Case Study...เพราะเราเกิดมาสร้างบารมี ตอนที่ 1


[ 18 พ.ค. 2553 ] - [ 18267 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2553 ช่วงที่ 4
 
 
 
กรณีศึกษากฎแห่งกรรม
Case Study (ตอนพิเศษ)
เพราะเราเกิดมาสร้างบารมี ตอนที่ 1
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
        ลูกเป็นผู้นำบุญชาวลาว ร่วมบุกเบิกสร้างวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย และทำหน้าที่กัลยาณมิตรชวนคนเข้าวัดอย่างเข้มแข็งมาตลอดค่ะ ลูกเคยเป็นครูที่เมืองลาวก่อนจะย้ายมาอยู่ที่อเมริกาเมื่อปี พ.ศ.2524 อีกหกปีต่อมา ลูกก็ได้รู้จักหมู่คณะวัดพระธรรมกาย ซึ่งตอนนั้นที่นั่นยังไม่มีศูนย์เลย มีแต่ผู้นำบุญของวัดท่านหนึ่ง เธอได้เป็นกัลยาณมิตรคนแรกให้ลูก หลังจากได้ฟังธรรมะของหลวงพ่อแล้วปฏิบัติตาม ชีวิตของลูกก็เปลี่ยนไป เข้าใจการสร้างบารมีมากยิ่งขึ้น ลูกและน้องชายจึงเริ่มชวนพี่น้องชาวลาว ทั้งที่ในอเมริกา ฝรั่งเศส แคนาดา และเมืองลาว ให้เข้าวัดตามกันมาด้วย และนี่คือจุดเริ่มต้นการบุกเบิกสร้างวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย
 
        น้องชายของลูก ก่อนมาอยู่ที่อเมริกา เขาเคยรับราชการยศร้อยอากาศเอกในกองทัพอากาศแห่งชาติลาว เป็นหัวหน้าฝูงบินT-6และT-28 เมื่อได้รู้จักวัดพระธรรมกาย เขาก็รักการสร้างบารมีมาก รับบุญเคียงบ่าเคียงไหล่กับลูก เขาตั้งใจว่าจะบวชที่วัดพระธรรมกายไปตลอดชีวิตเมื่อวันที่เขาสามารถวางภาระทางครอบครัวได้แล้ว คือ การดูแลภรรยาที่ทำการผ่าตัดสมองถึงเจ็ดครั้ง ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าเธอจะเป็นอัมพาตตลอดชีวิต น้องชายของลูกคอยดูแลภรรยาอย่างดีมาตลอด กระทั่งวันหนึ่งเขาทราบว่าตัวเองเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารช่วงต่อกับลำไส้ และเป็นระยะสุดท้ายด้วย แพทย์บอกว่าอยู่ได้ไม่เกินสามเดือน แต่ด้วยความเป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทำให้รู้หลักวิชชา น้องชายของลูกจึงมีกำลังใจดีมาก เขาได้เขียนข้อความสั่งเสียไว้ว่า ให้ญาติทำบุญที่วัดพระธรรมกายแล้วอุทิศส่วนกุศลให้เขาด้วย และขอให้พระวัดพระธรรมกายช่วยสวดให้ด้วย ก่อนเสียชีวิตสี่วัน น้องชายของลูกซึ่งกำลังนอนบนเตียงผู้ป่วย อยู่ๆก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วยิ้มอย่างดีใจ ทำท่าเหมือนเชคแฮนด์ทักทายผู้มาเยี่ยมเจ็ด-แปดครั้ง แล้วพูดด้วยอาการเบิกบาน วันสุดท้ายน้องชายของลูกจากไปอย่างสงบพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2552
 
        ลูกสาวของน้องชายของลูก ก็ได้มาดูแลคุณแม่ที่เป็นอัมพาตแทนคุณพ่อของเธอ ทำให้เธอรู้ซึ้งถึงความอดทนของพ่อมาก เธอได้แต่ร้องไห้คิดถึงพ่อ เธอเริ่มเครียด...กินไม่ได้นอนไม่หลับ คืนที่จะเสียชีวิต เธอผุดลุกผุดนั่ง เดินไปมา บอกสามีว่าจะไปดื่มน้ำ แล้วเธอก็กลับมานอนหลับไปถึงเช้าก็ยังไม่ตื่น แต่สามีได้ยินเสียงกรนเบาๆ ก็คิดว่าเธอคงจะเพลียมากจึงปล่อยให้นอนต่อ จนถึงตอนบ่ายเสียงกรนของเธอก็เงียบไป สามีจึงมาปลุกพบว่าเธอไม่รู้สึกตัวแล้ว จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล แพทย์บอกว่าเธอเสียชีวิตไปประมาณสิบสองชั่วโมงแล้ว อวัยวะภายในหยุดทำงานแล้ว แพทย์วินิจฉัยว่าเธอทานยานอนหลับอย่างแรงเข้าไป เธอเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2553
 
        ตอนที่ลูกสาวของน้องชายของลูก เพิ่งจะเสียชีวิตใหม่ๆ มีคนเห็นผู้หญิงที่มองด้านหลังคล้ายเธอ มาเปิดตู้จดหมายหน้าบ้านแล้วเดินเข้าบ้านไป และญาติๆต่างก็ฝันเห็นเธอเป็นประจำ ราวกับว่าเธอวนเวียนอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ญาติพี่น้องกังวลมาก ขณะนี้ตัวลูกและญาติๆจึงได้สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว จารึกชื่อของเธอแล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ 
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
คำถาม
1.น้องชายของลูกตายแล้วคตินิมิตเป็นอย่างไร ได้ไปเวียนประทักษิณที่มหาธรรมกายเจดีย์หรือไม่ และได้มาวนเวียนอยู่ใกล้ภรรยาของเขาหรือไม่คะ เพราะภรรยาของเขาบอกว่า “สามียังมานั่งอยู่ข้างๆนี้เลย”
 
คำตอบ
        ก่อนที่น้องชายของลูกจะเสียชีวิต เขาก็ได้พยายามตรึกระลึกนึกถึงองค์พระ และนึกถึงพระเถระรูปหนึ่ง อยู่ตลอดเวลา แม้ว่าในบางครั้งตัวเขาจะได้รับทุกขเวทนาจากโรคร้ายที่มารุมเร้า แต่ใจของเขาก็ยังมีองค์พระและพระเถระรูปนั้นเป็นที่พึ่งที่ระลึกอยู่เสมอ เมื่อใจของเขาเกาะเกี่ยวกับพระรัตนตรัยอยู่ตลอดเวลา ภาพกรรมนิมิตฝ่ายบุญกุศล เช่น ภาพในช่วงที่เขาและตัวลูกได้ทุ่มเทกำลังกายและกำลังทรัพย์ ช่วยกันบุกเบิกสร้างวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย เป็นต้น ได้มาปรากฏเป็นภาพให้เขาได้เห็นอยู่ภายในใจ เป็นผลทำให้คตินิมิตของเขาผ่องใสสว่างไสวไม่เศร้าหมอง
 
 
        เมื่อน้องชายของลูกได้ละจากโลกนี้ไปแล้ว กายละเอียดของเขาก็ได้หลุดออกมายืนอยู่ด้านข้างเตียงที่เขานอนอยู่ ซึ่งในช่วงแรกๆที่เขาหลุดมาเป็นกายละเอียดนั้น ภายในใจลึกๆของเขาก็ยังคงรู้สึกเป็นห่วงและอาลัยอาวรณ์ภรรยาของเขาอยู่ ด้วยเหตุนี้กายละเอียดของเขาจึงได้แวบมาวนเวียนอยู่ข้างๆกายภรรยาของเขาอยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งก็คือช่วงแรกๆที่เขาเพิ่งเสียชีวิตไปใหม่ๆ ซึ่งในช่วงนั้นใจของเขาแทบจะไม่สนใจอะไรเลยนอกจากภรรยาของเขา ด้วยความรักความผูกพันที่ต่างคนต่างมีให้กันอย่างมากมาย จึงทำให้ภรรยาของเขามีความรู้สึกเหมือนมีตัวเขามานั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่เธอรู้สึกจริงๆ
 
 
        เมื่อเวลาผ่านไปได้สักระยะหนึ่ง ใจของเขาก็เริ่มคลายจากความผูกพัน และเป็นผลทำให้เขาได้มองเห็นเทวรถและเหล่าบริวารที่มายืนรอต้อนรับอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งในความจริงแล้วเทวรถและเหล่าบริวารของเขาได้มารออยู่ตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาหลุดออกมาจากกายหยาบแล้ว เพียงแต่ว่าในช่วงแรกๆนั้น ความรู้สึกห่วงหาอาลัยอาวรณ์ในภรรยายังครอบงำจิตใจของเขาอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขาไม่สนใจจะมองสิ่งใดเลยนอกจากภรรยาของตัวเอง และในทันทีที่เขามองเห็นเทวรถและเหล่าบริวารที่เกิดขึ้นด้วยกำลังบุญของเขาแล้ว ความปลื้มปีติสุขก็พลันบังเกิดอยู่ภายในใจ เป็นผลให้กายและใจของเขาพลันสว่างวาบขึ้นมา เมื่อใจของเขาผ่องใสสว่างไสว จนผลบุญได้ช่องเข้ามาทำงานอยู่ภายในศูนย์กลางกายของเขาแล้ว กายละเอียดของเขาก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นกายเทพบุตรในที่สุด
 
 
        ก่อนที่เทพบุตรจะลอยขึ้นไปสู่เทวรถ แม้เทพบุตรจะคลายความอาลัยแล้วก็ตาม ก็ยังมองไปที่ภรรยาอันเป็นที่รักของตนเองเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับรำพึงขึ้นมาในใจว่า...วันนี้ สองเราคงต้องจากกันชั่วคราวแล้ว ขอบคุณสำหรับทุกๆสิ่งที่ทำให้เขามาโดยตลอด
 
 
        หลังจากนั้น เทพบุตรก็ได้ลอยตัวผ่านขบวนของเหล่าบริวารขึ้นสู่เทวรถ เมื่อได้ไปนั่งอยู่บนรัตนบัลลังก์กลางเทวรถแล้ว เทพบุตรก็ได้ทำตามหลักวิชชาที่ได้ศึกษาเรียนรู้มาจากโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา คือ นำเทวรถของตนเองไปเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ตามที่ตนได้เคยตั้งใจเอาไว้ เมื่อเทวรถได้เคลื่อนมาถึงมหาธรรมกายเจดีย์แล้ว เทพบุตรก็ได้เริ่มนำเอาเทวรถมาเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์อย่างช้าๆสามรอบ จากนั้นก็ได้นำเทวรถมาจอดอยู่ที่บริเวณหน้ามหาธรรมกายเจดีย์ เพื่อตรึกระลึกนึกถึงบุญทุกบุญที่ตนเคยทำในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะบุญที่เขาได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจและแรงทรัพย์ในการบุกเบิกสร้างวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย และบุญที่เขาได้ชวนพี่น้องชาวลาว ทั้งทางฝั่งอเมริกา ฝรั่งเศส แคนาดาและเมืองลาว ให้มาร่วมบุญสร้างบารมีกับหมู่คณะ ด้วยหัวใจที่มีความปลื้มปีติในผลบุญแบบสุดประมาณ
 
 
คำถาม
2.น้องชายของลูกปรารถนาไปดุสิตบุรี ขณะนี้เขาอยู่ภพใด มีข้อความใดฝากถึงตัวลูกและญาติพี่น้อง หรือไม่คะ
 
คำตอบ
        เมื่อเทพบุตรได้ตรึกระลึกนึกถึงบุญทุกบุญที่ตนเองได้เคยทำไว้อยู่ด้านหน้ามหาธรรมกายเจดีย์ไปได้สักพักหนึ่ง เทพบุตรก็ได้นำเทวรถของตนมุ่งหน้าไปสู่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตเสบียง ในทันที และในขณะนี้เทพบุตรกำลังตรวจตราทิพยสมบัติของตนด้วยความเบิกบาน และกำลังเพลิดเพลินกับความสุขอันเป็นทิพย์ตามแบบของผู้มีบุญที่อยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต
 
 
        ต่อมาได้มีพระไปเยี่ยม เทพบุตรได้ฝากข้อความมาถึงตัวลูกว่า...ตอนนี้มีความสุขมาก รู้สึกดีใจที่ได้มาพบและได้มาสร้างบารมีกับหมู่คณะ ที่สำคัญที่สุดรู้สึกดีใจและปลื้มปีติเป็นอย่างมากที่ได้กลับมาดุสิตบุรีตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้(ได้อธิษฐานทุกครั้งที่ทำบุญ)ขอบคุณตัวลูกมากๆที่ได้เป็นกัลยาณมิตรให้กับเขา และฝากให้ลูกช่วยดูแลภรรยาของเขาด้วย
 
 
        นอกจากนี้ เทพบุตรยังได้ฝากข้อความมาถึงภรรยาของเขาด้วยว่า...ขอบคุณในทุกๆเรื่องที่ผ่านมา และขอให้สู้ต่อไป ให้หมั่นทำบุญทุกบุญ ในทุกครั้งที่มีโอกาส ให้เก็บบุญไปให้มากที่สุด ไม่ต้องเป็นห่วงตัวเขา ให้ตัวลูก ภรรยาและหมู่ญาติ สั่งสมบุญให้มากๆ และที่สำคัญอย่าลืมอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลเหล่านั้นมาให้เขาอีก แม้เขาจะอยู่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ แล้วก็ตาม
 
โปรดติดตามตอนต่อไป คลิกที่นี่
 
 
ชม Video Scoop Case Study...เพราะเราเกิดมาสร้างบารมี
 



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทบทวนรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาทบทวนรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา

ทหารกองพลสถาปนาพร้อมลุย 24 น.ทหารกองพลสถาปนาพร้อมลุย 24 น.

Case Study...เพราะเราเกิดมาสร้างบารมี ตอนที่ 2Case Study...เพราะเราเกิดมาสร้างบารมี ตอนที่ 2



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน