ความสัมพันธ์ลับแล

ความสัมพันธ์ลับแล

การคบซ้อนหรือการนอกใจเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ไม่มีใครอยากเป็นคนรักอย่างลับๆ ของคนอื่น

เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)

จากรายการทันโลกทันธรรม ออกอากาศทางช่อง GBN

เหตุใดคนเราถึงต้องนอกใจกัน ไปเป็นมือที่สามของคนอื่นหรือไปคบซ้อนกับคนอื่น?

การนอกใจเป็นปัญหาคู่โลกมายาวนาน ซึ่ง Richard Friedman ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาคลินิก ของมหาวิทยาลัยแพทย์ไวลล์ คอร์เนล ค้นพบว่าคนที่มีระดับของโดพามีน ในกระแสเลือดสูงมากกว่า 50% เป็นคนนอกใจ

โดพามีนเป็นสารสื่อประสาทในสมองมีกันทุกคน ถ้าไม่มีโดพามีนจะซึมเศร้าไม่มีแรง การศึกษาพบว่าระดับของสารโดพามีนปกติคือคนปกติทั่วไป แต่ในกลุ่มคนพิเศษที่มีสารโดพามีนสูง ในกลุ่มเกินครึ่งหนึ่งเป็นคนนอกใจ คืออาจเกี่ยวข้องกับระดับของสารโดพามีน ยังพบอีกว่า มีฮอร์โมนอีก 2 ตัว คือ ออกซิโทซินกับวาโซเพรซซิน ฮอร์โมน 2 ตัวนี้เป็นฮอร์โมนแห่งการรักเดียวใจเดียว เพราะออกซิโทซินจะหลั่งออกมาตอนมีเพศสัมพันธ์ แต่ในมนุษย์บางคนมียีนที่ไปควบคุมหรือไปกดการรับออกซิโทซิน พบว่า 40% ของผู้หญิง และ 63% ของผู้ชาย ที่มีการทำงานของยีนตัวนี้มากจะมีพฤติกรรมนอกใจ

มีการทดลองในหนูแพรี่ ซึ่งหนูพันธุ์นี้เป็นหนูที่มีพฤติกรรมรักเดียวใจเดียว มีคู่ครองเพียงตัวเดียวไม่ยอมเปลี่ยนตลอดชีวิตจนตาย โดยสังเกตการหลั่งออกซิโทซินของหนูแพรี่ พบว่าออกซิโทซินจะหลั่งออกมาหลังมีเพศสัมพันธ์ แล้วไปจับกับตัวรับทำให้เกิดความรักเดียวใจเดียว ต่อมาได้เอาหนูแพรี่ ฉีดสารตัวหนึ่งซึ่งไปยับยั้งการจับตัวรับของออกซิโทซิน เมื่อฮอร์โมนออกซิโทซินออกมาแต่เข้าไปทำงานไม่ได้ปรากฏว่าหนูแพรี่เปลี่ยนพฤติกรรมไป กลายเป็นหนูที่มีพฤติกรรมเจ้าชู้

ออกซิโทซิน เป็นสารแห่งความรักเดียวใจเดียว จะเปลี่ยนความสัมพันธ์ทางกายให้กลายเป็นความสัมพันธ์ทางใจที่ลึกซึ้ง แล้วผูกพันกันมากจนไม่ยุ่งกับใครเลย

ต่อมาไปทดลองกับหนูมอนเทน ซึ่งหนูมอนเทน เป็นหนูพิเศษที่ไม่มีตัวรับออกซิโทซินในร่างกาย ธรรมชาติหนูมอนเทน คือ เป็นหนูที่เปลี่ยนคู่ไม่ซ้ำเลย เปลี่ยนตลอดเวลาด้วย หนูมอนเทน ตรวจพบว่าไม่มีตัวรับฮอร์โมนออกซิโทซิน ถึงจะหลั่งออกมาก็ทำงานไม่ได้เพราะไม่มีตัวรับ มีการทดลอง โดยการฉีดออกซีโทซินเข้าไปในหนูมอนเทน ปรากฏไม่ได้ผล เพราะแม้ว่าจะได้รับออกซิโทซิน หนูมอนเทนไม่มีการลดพฤติกรรมเปลี่ยนคู่ไปได้เลย เพราะฉะนั้นสรุปได้ว่าความมั่นคงในคู่รักเดียว เป็นการทำงานของฮอร์โมน

สาเหตุที่ 2 ของการนอกใจเป็นพฤติกรรมแหกกฎ เลือกที่จะทำอะไรก็ตาม เพื่อให้ชีวิตตัวเองมีสีสันโดยเอาอารมณ์เป็นตัวนำ แล้วเป็นคนที่เลือกพฤติกรรมโดยหวังแค่ความสุขที่อยู่เฉพาะหน้าไม่คำนึงถึงปัญหาที่จะตามมา เป็นพฤติกรรมไม่รู้กฎเกณฑ์แล้วเอาใจตัวเองเป็นหลักเอาแต่ความสุขเฉพาะหน้า

