เงินดิจิทัล


[ 1 ธ.ค. 2561 ] - [ 18268 ] LINE it!

เงินดิจิทัล
เงินบาท ดอลล่าร์ ยูโร เยน ทุกๆ ประเทศต้องมีสกุลเงินเป็นของตัวเอง แล้วสกุลเงินที่ไม่มีประเทศไหนเป็นเจ้าของ เป็นอย่างไร 

เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)
จากรายการข้อคิดรอบตัว ออกอากาศทางช่อง DMC



ในยุคนี้มีคำที่เรียกว่าเป็นยุคดิจิทัล แล้วในประเทศไทย ยุคดิจิทัลเข้ามาตั้งแต่เมื่อใด?
          หากจะนับที่เริ่มแพร่หลายอย่างรวดเร็ว ถือเอาเรื่องสมาร์ทโฟนเป็นหลัก เพราะสมาร์ทโฟนทำให้ติดต่อสื่อสารได้อย่างรวดเร็วมี 3G 4G ดูภาพ เข้าเว็บไซต์ เข้าโซเชียล จ่ายเงินทางออนไลน์ สั่งของออนไลน์ มือถืออย่างเดียวทำได้หลายอย่าง จึงส่งผลต่อวิถีชีวิตมนุษย์อย่างมหาศาล สมัยเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมามีเพจเจอร์ต่อมาเริ่มมีมือถือ แต่มือถือยุคนั้นใช้โทรศัพท์ได้อย่างเดียว คนยังต้องมีเพจเจอร์เอาไว้ส่งข้อความ จึงต้องมีสองอย่างคู่กัน คนที่มีมือถือจะมีสมุดโทรศัพท์เล่มเล็กๆเอาไว้เปิดดูเบอร์ ต่อมาโทรศัพท์มีส่งข้อความ แต่ไม่มีภาพจึงแทนเพจเจอร์ได้ แต่เมื่อเข้าสู่ยุคสมาร์ทโฟนโทรศัพท์ใช้โทรด้วยเสียงเป็นฟังก์ชั่นส่วนน้อย แต่หลักๆใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารระหว่างตัวเรากับโลกทั้งใบ อยากรู้อะไรผ่านมือถือ และกิจกรรมเกือบทุกอย่างผ่านสมาร์ทโฟน จนมีคนกล่าวว่าธุรกิจอะไรก็ตามที่ไม่สามารถเชื่อมโยงกับสมาร์ทโฟนได้ ทำนายได้ว่าธุรกิจนั้นจะร่วง ธุรกิจจะรุ่งได้ จะต้องสามารถทำธุรกรรมผ่านมือถือได้เท่านั้น ความสำคัญทวีขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาแค่ 10 ปี เหล่านี้คือการเปลี่ยนแปลงยุคดิจิทัล
 
ระบบดิจิทัล ครอบคลุมและมีอิทธิพลไปทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะเรื่องระบบการเงิน และเศรษฐกิจในปัจจุบัน สำหรับระบบการเงินดิจิทัล มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยมากน้อยเพียงใด?



          น่าเชื่อถือ และปลอดภัยเนื่องจากไม่ต้องกลัวใครจะมาปล้น หากพกเงินสดจำนวนมากมากอาจถูกปล้นได้ เงินดิจิทัล ปล้นไปไม่ได้ ในต่างประเทศส่วนใหญ่ จะใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตสั่งซื้อของ แม้แต่ ค่าตั๋วรถเมล์ หรือไปทานข้าว ก็ใช้บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต ได้ทั้งนั้น มีบัตรใบเดียวก็อยู่ได้เพราะปลอดภัยมากกว่า กรณีคนมาแฮ็คหรือแฮ็คเกอร์มาเอาข้อมูลอาจมีบ้าง แต่เป็นไปได้ยาก และเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้เงินสดพบว่า ปลอดภัยกว่า

ในปัจจุบันโลกดิจิทัล จะมีสกุลเงินดิจิทัล เช่น บิทคอยน์ อีเธอเรียม สวิสคอยน์ มีความเห็นเรื่องสกุลเงินดิจิทัลนี้อย่างไร?


 
          ปัจจุบันคนเริ่มสนใจกันมากขึ้นเนื่องจากราคาขึ้นสูง บางคนอยากรวยจึงไปซื้อหรือลงทุน เพราะให้ผลตอบแทนดี ซื้อโดยยังไม่รู้ว่าบิทคอยน์คืออะไร ทำงานอย่างไร เห็นเพื่อนซื้อก็ซื้อตาม 
          ในโลกยุคใหม่ สามารถทำธุรกรรมโดยกำจัดตัวกลางออกไป ไม่ต้องมีธนาคาร หากจะโอนเงินไปอเมริกา ไม่ต้องมีธนาคารอีกต่อไปไม่ต้องไปเสียค่าธรรมเนียมให้ธนาคาร สามารถโอนตรงได้เลย ซึ่งคนคิดระบบบล็อกเชน หรือระบบ Cryptocurrency ขึ้นมา เพื่อจะได้ไม่ต้องมีตัวกลาง ใช้เทคโนโลยี โดยเริ่มต้นเช็คว่าคนๆ นั้นเป็นตัวตนคนนั้นจริงหรือไม่ โดยผ่านการใช้รหัส รหัสมี 2 แบบ คือ 1. public key เหมือนเป็นบ้านเลขที่ เช่น จะส่งเงินให้คนนี้ ก็ส่งไปบ้านเลขที่นี้ก็จะถึง 2. private key  เหมือนลายเซ็นของเราทางดิจิทอล ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด ต้องรู้เฉพาะเจ้าตัวเท่านั้น คนที่รู้รหัสนี้คือเจ้าของสินทรัพย์ เป็นวิธีการยืนยันความเป็นตัวตน 



          แต่ละคนจะมีกระเป๋าเรียกว่า Wallet แล้วใส่เงินในนั้น ไม่ได้มีเงินจริงแต่เป็นรหัสคอมพิวเตอร์ คนทำหน้าที่แทนธนาคารเช็คความมีตัวตนคือสมาชิกทุกคนในระบบ เมื่อใครจะส่งเงินไปที่ไหน เมื่อดูว่าบัญชีมีเงินแล้วจึงส่งไป ทันทีที่สั่งไป ระบบคอมพิวเตอร์จะประมวลผลเช็คว่า บัญชีนี้มีเงินจริงหรือไม่  ระหว่างที่ส่งไป แอบส่งไปที่อื่นด้วยหรือไม่ มีการทำธุรกรรมซ้ำซ้อนหรือไม่ เมื่อไม่มีอะไรซ้ำซ้อน ระบบจะบอกว่าโอเค เงินจึงถูกส่งไป 
          เมื่อระบบคอมพิวเตอร์เช็คแล้วว่าแล้วไม่มีการซ้ำซ้อน ข้อมูลนั้นจะถูกทำเป็นบล็อกเหมือนเป็นกล่อง ซึ่งไม่ใช่ธุรกรรมเดียว ในเวลานั้นทั้งโลกอาจมีคนส่งเงินไปมา 1,000 ราย ซึ่งในเวลาใกล้เคียงกัน จะถูกประมวลเป็นก้อนๆ หนึ่ง เป็นบล็อกๆ หนึ่ง แล้วบล็อกนี้จะถูกกระจายไปถึงสมาชิกทุกคนในระบบ คือการให้สาธารณะคือสมาชิกทุกคนในระบบรับทราบตรงกัน เมื่อมีคนทำธุรกรรมใหม่ ก็จะมีข้อมูลทั้งหมดถูกประมวล แล้วเป็นก้อนเป็นอีกบล็อกหนึ่ง มาต่อกันจึงเรียกว่าบล็อกเชน บล็อกต่อไปเชนจึงไม่มีใครสามารถแก้ข้อมูลเหล่านี้ได้ เพราะถูกส่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ในระบบ 1,000,000 เครื่อง ซึ่งไม่มีใครสามารถไปแก้ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ 1,000,000 เครื่องได้ เพราะฉะนั้นทันทีที่เกิดธุรกรรมจะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แม้เจ้าของบริษัทบิทคอยน์ก็ตาม เพราะสาธารณะชนทุกคนรับทราบ และทุกคนสามารถเช็คได้ว่าเงินก้อนนี้ส่งมาจากใคร แล้วก่อนที่เขาจะส่งไป เขาได้รับเงินนี้มาจากไหนเช็คย้อนไปได้ เพราะฉะนั้นถือว่าการที่ ไม่มีคนกลางคือธนาคาร แต่ใช้ระบบเป็นตัวกลางแทนเซ็ตระบบที่ดีขึ้นมา ให้สาธารณะทั้งหมดรับทราบข้อมูลตรงกันทั้งหมด แล้วสามารถย้อนประวัติธุรกรรมทั้งหมดได้หมด จึงมีความโปร่งใส และน่าเชื่อถือยิ่งกว่าตัวกลางใดๆ 


          ในปัจจุบันมีคนสั่งสกุลเงินดิจิทัล  Cryptocurrency  มาแล้ว 1,000 กว่าสกุล สร้างไม่ยาก แต่จะทำอย่างไรให้คนเชื่อถือยอมรับ มูลค่าจะขึ้นจะลงอยู่ที่ดีมานซัพพลาย ถ้าคนเชื่อถือเยอะ มาซื้อเยอะมาก มูลค่าก็จะขึ้น ทำเงินดิจิทัลไม่ยากเพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำง่าย แต่การสร้างความน่าเชื่อถือยากกว่า
          โลกยุคดิจิตอลใครมีความคิดสร้างสรรค์คนนั้นชนะ ใครเร็วและมีความคิดที่ดีคนนั้นจะชนะ มีอะไรเปลี่ยนแปลงในโลกเรานี้อีกมากและเร็วขึ้นไปเรื่อยๆไม่ต้องกังวลว่าจะตกงาน เพราะจะมีงานใหม่ๆ เกิดขึ้นมาอีกมากมาย แต่เราจะอยู่ในโลกนี้ได้อย่างดีเมื่อ เรารู้จักปรับตัวเองศึกษาเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เมื่อนั้นเราจะเป็นผู้ชนะในโลกยุคดิจิทัล 



          เราได้เข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งมีเทคโนโลยีในการอำนวยความสะดวกสบายให้เราอย่างมากมาย เป็นช่วงยุคที่เราเรียกว่ายุคของการเปลี่ยนผ่าน จึงทำให้วิถีชีวิตของเราเปลี่ยนไป ท่านใดที่สนใจลงทุนด้านนี้อย่างจริงจัง จะต้องศึกษาให้แตกฉาน แต่สำหรับท่านใดที่ยังไม่ได้ใส่ใจ หรือสนใจได้นิดๆ หน่อยๆ สามารถศึกษาไว้เพื่อประดับความรู้จะได้ไม่ตกยุค แล้วก็ทันโลกนั่นเอง

 

รับชมคลิปวิดีโอเงินดิจิทัล : ข้อคิดรอบตัว
ชมวิดีโอเงินดิจิทัล : ข้อคิดรอบตัว   Download ธรรมะเงินดิจิทัล : ข้อคิดรอบตัว



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
กฎหมายตาวิเศษกฎหมายตาวิเศษ

ยิ่งใหญ่ในรายละเอียดยิ่งใหญ่ในรายละเอียด

ปัญหามรดกปัญหามรดก



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ข้อคิดรอบตัว