส่วนรวมมากนัก เนื่องจากอยู่ที่ไหนก็ทำมาหากินได้ ไม่ง้อ จึงมีคำว่า ช่างมันฉันไม่แคร์ เอาตามใจตัวเอง แทบจะถือตัวเองเป็นศูนย์กลาง แต่ในขณะเดียวกัน ก็ให้ความเคารพผู้มีอำนาจ หากใครมีอำนาจ คือสามารถให้คุณให้โทษได้ จะเคารพและเกรงใจ เนื่องจากมีสังคมศักดินา เป็นระบบอุปถัมภ์ ประกอบกับการเลี้ยงดูในครอบครัว  ทั้งสามส่วนคือองค์ประกอบสำคัญในการหล่อหลอมนิสัยของคนไทยขึ้นมา ในด้านหนึ่งคือ ทำอะไรตามใจตัวเอง หากเจอคนมีอำนาจ ให้คุณให้โทษได้ ก็จะเกรงใจ ยอมตาม ไม่ฝืน รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี ขณะเดียวกันพ่อแม่เลี้ยงลูก ก็เอาอำนาจเข้าข่ม รักลูก แต่ไม่ค่อยชอบเหตุชอบผล เด็กจึงมีความรู้สึกแต่เล็กว่า กับผู้ใหญ่อย่าหือ อย่าพูดมาก พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง อย่างนี้เป็นต้น เราถูกหลอมมา กลายเป็นลักษณะคนไทย อย่างที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้
 
คนไทยจะชอบรู้เรื่องชาวบ้าน ไปทุกเรื่อง นิสัยอย่างนี้เราควรจะแก้ไขอย่างไร? 

ขอบคุณภาพจาก  http://www.gathersheet.com

          สังคมไทยอยู่ห่างกัน โอกาสจะออกจากหมู่บ้าน ออกจากตำบลก็น้อย พอไปรู้ข่าวอะไร มาคุยให้ชาวบ้านฟัง รู้เรื่องที่คนอื่นไม่รู้ มีความรู้สึกเป็นความภูมิใจแบบนึง กลายเป็นการเม้าท์กัน อะไรจริงบ้างไม่จริงบ้าง ก็ไปกันทั่ว ตรงนี้ก็เป็นข้อเสียอย่างหนึ่ง คนไทยไปอยู่ต่างประเทศไม่น้อย แต่ไม่มีไทยทาวน์ เวลามีงานคนไทยจะชอบมารวมตัวกันที่วัด รื่นเริงสังสรรค์เบิกบาน เสร็จแล้วกลับบ้านใครบ้านมัน เพราะว่ารำคาญกัน เรื่องซุบซิบนินทามีเรื่องปวดหัวเยอะ จึงไม่อยากมาอยู่ร่วมกัน กระจายกันอยู่ แล้วมาเจอกันเป็นครั้งคราว เนื่องจากเราศึกษาเรียนรู้ มารยาทวัฒนธรรม ในการอยู่ร่วมกันน้อยไป ทำให้เมื่อขาดสิ่งนี้แล้ว พออยู่ร่วมกันจึงมีปัญหากระทบกระทั่งเกิดขึ้น ทำให้มารวมกันชั่วคราวได้ แต่หากจะให้อยู่ถาวร จะมีเรื่องปวดหัวมันเยอะเพราะแต่ละคนไม่รู้ว่าความพอดีของตัวเองอยู่ที่ไหน

นิสัยที่ชอบไหลตามกันไป อย่างการด่ากันในโลกโซเชียล การบ่นออนไลน์ แต่ไม่มีใครคิดจะลงมือทำอะไร นิสัยแบบนี้จะแก้ไขอย่างไรดี? 
ขอบคุณภาพจาก  http://thai-complain.blogspot.com

           คนไทยมีนิสัย ขี้เกรงใจ พอคนอื่นพูด ถ้าเราไม่มีอารมณ์ร่วม เดี๋ยวเขาจะโกรธไม่ชอบใจ เลยแถมอารมณ์ร่วมไปสักคำสองคำ กลายเป็นการผสมโรง และคนไทยมีนิสัยอ่อนไหว เชื่อคนง่าย ไม่ได้ตรองเหตุผลเท่าที่ควร ใครพูดอะไรอะไรเชื่อเขาเลย ทำให้ข่าวลือค่อนข้างไปเร็วในสังคมไทย เพราะผู้รับข่าวสารไม่ได้ไตร่ตรองเท่าที่ควร แม้แต่คนมีการศึกษาจบปริญญาแล้ว ในบางกรณีหลอกง่ายกว่าคนการศึกษาน้อย เพราะคนการศึกษาน้อยจะพิจารณาจากสิ่งที่สัมผัสได้ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับใกล้ตัว เช่น บอกเศรษฐกิจดี เขาล้วงมือเข้ากระเป๋า ถ้าไม่มีตังค์พูดให้ตายไม่เชื่อ ขายของไม่ออกข้าวของฝืดเคือง บอกว่าเศรษฐกิจดีเขาไม่เชื่อ เพราะเศรษฐกิจเขาสัมผัสได้ บางคนมีเงิน หรือมีความรู้หน่อย หลอกด้วยคนที่พูดเก่ง ใช้เทคนิคในการให้เหตุผล โดยให้เหตุให้ผลไม่สมบูรณ์ ทำให้คนฟังเคลิ้มตาม เพราะฉะนั้นเรื่องกระแสในโซเชียล อย่าไปคิดว่าเป็นแต่ชาวบ้าน คนมีความรู้อาจเป็นคนที่หลงตามกระแสเพราะฉะนั้นก่อนจะไลค์ ก่อนจะแชร์ ก่อนจะคอมเม้นท์อะไร ถ้าเป็นเรื่องลบ หยุดคิดให้มาก อย่าด่วนผสมโรง จะเกิดวิบากกรรมโดยไม่รู้ตัว ถ้าเป็นเรื่องทางบวก มีคนไปทำความดีอะไรมา แชร์ไปเลย มีแต่บุญกุศล มีแต่เรื่องดี เอาสิ่งดีๆให้กับเขา 

ในที่ประชุม หรือเวลาเรียนหนังสือ คนไทยนิสัยที่ไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าตั้งคำถาม 


ขอบคุณภาพจาก http://paolohospital.com

          เราถูกอบรมตั้งแต่ในครอบครัวว่า อย่าดื้อ อย่าซน อย่าพูดมาก เดี๋ยวจะโดนตี จนกระทั่งถึงในห้องเรียน จึงกลายเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงความคิดเห็น แม้แต่ในวงประชุมเป็นที่ที่ทุกคนควรจะให้ความเห็นโดยตรง ทุกคนเงียบ แต่พอออกนอกห้องประชุมพูดกันใหญ่การมาพูดนอกห้องประชุมไม่มีประโยชน์อะไร เพราะตอนอยู่ในห้องเกรงว่าพูดแล้วจะไม่ถูกใจผู้ใหญ่ คนไทยบอก ต้องรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี ดูทิศทางลม ผู้ใหญ่ชี้นกบอกไม้ หากไปขัดใจผู้ใหญ่เข้า จะเดือดร้อน ถ้าคนไทยเราเองหันมาเน้นสาระให้มากขึ้นตรงแก่นมากกว่าเปลือก ไม่ใช่เปลือกไม่ดี จะทำเปลือกให้สวยด้วยก็ดี แต่แก่นสำคัญกว่า เพราะจะทำให้เราเป็นคนมีเหตุมีผล การเห่อตามกระแส จะน้อยลง เพราะเรามีสติในการยั้งคิดและไตร่ตรอง พิจารณาให้ถี่ถ้วนมากขึ้นกว่าเดิม 
 
ข้อคิดการแก้ไขนิสัยต่างๆ

ขอบคุณภาพจาก https://th.pngtree.com
 
           คนไทยเรามีนิสัยที่น่าชื่นชมอีกเยอะ อยากให้คนไทยเรียนรู้ มารยาท กติกา ในการอยู่ร่วมกันในสังคมเป็นหมู่คณะใหญ่ให้มากขึ้น จะทำให้คนไทยเราเป็นชนชาติที่มีความละเอียดทางจิตใจ และมีศักยภาพ มีฝีมือสูงมาก ผ่านตรงนี้ไปได้ เอาจุดแข็งคนไทยมาเสริมศักยภาพ คนไทยเราจะไม่แพ้คนชาติไหนในโลกเลย อาหารไทยเป็นอาหารสุขภาพ รสชาติอาหารก็ชั้นหนึ่งเลย หากเพิ่มการบริหารจัดการอีกนิด อาหารไทยตีตลาดโลกได้เลย หมอนวดไทยก็มีฝีมือไม่แพ้ชาติไหน  คนไทยเราเองมีดีเยอะ ขอให้เรียนรู้ในการอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะ แล้วรักษากติกาสังคมให้ดี เพิ่มเรื่องวินัย ในการอยู่ร่วมกันเพิ่มขึ้นมาเท่านั้นเอง เราจะได้เห็นประเทศไทยทะยานขึ้นเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของโลกก็เป็นไปได้
          ประเทศไทยเป็นเมืองที่โชคดี เป็นเมืองที่มีชัยภูมิที่เหมาะสม ทำให้ประเทศไทยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของโลกก็ว่าได้ แต่ทั้งหมดนี้นำมาซึ่งนิสัยที่ไม่ดีของคนไทย ทำให้คนไทยมีความสะดวกสบาย มีความรักสบาย จนกระทั่งนำมาสู่การไม่แคร์สังคม หรือไม่ใส่ใจคนรอบข้างนั่นเอง คนไทยมีศักยภาพที่ดี หากพยายามเรียนรู้ กติกาการเข้าสังคมและมีวินัยมากขึ้น เราก็จะสามารถทำประเทศไทยให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น
 
 

รับชมคลิปวิดีโอนิสัยไทยๆ ตอนที่ 1
ชมวิดีโอนิสัยไทยๆ ตอนที่ 1   Download ธรรมะนิสัยไทยๆ ตอนที่ 1



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ไม่รู้ว่าไม่รู้ไม่รู้ว่าไม่รู้

คนสองบุคลิกคนสองบุคลิก

คิดให้เยอะก่อนคิดขายบริการคิดให้เยอะก่อนคิดขายบริการ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ข้อคิดรอบตัว