เบื่อๆอยากๆ


[ 4 เม.ย. 2551 ] - [ 18282 ] LINE it!

CASE STUDY
เบื่อๆอยากๆ
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
ออกอากาศครั้งแรก วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2549
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
    ลูกมีเรื่องกราบขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ ฝันในฝันเรื่องราวของลูกดังนี้ค่ะ...คุณปู่ของลูก เป็นคนกรุงเทพฯโดยกำเนิด มีอาชีพรับราชการตำรวจ ทั้งๆท่านได้รับเงินเดือนค่อนข้างน้อย แต่ก็ยังชอบเสียเงินไปกับการดื่มเหล้า เมามาก็เอาปืนไล่ยิงคุณย่าเสียอีก บางครั้งคุณย่าต้องหลบอยู่ในส้วม แม้เหม็นมากแต่ก็ต้องทน ถ้าหากวันไหนคุณปู่ไม่กลับบ้าน คุณย่าก็จะไปจุดธูปที่ศาลพระภูมิ ขอให้คุณปู่กลับมา...หลังจากปลดเกษียณจากตำรวจแล้ว คุณปู่ก็ได้มาเป็นยามอยู่พักหนึ่ง พอสังขารไม่ไหวก็หยุดอยู่กับบ้าน
 
    ตั้งแต่อายุ 80กว่าๆเป็นต้นมา คุณปู่จะนั่งอยู่บนเก้าอี้ทั้งกลางวันและกลางคืน และเปิดวิทยุฟังข่าวอาชญากรรมซึ่งท่านชอบมาก ตกดึกลูกหลานก็พยายามชักชวนให้คุณปู่ไปนอนบนที่นอน แต่ท่านก็ไม่ค่อยจะยอม ยิ่งถ้าวันไหนไม่มีใครมาชักชวนให้นอน ท่านก็จะไม่นอนเลย เวลาลูกเข้าไปหา คุณปู่จะคิดว่าลูกเป็นผู้ร้าย ขนาดท่านอายุ80 ยังล็อคคอลูกได้ แล้วท่านก็ตะโกนว่า “ผู้ร้ายมาแล้ว มาจับเร็ว”
 
    ช่วงท้ายของชีวิต คุณปู่มีอาการ ตัวแข็ง หลังตั้งฉาก ไม่สามารถขยับตัวได้ ต้องทานอาหารและถ่ายอยู่บนเก้าอี้ แต่ท่านก็ไม่แสดงอาการทรมานแต่อย่างใด จะนั่งนิ่งเฉยๆทั้งวันทั้งคืน หลังถ่ายเสร็จ ญาติสองคนก็จะยกตัวคุณปู่ขึ้นจากนั้นลูกก็จะเป็นผู้ทำความสะอาดทุกครั้ง การที่คุณปู่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทั้งวันทั้งคืนเป็นเวลาหลายปี ทำให้เกิดเป็นแผลกดทับที่แก้มก้นทั้งสองข้าง แผลใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนต้องนำส่งโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการผ่าตัด หลังผ่าตัดในคืนนั้นคุณปู่ก็เสียชีวิต เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว รวมอายุได้ 91ปี
 
    คุณย่าของลูก เป็นแม่ค้าหาบเร่ หาบขนมขายตั้งแต่บางเขนไปถึงตลาดบางบัว ตอนนั้นเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ลูกระเบิดได้ถูกทิ้งลงมาเป็นระยะระยะ คุณย่าบอกว่า “กลัวอดมากกว่ากลัวตาย” วันหนึ่ง คุณย่าได้ขายขนมให้บ้านหลังหนึ่ง พอผ่านบ้านหลังนั้นมาได้เล็กน้อย ลูกระเบิดก็ตกใส่บ้านหลังนั้น ทำให้คนที่เพิ่งซื้อขนมจากท่านไปเสียชีวิต คุณย่าก็หันกลับไปมองแล้วก็หาบขนมไปขายต่อ ท่านรอดชีวิตจากลูกระเบิดมาได้ แต่ก็มาเสียชีวิตด้วยโรคชราเมื่ออายุ 88ปี
 
