ศักดิ์สิทธิ์นอกศาสนา


[ 27 พ.ย. 2561 ] - [ 18271 ] LINE it!

ศักดิ์สิทธิ์นอกศาสนา
พระรัตนตรัยคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธ ทุกคนรู้ดีแล้วผ้ายันต์ เครื่องรางของขลังมาจากไหน 

เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)
จากรายการข้อคิดรอบตัว ออกอากาศทางช่อง DMC



ความศักดิ์สิทธิ์ในพระพุทธศาสนากับนอกพระพุทธศาสนามีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร?
          สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพระพุทธศาสนา คือพระรัตนตรัย ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และสิ่งที่เนื่องด้วยพระรัตนตรัยเท่านั้น สิ่งที่เนื่องด้วยพระพุทธ เช่น ต้นโพธิ์ ต้นไม้แห่งการตรัสรู้ธรรมของพระพุทธเจ้า พระสถูปเจดีย์ หรือพระบรมสารีริกธาตุ เป็นต้น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เนื่องด้วยพระธรรม เช่น หนังสือพระไตรปิฎก รูปพระธรรมจักร ตู้พระไตรปิฎก เป็นต้น สิ่งที่เนื่องด้วยพระสงฆ์ เช่น รูปเคารพของพระภิกษุสงฆ์ที่ตั้งใจประพฤติดีปฏิบัติชอบ เป็นต้น ชาวพุทธควรจะเคารพบูชาเฉพาะพระรัตนตรัย แต่คนส่วนใหญ่ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง พอมีภัยขึ้นมา จึงนึกถึงอำนาจของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายนอก หากไปกราบไหว้วิงวอน คงจะได้รับความช่วยเหลือจากท่าน เพราะฉะนั้นประเทศต่างๆในโลกตะวันออกตะวันตก จึงมีเทพเจ้าสายฟ้า เทพเจ้าพายุ หากบูชาเทพแห่งวายุ ลมจะได้ไม่พัดบ้านพัง ฟ้าผ่า มีเทพเจ้าสายฟ้า หรือภูเขาสูงมีเทพแห่งภูเขา หรือต้นไม้ใหญ่คงต้องมีเทวดาอยู่ ไหว้เทพแห่งต้นไม้ เจอจอมปลวก เจอโขดหิน แม้กระทั่งเจอสัตว์แปลกๆซึ่งความจริงคือสัตว์พิการ เช่น วัวออกมามีสามขา คิดว่าเป็นวัวเทพพระเจ้า หรืองูสองหัว เป็นสิ่งที่ผิดธรรมชาติ ก็นึกว่า ต้องมีอำนาจพิเศษลึกลับ ดลบันดาลให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นมา ควรกราบไหว้บูชา จึงเกิดเป็นเทพเจ้า เจ้าพ่อเจ้าแม่ต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์นอกพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น ชาวพุทธไม่ควรไปเคารพบูชา เพราะไม่ได้เกิดประโยชน์ ควรเคารพบูชาพระรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เพราะท่านมีคุณอันประเสริฐ ควรค่าแก่การเคารพบูชา 

เหตุผลใดที่ในปัจจุบันนี้ทุกอย่างกลืนกันไปหมด วัดบางวัดไม่ว่าจะเป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ ไสยเวท เจ้าพ่อเจ้าแม่ ล้วนอยู่ในวัดทั้งสิ้น และจะแก้ปัญหานี้อย่างไร?



          คนไทยส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ ศูนย์กลางของชาวพุทธคือวัด จึงเคารพวัดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ เมื่อคนไปวัดบางคนต้องการพึ่งอำนาจพิเศษ เนื่องจากอัตตา หิ อัตตโน นาโถ พึ่งตนเองแล้วช้าไม่ทันใจ ศีลยังไม่ค่อยจะครบ สมาธิไม่ค่อยจะได้นั่ง หากมีอำนาจภายนอกมาช่วยจะเร็วดี เบาแรงดี คนจำนวนไม่น้อยหวังอย่างนี้ เมื่อไปถึงวัดกราบพระพุทธรูปในโบสถ์เสร็จ สนทนากับพระสงฆ์มักจะถามว่า มีของดีอะไรไหม หรือเล่าความกลุ้มใจ ความวิตกกังวลให้ฟัง แล้วหวังให้พระเป็นที่พึ่ง เป็นที่พึ่งมี 2 แบบ คือพึ่งเพื่อให้พระสอนหลักการปฏิบัติให้เห็นตัวปัญหา แนวทางแก้ไข วิธีการประพฤติปฏิบัติตนที่ถูกต้องตามพุทธวิธี เพื่อจะได้แก้ไขปัญหา ชีวิตจะมีความสุขความเจริญยิ่งขึ้น เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่เฉพาะแก้ปัญหานั้นอย่างเดียว จะเป็นพื้นฐานรองรับความเจริญก้าวหน้าอื่นๆอีกมากมาย ทั้งในชาตินี้ชาติหน้า 



          แต่โยมบางส่วนใจร้อน พึ่งตัวเองแล้วไม่ค่อยมั่นใจ ขอของดีแล้วกัน เมื่อโยมคะยั้นคะยอมากเข้า พระเองหากไม่ได้ประพฤติปฏิบัติมาอย่างเต็มที่ ความมั่นใจในตัวเองก็ไม่เต็มที่ ที่จะให้โยมพึ่ง คือพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ยังไม่เต็มที่ จึงไปเรียนวิชาหมอดู ดูลายมือ ดูดวงเกิด ดูบุคลิกโหงวเฮ้งเป็นต้น บ้างก็มีคาถาอาคม ให้ดูขลัง โยมก็มีความรู้สึกว่าศักดิ์สิทธิ์ รู้สึกเหมือนมีพลังบางอย่างจะมาได้จึงชอบ จึงบอกต่อๆกันไปคนก็มากขึ้น มีปัจจัยทำบุญ ถวายพระอาจารย์ ทำบุญกับวัดเยอะ จึงเป็นเครื่องสนับสนุนให้พระมีแรงจูงใจ จะเกี่ยวเนื่องกับพระรัตนตรัยหรือไม่ ไม่สนลดวัดลงไปหากิเลสของโยม ตามใจโยมเป็นหลัก บางทีท่านก็มีกุศลจิต คือตั้งใจอยากจะพัฒนาวัดให้แข็งแรงงดงาม ศาสนสถานต่างๆเรียบร้อย ซึ่งต้องใช้ปัจจัย เมื่อไม่ได้ยึดหลักให้มั่นว่า ต้องยึดถือ ทาน ศีล ภาวนาคำสอนพระพุทธเจ้าเป็นหลัก พระรัตนตรัยเป็นหลัก จึงออกไปนอกทาง        
              


          เราเป็นลูกพระพุทธเจ้าก็ต้องยึดถือคำสอนพระพุทธเจ้าเป็นหลัก พระพุทธเจ้าพระองค์ไม่เคยเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์นอกพระพุทธศาสนามาเลย พระองค์มีแต่สอนธรรมะให้เท่านั้น ให้หลักปฏิบัติ พระก็ต้องทำหน้าที่ตั้งใจปฏิบัติตัวเองให้ดี แล้วก็สอนประชาชนตามคำสอนพระพุทธเจ้า ด้วยความเชื่อมั่นในคุณของพระรัตนตรัย อย่าไปกลัวว่าทำอย่างนี้แล้วคนจะมาวัดน้อย หากตั้งใจ ประพฤติดีปฏิบัติชอบแบบเรียกว่าเอาชีวิตเป็นเดิมพันโยมจะมาเอง ไม่ต้องกลัว อยู่บนป่าบนเขาไกลๆโยมทราบกิตติศัพท์ยังดั้นด้นไปหา เพราะโยมทั้งหลายต้องการพระภิกษุ ที่เป็นพระสุปฏิปันโนอยู่แล้วขอให้รู้และมั่นใจว่าท่านดีจริง เดี๋ยวโยมมากันเต็มวัด วัดควรจะเป็นที่ประดิษฐานซึ่งพระรัตนตรัย และสิ่งที่เนื่องด้วยพระรัตนตรัยเท่านั้น ไม่ควรจะเอาสิ่งอื่นนอกพระพุทธศาสนา มาประดิษฐานให้คนกราบไหว้บูชาในวัดเลย 

จุดประสงค์ของการแขวนพระเครื่องคืออะไร?



          เป็นการเตือนใจตัวเองให้นึกถึงพระพุทธเจ้า เหมือนได้อยู่กับพระ จะทำอะไรไม่ดีต้องเกรงใจท่าน จะไปประพฤติปฏิบัติผิดศีล ผิดธรรมก็อายพระ ท่านเป็นเครื่องเตือนใจทำให้เกิดหิริโอตัปปะอายบาปและกลัวบาป ขณะเดียวกัน เมื่อจะกราบพระ ไม่ว่าจะเป็นพระที่คล้องคอ พระพุทธรูปบนหิ้งพระ หรือบนโต๊ะหมู่บูชา พระประธานที่โบสถ์ มี 2 แบบ คือ
          1.ยิ่งกราบยิ่งฉลาด ยิ่งกราบยิ่งเจริญคือ กราบครั้งที่หนึ่งระลึกถึงพระปัญญาคุณ พระองค์สามารถตรัสรู้ด้วยพระองค์เองได้ เราต้องตั้งใจฝึกตัวเองให้มีปัญญามากอย่างพระพุทธองค์ กราบครั้งที่สองระลึกนึกถึงพระบริสุทธิคุณ พระองค์มีความบริสุทธิ์บริบูรณ์พร้อมศีลทั้งหมด สมบูรณ์ถ้วนเลย เราต้องตั้งใจรักษาศีล อย่างน้อยรักษาศีล 5 ส่วนวันพระวันเกิดรักษาศีล 8 ได้ยิ่งดี กราบครั้งที่สามระลึกนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่มีเมตตาสั่งสอนธรรมะให้กับสัตว์โลกโดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก เราจึงมีพระพุทธศาสนาเป็นเข็มทิศนำทางชีวิตในปัจจุบัน เราต้องฝึกตัวเองให้มีน้ำใจไมตรีต่อเพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย ตามอย่างพระองค์ด้วยความอดทน และมีเมตตาจิตอยากให้ทุกคนพ้นทุกข์ กราบพระอย่างนี้ ยิ่งกราบยิ่งฉลาด ยิ่งกราบยิ่งเจริญ 