สาเหตุสุดท้ายคือการสูญเสียความรู้สึกที่เป็นตัวตนทางสังคม และตัวตนทางครอบครัว เช่นหากคู่ครองรายได้แตกต่างกันมาก โดยเฉพาะเป็นผู้ชายที่รายได้น้อยกว่าเขาจะรู้สึกว่าบทบาทมันเปลี่ยนไป แทนที่จะเป็นรายได้หลักของบ้าน กลับกลายเป็นต้องพึ่งภรรยา เพราะค่านิยมมีอยู่ว่า ผู้ชายต้องเป็นผู้นำ ผู้ชายต้อง เป็นผู้เลี้ยงดู เมื่อเล่นบทบาทในสังคมไม่ได้ เลยไปหาบทบาทผู้ชายข้างนอกมาแทน

ในส่วนของคนที่เป็นมือที่สาม เป็นคนรักในความลับของคนอื่น มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง?

1.อาจจะไม่ได้เจตนา คือ โดนหลอก ไม่รู้มาก่อน

2.ตั้งใจเลย อยากได้ อยากมี อยากเป็น อยากชนะ แล้วทำทุกอย่างตามอารมณ์ โดยขาดจิตสำนึกที่ดี

3.เรื่องของบุญวาสนาหรือวิบากกรรม พรมลิขิตให้รักคนมีเจ้าของ และอยู่ที่จิตสำนึกด้วย ถ้ามีจิตสำนึกที่ดีรู้จักบาปบุญคุณโทษ จะไม่ปล่อยให้ความต้องการของตัวเองมาครอบงำหรือมีอำนาจ

คนประเภทไหนบ้างที่ไปเป็นมือที่สาม ไปเป็นคนรักแบบลับๆของคนอื่น?

มีการศึกษาในหนังสือวารสารเกี่ยวกับเรื่องของครอบครัวและการแต่งงาน ทำการสำรวจทั้งชายและผู้หญิง พบว่าคู่ครองที่ไม่ใช่คู่ครองของตัวเองเป็นเพื่อนร่วมงาน 36% และ17% เป็นเขยหรือเป็นน้องสะใภ้ คือคนใกล้ชิดนั่นเอง ดังนั้นจากการศึกษาคนที่จะเป็นเรียกว่าความรักในทางลับ หรือความรักลับแลมาจากคนใกล้ชิดนั่นเอง

หากเราเป็นมือที่สาม หรือเป็นคนที่ไปนอกใจจะมีวิธีการจัดการอย่างไรบ้าง?

สำหรับคนที่ตั้งใจก็เปลี่ยนความตั้งใจใหม่ ส่วนคนที่ไม่ตั้งใจคือโดนหลอกว่าไม่มีคู่ มีวิธีการดังนี้

1.ตั้งสติ ไม่ว่าจะรู้สึกเสียใจแค่ไหน ไม่ว่าจะรู้สึกผิดหวังแค่ไหน อย่าพึ่งวู่วาม ใช้ความยับยั้งชั่งใจ ระงับความรู้สึกพลุ่งพล่านทั้งหลายเอาไว้แล้วยอมรับความจริง แล้วอย่าไปคาดหวังว่าเขาจะต้องมาเลือกเรา เพราะถ้าเขาเลือกเราแต่แรก เขาคงไม่หลอกเรา ดังนั้นให้ตั้งสติแล้วก็ยอมรับ

2. ยุติความสัมพันธ์ เหตุมันเกิดที่ใจก็ต้องดับที่ใจ กับความเด็ดขาด ในการยุติความสัมพันธ์ ซึ่งอยู่ที่ความตั้งใจกับการตัดตอนความสัมพันธ์ คือการงดติดต่อทุกช่องทางนั่นเอง

ทันธรรม...โดยพระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ

สัมพันธ์ลับแล หมายถึงความสัมพันธ์ที่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ กลัวคนอื่นจะรู้ เนื่องจากชายหญิงมีอายตนะดึงดูดกัน เริ่มต้นอาจไม่ได้คิดอะไร แต่มีบางจุดที่เป็นจุดสปาร์ครู้สึกสะดุดขึ้นมา พอสะดุดกันก็เริ่มคิด แล้วความรู้สึกนั้นค่อยพัฒนา เมื่อจังหวะเปิดก็มีอะไรเลยเถิดขึ้นมาได้เหมือนอุบัติเหตุ เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ชายหญิงที่ยังไม่หมดกิเลส ดังนั้นกันไว้ดีกว่าแก้ คืออย่าให้มีโอกาสที่เราเองจะไปพลั้งเผลอ เชื่อใจทุกคนแต่ว่าอย่าไว้ใจ แม้แต่ตัวเองเพราะเรายังไม่หมดกิเลส ควรหาทางป้องกันไว้ก่อนอย่าให้โอกาสอยู่ในที่ลับสองต่อสอง เพราะจะทำให้เกิดบางสิ่งบางอย่างที่ไม่คาดฝันขึ้น ถ้ายอมถอยหนึ่งก้าวก็จะถอยกรูดจะเสียหลักถูกกิเลสโจมตี กิเลสจะเป็นตัวให้เหตุผลว่าไม่เป็นไรแล้วก็จะเป็นไรทุกที ถ้าจะให้สำเร็จก็ต้องเด็ดขาด ตั้งแต่ก้าวแรกไม่ยอมถอย

มีการวิจัยพบว่า ในกรณีคนที่มีเพื่อนจำนวนมากเป็น 100 คน แต่ไม่มีคนสนิทด้วยแม้เพียงคนเดียว รู้จักแบบผิวเผินเป็น 100 คุณภาพชีวิตความสุขในชีวิตสู้คนมีเพื่อน 3-4 คน แต่สนิทกันจริงๆช่วยเหลือเกื้อกูลกันจริงๆ มีอะไรพูดคุยปรึกษาหารือกันได้จริงๆ สู้คนมีเพื่อน 3-4 คน อย่างนี้ไม่ได้ คือคุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ มนุษย์จะสบายใจ เมื่อมีคนรู้สึกว่าวางใจกันได้สนิทคุ้นเคยกันจริงๆพึ่งพาอาศัยกันได้จริงๆร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันได้จริงๆ จำนวนแม้ไม่มาก แต่มีความสุขใจมากกว่า

สามีภรรยาซึ่งเป็นคู่ทุกข์คู่ยาก ควรจะเป็นคนที่สนิทกันมากที่สุด ถ้าเปลี่ยนจากหนึ่งต่อหนึ่งกลายเป็น 1 ต่อ 2, 1 ต่อ 3, 1 ต่อ 5 ขึ้นมา เราลดคุณภาพเหลือศูนย์แล้ว เหลือแต่ปริมาณเพราะไม่จริงใจกับเขา แล้วจะไปหวังให้เขาจริงใจเป็นสิ่งที่ยาก ผลคือชีวิตไม่มีความสุข หากเป็นคนเจ้าชู้ มีบ้านเล็กบ้านน้อย แม้ยังไม่ถูกจับได้ ก็ไม่สุข ถูกจับได้เมื่อไหร่ยิ่งมีความทุกข์มากมาย เพราะฉะนั้นอย่าไปทำ

บางคนบอกหลวมตัวไปแล้วทำอย่างไร จะเป็นฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงถูกเขาหลอกไม่รู้มาก่อน ทำดีผูกพันไปแล้ว ก็คุยกันชัดเจน ฝ่ายชายหากพอมีกำลังก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง ดูแลเขาพอสมควรที่เรียกว่าสมเหตุสมผล แล้วก็จากลากันด้วยดี เด็ดแล้วให้ขาด แล้วก็เลิกการติดต่อ ลบเบอร์โทรศัพท์ รวมถึงช่องทางติดต่อทางโซเชียลมีเดียทั้งหมด รูปภาพ ข้อความ ของฝากของที่ระลึกที่ให้กัน เคลียร์ให้หมด อย่าให้มีช่องทางการติดต่อ อาจจะลำบากช่วงแรก แต่หากตั้งใจจริง 7 วัน อาการจะหายไป 80-90 % ผ่านไป 1 เดือนเรื่องนี้ก็จบ แล้วก็เดินหน้ารักเดียวใจเดียวดูแลครอบครัวต่อไปให้ดี ดีกว่าอยู่กับครอบครัวเหมือนไม่ใช่ครอบครัว สามีภรรยาเหมือนไม่ใช่สามีภรรยา ลูกเหมือนไม่ใช่ลูก ไม่มีความสุข สู้อยู่ด้วยกันแล้วจริงใจต่อกัน ทั้งคู่สามีภรรยาและลูกดูแลให้ดี แล้วรักใคร่กลมเกลียวกันสามัคคีกัน ลูกมีความกตัญญูต่อพ่อแม่ อย่างนี้ชื่นใจมากกว่า

เอาความภูมิใจมาไว้กับสิ่งที่ถูกต้องดีงาม ดีกว่าเอาความภูมิใจไปผูกไว้กับความรู้สึกว่าตัวเองมีเสน่ห์แรง มีคนมาชอบเยอะ หรือฝ่ายหญิงก็พิสูจน์เสน่ห์ที่เรียกว่า เขามาดูแลเรา เราต้องเอาชนะภรรยาเขาให้ได้ ให้เขาทิ้งภรรยามาอยู่กับเราให้ได้ แค่คิดก็ผิดแล้ว แล้วจะกลุ่มทั้งชาติ วิบากกรรมตามมา ยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่ สัมพันธ์ลับแลเลิกดีกว่า แล้วเป็นคนรักเดียวใจเดียวดูแลครอบครัวให้ดีดีที่สุด

รับชมคลิปวิดีโอ ความสัมพันธ์ลับแล : ทันโลกทันธรรม