เมื่อลูกปลื้มนักร้องต่างชาติ
กระแส K-POP วงดนตรีเกาหลีกำลังมาแรง สร้างอิทธิพลทางความคิดแก่วัยรุ่นไทยอย่างต่อเนื่อง จนผู้ปกครองเกิดคำถามว่า ถ้าลูกเราคลั่งวงดนตรีหรือศิลปินขนาดนี้จะทำอย่างไร
เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)
จากรายการทันโลกทันธรรม ออกอากาศทางช่อง GBN
3 คำนี้ แฟน แฟนคลับ และติ่ง แตกต่างกันอย่างไร?
แฟน มาจากคำว่า Fanatic แปลว่าคลั่งไคล้ เมื่อชอบอะไรมากก็จะมีความคลั่งไคล้ ในสิ่งนั้นซึ่งรากศัพท์เดิมมักจะใช้เรียกกับคนที่คลั่งศาสนา ต่อมาก็มีการใช้กับผู้ที่คลั่งไคล้ในการเมืองเป็นสาวกทางการเมือง แต่ในปัจจุบันมักจะใช้คำนี้กับพวกที่คลั่งไคล้ในศิลปินในดารานักร้อง
แฟนคลับมีการรวมกลุ่มกันของแฟนศิลปินรวมกลุ่มกันหลายๆคนไม่ว่าจะเป็นการรวมกลุ่มกันทางอินเตอร์เน็ตมีการพูดคุยกันถึงศิลปินนั้นว่าจะมีการแสดงที่ไหนปรากฏตัวที่ไหนแล้วกลุ่มแฟนคลับอยากจะไปทำกิจกรรมอะไรร่วมกัน เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่จะชื่นชอบศิลปินเดียวกัน
แฟนคลับบางแฟนคลับ หรือแฟนบางคนอาจจะคลั่งไคล้ศิลปินระดับที่ค่อนข้างสูง ถึงขนาดติดตามทุกคอนเสิร์ตหรือบางครั้งทำตัวค่อนข้างไร้เหตุผล ซึ่งจะเรียกกลุ่มคนที่ทำตัวค่อนข้างไร้เหตุผลว่าเป็นติ่ง คำว่าติ่ง มาจากทรงผมของนักเรียนมัธยมหญิง ระดับ ม.ต้น ที่จะเปิดติ่งหู คำนี้เป็นคำที่ใช้ในลักษณะของการมองดูว่าคนที่ทำตัวเป็นติ่ง จะมีทำตัวเหมือนเป็นเด็กแล้วก็อาจจะไม่มีเหตุผล ขาดการวิเคราะห์ขาดวิจารณญาณ
การที่เด็กเขาไปคลั่งไคล้ศิลปิน ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ออกจะดีมากนัก มีข้อดีหรือไม่?
มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ในส่วนของข้อดีทำให้เด็กได้ศึกษาวัฒนธรรมประเทศนั้นๆ เช่นติดตามนักร้องเกาหลีอยู่ส่วนใหญ่ก็จะมีการติดตามว่า วัฒนธรรมของเกาหลีเป็นอย่างไร อาหารการกิน ว่าการดำรงชีวิตของคนเกาหลีเป็นอย่างไร เป็นการเรียนรู้และสร้างเสริมประสบการณ์ให้กับเด็ก ในขณะเดียวกันถ้าลูกเราเป็นแฟนคลับก็จะมีโอกาสได้พบเจอเพื่อนได้พูดคุยกันในสิ่งที่เขาสนใจเหมือนๆ กัน ถ้าดีที่สุดก็คือถ้าเรามองนักร้อง เป็นโรโมเดลนอกจากเป็นไอดอล คำว่า โรโมเดลคือบุคคลต้นแบบที่อยากจะเป็นเหมือนเขา ก็จะสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กบางคนฝึกร้องเพลง ฝึกเต้นเพื่อจะได้เป็นศิลปินในอนาคต บางคนอาจจะมีแรงบันดาลใจในการฝึกภาษาประเทศนั้นๆ
ส่วนข้อเสียคือใช้เวลามากเกินไปก็อาจจะทำให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ หรือบางครั้งการติดตามชมทุกคอนเสิร์ตก็จะทำให้เสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเกินกำลังเด็ก แล้วความคิดก็ถูกหมกมุ่นไปในเรื่องนั้น แทนที่จะมาสนใจเรื่องเรียน
หากเด็กในความปกครอง เกิดคลั่งไคล้เกินเหตุ จะรับมือกับเขาอย่างไร?
เริ่มแรกพ่อแม่ต้องเปิดใจและทำความเข้าใจกับลูก รับฟังความคิดของลูกก่อน ต้องนึกถึงสมัยที่เด็กน้อยมัธยมเป็นวัยรุ่นก็มีศิลปินที่ชื่นชอบอยู่ในใจอยู่เหมือนกัน สมัยนั้นอาจจะติดตามผลงานของศิลปินไปปรากฏตัวที่ไหนก็ตามไปดู อาจจะมีลักษณะของการเป็นแฟนคลับ ซึ่งต้องเข้าใจลูกว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ลูกจะชื่นชอบศิลปินนักร้องที่มีผลงานโดดเด่น ประการแรกคือทำความเข้าใจก่อน
2.ควรจะมองหาจุดเด่นของชาตินั้นๆ แล้วนำมาสอนลูกในการดำเนินชีวิต เช่น ตอนนี้วงบีเอ็นเคโฟร์ตี้เอท ค่อนข้างดังซึ่งวงนี้เป็นศิลปินไทยก็จริง แต่ลักษณะของสไตล์มาจากญี่ปุ่นก็สามารถจับข้อดีของประเทศญี่ปุ่น มาคุยกับลูกพูดคุยกันได้ ว่าคนญี่ปุ่นมีวินัย มีระเบียบวินัยในการทำงาน ในการดำรงชีวิตประจำวัน มีความตรงต่อเวลา เป็นคนซื่อสัตย์สุจริต ทำงานหนัก ควรดึงข้อดีของประเทศนั้นๆ มาพูดคุยกับลูก เพื่อให้ลูกนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต
3.การแบ่งเวลา ปัญหาสำคัญที่เป็นแฟนคลับ คือใช้เวลาในการติดตามผลงานของศิลปินนั้นๆ เยอะไปไม่ว่ากลางวันก็ะดู YouTube บางครั้งติดตามไปดูคอนเสิร์ตถึงต่างจังหวัด ก็พูดคุยกับลูกว่าควรจะแบ่งเวลาอย่างไร ควรให้ลูกเป็นคนตัดสินใจก่อน ว่าจะทำการบ้าน อ่านหนังสือวันละกี่ชั่วโมง แล้วหลังจากนั้นค่อยดู YouTube เป็นการพูดคุยกันแทนที่จะไปกำหนดกะเกณฑ์ให้เขาว่าต้องทำการบ้าน 2 ชั่วโมงเสร็จแล้ว พ่อหรือแม่จะให้ดู YouTube ถ้าเป็นการกำหนดกะเกณฑ์เด็กจะรู้สึกว่า ต่อต้านถ้าเขารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่เขาคิดขึ้นมาเอง เขาจะทำตามได้ดีกว่าที่เราไปบอกให้เขาทำ
4.การเปลี่ยนปัญหาให้เป็นโอกาส คือการที่ลูกไปชื่นชอบศิลปิน อาจจะสร้างแรงจูงใจว่า ถ้าลูกได้เกรดดีขึ้นจากเดิม พ่อหรือแม่จะให้ตั๋วไปดูคอนเสิร์ตให้รางวัลในการประพฤติตัวที่ดีขึ้น หรือถ้าลูกช่วยงานบ้านช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านมากกว่าเดิม ปิดเทอมนี้พ่อแม่จะพาไปเกาหลีพาไปญี่ปุ่น พาไปเที่ยวประเทศนั้นๆ ที่ศิลปินอาศัยอยู่ เป็นการสร้างแรงจูงใจ เปลี่ยนปัญหาว่า ลูกชอบศิลปินใช้เวลาในการติดตามศิลปิน เปลี่ยนปัญหานั้นให้เป็นโอกาสโดยการสร้างแรงจูงใจให้รางวัลนั่นเอง
ทันธรรม...โดย พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ
พ่อแม่จะทำอย่างไรดีกับกระแสเหล่านี้ ตอบว่าอย่าไปกังวลจนเกินไป เป็นจังหวะหนึ่งของวัยรุ่น ที่กำลังเปลี่ยนจากวัยเด็กขึ้นมาสู่วัยเจริญพันธ์วัยหนุ่มวัยสาว ฮอร์โมนในตัวพรั่งพรู บางทีชอบใครก็คลั่งไคล้ไปเลย เป็นลักษณะอารมณ์สุดโต่ง แห่ตามเพื่อนกลัวคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่องจึงไปหาข้อมูลหาข้อมูลไปหาข้อมูลมาก็เริ่มอินเข้าไปเรื่อยๆ สุดท้ายกลายเป็นติ่งเกาหลีขึ้นมาแบบแทบจะแซงเพื่อนด้วยซ้ำไป เพราะธรรมชาติของคนเมื่อใจไปผูกพันกับสิ่งใดมากๆ ก็จะค่อยๆ เกิดความผูกพันขึ้นมา ยิ่งหาข้อมูลไปมาก ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวมาก ความรู้สึกผูกพันก็มากขึ้นๆ เรื่อยๆ นั้นคือหลักจิตวิทยาของมนุษย์
พ่อแม่ต้องเข้าใจ ทำตัวเป็นที่ปรึกษาลูก อย่าเป็นปฏิปักษ์ ค่อยๆ พูด ค่อยๆ คุยกันยืดหยุ่นพอสมควร หากลูกอยากได้เงินไปซื้อตั๋วคอนเสิร์ต บอกลูกว่าต้องทำงานช่วยงานบ้าน ให้วันละ 100 บาท 1 เดือนได้ 3000 บาทช่วงปิดเทอมจะได้เก็บเงินไปซื้อตั๋ว เด็กจะรู้สึกว่าได้มาง่ายๆ ต้องออกแรงตัวเองด้วยเหมือนกัน ถ้ายอมทำก็ถือว่าเป็นการฝึกวินัย หากลูกจะโดดเรียนไปก็ห้าม อย่าไป ถ้าเมื่อไหร่บอกว่าอย่า ก็คือต้องอย่า ถ้าห้ามลูกตลอดลูกจะไม่ฟัง หากส่วนใหญ่ลูกขอแล้วพ่อแม่ตกลง แบบมีเงื่อนไข เมื่อไหร่บอกอย่า ลูกก็ต้องรู้ว่าถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้ พ่อแม่จะคอยคัดค้านไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง
ในครั้งพุทธกาลก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมาแล้วนะคือมีชายผู้หนึ่งชื่อว่า วักกลิ ได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วตัดสินใจออกบวชเพราะต้องการจะได้เห็นพระพุทธเจ้าบ่อยๆ อยากจะเห็นไปบ่อยๆ ออกบวชไม่ใช่ว่าจะฟังธรรม พระพุทธเจ้าแสดงธรรมก็แสดงไปก็ฟังอยู่เหมือนกันแต่ใจจริงๆคือนั่งจับจ้องมองดูพระรูป ของพระองค์ด้วยความเพลิดเพลินมีความสุข พระองค์ไปไหนก็พยายามตามตลอด จนเป็นที่รู้กันในหมู่ภิกษุทั้งหลาย
วันหนึ่งพระพุทธเจ้าพระองค์ก็เลยบอกดูก่อน วักกลิ เธอจะมาดูอะไรกับรูปพระกายของตถาคต ซึ่งก็จะต้องแก่ ต้องเปื่อย ต้องเน่า ไปในวันหนึ่ง เป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืนมันไม่เที่ยงเป็นทุกข์ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง ถ้าต้องการเห็นตัวตนที่แท้จริง ต้องตั้งใจปฏิบัติธรรม แล้วก็ห้ามพระวักกลิ ไม่ให้ตามอีกต่อไป พระวักลิ ก็ฝืนไม่ได้ แล้วน้อยใจเสียใจ หากใช้ศัพท์ปัจจุบันคือ เป็นแฟนคลับตัวจริงอย่างนี้อุตส่าห์ทิ้งทุกอย่างมาออกบวชเพื่อจะติดตามพระพุทธเจ้าอย่างนี้ พระองค์ยังห้ามไม่ให้เห็นจากนี้ไปเราคงไม่ได้เห็นพระพุทธเจ้าอีกแล้ว จึงเสียใจจะไปฆ่าตัวตาย พระพุทธเจ้าพระองค์ทราบด้วยพระญาณแล้วจึงเหาะไป แล้วก็ไปแสดงธรรม โปรดพระวักกลิ ให้ได้คิดจนสุดท้ายพระวักกลิก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในที่สุด
หลงใหลคลั่งไคล้อย่างมากถ้าใช้ศัพท์ปัจจุบันก็เป็นติ่ง อย่างหนึ่งเลยแต่สุดท้ายก็ยังมีบุญมากพอจะตรัสรู้ธรรมเป็นพระอรหันต์ได้ ดังนั้นลูกของเราแม้ตอนช่วงวัยรุ่นตอนต้น จะเป็นติ่งเกาหลีไม่ใช่เป็นความผิดปกติอะไร พอผ่านช่วงจังหวะวัยฮอร์โมนไปแล้วเข้าสู่ภาวะปกติได้
Desktop Version
