บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่คำชะโนด

Case study

เรียบเรียง จากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ

ลูก ต้องขอกราบขอบพระคุณคุณครูไม่ใหญ่เป็นอย่างสูง ที่ได้เมตตาฝันในฝัน ให้กับเรื่องราวของลูก ที่เฉลยออกมาว่า อดีตชาติของลูกคือ มเหสีพญานาค เพราะหลังจากฟังเรื่องราวของตัวเองแล้ว ต่อม Alert ได้ทำงานหนักขึ้น จนต้องส่งเรื่องราวที่ยังคาใจเกี่ยวกับพญานาคมาเป็นครั้งที่ 2 ค่ะ

หลังจากที่ลูกกลับมาจาก คำชะโนด ในคืนนั้น คณะของลูกได้เข้าพักยังบ้านพักเรือนรับรองพิเศษที่เขาจัดให้ ซึ่งที่บ้านพักแห่งนี้มีเรื่องเล่าว่า เวลาใครมานอนค้าง จะมีความรู้สึกเหมือนมีงูใหญ่มานอนอยู่ด้วยข้างๆ ซึ่งตัวลูกเองกลัวมาก จึงได้นั่งสมาธิแผ่เมตตาให้ ท่านคำโพธิราช อธิษฐานจิตบอกท่านว่า “อย่ามารบกวนเราเลย เราไม่ต้องการเห็นอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องมาปรากฏอะไรให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นบริวารอะไรของท่านก็ตาม ขอให้เราได้นอนหลับในค่ำคืนนี้อย่างสงบและสบาย” ซึ่งพอลูกเริ่มเคลิ้มๆ ก็มีความรู้สึกว่าเหมือนโดนงูฉกที่ปลายนิ้วโป้ง ซึ่งลูกรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง แล้วก็บอกเขาต่อว่า “ไหนว่าตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือ” ก็เลยลุกขึ้นมานั่งสมาธิแผ่เมตตาเป็นรอบที่ 2 หลังจากนั้นก็หลับสบายทั้งคืนไร้การรบกวนใดๆ แต่พอรุ่งเช้า คณะผู้ที่ตามที่มาพักค้างด้วยทั้งหมด ต่างได้บอกลูกเป็นเสียงเดียวกันว่า “นอนไม่ได้ทั้งคืน เหมือนงูเลื้อยพันตัวตลอดเวลา” และหลังจากตื่นขึ้น คณะของเราก็ได้เดินทางไปคำชะโนด ไปยังบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง

บ่อน้ำศักดิสิทธิ์ ที่เมืองคำชะโนด นอกจากจะมีต้นไม้กายสิทธิ์ที่เรียกว่า “ต้นชะโนด” แล้ว ยังมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เชื่อถือกันว่า เป็นแหล่งที่อยู่ของพญานาคใต้บาดาล บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีลักษณะเป็นบ่อน้ำตามธรรมชาติ บ่อน้ำแห่งนี้มีเรื่องเล่ากันว่า เป็นบ่อศักดิ์สิทธิ์ บางท่านลองมาทำการอธิษฐานเสี่ยงสัตย์บารมีว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์จริงหรือไม่ โดยลองอธิษฐานให้น้ำภายในบ่อเปลี่ยนสีเป็นสีต่างๆ ก็ปรากฏว่า น้ำภายในบ่อแห่งนี้สามารถเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง สีแดง ได้ตามอธิษฐานจริงๆ ความโด่งดัง ความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ของบ่อแห่งนี้ จึงทำให้ผู้คนทุกชนชั้น นำน้ำภายในบ่อไปรักษาโรค ไปดื่ม ไปอาบ ไปบูชาไว้ภายในบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคลของตนเองและครอบครัว มีหลายรายที่นำน้ำภายในบ่อนี้ ไปรักษาอาการเจ็บป่วยของตนเองหรือของผู้อื่นก็ปรากฏเป็นอัศจรรย์ว่า เขาเหล่านั้นสามารถหายจากอาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆที่บางโรคนั้น แพทย์แผนปัจจุบันก็ไม่รับรักษาแล้ว หรือเป็นเรื้อรังมานานแม้รักษาเท่าใดอาการก็ไม่เคยทุเลา ก็ลองนำน้ำภายในบ่อนี้มาใช้ดูก็ปรากฏว่า โรคที่เรื้อรังมาแต่เดิมกลับสามารถหายได้อย่างไม่คาดฝันมาก่อนเลย

ความอัศจรรย์จากบ่อน้ำแห่งนี้ยังมีอีก คือระดับน้ำในสระนั้นสามารถขึ้นลงได้เช่นเดียวกันกับระดับน้ำในแม่น้ำโขง ประการต่อมาคือยามที่มีบั้งไฟพญานาคบางครั้งก็จะมีลูกไฟลอยขึ้นมาจากสระน้ำแห่งนี้เช่นเดียวกัน สร้างความประหลาดใจกับชาวบ้านมานักต่อนักแล้ว อีกประการหนึ่งคือที่สระน้ำแห่งนี้จะมีฟองอากาศผุดขึ้นมาคล้ายว่า มีสิ่งมีชีวิตบางอย่างหายใจอยู่ใต้น้ำ ชาวบ้านเขาก็เชื่อว่าพญานาคท่านหายใจออกมา ความอัศจรรย์จากน้ำวิเศษในบ่อนี้มีเรื่องเล่ามากมายนัก พอลูกไปถึงที่นี่ได้มองทอดไปยังบ่อน้ำนี้ กลางบ่อน้ำเหมือนมีอีกแผ่นดินซึ่งมีต้นไม้ขึ้น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 วา สามารถเคลื่อนตัวไปมาได้ ลอยอยู่เหนือบ่อน้ำนั้น และก็ลูกได้มองลงไปที่น้ำในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ใสมาก เห็นพรายน้ำผุดขึ้น ทันใดนั้น ทำให้ลูกมีความคิดขึ้นมาทันทีว่า อยากจะพิสูจน์ ว่าในบ่อน้ำนี้จะมีพญานาคซึ่งคือ ท่านคำโพธิราช แห่งเมืองบาดาลจริงหรือไม่

ลูกได้พูดขึ้น ซึ่งคนในละแวกเดียวกันก็ได้ยินคำพูดทั้งหมดที่ลูกพูดด้วย ลูกบอกต่อว่า “หากใช่ท่านคำโพธิราชจริง ให้พรายน้ำผุดขึ้นให้เราดู” ทันใดนั้นเอง พรายน้ำอย่างมากมายก็ได้ผุดขึ้นอย่างเต็มบ่อไปหมด จนคนแถวนั้นต่างประหลาดใจ แต่ลูกก็ยังไม่ค่อยเชื่อ จึงอธิฐานต่อว่า “ท่านคำโพธิราช เวลาเรานั่งสมาธิ จะมีดวงธรรมผุดขึ้น และในที่สุดก็จะมารวมเป็นหนึ่งเท่านั้น ไม่มีหลายดวงกระจัดกระจายเช่นนี้ เราขอเห็นดวงใหญ่เพียงดวงเดียว” พอกล่าวจบ พวกเราต่างต้องประหลาดใจกันอีก แม้ครั้งที่ 2 คือมีพรายน้ำดวงใหญ่เท่าดวงจันทร์ผุดขึ้นกลางบ่อน้ำนั้น และพรายน้ำดวงอื่นก็ได้หายไปหมด เมื่อเห็นอย่างนี้ พี่สาวของลูก ถึงกับยกมือขึ้นไหว้ถึงสิ่งอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ลูกพูดจบ แล้วยังแซวลูกว่า “นี่...สั่งได้อย่างกับสั่งก๋วยเตี๋ยวเลยนะ” แต่ลึกๆลูกก็ยังต้องการพิสูจน์อีก เป็นครั้งที่ 3 จึงพูดขึ้นอีกว่า “ยังไง...เราก็ยังไม่แน่ใจว่าท่านมีจริงหรือไม่ เอาอย่างนี้ ท่านจะมีวิธีการใดที่แสดงให้เรารู้ว่ามีจริง” จากนั้น ปรากฏการณ์ประหลาด แม้ครั้งที่ 3 ก็ได้เกิดขึ้นอีกคือ มีพรายน้ำเล็กๆ ผุดขึ้น จากใต้น้ำลึก และเรียงต่อกันจนกลายเห็นหัวพญานาคให้เห็นอย่างจะๆ ตอนนี้ลูกขนลุกซู่ไปหมด แล้วคิดว่าถ้าเป็นอย่างนี้ สงสัยจะมีจริงๆแล้วมั้ง ลูกจึงยกมือขึ้นไหว้ แล้วพูดขึ้นว่า “เชื่อแล้วๆ” แล้วพวกเราก็ได้พากันเดินทางกลับ

ลูกขอเรียนถามคำถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ค่ะ

1.คืนที่คณะของลูกได้นอนพักค้าง ยังเรือนรับรอง ที่วัดศรีสุทโธ ทุกคนที่นอนเหมือนมีงูเลื้อยพันทั้งคืน เป็นเพราะอะไร ทำไมเขาต้องมากวนพวกเราด้วย มารบกวนแล้วเขาจะได้อะไรเป็นการตอบแทน และที่ลูกไม่โดนรบกวน และหลับสบายอยู่คนเดียวในคืนนั้นเป็นเพราะอะไรคะ

2.ปรากฏการณ์พรายน้ำที่ผุดขึ้นที่บ่อ เกิดจากสาเหตุใด และที่ลูกได้อธิษฐาน ท่านคำโพธิราชได้รับรู้ และทำปรากฏการณ์นั้นให้เกิดขึ้น เป็นจริงหรือไม่

3.บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ เมื่อมีคนไปอธิษฐานขออะไรก็จะได้ เช่นรักษาโรคให้หาย ทำไมจึงสามารถหายได้คะ และทำไมน้ำถึงเปลี่ยนเป็นสีต่างๆได้ แล้วพญานาคจะพิจารณาอย่างไรบ้างว่า จะให้คำอธิษฐานของใครสำเร็จบ้าง และหากเขาช่วยให้สำเร็จแล้ว พญานาคจะได้อะไรเป็นการตอบแทน

4.เคยมีคนพูดกันว่าทุก 15 วัน ท่านศรีสุโธ และท่านคำโพธิราช จะแปลงเป็นคนและขึ้นมายังเมืองมนุษย์ และอีก 15 วัน จะกลับไปยังเมืองบาดาลใหม่ จริงหรือไม่ หากจริงปัจจุบันท่านยังทำเช่นนี้อยู่หรือไม่ และตอนท่านแปลงมาเป็นมนุษย์ ขึ้นมายังพื้นมนุษย์ท่านไปอยู่ที่ไหนอย่างไรคะ

5.ลูกอยากทำบุญให้ท่านคำโพธิราช แต่พอทำแล้ว ทำให้ท่านมีอายุความเป็นนาคยาวนานขึ้นอีก แต่ลูกอยากให้ท่านมาเกิดเป็นคนเร็วๆ ลูกจะต้องทำบุญแบบไหนคะ

6.ท่านคำโพธิราชท่านรู้ไหมคะ ว่าเรื่องราวของท่านได้ออกเป็น Case study หากท่านรู้ ท่านว่ายังไงบ้าง และท่านจะได้บุญตรงส่วนนี้อย่างไรบ้าง

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที

แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ

1.คืนที่คณะของลูกนอนค้างที่วัดศรีสุทโธ ที่เรือนรับรอง ทุกคนนอนแล้วเหมือนมีงูเลื้อยพันทั้งคืน เพราะบริวารของพญานาคที่อยู่แถวนั้นได้มารบกวนบุคคลที่ไม่ได้ภาวนาแผ่เมตตา

อีกทั้งใต้ผืนแผ่นดินบริเวณนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของภพบาดาลหรือรอยต่อภพเมืองพญานาค

ที่เขามากวน เพราะเขาอยากให้ทุกคนแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้พวกเขาซึ่งเป็นบริวารพญานาคชั้นนอก และที่ลูกไม่โดนกวน เพราะลูกได้เจริญเมตตาภาวนาแล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้เขา

2.ปรากฏการณ์พรายน้ำที่เกิดขึ้นที่บ่อซึ่งเป็นโพรงน้ำต่อไปถึงแม่น้ำโขง เพราะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากหลายกรณี เช่นบางทีก็เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ บางทีก็เป็นปรากฏการณ์ที่พญานาคทำขึ้น

ส่วนในกรณีของลูกที่อธิษฐานจิตนั้น เป็นปรากฏการณ์ที่ท่านคำโพธิราชหรือท่านสุวรรณมธุร รับรู้และทำปรากฏการณ์นั้นขึ้น

3.บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มีคนไปอธิษฐานให้รักษาโรคนั้น บางคนหาย บางคนไม่หาย ขึ้นอยู่กับบุญบาปหรือการกระทำของตัว รวมทั้งความเชื่อด้วย

ที่น้ำในบ่อเปลี่ยนสีได้ตามคำอธิษฐานนั้น แล้วแต่บุญของผู้อธิษฐาน คือบางคนก็เปลี่ยนสีได้ บางคนก็เปลี่ยนไม่ได้ ซึ่งการเปลี่ยนสีของน้ำนั้นเป็นเพราะพญานาคเนรมิตตามกำลังบุญของคนอธิษฐาน

หากพญานาคช่วยใครได้สำเร็จ พญานาคก็จะได้บุญและบารมี แล้วก็จะมีคนไปนับถือเป็นสรณะ เป็นที่พึ่ง ซึ่งก็ยังไม่ใช่ที่พึ่งที่แท้จริง เพราะพญานาคยังต้องพึ่งพระรัตนตรัย

4.ท่านพญานาคศรีสุทโธและท่านคำโพธิราช ท่านมีปกติอยู่ใต้บาดาล ไม่ได้ขึ้นมาแปลงกายเป็นมนุษย์ทุก 15 วัน แล้วสลับไปอยู่ในภพบาดาลอีก 15 วัน ดังที่มนุษย์บางคนเข้าใจและลือกันไป

5.ท่านคำโพธิราชท่านยังมีความพึงพอใจในการเป็นพญานาคอยู่ ดังนั้นเมื่อลูกทำบุญอุทิศไปให้จึงทำให้ท่านมีอายุแห่งความเป็นนาคยืนยาวขึ้นกว่าเดิม

แต่เมื่อใดท่านเบื่อหน่ายจากการเป็นพญานาคก็จะพ้นจากภพภูมินี้ เพราะท่านมีบุญเพียงพออยู่แล้ว การที่ท่านจะมาเกิดได้เร็วขึ้นมันอยู่ที่ตัวท่านไม่ได้อยู่ที่ตัวลูก

แต่อย่างไรก็ตามให้ทำบุญทุกบุญแล้วอุทิศไปให้ท่าน แล้วบอกกล่าวกับท่านว่า ลูกอยากให้ท่านมาเกิดเป็นมนุษย์เร็วๆ เพื่อสร้างบารมี ซึ่งก็อาจทำให้ท่านมีความคิดเปลี่ยนแปลงไปตามความปรารถนาของลูกก็ได้

6.ท่านคำโพธิราช ตอนแรกๆไม่รู้ว่าหมู่คณะของเรารู้เรื่องของพวกเขา ต่อมาเมื่อทำมาออก Case Study ทำให้มนุษย์ร่ำลือกันต่อๆไปจนถึงมนุษย์ที่ อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย เรื่องจึงรู้ไปถึงเขาซึ่งอยู่แถวนั้น

เขาจึงได้ตามมาดูหมู่คณะของเรา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็รู้เรื่องจากจานดาวธรรมมาบ้าง และไปเข้าฝันนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาบางท่าน

และเมื่อเรื่องราวของท่านมาออกจานดาวธรรมก็ยิ่งร่ำลือกันไปใหญ่โดยเฉพาะ Case ของแม่คำหล้ายิ่งลือกันไปทั่วภพบาดาล

ซึ่งท่านก็จะได้บุญในกรณีนี้ ที่เรื่องราวของท่านทำให้มนุษย์เข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรมและการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะได้ดีขึ้น

อีกทั้งมีความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยเพิ่มขึ้น เพราะเรื่องของท่านเป็นต้นบุญต้นแบบที่ดีของความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย