อยากบอกว่ารัก

CASE STUDY

อยากจะบอกว่ารัก

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

ออกอากาศครั้งแรก วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

เอาโลกมาทำปากกา เอานภามาแทนกระดาษ เอาน้ำหมดมหาสมุทรแทนหมึกวาด ประกาศพระคุณของพ่อแม่ ก็ยังไม่พอ...แต่เหมือนบางอย่างปิดบังไว้ให้มองไม่เห็นพระคุณ น้องชายของลูกจึงหมั่นเติมความทุกข์ให้พ่อแม่ตลอดมา ส่วนสามีของลูก กว่าจะเอื้อนเอ่ยวาจาเรียกพ่อของตนว่า "พ่อ"_ได้ ก็ผ่านไปแล้วเกือบ 20ปี ลูกไม่เห็นใครอีกแล้ว ที่จะหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิดบังว่า กรรมใดจึงให้ผลเช่นนี้ นอกจากคุณครูไม่ใหญ่ จึงขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ฝันในฝันเรื่องราววงเวียนชีวิตนี้ด้วยนะเจ้าคะ

น้องชายของลูก ตอนเด็กๆก็ขยันขันแข็งดี แต่เมื่อโตขึ้นกลับทำให้แม่ต้องทุกข์ใจอย่างหนัก ทั้งนี้เพราะน้องเจ้าชู้มาก มีผู้หญิงมาติดพันมากมาย อีกทั้งเขายังเปลี่ยนตัวเองจาก ลูก กลายเป็น ลอก คือ ปอกลอกขอเงินพ่อแม่ไปเลี้ยงดูผู้หญิงตลอด ทั้งๆที่รู้ว่า ค่า GDP_หรือรายได้มวลรวมของพ่อแม่มาจากการตัดเย็บเสื้อผ้าเท่านั้น ทำให้ค่า GNH_หรือความสุขมวลรวมของแม่ดิ่งลงทุกวัน เนื้อเพลงค่าน้ำนมนั้น เขาจำได้ทุกคำ แต่การกระทำนี่สิ กลับเห็นผู้หญิงสำคัญกว่าพ่อแม่ของตนเอง

พ่อแม่จึงตั้งข้อสันนิษฐานแบบฟันธงว่า น้องชายจะต้องถูกคุณไสยแน่นอน ท่านพาน้องชายไปทำพิธีถอนคุณไสย อาจารย์ไสยเวทใช้ไข่ดิบหลายฟอง ร่ายคาถากลิ้งวนไปบนตัวน้องชายตั้งแต่หัวถึงเท้า แล้วตอกไข่ใส่กะละมัง พ่อถึงกับนิ่งอึ้งตะลึงงัน เพราะสิ่งที่ออกมาจากไข่ คือ เส้นผมผู้หญิงยาวๆหลายเส้น และตะปู 3นิ้ว 30กว่าตัว แต่เมื่อพาน้องชายกลับบ้าน อาการก็ไม่ดีขึ้น ญาติแนะนำให้ทำพิธี เผาคนเป็น ด้วยการจัดงานศพจริง จากนั้นนำหุ่นและของใช้ของน้องชายใส่ในโลง จุดไฟเผาให้เคราะห์โศกตายไปกับหุ่นที่เผา แต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม

วันหนึ่ง น้องชายเครียดมาก ดิ้นทุรนทุรายพราดๆ จับคอเสื้อพ่อจนขาดหลุดลุ่ย นอนชักแหงกๆ แสดงอาการตาขวางดุร้าย แยกเขี้ยวยิงฟัน แถกเหงือก ต้องจับไปโรงพยาบาลล่ามแขนขาไว้กับเตียง น้องชายไม่ยอมทานอะไรเลย นอนนิ่งเงียบ ตาขวางดุ สีหน้ากังวล บางครั้งก็ร้องเสียงหลงเสียจนน่าเวทนา "โว้ย"_ยาวๆ ลั่นโรงพยาบาล แม่ต้องเอาน้ำมนต์มาให้ดื่ม และเช็ดตัวให้จึงสงบลง พอออกจากโรงพยาบาล แม่ก็พาไปบวชที่วัดป่า ช่วงบวช น้องชายหน้าตาผ่องใส ดูสงบเยือกเย็น พูดจาเป็นที่เลื่อมใสของพระและญาติโยม แต่พอสึกออกมา อาการก็เหมือนเดิม ตอนนี้พ่อแม่ต้องแยกกันอยู่กับน้องชาย เพื่อไม่ให้ทุกข์ใจ

