CASE STUDY
คีรอยด์ ไสยเวท
(ตุ๊กตาขี้เกียจ และ คีรอยด์)
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
ลูก ประกอบอาชีพทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ใน อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี สามีของลูกเป็นทหารเรือ เราทั้งสองได้เข้าวัด เมื่อปี 2536 จากการแนะนำของสามีภรรยาคู่หนึ่งที่เป็นอาจารย์สอนทหารเรือ เข้าวัดครั้งแรกได้ไปสวนบัวก่อน กลับจากสวนบัวด้วยความ Alert สุดขีดได้บอกบุญญาติ ๆ และนำปัจจัยมาทำบุญหล่อหลวงปู่ทองคำ รวมน้ำหนัก 70 บาท และได้เป็นครอบครัวธรรมกายมาจนถึงปัจจุบัน ลูกกราบขอความเมตตาพระเดชพระคุณคุณครูไม่ใหญ่ฝันในฝันเรื่องของลูกดังนี้ค่ะ
คุณพ่อของลูก เป็นคนจีนอพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ มาถึงเมืองไทยตอนแรกทำงานรับจ้างอยู่ที่ จังหวัดพิจิตร พอมีทุนท่านก็เปิดร้านขายของชำ จนมีฐานะร่ำรวยและได้แต่งงานกับแม่ ตอนแต่งใหม่ๆ ฐานะก็ดี พอมีลูกคนที่ 2 ฐานะก็แย่ลงเรื่อยๆ เนื่องจากพ่อเป็นคนใจดีชอบให้คนกู้ยืมเงิน แต่เมื่อยืมไปแล้วเขาก็ไม่เอามาคืน จนกระทั่งหมดตัว
และตั้งแต่นั้นมา พ่อเริ่มมีอาการแปลกคือจะมีน้ำมันไหลเยิ้มออกมาที่หลังของพ่อตลอดเวลา สังเกตเห็นได้ชัดเวลานอนบนพื้นกระดาน จะมีคราบน้ำมันติดบนกระดาน และพ่อก็จะไม่ยอมออกจากบ้านไปไหนเลย รักบ้านมาก งานทุกอย่างทำหมดถ้าเป็นงานที่อยู่ในบ้าน แต่ถ้าต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ท่านจะไม่ไป อยู่มาจนกระทั่ง พี่ชายคนที่ 2 ของลูก อายุได้ประมาณ 5-6 ขวบ วันหนึ่งพี่ชายคนนี้ได้ไปเดินเล่นที่รั้วบ้าน ได้เห็นกระทงที่เย็บจากใบตองวางอยู่ข้างรั้ว ทันทีที่พี่ชายเห็นกระทงนั้นก็ร้องออกมาสุดเสียง มีท่าทางหวาดกลัวมาก ทั้งๆ ที่คุณแม่ไปดูก็เห็นเป็นกระทงธรรมดาไม่เห็นมีอะไร ถามเขาว่าเห็นอะไรเขาก็ไม่ยอมบอก ได้แต่แสดงท่าทางหวาดกลัวเพียงอย่างเดียว อยู่ต่อมา 3-4 วัน พี่ชายก็ป่วยเป็นโรคคอตีบ เสมหะไปอุดตันหลอดลม และเสียชีวิตในเวลาต่อมา สร้างความเสียใจให้กับคุณพ่อเป็นอย่างมากเกือบฆ่าตัวตาย คุณพ่อเริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป กลายเป็นคนโมโหง่าย ฉุนเฉียว และหันมาดื่มเหล้า เป็นอย่างนี้มาเรื่อย ๆ หลายปีผ่านไป จนกระทั่งวันหนึ่ง พี่สาวคนที่ 5 ของลูก (ตอนนั้นอายุประมาณ 13-14 ปี) ได้ไปเดินเล่นในบริเวณรั้วบ้าน ได้พบกับก้อนดินก้อนหนึ่ง ก็เอามาขว้างกับต้นไม้ จนแตก ก็เห็นเป็นตุ๊กตา 2 ตัวมัดติดกันอยู่ หันหลังชนกัน จึงหาหมอไสยเวทมาดูเขาบอกว่าโดนเขาทำของใส่นานแล้วเพราะความอิจฉาที่แม่มีฐานะดี เขามัดมือมัดเท้าไว้เพื่อจะให้ขี้เกียจทำมาหากิน คนที่ทำเป็นญาติฝ่ายแม่เป็นผู้หญิงซึ่งเขาก็บอกลักษณะรูปร่าง ทิศทางที่อยู่ได้ตรงกับญาติคนหนึ่งของแม่พอดี หมอจึงทำพิธีแก้ให้ที่บ้าน วิธีการของหมอคือ นั่งพับเพียบพนมมือ บริกรรมคาถา สักพักร่างของหมอก็ลอยขึ้นสู่อากาศในท่าเดิม ลอยขึ้นสูงประมาณเท่าเอวของผู้ใหญ่เวลายืน มีน้าชาย น้าสาว พ่อและแม่อยู่ในเหตุการณ์ หมอบอกว่าช่วยได้แต่ไม่หมด จากนั้นก็ปล่อยเรื่องให้เลยตามเลยเรื่อยมา เพราะพ่อก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้เท่าไหร่นัก น้ำมันที่ไหลออกมาจากหลังของพ่อก็ลดลงบ้างแต่ไม่หาย ฐานะก็ไม่ดีขึ้น บ้านที่เอาไปจำนองไว้ก็ถูกยึด พอบ้านถูกยึดพ่อกับแม่ก็ไปอาศัยบ้านคนจีนที่เขาอพยพมาจากประเทศจีนเหมือนกัน ลูกๆที่โตแล้วก็เข้ากรุงเทพ ฯ
