นักวิทยาศาสตร์กับพระพุทธศาสนา


[ 10 มิ.ย. 2556 ] - [ 18324 ] LINE it!

นักวิทยาศาสตร์

ประวัติวันวิทยาศาสตร์กิจกรรมวันวิทยาาสตร์รายชื่อนักวิทยาศาสตร์นักวิทยาศาสตร์กับพระพุทธศาสนา อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์สายรถเมล์ไปงานวันวิทยาศาสตร์
 
นักวิทยาศาสตร์กับพระพุทธศาสนา
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
 
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์ ชาวเยอรมัน ผู้เสนอทฤษฏีสัมพันธภาพ
นักวิทยาศาสตร์ : อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
นักฟิสิกส์ ชาวเยอรมัน ผู้เสนอทฤษฏีสัมพันธภาพ
 

นักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง : อัลเบิร์ต ไอน์ สไตน์

 
       ทฤษฎีสัมพัทธภาพของนักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อ ไอน์สไตน์ เป็นผลงานที่น่าเกรงขาม เพราะไม่เพียงแต่สะท้อนถึงภูมิปัญญาที่เหนือมนุษย์ แต่ยังสะท้อนถึงความละเอียดอ่อนในการคำนวณทางคณิตศาสตร์ หลักการคำนวณของเขา สามารถนำไปพิสูจน์กฎทางฟิสิกส์อื่นๆได้อย่างสอดคล้อง

     ทฤษฎีของไอน์สไตน์ครอบคลุมทฤษฎีอื่นๆ ที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนก่อนหน้าเขาเคยคิดขึ้นมาสั่งสมกันนับพันปี

       มนุษย์บนโลกเป็นหนี้บุญคุณของนักวิทยาศาสตร์มหาอัจฉริยะของโลกสองคน คือ นิวตัน กับ ไอน์สไตน์ ถ้าไม่มีนักวิทยาศาสตร์สองคนนี้ ทิศทางการพัฒนาของโลกจะเปลี่ยนไปมหาศาล ถ้าไม่มีกฎของนิวตัน โลกอาจไม่มี ตึกสูงๆ สะพานแขวน ไม่มีดาวเทียม ไม่มีเครื่องบิน จนไปถึงไม่มีเครื่องจักรกล ไม่มีรถ เครื่องซักผ้า เครื่องปั่นน้ำผลไม้ ฯลฯ หรือแม้แต่เครื่องเล่นเกือบทุกชนิดในสวนสนุกเพราะทั้งหมดนี้ล้วนแล้วมีพื้นฐานพัฒนามาจากมาจากกฎของนิวตันทั้งสิ้น

      กฎของนิวตันก่อให้เกิด “คลื่นลูกที่สอง” มีการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้นบนโลก วิศวกรนำกฎของนิวตันไปสร้างเครื่องจักรกลมากมาย มีการสร้างเรือไอน้ำลำใหญ่ สะพานขึงทั่วยุโรป พัฒนาระบบขนส่งทางรถไฟ โรงงานอุตสาหกรรมเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ ในอีกด้านก็มีมนุษย์อีกกลุ่มหนึ่ง นำกฎของนิวตันไปสร้างอาวุธทำลายล้างสูง หลังจากนิวตันเสียชีวิตไปประมาณสองร้อยปี สงครามโลกครั้งที่หนึ่งก็อุบัติขึ้น ผู้คนกว่าเก้าล้านคนเสียชีวิตด้วยสิ่งประดิษฐ์มหัศจรรย์ตามกฎนิวตันนั่นก็คือ “ปืนกล” โชคยังดีที่รถถัง จรวด เครื่องบิน ยังพัฒนาไปได้ไม่มากขณะนั้น

       ขณะที่สงครามโลกครั้งที่หนึ่งประทุขึ้น ขณะนั้น อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ มีอายุได้ 35 ปี และคิดค้นทฤษฎีสัมพัทธภาพ รวมไปถึงทฤษฎีสำคัญอื่นๆที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงโลกมากมายสำเร็จเรียบร้อยแล้ว

       ถ้ากฎของนิวตัน ก่อให้เกิดคลื่นลูกที่สองเปลี่ยนแปลงโลก ถึงขนาดปฏิวัติอุตสาหกรรม เกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ทฤษฎีของไอน์สไตน์ ก็ก่อให้เกิด “คลื่นลูกที่สาม” เกิดการปฏิวัติเทคโนโลยี มีการพัฒนาด้านคอมพิวเตอร์ การสื่อสาร โทรคมนาคม อย่างมหาศาล ระบบดาวเทียม เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่น DVD ระบบ GPS ไมโครเวฟ แสงเลเซอร์ จอภาพโทรทัศน์ เครื่องถ่ายเอกสาร โทรศัพท์มือถือ Fiber optic ฯลฯ หรือใครที่สายตาสั้นแล้วไปทำเลสิก ก็ต้องนึกขอบคุณไอน์สไตน์เพราะทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแล้วพัฒนามาจากพื้นฐานทางทฤษฎีของไอน์สไตน์ทั้งสิ้น

       และเช่นกัน เหรียญย่อมมีสองด้าน มีมนุษย์อีกพวกหนึ่ง นำทฤษฎีของไอน์สไตน์ ไปพัฒนาสร้างอาวุธทำลายล้างสูง อย่างระเบิดปรมาณู และทดลองไปทิ้งที่ฮิโรชิมาเป็นที่แรก โลกต้องตะลึงในอานุภาพของมัน ด้วยมวลของมวลสารเพียง 0.7 กรัม สลายตัวภายใน 0.01 วินาที ให้พลังงานออกมาขนาดทำเอาเมืองฮิโรชิมาราบไปทั้งเมือง
 
นักวิทยาศาสตร์กับพระพุทธศาสนา อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ผู้เสนอทฤษฏีสัมพันธภาพ

     นักวิทยาศาสตร์ในยุคปัจจุบันต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าโลกไม่มีอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์มาเกิด ความรู้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และสิ่งประดิษฐ์คิดค้นทางเทคโนโลยีต่างๆที่เห็นกันอยู่ต้องใช้เวลาอีกหลายศตวรรษกว่าจะประสบความสำเร็จเช่นนี้ หรืออาจจะไม่ประสบความสำเร็จเลยก็ได้
 

นักวิทยาศาสตร์กับพระพุทธศาสนา

       แม้ว่าไอน์สไตน์จะไม่ได้นับถือพุทธศาสนา แต่การค้นพบสัจธรรมบางอย่างของจักรวาลผ่านจินตนาการและทฤษฎีทางฟิสิกส์ของเขา เข้าใกล้ และเข้าถึงความจริงบางด้านของธรรมชาติ ซึ่งพระพุทธองค์ทรงค้นพบและประกาศมาก่อนหน้านับพันปี และเมื่อภายหลัง ไอน์สไตน์ได้ศึกษาเรื่องราวของพุทธศาสนาจากเพื่อนนักเขียนคนหนึ่ง ไอน์สไตน์ถึงกับประหลาดใจ ที่การค้นพบของเขาเป็นเพียงส่วนน้อยนิดของศาสนาแห่งจักรวาล

      ความจริงของจักรวาลมีเพียงความจริงเดียว มีระบบระเบียบและความสมบูรณ์อยู่ในตัวเอง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์พยายามศึกษาค้นหา โดยใช้หลักทางตรรกะ เหตุผล พิสูจน์ออกมาเป็นตัวเลขและทฤษฎีทางฟิสิกส์ ในขณะที่พระพุทธองค์ใช้ปัญญาญานในการค้นคว้าความจริงแท้แห่งจักรวาล ในเมื่อต่างฝ่ายต่างต้องการหาความจริงแท้อันเดียวกัน แต่วิถีทางต่างกัน ในที่สุด เมื่อเข้าใกล้ความจริงแท้ จะพบว่าการค้นพบของทั้งสองวิถีมีความสอดคล้องกันอย่างมหัศจรรย์

     หลังจากนั้นนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลก หันมาศึกษาพุทธศาสนาอย่างจริงจัง ลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักวิทยาศาสตร์สายควอนตั้ม เนื่องจากเพราะพวกเขาตระหนักว่า การค้นพบสัจจธรรมความจริงของพุทธศาสนา คือจุดมุ่งหมายเดียวกัน กับการค้นหาความจริงแท้ของจักรวาลในทางฟิสิกส์
 

นักวิทยาศาสตร์คนเก่งเขานับถือศาสนาอะไรกัน ?

       แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าใครถามไอน์สไตน์ว่า เขานับถือศาสนาอะไร เขาจะตอบว่า เขาไม่นับถือศาสนา เขาเป็นคนประเภทไม่มีศาสนา แต่ถ้าถามต่อว่าแล้วเขาชมชอบศาสนาไหนเป็นพิเศษหรือปล่าว เขาจะตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ ศาสนาพุทธ ”

      เขาเคยพูดว่า “ ความรู้สึกทางพุทธศาสนา (เขาใช้คำว่าศาสนาจักรวาล) เป็นแรงจูงใจที่แข็งแกร่งที่สุด และ ประเสริฐที่สุดสำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ( I maintain that the cosmic religious feeling is the strongest and noblest motive for scientifice research ) ”

       และหลังจากคิดทฤษฎีสัมพัทธภาพได้ ไอน์สไตน์ ออกมาให้ความเห็นว่า .....“.....ภารกิจอันสำคํญยิ่งของนักฟิสิกส์ก็คือ การแสวงหากฎหรือทฤษฏีที่ตรงกับความเป็นจริงแห่งสากลมากยิ่งขึ้น มันไม่มีวิธีการทางคำนวณหรือตรรกศาสตร์ใดๆ ที่จะนำไปสู่กฎหรือทฤษฏีสากลเช่นที่ว่านี้ได้ นอกเสียจากการหยั่งรู้ของจิตเท่านั้น ซึ่งมีพื้นฐานคล้ายๆกับพุทธิปัญญาญาน ”.....

 

นักวิทยาศาสตร์ผู้ไม่เกรงกลัวต่อความตาย !


       ไอน์สไตน์ เป็นคนที่ไม่กลัวความตาย เขาเคยเขียนไว้ว่า “การกลัวความตายคือความกลัวที่ไม่มีเหตุผลที่สุดในบรรดาความกลัวทั้งปวง ( The fear of death is the most unjustified of all fears )” เวลาเขาป่วยเขาไม่ต้องการพบหมอด้วยซ้ำ เขาเขียนพินัยกรรมเตรียมตัวตายไว้ก่อนเสียชีวิตจริงถึง 5 ปี

       ในวันที่เสียชีวิต นางพยาบาลที่เฝ้าอยู่เล่าว่า เขามีสติมากและได้พยายามพูดอะไรออกมาสองสามคำแต่เป็นภาษาเยอรมันซึ่งพยาบาลฟังไม่ออก แล้วเขาก็จากไปอย่างสงบ พร้อมทิ้งเศษกระดาษแผ่นหนึ่งที่เต็มไปด้วยการคำนวณเรื่องสนามเอกภาพการรวมแรงในจ้กรวาลไว้ข้างๆเตียง

      ไอน์สไตน์เสียชีวิตเมื่อปี ค.ศ.1955 อายุ 76 ปี พร้อมทั้งทิ้งงานที่คั่งค้างอยู่คือ การคิดทฤษฎีที่จะรวมแรงพื้นฐานในธรรมชาติที่มีอยู่ 4 ชนิดเข้าไว้ในกฎเดียวกันคือ
 
1. แรงโน้มถ่วง
2. แสงหรือแรงแม่เหล็กไฟฟ้า
3. แรงนิวเคลียร์ชนิดอ่อน
และ 4. แรงนิวเคลียร์ชนิดเข้ม
 
     ซึ่งถ้ารวมได้จริง ความลับของจักรวาลจะถูกเปิดเผยมากกว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพหลายเท่า การเหาะเหินเดินอากาศของมนุษย์จะกลายเป็นเรื่องธรรมดา

       ทฤษฎีนี้จะสามารถอธิบายอนุภาคพื้นฐานทุกชนิดในจักรวาลรวมไปถึงอธิบายได้ถึงปฏิสัมพันธ์ทางกายภาพและแรงทุกระบบในจักรวาลได้หมด


ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thaiseoboard.com
 
นักวิทยาศาสตร์กับพระพุทธศาสนา อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลก หันมาศึกษาพุทธศาสนาอย่างจริงจังลึกซึ้ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักวิทยาศาสตร์สายควอนตั้ม

 

คำตอบของความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่

 
       ถึงแม้ "อัลเบิร์ต ไอสไตล์" ได้จากโลกนี้ไปโดยที่เขายังไม่สามารถค้นพบตำตอบตามที่เขากำลังต้องการก็ตาม แต่ไอสไตล์ได้ทิ้งคำพูดที่เป็นปริศนาที่สำคัญมากให้กับมนุษยชาติ ในช่วงวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของเขา อัลเบิร์ตได้เริ่มสงสัยแล้วว่า พระพุทธศาสนา อาจจะเป็นศาสนาที่ให้คำตอบต่อคำถามที่เขากำลังพยายามค้นหา ในช่วง 1 ปีก่อนที่เขาจะเสียชีวิตนั้น มหาวิทยาลัยปรินซ์ตัน ได้ตีพิมพ์งานเขียนชิ้นหนึ่งของเขาชื่อเรื่อง "The Human Side" ซึ่งนักฟิสิกส์ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลผู้นี้ ได้กล่าวทิ้งท้ายให้เป็นปริศนาแห่งโลกอนาคตว่า

       The religion of the future will be a cosmic religion. It should transcend personal God and avoid dogma and theology. Covering both the natural and the spiritual, it should be based on a religious sense arising from the experience of all things natural and spiritual as a meaningful unity. Buddhism answers this description. If there is any religion that could cope with modern scientific needs it would be Buddhism. (Albert Einstein)

        "ศาสนาในอนาคต จะต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน และควรจะเว้นคำสอนแบบสิทธันต์ (คือเป็นแบบสำเร็จรูปที่ให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว) และแบบเทววิทยา(คือพึ่งเทวดาเป็นหลักใหญ่) ศาสนานั้น เมื่อครอบคลุมทั้งธรรมชาติและจิตใจ จึงควรมีรากฐานอยู่บนสามัญสำนึกทางศาสนา ที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ต่อสิ่งทั้งปวง คือ ทั้งธรรมชาติและจิตใจอย่างเป็นหน่วยรวมที่มีความหมาย พระพุทธศาสนาตอบข้อกำหนดนี้ได้....ถ้าจะมีศาสนาใดที่รับมือได้กับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ปัจจุบัน ศาสนานั้นก็ควรเป็นพระพุทธศาสนา"

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
นักฟิสิกส์ ชาวเยอรมัน ผู้เสนอทฤษฏีสัมพันธภาพ

 
 

ชมวิดีโอพระพุทธศาสนากับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์


รับชมคลิปวิดีโอพระพุทธศาสนากับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
ชมวิดีโอพระพุทธศาสนากับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์  MP3 ธรรมะพระพุทธศาสนากับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์   Download ธรรมะพระพุทธศาสนากับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์

 

บทความที่เกี่ยวข้องนักวิทยาศาสตร์



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
วันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคม 2566วันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคม 2566

วิธีป้องกันไม่ให้น้ำท่วมบ้านอย่างได้ผลวิธีป้องกันไม่ให้น้ำท่วมบ้านอย่างได้ผล

ส้วมเฉพาะกิจเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมส้วมเฉพาะกิจเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ความรู้รอบตัว