    คุณพ่อของลูก หลังจากเรียนจบก็เข้ารับราชการที่กรมป่าไม้ ทำงานได้สักระยะหนึ่ง ก็ถูกแกล้งให้ออกจากราชการ หลังจากออกจากราชการได้เกือบปี จึงไปสมัครใหม่ และได้ทำงานที่กรมป่าไม้เหมือนเดิม
 
    วันหนึ่ง คุณพ่อได้ไปตีตราชักลากไม้ในป่าแถวชลบุรี ได้ไปเจอเด็กทารกแรกเกิด เป็นลูกของคนงานทำไม้ แม่ของเด็กได้เสียชีวิตไปหลังจากคลอดแล้ว ส่วนพ่อของเด็ก ชาวบ้านเล่าว่าเป็นคนขี้เมา ตอนภรรยาปวดท้องคลอดก็ดื่มเหล้าเมา บอกว่าจะไปตามคนมาทำคลอดแล้วหายไปเลย แต่ก็ยังดีที่ได้ไปบอกให้คนมาทำคลอดให้...ตอนนั้นคุณพ่อยังโสด แต่เห็นเด็กแล้วก็เกิดความสงสารขึ้นมาจับใจ จึงรับมาเป็นบุตรบุญธรรมโดยฝากให้คุณย่าเลี้ยงให้
 
     ต่อมา คุณพ่อได้เดินทางไปที่โคราช ขณะเดินอยู่ในตลาดก็ได้เห็นผู้หญิงสาวสวยคนหนึ่ง (คุณแม่ของลูก) เมื่อคุณพ่อเห็นก็ชอบทันที จึงเดินตามไปถึงบ้าน
 
    คุณแม่ของลูก เป็นคนสวยมาก มีอาชีพเย็บผ้า เลี้ยงดูคุณยาย อยู่เพียงลำพังสองคนแม่ลูก ใครที่จะมาจีบคุณแม่ต้องผ่านการพิจารณาจากคุณยายก่อน ถ้าหนุ่มคนไหนไม่เป็นที่ถูกใจคุณยายก็จะ นำไม้ปัดขนไก่มาปัด...ปัด...ปัด อยู่แถวๆนั้นทั้งๆที่ไม่มีฝุ่นเลย ทำให้หนุ่มคนนั้นไม่มีโอกาสได้คุยกับลูกสาว (คุณแม่ของลูก) แต่คุณพ่อสอบผ่านด่านแรกได้ คือ ไม่ต้องเจอกับไม้ขนปัดไก่ของคุณยาย ด้วยความรักที่คุณพ่อมีต่อคุณแม่ แม้การเดินทางระหว่างกรุงเทพฯกับโคราชในสมัยนั้น จะมีความลำบาก แต่คุณพ่อยินยอมเดินทางไปกลับกรุงเทพฯ-โคราชเป็นเวลาหลายปีจนคุณแม่ใจอ่อนยอมแต่งงานด้วย
 
    หลังแต่งงานกันแล้ว คุณพ่อก็พาคุณแม่มาอยู่ที่กรุงเทพฯ ท่านทั้งสองมีลูกด้วยกัน 3คน คือ พี่ชายคนโต พี่ชายคนที่สอง และตัวลูก ขณะที่ตัวลูกอายุประมาณ 2ขวบ คุณพ่อก็พาครอบครัวย้ายไปที่จังหวัดสระบุรี พอลูกอายุได้ 15ปี คุณพ่อก็ย้ายไปรับราชการที่จังหวัดขอนแก่นแต่เพียงลำพัง ส่วนคุณแม่และลูกๆก็ยังอยู่ที่จังหวัดสระบุรี
 
    คืนหนึ่ง เวลาประมาณสี่ห้าทุ่ม คุณแม่ก็บ่นว่าปวดหัว มีอาการอาเจียนสองสามครั้ง ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นก็ไม่มีอาการเจ็บป่วยใดๆเลย แต่คุณแม่ก็ไม่ยอมไปหาหมอ จากนั้นก็เข้านอนและหลับไป รุ่งเช้าเมื่อลูกไปปลุกท่าน แต่ปลุกเท่าไหร่คุณแม่ก็ไม่ตื่น จึงนำส่งโรงพยาบาล หมอวินิจฉัยว่า คุณแม่เสียชีวิตแล้ว เพราะหัวใจหยุดเต้น เมื่ออายุ 53ปี
 