          2.ยิ่งกราบยิ่งโง่ คือไปกราบพระแล้วขอหวย เพราะหวยคืออบายมุข ไปกราบแล้วขอในสิ่งที่ไม่ดี ท่านจะให้เราได้อย่างไร แค่นึกจะไปขอก็ผิดแล้ว เราเป็นชาวพุทธ กราบพระทั้งทีต้องยิ่งกราบยิ่งฉลาดยิ่งกราบยิ่งเจริญ

เวทมนต์ กลคาถา ไสยศาสตร์ต่างๆ สามารถทำได้จริง มีฤทธิ์ วิชาพวกนี้มีครูอยู่หรือไม่?



 ส่วนใหญ่ที่เห็นกัน มักจะถูกหลอก มีการจัดฉากจัดมุมให้รู้สึกตื่นเต้น เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้มีวิธีการเยอะ โสตสัมผัสของมนุษย์ไม่ว่าจะเป็น ตา หู หลอกตัวเองได้ ส่วนของจริงก็มี มีเจ้าของวิชาอยู่ คือคนที่ชอบเล่นไสยเวท แล้วทำความดีพอสมควร เมื่อตายแล้วจะไปเกิดเป็นวิทยาธร เป็นเทวดาระดับล่างจำพวกหนึ่งบนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชชิกา เมื่อใครร่ายเวทย์ร่ายอาคม ตามสายตัวเอง วิทยาธรจะตามไปให้ฤทธิ์ จะทำให้คาถาอาคมเหล่านั้นศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา ซึ่งไสย แปลว่า ดำ มืด คือทางไปสู่ความดำมืดอยู่แล้ว เริ่มต้นมีความน่าสนใจ แต่ระยะยาวแย่หมด วิชาของพระพุทธเจ้าสูงกว่า อย่าไปเสียเวลากับสิ่งเหล่านี้เลย ไม่ใช่สาระ มีแต่จะนำไปในทางเสื่อม พอถึงคราวจะปฏิบัติธรรม จะยากกว่าคนอื่น คนทั่วไปมาปฏิบัติธรรมได้ไม่มีปัญหา แต่คนที่เรียนไสยเวทมาเจ้าของวิชาจะหวง กลัวเราจะทิ้งวิชาไปฝึกวิชาพระพุทธเจ้า ต้องอดทนจนกว่าจะหลุดจากสิ่งเหล่านั้น แล้วจึงจะปฎิบัติธรรมได้ดี

สิ่งที่ควรยึดถือเป็นหลักในการดำเนินชีวิตของชาวพุทธคืออะไร?


          ชาวพุทธต้องยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกของชีวิต พึ่งพระรัตนตรัยแล้ว ชีวิตเราจะดีขึ้นทั้งชาตินี้ชาติหน้า อย่าไปหวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์นอกพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าตรัสว่า คุณสมบัติของอุบาสก อุบาสิกา ที่ดีข้อหนึ่งคือ ไม่แสวงหาบุญในเขตนอกพระพุทธศาสนา สิ่งใดที่ไม่ได้เนื่องด้วยพระรัตนตรัยอย่าไปยุ่ง ให้ใจยึดมั่นพระรัตนตรัยเท่านั้น จึงจะเป็นชาวพุทธที่สมบูรณ์แบบและมีแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป
          เพราะมนุษย์ขาดความมั่นใจในตัวเอง ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง เห็นได้จากการไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นเจ้าแม่ตะเคียนทอง กุมารทอง เป็นต้น ซึ่งในฐานะชาวพุทธ สิ่งที่ควรเคารพเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุดคือ พระรัตนตรัยและสิ่งที่เกี่ยวเนื่องด้วยพระรัตนตรัยนั่นเอง



รับชมคลิปวิดีโอศักดิ์สิทธิ์นอกศาสนา : ข้อคิดรอบตัว
ชมวิดีโอศักดิ์สิทธิ์นอกศาสนา : ข้อคิดรอบตัว   Download ธรรมะศักดิ์สิทธิ์นอกศาสนา : ข้อคิดรอบตัว



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เงินดิจิทัลเงินดิจิทัล

กฎหมายตาวิเศษกฎหมายตาวิเศษ

ยิ่งใหญ่ในรายละเอียดยิ่งใหญ่ในรายละเอียด



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ข้อคิดรอบตัว