สามีของลูก ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยเรียกพ่อของเขาว่าพ่อเลย เพราะสามีรู้สึกว่า พ่อไม่ค่อยชอบตัวเขา พ่อสามีชอบดื่มสุราเมาอาละวาด บางครั้งแต่งกายเลียนแบบพระ โดยใช้ผ้าห่มแทนจีวรก็มี จนแม่สามีทนไม่ไหว จึงใช้ปัญญาเข้าสยบ โดยร่วมมือกับหมอ รอจังหวะที่พ่อสามีเมาไม่ได้สติ แม่สามีก็เอาเลือดหมูมาป้ายที่ปากท่าน แล้วพาไปหาหมอ โดยให้หมอบอกว่า เป็นโรคความดันโลหิตสูง ถ้าไม่เลิกดื่มอาจตายได้ ทำให้พ่อสามีเลิกสุราได้ถึงสิบกว่าปี

จากนั้นไม่นาน สามีของลูกสอบเอนทรานซ์ได้ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เขาจึงต้องเดินทางจากบ้านที่จากเชียงใหม่สู่หาดใหญ่ ก่อนที่จะไป พ่อของเขาขอให้เขาเรียกว่าพ่อสักคำ แม้คำนี้จะพูดไม่ยาก แต่เขาก็ทำใจอยู่นานก่อนที่เอื้อนเอ่ยว่า "พ่อ" ท่ามกลางความปีติใจของแม่และน้องสาวของเขา ที่ยืนแอบฟังอยู่ข้างบันได บ่งบอกถึงนิมิตหมายที่ดีระหว่างพ่อกับลูก

แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อสามีมาเรียนหาดใหญ่แล้ว พ่อของเขาก็ได้เสียชีวิต ด้วยโรคเส้นโลหิตในสมองแตก อายุได้ 54ปี โดยที่แม่สามีก็ไม่แจ้งข่าวนี้ให้สามีทราบ เพราะกลัวว่าหากกลับมางานศพพ่อ ญาติฝ่ายพ่ออาจจะห้ามไม่ให้กลับไปเรียนต่อ พอปิดเทอมภาคฤดูร้อน สามีทราบข่าวการอบรมธรรมทายาทภาคฤดูร้อนเมื่อปี พ.ศ.2528 รุ่นที่13 เป็นรุ่นนอกวัดรุ่นแรก จึงตั้งใจบวชในโครงการนี้ให้กับพ่อของเขา

ช่วงที่เป็นนักศึกษา สามีได้ร่วมจัดนิทรรศการทางก้าวหน้า ภาคใต้ ครั้งที่1 และจัดพิธีตักบาตรพระภิกษุสงฆ์พันรูป สมัยนั้นถือว่ามากที่สุดของภาคใต้ทีเดียว อีกทั้งยังได้ไปฝึกสมาธิที่วัดปากน้ำหาดใหญ่ และได้อุปัฏฐาก หลวงปู่แอบ ซึ่งอยู่ที่วัดนั้นด้วย ภายหลังจึงทราบว่า หลวงปู่แอบเป็นลูกศิษย์ที่พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำฯ ส่งไปเผยแผ่ธรรมะทางภาคใต้

บั้นปลายชีวิต ก่อนที่หลวงปู่แอบจะมรณภาพ สามีบีบนวดบรรเทาอาการปวดเมื่อยให้ แต่อาการของหลวงปู่แอบกลับทรุดหนักลงจนมรณภาพ เพื่อนๆบอกว่า สามีอาจจะนวดแรงเกินไป สามีจึงคาใจมาจนทุกวันนี้