    หลังจากคุณแม่เสียชีวิตไปได้ไม่นาน คุณพ่อได้รับฟังรายการธรรมะเพื่อประชาชนจากสถานีวิทยุที่จังหวัดขอนแก่น ในรายการมีการเอ่ยถึงเทปมงคลชีวิตของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว คุณพ่อฟังแล้วชอบมาก จึงดั้นด้นเดินทางมาด้วยรถบัสประจำทางจากจังหวัดขอนแก่นจนถึงวัด เพื่อซื้อเทปมงคลชีวิต เมื่อคุณพ่อมาเห็นวัดพระธรรมกายครั้งแรกก็ชอบทันที เพราะวัดสงบ สะอาด หลังจากนั้นคุณพ่อก็มาวัดทุกๆวันอาทิตย์ต้นเดือน และพาลูกมาด้วยทุกครั้ง
 
    เมื่อคุณพ่ออายุได้ 60กว่าๆก็เริ่มป่วยเป็นโรคหัวใจ เวลาเดินไกลๆจะหายใจไม่ออก แต่ก็ยังคงมาวัดตลอด ไม่ยอมขาดงานบุญเลยแม้แต่ครั้งเดียว ลูกต้องคอยถือเก้าอี้เดินตาม ท่านเหนื่อยตรงไหนก็นั่งพัก มีแรงก็ลุกเดินต่อไปจนถึงพื้นที่ที่จัดงานบุญ ต่อมาคุณพ่อเริ่มมีอาการน้ำลายยืด ขาเดินได้เพียงก้าวสั้นๆ และก้าวได้ช้ามาก หมอวิเคราะห์ว่า น่าจะเป็นเพราะน้ำท่วมสมอง จึงเข้ารับการผ่าตัดสมองแต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเลย ปัจจุบันคุณพ่ออายุได้ 68ปี มาวัดไม่ได้แล้วค่ะ ได้แต่นอนดูธรรมะจากดาวธรรม
 
    พี่ชายคนโตของลูก ตอนแรกๆตั้งแต่เกิดก็เป็นเด็กปกติ น่ารักมาก ผิวขาว อ้วน แต่พอขวบกว่าๆก็เริ่มชักเป็นระยะระยะ คุณแม่พยายามพาไปรักษากับหมอทุกแขนง ทั้งแผนปัจจุบัน และแผนโบราณ แต่ก็ไม่หายอาการชักได้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งหมอได้บอกว่า สมองได้ตายไปซีกหนึ่ง ทำให้แขนและขาด้านขวาพิการ พออายุได้ประมาณ 15ปี ก็เริ่มมีเนื้อปูดออกมาที่ด้านนอกของจมูกขนาดเท่าถั่วเขียว เนื้อนั้นโตแล้วก็แตก แล้วก็ขึ้นมาใหม่อีก
 
    หมอบอกว่า ที่เป็นโรคนี้เพราะสาเหตุเกี่ยวกับสมอง ไม่สามารถรักษาได้ อาการชักก็ยังคงมีเรื่อยมา อีกทั้งพี่ชายก็ไม่ยอมเดินจะใช้ก้นถัดเอา เขาจะกลัวเท้าแตะพื้นมากจะเขย่งเท้าหนีพื้นจนตัวเอียง ทำให้คนพยุงต้องรับคอยน้ำหนักของพี่ชายทั้งตัว คุณแม่ต้องล้มเพราะพี่ชายหลายครั้ง หลังจากคุณแม่เสียชีวิตแล้ว ลูกก็ได้ทำหน้าที่พาพี่ชายไปโรงพยาบาล ลูกต้องยกพี่ชายขึ้นจากรถเข็น ยกข้ามธรณีประตูซึ่งรถเข็นไม่สามารถผ่านได้ จากการที่ต้องยกพี่ชายซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าลูกเกือบ 2เท่าอยู่บ่อยครั้ง เป็นเหตุให้กระดูกสันหลังของลูกเคลื่อนจากปกติ มีผลต่อสุขภาพทำให้ลูกปวดศีรษะ หมดแรงอยู่บ่อยๆ
 
    พอพี่ชายอายุได้ประมาณ 22ปี เขาเริ่มทำร้ายตัวเอง ด้วยการกัดแขนจนเลือดออก ทำได้ระยะหนึ่งก็เปลี่ยนเป็นข่วนหน้าให้เลือดออก บางทีก็ทุบกระจกจนแตก กระจกบาดจนเลือดไหลเต็มไปหมด ปัจจุบันนี้เขาอายุได้ 36ปีแล้วก็ยังทำร้ายตัวเองอยู่ และอยู่ในความดูแลของพี่ชายบุญธรรม
 
    ตัวลูกเอง เคยทำงานอยู่ที่กรมป่าไม้ที่จังหวัดสระบุรี และทำธุรกิจขายตรงควบคู่ไปด้วย วันหนึ่งลูกไปสัมมนาที่กรุงเทพฯกว่าจะเสร็จก็เกือบตี2 ลูกจึงเดินทางกลับสระบุรีด้วยรถเมล์ ขณะที่ลูกหลับสนิทอยู่ที่เบาะด้านหลังรถ ก็สะดุ้งตื่นเพราะถูกโจรยกสร้อยออกจากคอ แต่ลูกไม่อยากมีเรื่องก็เลยเดินหนีโจร (ปล่อยให้โจรเอาสร้อยไป) แล้วไปนั่งเบาะด้านหน้ารถ จากนั้นลูกเห็นโจรไปเอาสร้อยของเหยื่อรายอื่นต่อไป ทีละราย ทีละราย จนถึงหน้ารถซึ่งลูกหนีไปนั่ง
 
    ลูกเกิดอาการทนไม่ได้ จึงยืนขึ้นแล้วพูดกับโจรแบบไม่กลัวว่า “จะมากเกินไปแล้ว ทำอย่างนี้ได้ยังไง” ขณะนั้นลูกอายุ 23ปี มีมีดคัทเตอร์เพียงอันเดียวแต่มีโจร 3คน โจรตอบกลับมาว่า “...เกี่ยวอะไรด้วย” ลูกจึงลุยด่าแบบไม่เลี้ยง จนในที่สุดพวกโจรทนฝีปากของลูกไม่ได้ ก็ต้องยอมแพ้หนีลงจากรถไป เมื่อพวกโจรหนีลงไปแล้ว ทุกคนซึ่งนิ่งอึ้งอยู่ตอนแรก ก็เข้ามาชื่นชมยินดีกับลูกเป็นการใหญ่
 
    เมื่อปี พ.ศ.2546 ลูกจะป่วยบ่อย มีอาการหมดแรง บางครั้งแทบจะไม่มีแรง แม้แต่จะหายใจก็เหนื่อยมาก และใบหน้าของลูกยังมีสิวอักเสบขึ้นเม็ดใหญ่มากขนาดลูกมะนาว แล้วจะสุกแตกออกมาเป็นหนองทำให้เจ็บปวดมาก อีกทั้งตาก็เป็นกุ้งยิงโดยเฉลี่ยประมาณ 2-3เดือนต่อหนึ่งครั้ง เป็นแต่ละครั้งจะปวดจนลืมตาแทบจะไม่ขึ้น เป็นหนองจนต้องไปกรีดเอาหนองออก แต่ช่วงหลังๆอาการเริ่มดีขึ้นแล้วค่ะ
 
คำถาม
 
1.บุพกรรมใด ทำให้คุณปู่พึงพอใจนั่งบนเก้าอี้ทั้งวันทั้งคืนเป็นเวลาหลายปี จนตัวแข็งตั้งฉากกับพื้น เป็นแผลกดทับ ต้องถูกผ่าตัดและเสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว คุณปู่มีคตินิมิตเป็นอย่างไร ตายแล้วไปไหนคะ ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่คะ
 
2.กรรมใด ทำให้คุณย่าต้องมาเสี่ยงตายกับลูกระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ที่ท่านไม่โดนลูกระเบิดเป็นเพราะเหตุใดคะ คุณย่าตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่คะ
 
3.บุญใด ทำให้คุณแม่มีรูปร่างหน้าตาสวยงามมาก คุณแม่เสียชีวิตอย่างง่ายดายเพราะบุพกรรมใดคะ คุณแม่ตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่ลูกอุทิศไปให้หรือไม่คะ
 
4.กรรมใด ทำให้คุณพ่อต้องถูกแกล้งให้ออกจากราชการอยู่เกือบปี แต่ก็สมัครเข้าไปใหม่ที่เดิม และได้อยู่จนเกษียณคะ
 
5.บุพกรรมใด ทำให้คุณพ่อป่วยเป็นโรคหัวใจ และโรคน้ำท่วมสมองคะ จะมีวิธีการแก้ไขกรรมนี้ให้หมดไปได้อย่างไรคะ
 
6.คุณพ่อและพี่ชายบุญธรรม ในอดีตชาติเคยเกี่ยวข้องกันมาอย่างไรจึงได้มาเป็นพ่อ-ลูกกันอีก ทำไมต้องไปพบกันในสภาพที่พี่ชายบุญธรรมไม่มีพ่อแม่แท้ๆคอยดูแลคะ
 
7.กรรมใด ทำให้พี่ชายคนโตเป็นโรคชักและต้องพิการแขนขาลีบไปหนึ่งข้าง สมองตายไปหนึ่งซีก มีเนื้องอกออกมาที่จมูก และชอบทำร้ายตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้คะ และทำไมเขาจึงกลัวพื้นไม่กล้าเหยียบ ทำอย่างไรเขาจึงจะหมดจากกรรมนี้คะ
 
8.ตัวลูก และพี่ชายคนที่2 มีบุพกรรมใดร่วมกับพี่ชายคนโต จึงเกิดมาเป็นพี่น้องกัน และต้องมาคอยดูแลพี่ชายคนโตซึ่งพิการทางสมอง ต้องเลี้ยงดูกันไปจนตลอดชีวิต ทำอย่างไรลูกและพี่ชายคนที่2 จึงจะหมดกรรมนี้คะ
 
9.การที่ลูกต้องยกพี่ชายคนโตซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าลูกเกือบ 2เท่า จนทำให้ลูกเป็นโรคกระดูกสันหลังเคลื่อน กับที่ลูกต้องมาคอยดูแลทำความสะอาดให้คุณปู่เมื่อท่านถ่ายเลอะเทอะ เกิดจากบุพกรรมใดคะ
 
10.กรรมใดทำให้ลูกมีอาการหมดแรง มีสิวอักเสบเม็ดขนาดใหญ่ขนาดลูกมะนาวขึ้นที่ใบหน้า และเป็นตากุ้งยิงทุกๆ 2-3เดือนคะ
 
11.เหตุใด ลูกจึงเป็นคนกล้าดีเดือด กล้าที่จะสู้กับโจร 3คน แม้ลูกมีมีดคัทเตอร์เพียงด้ามเดียวคะ กรรมใดทำให้ลูกตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนั้นคะ
 
12.ทำไม ตัวลูก พี่ชายคนที่2 และพี่ชายบุญธรรม จึงอยู่เป็นโสดกันหมดคะ เราทั้งสามคน และคุณพ่อ เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร เคยทำหน้าที่อะไรในยุคของพระราชาองค์ที่ออกบวชคะ
 
13.ลูกมีเพื่อนรุ่นน้องซึ่งร่วมสร้างบารมีด้วยกันคนหนึ่ง เพื่อนคนนี้เคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร และเคยทำหน้าที่ใดในหมู่คณะของพระราชาองค์ที่ออกบวชคะ
 
กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างสูง
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตุ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ
 
1.คุณปู่พึงพอใจนั่งเก้าอี้ทั้งวันทั้งคืนเป็นเวลาหลายปี จนตัวแข็งตั้งฉากกับเก้าอี้และเป็นแผลกดทับ ต้องถูกผ่าตัดและเสียชีวิต เพราะในอดีตคุณปู่ได้มีอาชีพคล้ายๆตำรวจในปัจจุบันนี้ เมื่อจับผู้ร้ายได้แล้ว ก็ชอบมัดกับเก้าอี้ให้ทรมานเพื่อให้สารภาพ ผู้ต้องหาบางคนถูกมัดติดกับเก้าอี้ แล้วถูกปล่อยให้อดข้าวอดน้ำเป็นวันๆ วิบากกรรมนี้มาส่งผล
 
  • คุณปู่ตายแล้ว ถูกเจ้าหน้าที่นำตัวไปยมโลกด้วยกรรมดื่มสุรา กำลังโดนเจ้าหน้าที่กรอกน้ำทองแดงร้อนอยู่ด้วยความทุกข์ทรมานมาก ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้วก็ได้รับลดหย่อนผ่อนโทษลงมา แต่ยังไม่หมดกรรม ต้องทำบุญอุทิศไปให้ท่านอีกบ่อยๆ
 
2.คุณย่าต้องมาเสี่ยงตายจากลูกระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 แต่รอดจากลูกระเบิดได้ เพราะในอดีตคุณย่าได้เคยอนุโมทนาบาป พลอยยินดีที่กองทัพเมืองของตนไปทำสงครามกับอีกเมืองหนึ่ง แต่ก็ไม่มีวิบากกรรมที่ไปฆ่าใครโดยตรง จึงทำให้อยู่ในสถานการณ์นั้น แต่รอดตายได้
 
  • คุณย่าตายแล้ว ไปเป็นภุมมเทวาระดับทั่วไป ด้วยบุญที่ทำตามประเพณีอยู่บ้าง ได้รับบุญที่อุทิศไปให้ก็ทำให้มีสภาพที่ดีขึ้นทุกด้าน ให้ทำบุญอุทิศไปให้อีกบ่อยๆ
 
3.คุณแม่มีหน้าตาสวยงาม เพราะมีบุญช่วยทำความสะอาด ปัดกวาดลานพระเจดีย์ มาส่งผล
 
  • คุณแม่เสียชีวิตอย่างง่ายดาย เพราะท่านหมดอายุขัย ตายแล้ว ก็วนเวียนอยู่ระยะหนึ่งที่บ้าน จนหมดความผูกพันกับครอบครัว ก็ไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์แล้ว จึงไม่อาจรับบุญที่อุทิศไปให้ได้
 
4.คุณพ่อถูกแกล้งให้ออกจากราชการเกือบปี แต่ก็สมัครเข้าไปได้ใหม่และอยู่จนปลดเกษียณ เพราะในอดีตเคยรับราชการ และเคยแกล้งบีบลูกน้องให้เขาออกไป มาส่งผลให้มาถูกแกล้งให้ออกไปดังกล่าว
  • แต่มีบุญช่วยเหลือลูกน้องคนอื่นๆ และสงเคราะห์ลูกน้อง บริวาร มาส่งผลจึงกลับเข้ารับราชการใหม่ได้
 
5.คุณพ่อป่วยเป็นโรคหัวใจ และโรคน้ำท่วมสมอง เพราะในอดีต ท่านเคยเกิดในสังคมเกษตรกรรม ได้ใช้แรงงานสัตว์ที่แก่มากแล้วทำงาน เช่น วัวแก่ ควายแก่ จนมันทำงานไม่ไหว เมื่อมันทำงานไม่ไหวก็นำมันมาฆ่าทำเป็นอาหาร วิบากกรรมดังกล่าวมารวมส่งผล
 
  • จะแก้ไขก็ให้ทำบุญทุกบุญทั้ง ทาน ศีล ภาวนา และปล่อยสัตว์ปล่อยปลา ปล่อยสัตว์ใหญ่ เช่น วัว ควาย แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้สัตว์ที่เราเคยเบียดเบียนเอาไว้บ่อยๆ
 
6.คุณพ่อกับพี่ชายบุญธรรมมาเป็นพ่อ-ลูกกันในปัจจุบัน เพราะในอดีตก็ได้เคยเป็นพ่อ-ลูกกันมา แต่ในชาตินั้นพี่ชายบุญธรรมชอบดื้อ เคยหนีออกจากบ้านไปช่วงหนึ่ง เพราะโกรธที่พ่อ-แม่อบรมสั่งสอน
 
  • และทุกครั้งที่โกรธก็มักจะบอกว่า “ชาติต่อไปอย่าได้มาเป็นพ่อเป็นแม่กันอีกเลย” แต่ภายหลังก็มาขอขมา อีกทั้งมีบุญที่สร้างมาร่วมกัน บุญนี้จึงบันดาลให้คุณพ่อเห็นแล้วเอ็นดู และรับมาเป็นลูกอีก
  • เหตุที่ทำให้มาพบพี่ชายบุญธรรม ในสภาพที่ไม่มีพ่อแม่แท้ๆคอยดูแล เพราะวจีกรรมดังกล่าวที่เวลาโกรธพ่อ-แม่ก็มักจะพูดว่า “อย่าได้มาเป็นพ่อเป็นแม่กันอีกเลย” มาส่งผล
  • แต่ภายหลังได้มาขอขมาพ่อแม่ในชาตินั้น กับบุญที่ทำร่วมกันมาจึงทำให้มาอยู่ร่วมกันอีกดังกล่าว
 
7.พี่ชายคนโตเป็นโรคชัก และต้องพิการแขนขาลีบไปหนึ่งข้าง สมองตายไปหนึ่งซีก มีเนื้องอกออกมาที่จมูก ชอบทำร้ายตัวเอง เพราะในอดีตชาติ เป็นนักเลงชอบดื่มเหล้า เมื่อเมาแล้วชอบไปชกต่อยชาวบ้าน
 
  • ครั้งหนึ่งมีเรื่องทะเลาะกับขี้เมาอีกวงหนึ่ง จึงเอาขวดเหล้าแบบโบราณ หรือคนโทเหล้า ทุบฟาดไปที่ใบหน้า จนดั้งจมูกของเขาอักเสบ เมื่อเขาล้มลงไปแล้วก็จับหน้าของเขาโขกไปกับพื้น จนหน้าและจมูกของเขาเละ ยับเยินเป็นแผลเรื้อรัง บางครั้งก็ทะเลาะกับคู่อริ แล้วทำร้ายเขาจนเขาพิการทางสมอง วิบากกรรมดังกล่าวมารวมส่งผล
  • ที่กลัวพื้นไม่กล้าเหยียบพื้น เพราะครั้งหนึ่งเคยทำโทษหลานด้วยอารมณ์แบบไม่มีเหตุผล ด้วยการขังไว้บนเรือนไม่ให้ออกจากเรือน โดยบอกว่าถ้าออกจากเรือนไปเหยียบพื้นเมื่อใด จะถูกลงโทษอย่างรุนแรง วิบากกรรมนี้มาร่วมส่งผลบันดาลให้พี่ชายคนโตเกิดความรู้สึกไม่กล้าเหยียบพื้นดังกล่าว
  • จะแก้ไขก็ให้สั่งสมบุญทุกบุญ แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ที่เคยเบียดเบียนเขาเอาไว้
 
8.ตัวลูกและพี่ชายคนที่2 มาเป็นพี่น้องกัน และต้องมาดูแลพี่ชายคนโตซึ่งพิการทางสมอง ต้องเลี้ยงดูกันไปจนตลอดชีวิต เพราะลูกทั้ง 3คนในชาตินั้นก็เป็นพี่น้องกันเหมือนในชาตินี้ เมื่อพี่ชายคนโตได้มาขอเงินจากลูกทั้งสองเพื่อไปซื้อเหล้ากิน ลูกทั้งสองก็มักจะให้เงินไปด้วยความรำคาญบ้าง ด้วยความรักพี่น้องบ้าง วิบากกรรมนี้มาส่งผลให้ต้องมาดูแลพี่ชายคนโต
 
  • ลูกและพี่ชายคนที่2 ก็ต้องอดทน อย่าไปกลุ้มใจ และให้ทำบุญทุกบุญจนตลอดชีวิต แล้วอธิษฐานจิตให้พ้นจากวิบากกรรมนี้ เพราะพี่ชายคนโตคงจะไม่หาย เนื่องจากยังมีวิบากกรรมอยู่ (กรรมยังหนักอยู่ในระดับกลางๆ)
 
9.การที่ลูกต้องยกพี่ชายคนโตซึ่งมีน้ำหนักมากว่าเกือบ 2เท่า จนกระดูกสันหลังเคลื่อน เพราะกรรมในอดีต ลูกได้ไปเกิดในสังคมเกษตรกรรม ได้ใช้แรงงานสัตว์ ให้มันแบกของซึ่งหนักเกินไปกว่าที่สัตว์นั้นจะรับได้ จนสัตว์นั้นทุกข์ทรมานมาก มาส่งผลให้ลูกต้องเจอในสภาพเดียวกันกับสัตว์ที่ถูกใช้แรงงานดังกล่าว
 
  • ที่ลูกต้องมาทำความสะอาดให้คุณปู่ที่ถ่ายเลอะเทอะ เพราะเป็นบุญใหม่ของลูกที่จะได้สงเคราะห์ญาติผู้ใหญ่ อีกทั้งเป็นบุญเก่าของคุณปู่ที่ได้เคยสงเคราะห์ญาติในอดีต มาส่งผล
 
10.ลูกมีอาการหมดแรง มีสิวอักเสบเม็ดใหญ่ขนาดลูกมะนาวขึ้นที่หน้า เป็นตากุ้งยิงทุก 2-3เดือน เพราะ...
  • ในอดีตชอบมัดสัตว์ส่งให้เขาฆ่า จึงทำให้หมดแรง
  • ชอบพูดจาให้คนอื่นเสียหน้า ขายหน้า อับอาย จึงทำให้เป็นสิวเม็ดใหญ่ขนาดลูกมะนาวขึ้นที่หน้า
  • อีกทั้ง ชอบมองจับผิดคน และใช้ลูกนัยน์ตาเล็งธนูเพื่อจะยิงสัตว์ที่ล่าเพื่อเป็นเกมกีฬา มารวมส่งผลให้เป็นตากุ้งยิงทุก 2-3เดือน
 
11.ลูกเป็นคนกล้าดีเดือด กล้าที่จะสู้กับโจร 3คน แม้ลูกมีมีดคัทเตอร์เพียงด้ามเดียว เพราะติดนิสัยจากชาติที่เคยเกิดผู้ชาย มักไม่ชอบยอมใครง่ายๆ
 
  • ลูกต้องไปอยู่ในสถานการณ์อย่างนั้น เพราะในอดีตได้เคยไปสมน้ำหน้า เยาะเย้ยคนที่ไม่ชอบหน้ากันซึ่งถูกโจรจี้ มาส่งผล
 
12.ตัวลูก พี่ชายคนที่2 พี่ชายบุญธรรม อยู่เป็นโสดทั้งหมดในตอนนี้ เพราะยังไม่เจอคนที่ถูกใจ กับเบื่อหน่ายในการครองเรือนด้วย
 
  • ทั้งสามคนและคุณพ่อ เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบกองเสบียง ประเภทตามอารมณ์ บางทีก็เต็มที่ มีปีติฟังธรรมแล้วก็อยากประพฤติพรหมจรรย์ แต่พอห่างไปก็จะไปครองเรือน เบื่อๆอยากๆดังนี้อยู่เรื่อยๆ จิตใจยังโลเล แต่ก็เคยบวชระยะสั้นกันมา
 
13.เพื่อนรุ่นน้องที่สร้างบารมีร่วมกันอยู่ ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบกองเสบียง และก็เป็นประเภทเบื่อๆอยากๆเหมือนตัวลูก...เดี๋ยวก็เบื่อหน่ายในการครองเรือน เดี๋ยวก็เบื่อหน่ายในการไม่ครองเรือน
  • ถ้าชาตินี้อยากประพฤติพรหมจรรย์จะต้องมุ่งมั่นให้เต็มที่ ต้องมีกำลังใจสูงเพื่อจะได้เปลี่ยนแปลงผังเดิม มาเป็นผังใหม่ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ต้องแก้เรื่องเบื่อๆอยากๆ ให้มาเป็นเบื่อหน่ายในการครองเรือนอย่างแท้จริง
  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลย


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม