อุสสทนรก นรกขุมบริวารทรมานแสนสาหัส


[ 16 เม.ย. 2554 ] - [ 18267 ] LINE it!

ตายแล้วไปไหน

ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไร

 
อุสสทนรก นรกขุมบริวาร
 
ที่ตั้งนรก
  อุสสทนรกเป็นนรกขุมบริวาร

     อุสสทนรก คือ นรกที่เป็นขุมบริวาร เราเรียกลักษณะของอุสสทนรกว่า ขุมเช่นเดียวกับมหานรก  อุสสทนรกมีขนาดเล็กกว่ามหานรก และ การทัณฑ์ทรมานก็เบาบางกว่า มีความทุกข์น้อยกว่า ไฟนรกก็ร้อนแรงน้อยกว่ามหานรก และยังพอมีเวลาว่างเว้นจากการทัณฑ์ทรมานบ้างเล็กน้อย

    มหานรกเหมือนเป็นประธานของนรกทั้งปวง มหานรกขุมหนึ่งๆ จะมีอุสสทนรกตั้งอยู่โดยรอบทั้ง 4 ทิศ ทิศละ 4 ขุม รวมเป็น 16 ขุม เมื่อรวมอุสสทนรกที่เป็นบริวารของมหานรกทุกขุมแล้ว จะมีจำนวนทั้งหมด 128 ขุม อุสสทนรกทั้ง 4 ขุมในแต่ละทิศ มีชื่อเรียกเป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นชื่อเหมือนกันกับอุสสทนรกในทิศอื่นๆ และเป็นเช่นนี้กับมหานรกทุกขุม ต่างกันแต่เพียงความหนักเบาของทุกข์โทษเท่านั้น 
 
อุสสทนรก
มหานรกแต่ละขุมจะมีอุสสทนรกอยู่รอบๆ

อุสสทนรกทั้ง 4 ขุมในทิศหนึ่ง มีชื่อดังต่อไปนี้ 
          
1. คูถนรก      2. กุกกุฬนรก      3. อสิปัตตนรก      4. เวตรณีนรก
 
     โดยจะขอกล่าวเฉพาะอุสสทนรกที่อยู่ในทิศใดทิศหนึ่งของสัญชีวมหานรกเท่านั้น นอกนั้นก็จะมีชื่อและลักษณะอย่างเดียวกันหมด

ขุมที่ 1 คูถนรก
         
     คูถนรก คือ นรกอุจจาระเน่า สัตว์นรกทั้งหลายที่ยังมีอกุศลกรรมเหลืออยู่ ถึงแม้พ้นจากมหานรกแล้ว แต่ก็ยังไม่หลุดพ้นจากวงจรนรก ต้องเสวยทุกข์ต่อไป ในนรกขุมบริวารที่ใกล้ชิดกับมหานรกอันดับที่ 1 คือ คูถนรก จะถูกทรมานอยู่ในนรกอุจจาระ ลักษณะของคูถนรก เต็มไปด้วยหมู่หนอน มีปากแหลมดังเข็ม ตัวอ้วนพีใหญ่เท่าช้าง เมื่อสัตว์นรกตกลงมาสู่คูถนรก เจ้าหนอนนรกจะแสดงอาการดีอกดีใจ เข้ามาล้อมเกาะกัดกินเนื้อของสัตว์นรกนั้นอย่างเอร็ดอร่อยจนเหลือแต่กระดูก แล้วก็แทะกระดูกเข้าไปอีก หนอนบางตัวมีขนาดเล็กก็จะคลานชอนไชเข้าไปในปาก กัดกินปอด ตับ ม้าม ไต หัวใจ กระเพาะ แล้วก็ออกทางทวารด้านล่างและด้านบน เป็นอย่างนี้จนกว่าจะสิ้นกรรม 
 
ขุมที่ 2 กุกกุฬนรก
         
     กุกกุฬนรก คือ นรกขี้เถ้าร้อน ครั้นพ้นจากกำแพงของคูถนรกแล้ว สัตว์นรกทั้งหลายที่ยังมีอกุศลกรรมเหลืออยู่ ถึงแม้พ้นจากนรกอุจจาระเน่าแล้ว ยังต้องถูกทรมานในนรกขุมบริวารอันดับที่ 2 คือ กุกกุฬนรก ซึ่งตั้งอยู่ติดต่อกับคูถนรก ลักษณะของกุกกุฬนรก เต็มไปด้วยเถ้าร้อนสำหรับเผาสัตว์นรกทั้งหลายให้ได้รับทุกขเวทนาอันแก่กล้า ถูกเถ้าเผาสรีระให้ย่อยยับละเอียดเป็นจุณ เมื่อเศษบาปกรรมยังไม่สิ้นตราบใด ก็ต้องตายเกิดตลอดกาลนานจนกว่าจะสิ้นกรรม
        
นายนิรยบาล
นายนิรยบาลเป็นผู้ลงทัณฑ์สัตว์นรก
 
ขุมที่ 3 อสิปัตตนรก            
         
     อสิปัตตนรก คือ นรกป่าไม้ดาบ ครั้นพ้นจากกำแพงของกุกกุฬนรกแล้ว สัตว์นรกทั้งหลายที่มีอกุศลกรรมเหลืออยู่นั้น ถึงแม้พ้นจากนรกขี้เถ้าร้อนแล้ว จะต้องเจอนรกขุมบริวารอันดับที่ 3 คือ อสิปัตตนรก ก็ยังต้องถูกเบียดเบียนอยู่ในนรกป่าไม้ใบดาบ ซึ่งอยู่ติดต่อกับกุกกุฬนรก ลักษณะของอสิปัตตนรก จะมีลักษณะเป็นเหมือนอุทยาน มีต้นไม้คล้ายกับมะม่วง เมื่อสัตว์ที่ยังไม่หมดสิ้นกรรมชวนกันไปเดินเล่นในอุทยานนี้ เห็นมีต้นไม้ใหญ่ ตั้งใจว่าจะไปนั่งอยู่ใต้ร่มไม้นั้น แต่พอเข้าไปยังไม่ทันจะได้นั่งดั่งใจปรารถนา ก็มีลมพัดมาอย่างแรง ใบมะม่วงก็หลุดและปลิวลงมากลายเป็นหอกเป็นดาบ ทิ่มแทงร่างของสัตว์นรกเหล่านั้น จนแขนขาด คอขาด ขาขาด มีแผลเหวอะหวะเต็มไปทั่วร่างกาย เลือดแดงฉานออกมา จากนั้นก็มีสุนัขนรกร่างกายใหญ่โตเท่าช้างสาร วิ่งมากัดกินเลือดเนื้อของสัตว์นรกนั้นจนเหลือแต่กระดูก จากนั้นยังมีแร้งนรกซึ่งมีปากเป็นเหล็ก ตัวโตประมาณเท่าเกวียนเท่ารถ พากันมาโฉบเฉี่ยวยื้อแย่งจิกทึ้งเนื้อสัตว์นรก ฉีกกินเป็นอาหาร กรรมยังไม่สิ้น ต้องเสวยทุกขเวทนาไปอย่างนี้ตลอดเวลา
          
ขุมที่ 4 เวตรณีนรก
         
     เวตรณีนรก คือ นรกแม่น้ำเค็มมีหนามหวาย ครั้นเมื่อสัตว์นรกพ้นจากกำแพงของอสิปัตตนรก  สัตว์นรกที่ยังมีอกุศลกรรมเหลืออยู่ ถึงแม้จะหลุดพ้นจากนรกป่าไม้ดาบแล้ว ก็ยังไม่หมดสิ้นการทรมาน จะต้องมาสู่นรกขุมนี้อีก ซึ่งเป็นนรกขุมบริวารอันดับที่ 4 อยู่ติดกับอสิปัตตนรก ลักษณะของเวตรณีนรก จะมีน้ำเค็ม แสบ ตั้งอยู่ชั่วกัป มีเครือหวายหนามเหล็กล้อมอยู่โดยรอบเป็นขอบขัณฑ์ มีดอกปทุม (ดอกบัว) ผุดบานล่อใจให้ชวนชม เมื่อสัตว์นรกเห็นแล้วก็เข้าใจว่าเป็นแม่น้ำใสสะอาดเย็นสนิทน่าอาบ น่าดื่ม ก็พากันดีอกดีใจ หวังจะอาบดื่มกินให้สบาย จึงวิ่งด้วยความเร็ว กระโจนลงไปในแม่น้ำ ทันใดนั้นเองเครือหวายเหล็ก ซึ่งคมเหมือนหอกเหมือนดาบ ก็บาดร่างกายทำให้เป็นแผลในน้ำเค็ม ทั้งเจ็บทั้งแสบ แล้วก็เกิดเป็นเปลวไฟลุกไหม้เผาร่าง  เผาทั้งๆ ที่อยู่ในแม่น้ำ จนไหม้เกรียมเหมือนกับต้นไม้ที่ถูกไฟไหม้ บางตนร่างห้อยอยู่บนเครือหนาม ในไม่ช้าร่างนั้นก็ต้องตกลงไปโดนดอกบัวเหล็กที่มีกลีบแหลมคมเป็นกรด ซึ่งตั้งอยู่กลางน้ำเค็มมีเปลวไฟติดอยู่ตลอดเวลา ในบัวเหล็กแดงก็บาดร่างกายขาดวิ่น สัตว์นรกคิดว่า ถ้าดำลงไปในแม่น้ำที่ลึกกว่านี้ คงจะหลุดพ้นจากการทรมานได้ จึงกลั้นใจดำน้ำลงไป แต่แล้วกลับถูกคมดาบซึ่งหงายอยู่ภายใต้น้ำนั้นบาดเอา เจ็บแสนสาหัส เท่านี้ยังไม่พอ ยังถูกนายนิรยบาลใช้ หอก หลาว แหลน จ้วงแทงเอา เหมือนกับมนุษย์ใช้ฉมวกแทงปลาในน้ำฉันใดฉันนั้น 
         
นายนิรยบาลเอาเบ็ดนรกเกี่ยวสัตว์นรก
สัตว์นรกโดนนายนิรยบาลเอาเบ็ดเกี่ยวลาก
 
     จากนั้นนายนิรยบาลเอาเบ็ดนรกเกี่ยวลากสัตว์นรกขึ้นมา บังคับให้นอนหงายเหนือแผ่นเหล็ก แล้วเอาหลาวเหล็กงัดปาก เอาก้อนเหล็กซึ่งกำลังลุกแดงโชนยัดใส่เข้าไปในปาก พอถึงปาก ปากก็ไหม้  ตกมาถึงคอ คอก็ไหม้ พอตกถึงท้อง ก็ไหม้ไส้ใหญ่ไส้น้อยให้ทะลักออกมา สัตว์นรกก็ร้องไห้ครวญคราง ครั้นนายนิรยบาลเห็นสัตว์นรกร้องครวญครางเช่นนั้น ก็ทำเหมือนกับว่าจะมีใจกรุณา จึงร้องถามไปว่า "ท่านอยากจะกินอะไร" สัตว์นรกตอบว่า "น้ำ ข้าพเจ้ากระหายน้ำเหลือเกิน เพราะก้อนเหล็กแดงนี่ร้อนนัก" ทันใดนั้นเอง นายนิรยบาล จึงเอาน้ำทองแดงที่กำลังเดือดพล่านมากรอกลงไปในปากของสัตว์นรกผู้กระหายน้ำ พอน้ำถึงปาก ปากก็แดงพังทลาย พอน้ำถึงคอถึงท้อง คอและท้องก็พังพินาศ พอตกถึงลำไส้ ลำไส้ใหญ่น้อยก็ขาดกระจุยกระจายเรียงรายออกมา ต้องเสวยทุกขเวทนาอันแสนจะเจ็บปวดอยู่อย่างนั้น จนกว่าจะสิ้นกรรมที่ทำมา
 
สัตว์นรกหิวน้ำ
นายนิรยบาลนำน้ำทองแดงเดือดพล่านมาให้สัตว์นรกกิน
 
     เมื่อสัตว์นรกได้ถูกลงทัณฑ์ทรมานในอุสสทนรกเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก จนกระทั่งกรรมเบาบางแล้ว ก็ต้องไปตัดสินคดีในยมโลกต่อไป


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
รหัสผ่านเดินทางสู่ปรโลกรหัสผ่านเดินทางสู่ปรโลก

ปรโลกชีวิตหลังความตายปรโลกชีวิตหลังความตาย

ตายแล้วจะไปอยู่ที่ไหน ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไรตายแล้วจะไปอยู่ที่ไหน ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไร



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ตายแล้วไปไหน