สามียังมีเรื่องคาใจอีก 2เรื่อง เรื่องแรก สมัยเขายังเด็กมากอายุ 3ขวบ มีนิสัยประหลาด คือ ชอบเด็ดพริกจากต้นมากินเล่นเหมือนขนม เขากินพริกจนพุงพลิก ผู้ใหญ่ห้ามแล้วห้ามอีก ก็ยังแอบเด็ดกินเรื่อยๆ จนผู้ใหญ่ต้องแอบบี้ลูกมะเขือพวงทาพริกไว้ สุดท้ายสามีผู้ชนะความเผ็ดก็ต้องแพ้ความขม เลิกกินพริกไปเอง

เรื่องที่2 ตอนอายุ 7ขวบ สามีกับเพื่อนแอบไปเล่นน้ำในคลองใกล้ๆต้นตาลเก่า ที่เคยมีคนตายมาแล้วหลายราย ความที่อยากเล่นน้ำแต่ว่ายไม่แข็ง ว่ายไปได้ครึ่งคลองก็จม พอเพื่อนเห็นสามีจมน้ำ จึงถือหลักกลัวต้องโกย โกยอ้าวกลับไปหลบที่บ้าน โดยไม่บอกใครเลยว่าสามีของลูกจมน้ำ แต่คงเป็นบุญเก่าของสามี เพราะมีคนเห็นเด็กกำลังจมน้ำ ก็ตะโกนร้องเรียกหาคนช่วย คนกวาดขยะคนหนึ่ง รีบถอดเสื้อผ้าไหว้ครู แล้วกระโจนลงน้ำ ช่วยสามีขึ้นมาได้ คนกวาดขยะบอกว่า มีเงาดำมืดคลุมร่างของสามีเอาไว้ สามีสิ้นสติ ตัวคล้ำ มีดินเต็มปาก แต่นำส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา

คุณตาของสามี ชอบตกปลา ชนไก่ ท่านเคยพบเรื่องประหลาด ช่วงที่สามีอายุได้ 3ขวบ เย็นวันหนึ่ง คุณตานั่งสูบบุหรี่บนบ้าน เห็นสามีเดินขึ้นบ้านมาแล้วเข้าไปในห้องนอนเล็ก คุณตาคิดว่าคงจะเข้าไปนอน มีญาติมาถามหาสามีบอกว่า จะพาไปอาบน้ำ คุณตาบอกว่า เห็นเข้าไปในห้องนอน ญาติคนนั้นเข้าไปดู ก็บอกว่าไม่เห็นมี คุณตายืนยันหนักแน่นว่า คุณตาเห็นกับตา ก็เลยหาตัวกันใหญ่ ไปเจอสามีกำลังนอนอยู่ที่บ้านป้า ก็เลยงงกันใหญ่ว่า คนที่คุณตาเห็นเป็นใคร

หลังจากนั้น คุณตาเริ่มมีอาการซึม และมีอาการประหลาด คือ กลางวันจะนอนซมแต่ตกกลางคืนจะกระปรี้กระเปร่า แอบเข้าครัวไปค้นตู้กับข้าวหาอะไรกิน แต่พอมีคนมาเจอ ก็จะหมดเรี่ยวแรงทันที ต่อมาอาการทรุดหนักลง เริ่มเพ้อ ลุกขึ้นนั่งกระตุกเบ็ดบอกว่า "ได้ปลาแล้ว"_บางครั้งเหมือนมีอะไรติดคอ ร้องขอให้ช่วยหาอะไรปั่นคอหน่อย เหมือนปั่นเสลดที่คอไก่ชน สุดท้ายคุณตาก็เสียชีวิต เมื่ออายุได้ 75ปี

แม่สามี เข้าวัดแถวบ้านทำบุญช่วง 10ปีสุดท้ายก่อนเสียชีวิต ช่วยงานจัดดอกไม้ที่วัดแถวบ้านเสมอๆ เมื่อท่านอายุได้ 68ปี ป่วยเป็นมะเร็งที่ปอด ดูดน้ำหรือทานอาหารชนิดเหลวไม่ได้เลย สำรอกออกหมด หมอบอกว่า มะเร็งเกาะติดหลอดอาหาร ในวันสุดท้ายราว 6โมงเย็น ท่านเรียกหาพระ อยากจะทำบุญ ญาติไปนิมนต์เจ้าอาวาสวัดใกล้บ้านมาให้ท่านถวายสังฆทาน พระสวดให้พร แม่สามีก็มีสติดี อนุโมทนารับบุญ เสียงดังฟังชัด จนคิดว่าท่านคงยังไม่ไปแน่ ซึ่งตอนนั้นมีญาติมาดูใจเต็มบ้าน

หลังจากพระกลับไปแล้ว แม่สามีที่นอนอยู่ ได้ยกมือขึ้นไหว้ไปทางปลายเตียง ยื่นแขนไปข้างหน้า พูดว่า "ไปซิ...ไปกันเถอะ" ญาติๆแปลกใจว่า ท่านพูดกับใคร พอตกดึกอาการหนัก ต้องนำส่งโรงพยาบาล รุ่งเช้าพยาบาลบอกว่า แม่สามีนอนหลับแล้วทำท่าฟ้อนรำอยู่บนเตียง แม่สามีบอกว่า ฝันว่ามีคนมาร่ายรำต้อนรับและชวนไปอยู่ด้วย วันถัดมาท่านก็จากไปอย่างสงบ อายุได้ 68ปี โดยน้องสาวสามีและเพื่อนได้ช่วยกันสวดคาถาชินบัญชรให้ท่านฟังตลอด

งานศพคืนแรกราว 2ทุ่ม หลานข้างบ้านได้ยินเสียงงานรื่นเริงดังมากจากบ้านของแม่สามี และช่วงเที่ยงคืน เพื่อนข้างบ้านเห็นแม่สามีเดินไปมาที่ชั้นล่างของบ้าน

ลูกชายของลูก ได้บวชสามเณรลูกแก้วภาคฤดูร้อน 2ครั้ง ได้รับไตรคุณธรรมถึง 2ปีซ้อน ลูกและครอบครัวปลื้มมากที่ลูกชายได้บวชตั้งแต่ยังเล็ก บวชครั้งแรกลูกชายนั่งสมาธิ ได้เห็นดวงแก้วและองค์พระใสๆ บางครั้งก็เห็นพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ

ครั้งหนึ่ง ที่โรงเรียนจัดสอนสมาธิ ลูกชายนั่งสมาธิโงกเงก พระที่มาสอนนึกว่าลูกชายนั่งหลับ จึงลงโทษให้นั่งนานๆ พอสามีไปรับลูกชายกลับบ้าน ลูกชายเล่าว่า "หลวงปู่บอกพ่อจะขายที่ได้ 2แปลง" สามีนึกถึงที่ดินที่บอกขายมานานหลายปี ซึ่งครอบครัวเราได้ช่วยกันอธิษฐานจิตไว้ให้ขายได้ จนหุ้นส่วนตายไปหลายคนแล้วยังขายไม่ได้ แต่จากนั้นเพียง 3วัน ก็มีคนมาติดต่อให้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินแปลงที่ขายยากที่สุด ในราคา 7.7ล้าน อีก 3เดือนถัดมา สามีก็ขายที่ได้อีกแปลงในราคา 1.9ล้านอย่างง่ายดาย โดยผู้ซื้อไม่ต่อรองแม้แต่คำเดียว ซึ่งราคาที่ขายสูงกว่าราคาประเมินมาก ทำเอาเศรษฐีที่ดินอย่างลูกต้องเฮกันลั่นทุ่ง รีบทั้งวิ่งและเต้นนำเงินที่ได้ส่วนหนึ่งไปใช้หนี้ และอีกส่วนหนึ่งนำมาทำบุญต่างๆค่ะ ถึงลูกจะยังไม่รวยเงินแต่ลูกเริ่มต้นชีวิตของการเป็นผู้ให้ เหมือนคุณครูไม่ใหญ่แล้วค่ะ

คำถาม

1.น้องชายถูกคุณไสยหรือไม่ เหตุใดพิธีต่างๆจึงไม่ได้ผล พ่อ-แม่มีบุพกรรมใดกับน้องชาย ทำให้ต้องทุกข์ทรมานใจ จะแก้ไขได้อย่างไร น้องชายจะได้ไม่ต้องสร้างบาปกรรมกับพ่อ-แม่อีกคะ

2.พ่อสามีมีกรรมใด จึงเสียชีวิตด้วยโรคเส้นโลหิตในสมองแตก ตายแล้วไปไหน รับบุญได้หรือไม่ ท่านแต่งกายเลียนแบบพระในเวลาเมาจะมีวิบากกรรมใด มีอะไรดลใจให้สามีไม่เรียกพ่อของเขาว่า "พ่อ" สามีจะมีเวรติดตัวไปหรือไม่ จะแก้ไขอย่างไรคะ

3.สามีมีส่วนทำให้หลวงปู่แอบ อาการทรุดหนักลงหรือไม่ ถ้ามีจะแก้ไขอย่างไร หลวงปู่แอบมรณภาพแล้วไปอยู่ที่ใด ทำไมสามีจึงได้มาอุปัฏฐากหลวงปู่แอบในช่วงสุดท้ายคะ

4.กรรมใด ทำให้สามีตอนเด็กชอบกินพริกมาก พอโตขึ้นก็เกือบจมน้ำตาย คนกวาดขยะที่ช่วยสามีเห็นเป็นเงาดำคลุมร่างสามีไว้ เป็นเรื่องจริงหรือไม่ เกี่ยวข้องกับคนที่จมน้ำตายหลายรายที่บริเวณนั้นหรือไม่คะ

5.ที่คุณตาของสามีเห็นสามีเดินเข้าห้องไป เป็นสามีจริงๆหรือท่านตาฝาดไป คุณตาของสามีป่วยเป็นอะไร ทำไมกลางวันจะนอนซมแต่ตกกลางคืนมีแรงลุกไปไหนมาไหนได้เอง ท่านตายแล้วไปไหน จะมีวิธีช่วยเหลือท่านได้อย่างไรคะ

6.แม่สามีใช้กุศโลบายให้พ่อสามีเลิกเหล้าได้หลายปี จะมีผลอย่างไรบ้าง ก่อนเสียชีวิต แม่สามีพูดกับใครว่า "ไปซิ...ไปกันเถอะ"_และที่โรงพยาบาลแม่สามีร่ายรำ เพราะเห็นอะไร แม่สามีตายแล้วไปไหน ตอนนี้เป็นอย่างไร คืนงานศพวันแรก แม่สามีกลับมาบ้านจริงหรือไม่ ทำไมจึงมีเสียงเหมือนมีงานรื่นเริงที่บ้านคะ

7.เหตุใด ลูกจึงขายที่ดินของสามีได้ หลังจากที่ลูกชายบอกเพียง 3วัน เป็นเพราะพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯช่วยเหลือ ตามที่ครอบครัวของลูกได้ช่วยกันอธิษฐานจิตไว้หรือไม่ หรือเป็นเพราะลูกชายรับรู้กับพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯได้คะ บางทีเขาก็บอกว่าได้ไปขี่ม้าแก้ว บางทีก็ไปวิมานของแม่สามี สมาธิของลูกชายเป็นอย่างไร ต้องแก้ไขอะไรบ้างคะ ลูกชายมีบุญบวชตลอดชีวิตหรือไม่คะ

8.ตัวลูก สามี ลูกชาย ลูกสาว พุทธันดรที่ผ่านมา สร้างบุญมากับหมู่คณะอย่างไร มีผลการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างไรบ้างคะ

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง

ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที

แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.น้องชายไม่ได้ถูกคุณไสย ดังนั้นพิธีกรรมต่างๆจึงไม่ได้ผล ในอดีตน้องชายมีนิสัยคลั่งความรัก ติดในกามคุณคล้ายชาตินี้

พ่อกับแม่ก็มีกรรมคล้ายกัน ที่เคยทำให้พ่อแม่ในอดีตของท่านทั้งสองทุกข์ใจ ดังนั้นเมื่อท่านทั้งสองมาเป็นสามี-ภรรยากัน จึงทำให้ดึงดูดลูกที่จะก่อเหตุให้พ่อแม่เดือดร้อนใจมาเกิด

เป็นกรรมเก่าของพ่อแม่ ที่เคยทำกับพ่อแม่ของตนดังกล่าว และเป็นกรรมใหม่ของน้องชาย ที่ทำกับพ่อแม่ของตนในชาตินี้
จะแก้ไข ก็ต้องพยายามดึงน้องชายให้คบกับบัณฑิต และกัลยาณมิตร อีกทั้งเวลาลูกทำบุญก็อธิษฐานให้เขากลับตัวได้

2.พ่อสามีเป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตกตาย เพราะกรรมในอดีตและปัจจุบัน ได้ฆ่าสัตว์ทำกับแกล้มสุรา มารวมส่งผล

ตายแล้ว ก็ถูกเจ้าหน้าที่พาตัวไปยมโลก ในขุมสุรา กำลังโดนเจ้าหน้าที่กรอกน้ำทองแดงร้อนอยู่ด้วยความทุกข์ทรมานมาก เพราะกรรมดื่มสุรา ที่ไม่ได้ไปมหานรก เพราะต่อมาภายหลังได้เลิกการดื่มสุราเป็นระยะเวลานาน อีกทั้งได้ทำบุญตามประเพณีบ้างมาอุ้มเอาไว้

เมื่อเมาแล้วแต่งกายเลียนแบบพระ ก็จะทำให้ต้องไปเสวยผลบาปในขุมที่แต่งกายเลียนแบบพระ คือ จะถูกให้ห่มผ้าที่มีไฟลุก เป็นทุกข์ทรมานอีกยาวนาน

สามีไม่ยอมเรียกพ่อว่า "พ่อ" เพราะเคยผูกโกรธกันมา โดยในอดีตได้เคยเป็นญาติมีบ้านติดกัน ได้ทะเลาะกันจนไม่พูดกันเป็นเวลาหลายสิบปี จึงผูกโกรธกันมาข้ามชาติ รวมทั้งชาติปัจจุบันก็ทะเลาะกันด้วย
ถ้าไม่เลิกผูกโกรธ ก็จะไปผูกโกรธกันต่อไป ไม่ว่าจะไปเกิดเป็นอะไรด้วยกันก็ตาม เช่น เป็นพ่อ-ลูก พี่น้อง หรือเพื่อนฝูง เป็นต้น
จะแก้ไข ก็ต้องเลิกผูกโกรธพ่อ แล้วทำบุญอุทิศให้ท่านบ่อยๆ

3.สามีไม่ได้มีส่วนในการทำให้หลวงปู่แอบมีอาการทรุดหนัก แต่ว่าท่านหมดอายุขัยแล้ว

หลวงปู่แอบ มรณภาพแล้ว ก็ไปเป็นสมณเทพบุตร อยู่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตใน

สามีได้มีจิตศรัทธาท่านทั้งในอดีตและปัจจุบัน ได้เคยเป็นลูกศิษย์และอุปัฏฐากท่านมา แต่ชาตินี้มาทันท่าน ในช่วงสุดท้ายของชีวิตท่าน

4.สามีตอนเด็กชอบกินพริกมาก เพราะกรรมในอดีตชาติหนึ่ง ได้เลี้ยงนกแก้วไว้ในกรง มีความต้องการให้มันพูดเก่งๆ จึงให้มันกินพริกบ่อยๆ อย่างเดียวมากเกินไป วิบากกรรมนี้มาส่งผล

โตขึ้นเกือบจมน้ำตาย เพราะกรรมในอดีตสมัยวัยรุ่น ตอนหัดเลี้ยงนกใหม่ๆ แต่คนละชาติกัน มีความรู้สึกอยากให้มันอาบน้ำ จึงได้เอามันจุ่มลงไปในน้ำทั้งกรงจนมันเกือบตาย เพราะสำลักน้ำครั้งสองครั้ง และบุญที่เคยทำกับหมู่คณะ มาช่วยไว้ให้รอดตาย

คนกวาดขยะที่ช่วยสามี เห็นเงาดำคลุมร่างสามีนั้น ก็เป็นความรู้สึกนึกคิดไปเอง เพราะเคยได้ยินสิ่งที่บอกเล่าต่อๆกันมาว่า ในบริเวณแถบนั้นมีคนจมน้ำตายหลายราย

5.ที่คุณตาเห็นสามีเดินเข้าห้องไปนั้น ก็เป็นเรื่องสายตาของคนอายุมาก ที่ตาฝาดเห็นไปอย่างนั้น

คุณตากลางวันจะนอนซม แต่พอตกกลางคืนจะลุกไปไหนมาไหนได้นั้น เพราะพิษไข้ที่ท่านเป็นอยู่ออกอาการอย่างนี้ ไม่ได้มีเรื่องอะไรเป็นพิเศษ

คุณตาตายแล้ว ด้วยกรรมนิมิตเห็นตัวเองเคยตกปลา ตีไก่ ใจก็เลยเศร้าหมอง คตินิมิตจึงดำมืด ทำให้ถูกดึงดูดไปอยู่ในมหานรก ขุมตีไก่ กำลังโดนนายนิรยบาลแปลงเป็นไก่ รุมจิกตีคุณตาที่มีร่างกายใหญ่โต ผอมดำ มีความทุกข์ทรมานมาก
ไม่อาจรับบุญได้ แต่ให้ทำบุญอุทิศไปให้เรื่อยๆ บุญนี้ก็จะไปคอยอยู่ที่ยมโลก เมื่อท่านพ้นกรรมจากมหานรกก็จะได้มารับบุญตรงนี้

6.แม่สามีใช้กุศโลบายให้พ่อสามีเลิกดื่มเหล้าได้หลายปีนั้น ก็เป็นบุญที่ยังไม่บริสุทธิ์เต็มที่ เพราะกึ่งหลอกให้เขากลัวในความชั่วนั้น ซึ่งไม่ได้เป็นเหตุผลที่แท้จริง

ก็จะไม่มีวิบากกรรมโดยตรง แต่ก็จะไปเสริมกับกรรมอื่น เช่น ตอนก่อนตายบุญจะส่งผลให้ไปสู่สุคติ แต่ก็จะมีอาการหลงเพ้อไปในทางกุศล เช่น ก่อนเสียชีวิตแม่สามีก็จะเพ้อร่ายรำ เพราะเห็นคนมาฟ้อนรำต้อนรับ ก็เลยฟ้อนรำตาม และได้เห็นคตินิมิตเป็นพวกเทวดาสายคนธรรพ์มาชวนไปอยู่ด้วยตามกำลังบุญของท่าน จึงพูดว่า “ไปซิ ไปกันเถอะ”
ตายแล้วก็ไปเป็นเทพธิดาสุดสวย มีวิมานเงินหลังย่อมๆ บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา สายคนธรรพ์
ตอนนี้ก็มีความสุขดี กำลังรื่นเริงอยู่ในหมู่เทพคนธรรพ์ ร้องรำทำเพลงอย่างสนุกสนาน
คืนงานศพวันแรกท่านไม่ได้กลับมาที่บ้าน เพราะท่านเห็นทางสว่าง จึงได้ไปตามทางนั้น นอกนั้นก็เป็นเรื่องเป็นตุเป็นตะกันไป

7.ที่ลูกขายที่ดินของสามีได้นั้น เพราะบุญที่ได้เคยสร้างเอาไว้กับหมู่คณะและคำอธิษฐานถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ทำให้บารมีธรรมของท่านมาช่วยดลบันดาลให้สมปรารถนา

บางทีลูกชายบอกว่า ได้ไปขี่ม้าแก้ว บางทีก็ไปวิมานของแม่สามีนั้น ก็ยังเป็นกุศลนิมิตอยู่ อย่าเพิ่งไปให้ความสนใจมากนัก ให้รักษาองค์พระใสๆเอาไว้ก่อน
เขาก็มีบุญเคยบวชอุทิศชีวิตมาแล้วในอดีต ดังนั้นให้ช่วยกันประคับประคองตอนเขาเป็นวัยรุ่นให้ดี อีกทั้งมีบุญในการทำสมาธิมาในอดีตด้วย

8.พุทธันดรที่ผ่านมานั้น ตัวลูก สามีและลูกสาว ได้เป็นกองเสบียงของหมู่คณะ มีผลการปฏิบัติธรรมได้เข้าถึงดวงธรรมใสๆ องค์พระใสๆ เอาตัวรอดกลับดุสิตบุรี วงบุญพิเศษได้

ส่วนลูกชายได้บวชอุทิศชีวิต เมื่อบวชแล้วก็ได้เป็นกำลังเผยแผ่จนตลอดชีวิต มีผลการปฏิบัติธรรมได้เข้าถึงพระธรรมกาย เอาตัวรอดกลับดุสิตบุรี วงบุญพิเศษได้

ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลย