ผมเชื่ออยู่ 11 ปี ว่าวัดนี้...รวยแล้ว


[ 6 ต.ค. 2555 ] - [ 18273 ] LINE it!

จากหนังสืออะไรที่ทำให้ต้องเปลี่ยนใจ
อะไรที่ทำให้ต้องเปลี่ยนใจ เล่ม 1 เรื่องที่ 3

ผมเชื่ออยู่ 11 ปี  ว่าวัดนี้...รวยแล้ว
คุณ สมชาย  ศิริกุรุรัตน์
เจ้าของกิจการ  ส . ศิริการสร้าง



"ผมเชื่ออยู่ 11 ปี  ว่าวัดนี้...รวยแล้ว
ใครมาวัดนี้  ต้องทำบุญจนหมดตัว....
"

อะไรที่ทำให้ต้องเปลี่ยนใจ
 
      ปกติแล้วผมเป็นคนใจบุญ  วัดไหนมาบอกผมก็ทำบุญทั้งนั้น  แม้แต่บริจาคโลหิตผมก็บริจาคไปแล้วถึง 70 กว่าครั้ง  แต่พอมาทราบว่า  พี่ชายคนที่ 3  ของผมมาวัดพระธรรมกาย  ทำบุญทีเป็นล้าน  ผมตกใจและรู้สึกว่า  ทำไมมาวัดนี้ต้องทำบุญเป็นล้านด้วยหรือทุกครั้งที่มีการทำบุญ  พี่ชายก็จะชวนผมทำบุญด้วยเสมอ  เดี๋ยวบุญโน้น  บุญนี้  ถี่ยิบไปหมด  ชวนให้ตั้งกองทีเป็นหมื่น  ครั้นจะปฎิเสธ  ก็กลัวเสียน้ำใจ  จึงได้ร่วมทำไปบ้างสัก 400-500 บาท

        ตอนนั้นทำให้ผมปักใจเลยว่า.. วัดนี้เป็นพุทธพาณิชย์  ยังพูดกับเพื่อนๆ  ในวงเหล้าเลยว่าวัดนี้ไม่ไหว..อะไรๆ ก็เป็นเงินไปหมด  คนมาต้องหมดเนื้อหมดตัว  ต้องขายบ้าน  ขายโน่น ขายนี่มาทำบุญ   ซึ่งระยะเวลาที่ผมไม่ชอบวัด 44 ปี  พี่ชายก็ยังไม่ละความพยายาม  ยังคงตื๊อชวนให้มาวัดท่าเดียว  ผมก็มาบ้างไม่กี่ครั้ง  เพราะขัดไม่ได้  จนสุดท้ายผมต้องเอ่ยปากไปว่า  จะไม่มาอีกแล้ว  เพราะมาแล้วเจอเหตุการณ์ที่ไม่ประทับใจบางอย่าง  จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง  ด้วยคำพูดของคุณหมอท่านหนึ่งที่มาวัดพระธรรมกาย  พอฟังแล้วต้องหยุดคิดว่า... แท้จริงแล้วการทำบุญ  หากเรามีเงินมากเหลือเฟือ  ก็ต้องทำบุญทุกบุญอยู่แล้ว  ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโรงเรียน  โรงพยาบาล  เลี้ยงอาหารเด็กกำพร้า  และที่สำคัญอย่างขาดไม่ได้ก็คือ  การทำบุญกับวัด  กับพระพุทธศาสนา

         แต่ถ้าหากเรามีเงินน้อยก็ต้องฉลาดทำ  คือหาที่ที่บริจาคเงินไปแล้วเอาเงินของเราไปทำให้เกิดประโยชน์ได้มากๆ  และต้องหาที่ๆ  นำเงินเราไปใช้แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุได้  ก็คือที่จิตใจ   ทำให้คนในสังคมเป็นคนดี  เป็นคนมีคุณภาพ  ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัว  และสังคม  ขยัน  ไม่ฆ่า ไม่ขโมย  ไม่ดื่มเหล้าจนเมาแล้วขับรถไปชนลูกใครตายซึ่งสิ่งเหล่านี้เขาจะเข้าใจได้ก็ต้องอาศัยหลักธรรม  เพราะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ  คือแก้ที่จิตใจอย่างการเอาอาหารไปเลี้ยงเด็กกำพร้า 4 มื้อ   ก็ช่วยเขาได้แค่อิ่มหนึ่ง  เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ  แต่ไม่ได้ทำให้เขามีศีลธรรมขึ้น  หรือสามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย  ซึ่งนอกจากจะไปให้เงิน ให้อาหาร  ให้เสื้อผ้า เขาแล้ว  สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ  การให้หลักธรรมในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง  ที่จะทำให้เขาสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง  โดยไม่ก่อความเดือดร้อนต่อไป หรือเป็นภาระให้กับสังคม สิ่งนี้เป็นหน้าที่ของวัด  และวัดหลายๆ วัดก็ได้ทำหน้าที่นี้   และทำได้ดี  เพียงแต่ไม่ได้มาบอกให้สาธารณชนรับรู้  เพราะเป็นหน้าที่โดยตรงของพระอยู่แล้ว  ที่ต้องสอนญาติโยมให้ทำความดี  และวัดๆ หนึ่งที่กำลังทำหน้าที่ตรงนี้อย่างเข้มแข็ง  ท่ามกลางกระแสความไม่เข้าใจของสังคมคือ วัดพระธรรมกาย
 
à¸<!-- WP_SPACEHOLDER -->าพเด็กดี V-Star
ภาพเด็กดี V-Star ครั้งที่ 6 ปี พ.ศ.2555


         พอฟังตรงนี้ทำให้ผมเริ่มคิด  เริ่มลองมาวัดมากขึ้นตั้งแต่บัดนั้น  มานั่งสมาธิที่วัดนี้บ่อยๆ  เปิดใจศึกษาคำสอนของที่นี่ดู  แล้วผมก็พบจริงๆ ว่า  วัดพระธรรมกาย  มีโครงการที่จัดอบรมและปลูกฝังศีลธรรมให้แก่เด็กนักเรียนทั่วประเทศปีหนึ่งตั้ง 4 ล้านคน   มีโครงการอบรมธรรมทายาทตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงเด็กโตปีหนึ่งๆ  เป็นพันคน  โดยคนมาบวชไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เลย  วัดให้การสนับสนุนงานสาธารณกุศลต่างๆ   ทั้งนี้ยังไม่นับโครงการอะไรต่อมิอะไรของวัดอีกมากมายสารพัด  แล้วยังมีโรงเรียนปริยัติธรรมให้พระเณรได้เรียนบาลีอีก  พอมาคำนวณแล้ว ผมว่าวัดต้องใช้เงินมหาศาลทีเดียว  เท่าที่สังเกตดูผมเห็นพวกที่อบรมกลับไปก็ได้ผลดี  พ่อแม่ไม่ต้องกังวลเป็นทุกข์เพราะลูก   มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นจนเห็นชัด  ผมว่านี่แหละ คือการแก้ปัญหาที่แท้จริงที่ชาติกำลังต้องการอยู่   ตอนนี้ผมจึงเข้าใจแล้วว่า  ทำไมพี่ชายผมถึงได้ทุ่มทำบุญขนาดนี้ พี่ชายของผมทำด้วยความสมัครใจ  ไม่มีใครบังคับ  แม้แต่วัดก็ไม่ได้บังคับ  ทุกวันนี้ผมก็บริจาคทำบุญและรู้สึกคุ้มมากที่เงินของผมทุกบาททุกสตางค์  ถูกใช้ไปเพื่อการแก้ปัญหาของชาติที่แท้จริง  คือการแก้ไขที่ต้นเหตุ

          จากการที่ผมเข้าใจเอาเองมาโดยตลอดว่า  วัดนี้รวยแล้ว  พอมาเข้าวัดแล้ว เห็นทีต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ว่า   วัดนี้จนเหลือเกิน  เพราะอะไรครับ  ก็เพราะวัดยังต้องใช้เงินอีกมากในการทำงานเพื่อแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ  ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจจะไม่เห็นผลเป็นรูปเป็นร่างที่ชัดเจน  จนดูเหมือนกับไม่ได้ผลอะไร  แต่ความจริงแล้วส่งผลกระทบอย่างมาก  โดยเฉพาะสังคมในครอบครัว เหมือนเรามีเงินเก็บส่วนตัว 10 ล้าน  โดยไม่ต้องรับภาระอะไรเลย  อย่างนี้เขาอาจเรียกว่ารวยได้เพราะมีเหลือเฟือเพียงพอ  แต่หากมีมูลนิธิหนึ่งต้องรับภาระและแก้ไขปัญหา  ต้องช่วยเหลือฟื้นฟูอะไรตั้งมากมาย  แต่มีงบประมาณ 10 ล้าน  เทียบกับอัตราปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด  เงินแค่นี้ไม่นับว่ามากเลยแท้จริงยังขาดเงินอีกจำนวนมากต่างหาก  ถ้าเราทราบการทำงานของเขา  เราจะยังว่าเขารวยอีกไหม....??

         ซึ่งโดยส่วนตัวของผม  หากวัดพระธรรมกายเป็นพุทธพาณิชย์  สามารถทำให้คนมาบริจาคเงินได้มากๆ แล้วเอาเงินนั้นมาแก้ไขปัญหาของสังคมได้ถึงขนาดนี้  ผมว่าน่าจะมีวัดที่เป็นพุทธพาณิชย์มากๆ นะปัญหาของประเทศจะได้หมดไปซะที

          คุณว่าดีกว่าไหม....  หากพ่อแม่ทุกคน  จะไม่ต้องกังวลว่าลูกตัวเองจะไปติดยาอีกต่อไป  ไม่ต้องคอยระวังว่าลูกสาววัยรุ่นจะต้องตกเป็นกิ๊กของเพื่อนชายหลายๆ คน  จนต้องพาลูกสาวชั้น  ม.ต้น  ไปทำแท้งและไม่ต้องกลัวว่าสามีจะเจ้าชู้  ไม่ต้องกลัวว่าพ่อบ้านจะติดเหล้า  เล่นการพนัน  เพราะทุกคนต่างมีศีลมีคุณธรรม  เพราะเข้าวัดปฎิบัติธรรมกันทั้งครอบครัว


 
บทความที่เกี่ยวข้องกับหนังสืออะไรที่ทำให้ต้องเปลี่ยนใจ
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ผม...เคยคิดจะมาเผาวัดพระธรรมกายผม...เคยคิดจะมาเผาวัดพระธรรมกาย

ไปทุกวัด...ยกเว้นวัดพระธรรมกาย !ไปทุกวัด...ยกเว้นวัดพระธรรมกาย !

ผมเชื่ออยู่ 11 ปี  ว่าวัดนี้...รวยแล้วผมเชื่ออยู่ 11 ปี ว่าวัดนี้...รวยแล้ว



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

อะไรที่ทำให้ต้องเปลี่ยนใจ