ฉวชาดก ชาดกว่าด้วยการนั่งที่ไม่สมควร


[ 3 ต.ค. 2561 ] - [ 18267 ] LINE it!

ชาดก 500 ชาติ

ฉวชาดก-ชาดกว่าด้วยการนั่งที่ไม่สมควร

เหล่าภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวันมหาวิหาร

เหล่าภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวันมหาวิหาร
  
     ในสมัยพุทธกาลเมื่อครั้งที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ครั้งนั้นสหายชาวสาวัตถีหกคนได้บวชเรียนแห่งสำนักพระอัครสาวกทั้งสอง
ภิกษุทั้งหกนั้นได้ชื่อพวก ภิกษุฉัพพัคคีย์

 
สหายหนุ่ม 6 คน แห่งนครสาวัตถี
 
สหายหนุ่ม 6 คน แห่งนครสาวัตถี
 
      ครั้นเมื่อบวชเรียนจนสามารถสวดท่องมาติกาได้แล้วก็แยกย้ายกันไปตามเมืองต่างๆ “ อยู่ในชนบทแบบนี้บางปีก็มีอาหารสมบูรณ์ บางปีก็ฝืดเคือง ”
“ ถ้าเราไปอยู่ในเมืองก็น่าจะสบายกว่านี้ ”

 
สหายหนุ่มทั้ง 6 คนตัดสินใจออกบวชในสำนักของพระบรมศาสดาและได้ชื่อว่า "ภิกษุฉัพพัคคีย์"
 
สหายหนุ่มทั้ง 6 คนตัดสินใจออกบวชในสำนักของพระบรมศาสดาและได้ชื่อว่า "ภิกษุฉัพพัคคีย์"
 
     “ ดีเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้น เราก็แยกย้ายไปตามเมืองต่างๆ เถิด ” ครั้งหนึ่งพวกภิกษุฉัพพัคคีย์นั้นได้รับกิจนิมนต์จากชาวบ้าน ครั้นเมื่อไปถึงเรือนของผู้นิมนต์
แล้วก็นั่งอยู่ในที่ต่ำแสดงธรรมแก่ฆราวาสซึ่งนั่งอยู่ในที่สูงกว่า 
 
ภิกษุฉัพพัคคีย์ได้เดินทางไปยังบ้านที่ตนได้รับกิจนิมนต์
 
ภิกษุฉัพพัคคีย์ได้เดินทางไปยังบ้านที่ตนได้รับกิจนิมนต์
 
     ด้วยเห็นว่าพวกตนได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าของบ้าน ภิกษุรูปหนึ่งเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนั้น จึงนำความไปกราบทูลพระพุทธองค์ทรงทราบ
“ ข้าแต่องค์พระศาสดาเจ้า ภิกษุฉัพพัคคีย์พวกนั้นนั่งในที่ต่ำ
 
ภิกษุฉัพพัคคีย์ได้แสดงธรรมในที่นั่งซึ่งต่ำกว่าฆราวาสผู้เป็นเจ้าของบ้าน
 
ภิกษุฉัพพัคคีย์ได้แสดงธรรมในที่นั่งซึ่งต่ำกว่าฆราวาสผู้เป็นเจ้าของบ้าน
 
     แสดงธรรมแก่ฆราวาสที่นั่งอยู่สูงกว่าพระเจ้าค่ะ ” “ พฤติกรรมนี้ไม่เหมาะจริงๆ ช่างน่าตำหนินัก ” “ มีอย่างที่ไหนแสดงธรรมให้ฆราวาสนั่งในที่สูงกว่า ”

ภิกษุรูปหนึ่งได้เห็นพฤติกรรมการนั่งแสดงธรรมที่ไม่เหมาะสมของภิกษุฉัพพัคคีย์
 
ภิกษุรูปหนึ่งได้เห็นพฤติกรรมการนั่งแสดงธรรมที่ไม่เหมาะสมของภิกษุฉัพพัคคีย์
 
     พระศาสดาทรงทราบเรื่องแล้ว ได้รับสั่งให้เรียกพวกภิกษุฉัพพัคคีย์มาสอบถาม เมื่อภิกษุเหล่านั้นยอมรับว่าทำเช่นนั้นจริง พระองค์จึงตรัสตำหนิภิกษุนั้น
“ ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย การที่พวกเธอไม่กระทำความเคารพในธรรมของเรา ไม่สมควร

ภิกษุหนุ่มได้นำความมากราบทูลพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในเรื่องการแสดงนั่งธรรมของภิกษุฉัพพัคคีย์
 
ภิกษุหนุ่มได้นำความมากราบทูลพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในเรื่องการแสดงนั่งธรรมของภิกษุฉัพพัคคีย์
 
     ด้วยว่าโบราณกับบัณฑิตทั้งหลายได้ติเตียนอาจารย์นั่งอาสนะต่ำ บอกแม้มนต์แก่ชนผู้พากเพียร ” ภิกษุทั้งหลายทรงอาราธนาให้พระศาสดา
ทรงแสดงเรื่องนั้น พระองค์จึงทรงนำเรื่องราวในอดีตมาสาทกดังนี้
 
พระศาสดาทรงนำเรื่องราว ฉวชาดก ในอดีตมาสาทก
 
พระศาสดาทรงนำเรื่องราว ฉวชาดก ในอดีตมาสาทก
     
     ในอดีตกาลเมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในนครพาราณสี ครั้งนั้นพระโพธสัตว์กำเนิดเป็นคนจันฑาล ต่อมาบุรุษจันฑาลนั้นได้แต่งงานอยู่กิน
กับหญิงนางหนึ่ง จนกระทั่งหญิงนั้นตั้งครรภ์
 
 
นครพาราณสีในยุคสมัยของพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติ
 
นครพาราณสีในยุคสมัยของพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติ
 
     “ ท่านพี่ ข้าคิดว่า เรากำลังจะมีลูก ” “ เจ้าพูดจริงหรือเปล่า เรากำลังจะมีลูก ข้าดีใจที่สุดเลย ข้าจะมีลูกแล้ว ” บุรุษจัณฑาลนั้นเมื่อรู้ว่าภรรยาตั้งครรภ์
ก็รู้สึกปีติยินดีเป็นอย่างมาก
 
พระโพธิสัตว์ได้กำเนิดเป็นบุรุษจัณฑาลอาศัยอยู่ในนครพาราณสี
 
พระโพธิสัตว์ได้กำเนิดเป็นบุรุษจัณฑาลอาศัยอยู่ในนครพาราณสี
 
     ด้วยความที่ไม่อยากให้ผู้เป็นภรรยาต้องลำบากขณะตั้งครรภ์ บุรุษนั้นจึงทำงานแทนภรรยาทุกอย่าง ทั้งดูแลเอาใจใส่ภรรยาเป็นอย่างดี
“ มา มา มา พี่ช่วยเอง งานพวกนี้พี่ทำเอง
 
บุรุษจัณฑาลได้แต่งงานอยู่กินกับหญิงสาวนางหนึ่ง
 
บุรุษจัณฑาลได้แต่งงานอยู่กินกับหญิงสาวนางหนึ่ง
  
     กำลังท้องกำลังไส้อย่าทำงานพวกนี้เลย ” “ แหม เจ้านี้เห่อลูกซะเหลือเกิน แม่เจ้าแค่ท้องไม่ได้ป่วยไข้ซะหน่อย ถ้าเป็นข้าละก็ ให้เมียทำงานไปจน
คลอดลูกโน่นแหละ ”
 
หนุ่มจัณฑาลดูแลเอาใจใส่ภรรยาสาวเป็นอย่างดียิ่งเมื่อรู้ว่านางตั้งครรภ์    

หนุ่มจัณฑาลดูแลเอาใจใส่ภรรยาสาวเป็นอย่างดียิ่งเมื่อรู้ว่านางตั้งครรภ์
 
     “ หนอยไอ้แก่ ใครจะเห็นแก่ตัวอย่างเจ้าล่ะ ขนาดข้าท้องแก่ ยังต้องทำงานสารพัด รู้แบบนี้ข้าหาผัวใหม่ดีกว่า ” ภรรยาของคนจัณฑาลนั้นตั้งครรภ์
ได้ไม่นานก็มีอาการแพ้ท้องอยากกินมะม่วง
 
หนุ่มจัณฑาลทำงานบ้านทุกอย่างแทนภรรยาสาวของเขา
 
หนุ่มจัณฑาลทำงานบ้านทุกอย่างแทนภรรยาสาวของเขา
  
     แม้ผู้เป็นสามีจะบอกว่า ฤดูกาลนั้นมิใช่ฤดูกาลที่มะม่วงออกผล แต่นางก็ยังยืนยันที่จะได้ผลมะม่วง “ ท่านพี่ ข้าอยากกินมะม่วง ท่านหามาให้ข้าด้วยเถอะ ”
“ น้องหญิง หน้านี้ไม่มีมะม่วงหรอก เจ้ากินผลไม้อื่นแทนไม่ได้เหรอ" 
 
ภรรยาสาวของหนุ่มจัณฑาลมีอาการแพ้ท้อง
 
ภรรยาสาวของหนุ่มจัณฑาลมีอาการแพ้ท้อง
 
      "แต่ข้าอยากกินมะม่วงนี่น่า ข้าไม่ได้กินมะม่วง ข้ากับลูกในท้องต้องตายแน่ๆ เลย ” “ แล้วพี่จะหามะม่วงที่ไหนมาให้เจ้าล่ะ ” ด้วยความรักในภรรยา
และลูกในท้อง คนจัณฑาลนั้นจึงเที่ยวเสาะหามะม่วงมาให้ภรรยา
 
ภรรยาสาวของหนุ่มจัณฑาลมีอาการแพ้ท้องอยากกินเฉพาะผลมะม่วงเท่านั้น
 
ภรรยาสาวของหนุ่มจัณฑาลมีอาการแพ้ท้องอยากกินเฉพาะผลมะม่วงเท่านั้น
 
    จนกระทั่งมาถึงพระราชอุทยานของพระเจ้าพาราณสี สมัยนั้นมีเพียงพระราชอุทยานของพระเจ้าพาราณสีเท่านั้นที่มีต้นมะม่วงที่ให้ผลทุกฤดูกาล ครั้นเมื่อบุรุษจัณฑาล
เห็นมะม่วงก็นึกดีใจที่มีมะม่วงมาระงับการแพ้ท้องของภรรยา

 
หนุ่มจัณฑาลเที่ยวเสาะแสวงหาจนเจอต้นมะม่วงที่ออกลูกเต็มต้น
 
หนุ่มจัณฑาลเที่ยวเสาะแสวงหาจนเจอต้นมะม่วงที่ออกลูกเต็มต้น
 
        “ โอ้โห เจอแล้ว มะม่วงเต็มต้นเลย ดีล่ะที่นี้เมียเราจะได้หายแพ้ท้องซะที ” จัณฑาลกลับมาพระราชวังอีกครั้งในตอนกลางคืน จากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนต้นมะม่วง
มองดูผลมะม่วงกิ่งนั้นกิ่งนี้อยู่ จนกระทั่งฟ้าสาง
 
หนุ่มจัณฑาลแอบปีนขึ้นไปเก็บผลมะม่วงตอนกลางคืนซึ่งอยู่ในเขตพระราชอุทยาน
 
หนุ่มจัณฑาลแอบปีนขึ้นไปเก็บผลมะม่วงตอนกลางคืนซึ่งอยู่ในเขตพระราชอุทยาน
 
       จนไม่อาจลงจากต้นมะม่วงได้ ด้วยเพราะกลัวคนเฝ้าพระราชอุทยานจะเห็น “ เช้าแล้วเหรอนี่ ถ้าเราลงไปตอนนี้ คนเฝ้าสวนต้องเห็นเราแน่ คงต้องรอให้มืดค่ำเสียก่อน ”
ขณะที่คนจัณฑาลซ่อนตัวอยู่นั้น
 
หนุ่มจัณฑาลแอบอยู่บนต้นมะม่วงซึ่งตั้งใจว่าจะกลับลงมาตอนพลบค่ำ
 
หนุ่มจัณฑาลแอบอยู่บนต้นมะม่วงซึ่งตั้งใจว่าจะกลับลงมาตอนพลบค่ำ
 
      พระเจ้าพาราณสีได้เสด็จมาพร้อมกับปุโรหิตเพื่อเรียนมนต์ในพระราชอุทยาน ครั้นเมื่อมาถึงแล้วก็เสด็จประทับนั่งบนอาสนะสูงโคนต้นมะม่วง โดยให้ปุโรหิต
ผู้เป็นอาจารย์นั่งบนอาสนะที่ต่ำกว่า  “ เอาล่ะ ท่านปุโรหิต เราพร้อมจะเรียนมนต์กับท่านแล้ว ”
 
พระเจ้าพาราณสีเสด็จมาเรียนมนต์พร้อมกับปุโรหิตใต้ต้นมะม่วงซึ่งหนุ่มจัณฑาลแอบซ่อนตัวอยู่
 
พระเจ้าพาราณสีเสด็จมาเรียนมนต์พร้อมกับปุโรหิตใต้ต้นมะม่วงซึ่งหนุ่มจัณฑาลแอบซ่อนตัวอยู่
 
        “ ถ้าเช่นนั้น พระองค์ทรงว่ามนต์ตามหม่อมฉันนะพระเจ้าค่ะ ” บุรุษจัณฑาลนั่งมองดูเหตุการณ์นั้นอยู่บนต้นมะม่วง เห็นปุโรหิตที่นั่งอยู่บนอาสนะที่ต่ำกว่า
สอนมนต์แก่พระราชาที่นั่งบนอาสนะที่สูงกว่าก็เห็นว่าไม่เหมาะสม
 
หนุ่มจัณฑาลลงจากต้นมะม่วงเพราะเห็นเหตุไม่เหมาะสมในการสอนมนต์ของปุโรหิตซึ่งนั่งต่ำกว่าพระราชา
 
หนุ่มจัณฑาลลงจากต้นมะม่วงเพราะเห็นเหตุไม่เหมาะสมในการสอนมนต์ของปุโรหิตซึ่งนั่งต่ำกว่าพระราชา
 
        “ พระราชาผู้นี้ช่างไม่เคารพในธรรมเลย ปุโรหิตนั้นก็เหมือน สอนมนต์ในที่ต่ำกว่าได้ยังไง ” เมื่อคิดดังนั้นแล้ว บุรุษจัณฑาลจึงโหนตัวลงมาจากต้นมะม่วง
มายืนอยู่ในระหว่างพระราชาและปุโรหิต แล้วจึงกราบทูลถึงสิ่งที่ไม่เหมาะสมนั้น “ เจ้าเป็นใครกัน เข้ามาในอุทยานแห่งนี้ได้อย่างไรกัน ”

ปุโรหิตผู้เห็นแก่ปากท้องสอนมนต์พระราชาโดยไม่คำนึงถึงธรรมเนียมที่ดีงาม
 
ปุโรหิตผู้เห็นแก่ปากท้องสอนมนต์พระราชาโดยไม่คำนึงถึงธรรมเนียมที่ดีงาม
 
        “ มันต้องเป็นโจรแน่ๆ พระเจ้าข้า โปรดทรงเรียกทหารมาจับตัวมันเถิดพระเจ้าข้า ” “ ข้าแต่มหาราชสิ่งที่พระองค์ทำอยู่นี้เป็นสิ่งที่ไม่ควร นี่เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
ที่อาจารย์นั่งบนอาสนะที่ต่ำกว่าบอกมนต์ ส่วนลูกศิษย์นั่งบนอาสนะสูงเรียนมนต์ ” ปุโรหิตได้ยินดังนั้นก็รู้สึกไม่พอใจ จึงได้แย้งว่าตนนั้นได้รับพระมหากรุณาธิคุณ
จากพระราชา สิ่งที่ตนปฏิบัตินี้จึงเป็นสิ่งที่เหมาะที่ควรแล้ว
 
พระราชาทรงยกให้หนุ่มจัณฑาลเป็นพระราชาในตอนกลางคืนส่วนตนเป็นพระราชาในตอนกลางวัน
 
พระราชาทรงยกให้หนุ่มจัณฑาลเป็นพระราชาในตอนกลางคืนส่วนตนเป็นพระราชาในตอนกลางวัน
 
        “ พระเจ้าพาราณสีผู้นี้ ทรงอุปถัมภ์ให้ข้าได้กินดีอยู่ดี มันก็สมควรแล้วที่ข้าควรให้ความเคารพ โดยนั่งในที่ต่ำกว่า ” “ ท่านเห็นแก่ปากท้อง ถึงได้ทำลายธรรมเนียม
อันดีงามเชียวหรือ ถึงอย่างไรเสียท่านก็ได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์ ไม่ควรนั่งในที่ต่ำกว่า ” พระราชาได้ฟังเหตุผลของคนจัณฑาลแล้วจึงรู้สึกเลื่อมใส
 
พระราชาให้ความเคารพพระโพธิสัตว์ในฐานะอาจารย์
 
พระราชาให้ความเคารพพระโพธิสัตว์ในฐานะอาจารย์
 
        จึงได้ถามวรรณะของคนจัณฑาลนั้น จากนั้นจึงทรงยกราชสมบัติให้ โดยให้คนจัณฑาลนั้นเป็นพระราชาในยามกลางคืน ส่วนพระองค์จะเป็นพระราชาในตอนกลางวัน
“ ท่านผู้เจริญ ท่านอยู่ในวรรณะใดหรือ ” “ หม่อมฉันเป็นคนจัณฑาลพระเจ้าค่ะ ” “ หากท่านต้องการเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยชาติกำเนิด เราจะให้ราชสมบัติแก่ท่าน
ตั้งแต่นี้ต่อไป เราจะเป็นพระราชาตอนกลางวัน ส่วนท่านก็จงเป็นพระราชาตอนกลางคืนเถิด ”
       
        นับแต่นั้นมา พระราชาก็ให้ความเคารพพระโพธิสัตว์ในฐานะอาจารย์ ทรงประทับนั่งบนอาสนะต่ำ แล้วทรงเรียนมนต์จากพระโพธิสัตว์ที่นั่งบนอาสนะสูงกว่า
พระศาสดาครั้นทรงนำพระเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า 
 
 

พระราชาในครั้งนั้น ได้เป็นพระอานนท์
ส่วนคนจัณฑาล คือเราตถาคต ฉะนี้แล
 

รับชมคลิปวิดีโอฉวชาดก ชาดกว่าด้วย การนั่งที่ไม่สมควร
ชมวิดีโอฉวชาดก ชาดกว่าด้วย การนั่งที่ไม่สมควร   Download ธรรมะฉวชาดก ชาดกว่าด้วย การนั่งที่ไม่สมควร
 
 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
จุลลโพธิชาดก ชาดกว่าด้วยความโกรธจุลลโพธิชาดก ชาดกว่าด้วยความโกรธ

มหธัมมปาลชาดก ชาดกว่าด้วยตระกูลที่ไม่ตายวัยหนุ่มมหธัมมปาลชาดก ชาดกว่าด้วยตระกูลที่ไม่ตายวัยหนุ่ม

ทุพภิยมักกฏชาดก ชาดกว่าด้วยการคบคนชั่วทุพภิยมักกฏชาดก ชาดกว่าด้วยการคบคนชั่ว



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

นิทานชาดก 500 ชาติ