จากนั้น 5-6 ปีต่อมาคุณแม่ก็เริ่มมีอาการเหม่อลอย เบลอ ๆ ต่อมาก็เป็นเบาหวาน เมื่อลูกมีเงินซื้อบ้าน ก็รับพ่อกับแม่มาอยู่ด้วย และเริ่มรักษาโรคเบาหวานของแม่ จนกระทั่งท่านอายุ 62 ปี อยู่ดีๆ แขนของแม่ก็ไม่มีแรงยกไม่ขึ้น ไปตรวจก็พบว่าเป็นเนื้องอกในสมองมานานนับเป็นเวลาสิบๆปีแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ แสดงออกมาเลย หมอนัดให้ทำการผ่าตัด ก่อนผ่าตัดหมอได้นำแม่ไปฉีดสีเข้าเส้นเพื่อที่จะหาตำแหน่งของเนื้องอกและเส้นเลือด พอฉีดสีเข้าไป ทำให้เส้นเลือดหดตัว เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้ จึงเกิดอาการช็อค ไม่ได้สติอีกเลย สมองตายไป 80% ผลสุดท้ายไม่ได้ผ่าตัด และแม่ก็เสียชีวิตลง ด้วยอายุ 62 ปี
หลังจากคุณแม่เสีย คุณพ่อก็อายุได้ 80 ปี เริ่มไม่มีแรง แต่ท่านก็จะใส่บาตรทุกวัน ต่อมาพ่อป่วยเดินไม่ค่อยไหว หมอบอกว่าเป็นโรคเกาต์ บางทีหมดแรงล้มไปเลย ต้องดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา 1 ปี ต่อมาท่านมีอาการท้องอืด หมอตรวจพบว่า มีอุจจาระแพ็คแน่นแข็งมากอยู่เต็มลำไส้ ต้องใช้วิธีสวนทวาร อาการท้องอืดก็หาย แต่ร่างกายก็อ่อนล้าเต็มที จึงจำเป็นต้องให้อาหารทางสายยาง
ตอนนั้นลูกเป็นพยาบาลจะเป็นคนใส่สายยางเอง ทุกครั้งที่ใส่สายยางท่านจะทรมานมาก เวลาเผลอท่านก็จะเอามือข้างที่พอจะมีแรงอยู่บ้างเล็กน้อยคว้าสายยางแล้วดึงออก ลูกก็ต้องใส่เข้าไปใหม่ พ่อจะทรมานทุกครั้ง ลูกสงสารมาก แต่ไม่ทราบจะทำอย่างไร ถ้าไม่ใส่พ่อก็ไม่ได้รับอาหาร และก็ต้องตาย
เมื่อมาอยู่ที่บ้านลูกได้เปิดจานดาวธรรมให้พ่อดูตลอด ก็ดูบ้างหลับบ้าง เพราะร่างกายท่านแย่เต็มที บางทีลูกก็จะนิมนต์พระมาทำบุญที่บ้าน ให้พ่ออนุโมทนา ท่านก็จะสาธุและยิ้มแสดงอาการดีใจ ก่อนที่จะเสียชีวิต 1 วัน ในตอนเช้าของวันนั้น มีอาเจียนสีดำ ๆ ไหลทะลักออกมาจากปากของพ่อ ประมาณ 1-2 แก้ว พอวันรุ่งขึ้นบ่าย 3 โมงเย็น พ่อเริ่มหายใจแรงและลึกมากขึ้น ดวงตาของท่านสอดส่ายไปมา ทำตาโตเหมือนเห็นอะไรสักอย่างและทำท่าแปลกใจสงสัยในสิ่งที่เห็น พอสี่โมงในดาวธรรมมีการสวดทำวัตรเย็น พ่อก็มีอาการสงบลง หลับตา มีน้ำสีเหลืองเหลว ๆไหลออกมาทางปากตลอด แล้วลูกก็ได้เห็น 3 เฮือกสุดท้ายของพ่อ ท่านก็หยุดหายใจด้วยอาการสงบ
สามีของลูก เป็นโรคชนิดหนึ่ง ภาษาทางการแพทย์เรียกว่า โรคคีรอยด์ เป็นมาตั้งแต่ 10 ขวบ อาการเริ่มแรก จะเป็นตุ่ม แล้วก็เป็นแผลเป็นลามใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับแผลเป็นที่มีเนื้อปูดออกมา พออายุมากขึ้นแผลก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มีอาการเจ็บและคัน รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย รักษาแต่ละครั้งต้องฉีดยาเข้าแผลเจ็บปวดทรมานมาก จนไม่อยากรักษาอีก รักษาครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ปัจจุบันสามีอายุ 40 ปี แผลใหญ่เท่าฝ่ามือ และมีอาการเจ็บคันตลอดเวลา
คำถามมีดังนี้ค่ะ
1. ทำไมคุณพ่อและคุณแม่จึงเกิดมายากจนต่อมาก็รวย พอมีลูกคนที่ 2 แล้วทำไมจึงกลับไปยากจนอีกครั้งเพราะกรรมใดคะ
2. คุณพ่อโดนคุณไสยจริงหรือไม่คะ ทำไมถึงมีน้ำมันไหลออกมาที่หลังของพ่อ กระทงที่พี่ชายคนที่ 2 เห็นคืออะไร ทำไมเขาถึงแสดงอาการหวาดกลัวขนาดนั้น รูปปั้นตุ๊กตาหันหลังชนกันที่พี่สาวเจอคืออะไรคะ
3. พี่ชายคนที่ 2 มีความเกี่ยวข้องกับไสยเวทที่คุณพ่อโดนหรือไม่ พี่ชายตายด้วยสาเหตุใด มีบุพกรรมใดจึงเสียชีวิตด้วยโรคคอตีบ ตายแล้วไปอยู่ไหนคะ
3. พี่ชายคนที่ 2 มีความเกี่ยวข้องกับไสยเวทที่คุณพ่อโดนหรือไม่ พี่ชายตายด้วยสาเหตุใด มีบุพกรรมใดจึงเสียชีวิตด้วยโรคคอตีบ ตายแล้วไปอยู่ไหนคะ
4. กรรมใดทำให้พ่อมีอุจจาระอุดตันเต็มลำไส้จนทำให้ทรมานรับประทานอาหารไม่ได้ ที่ลูกฝืนใจพ่อ ด้วยการใส่สายยางทางปากเข้าไปในกระเพาะ ทำให้พ่อทรมานมาก ลูกจะมีวิบากกรรมไหมคะ และถ้าตามใจพ่อ ไม่ใส่สายยางปล่อยให้พ่อเสียชีวิต ลูกจะมีวิบากกรรมไหมคะ พ่อทำกรรมใดมาจึงต้องมาทรมานจากการถูกใส่สายยางเข้าไปในกระเพาะ
5. ก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต ท่านสอดส่ายสายตามองไปมา และทำท่าสงสัย พ่อเห็นอะไรหรือคะ พ่อตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศให้หรือไม่
6. คุณแม่ทำกรรมใดมาจึงป่วยเป็นเนื้องอกในสมองเป็นเวลานับสิบๆปี แต่ทำไมถึงไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ และกรรมใดทำให้แม่เป็นโรคเบาหวาน แม่ตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่ลูกอุทิศให้หรือไม่คะ
7. คุณยายของสามีลูกเป็นโรคความดันโลหิตสูง จนเส้นเลือดในสมองแตกเป็นอัมพาตทั้งตัว พูดไม่ได้ ท่านรู้สึกทรมาน รับสภาพตัวเองไม่ได้ คุณยายของสามีทำกรรมใดมาคะจึงตกอยู่ในสภาพนี้ ตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศให้หรือไม่
8. สามีของลูกทำกรรมใดมาจึงป่วยเป็นโรคคีรอยด์ รักษาไม่หายจะแก้กรรมนี้ได้อย่างไรคะ
9. ลูกและสามีทำบุญใดมาจึงประสบความสำเร็จในธุรกิจขายตรงที่ทำอยู่และจะสามารถประสบความสำเร็จสูงสุดได้หรือไม่คะ ต้องทำอย่างไรจึงไปถึงเป้าหมายของธุรกิจนั้นได้คะ
10. กัลยาณมิตรทั้งสองท่านที่ชวนลูกและสามีเข้าวัด เราทำบุญร่วมกันมาอย่างไรคะ จึงมาเป็นกัลยาณมิตรให้ลูกในชาตินี้
11. ตัวลูก สามี และลูกชายทำบุญร่วมกันมากับหมู่คณะอย่างไรจึงได้มาเป็นครอบครัวธรรมกาย ลูกชายจะมีโอกาสได้บวชตลอดชีวิตไหมคะ
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
1. คุณพ่อ - คุณแม่เกิดมายากจน ต่อมาก็รวย แต่พอมีลูกคนที่ 2 กลับไปจนอีก เพราะ …ชาติในอดีตเวลาทำบุญก็มักจะทำบุญใหญ่ครั้งเดียว และภายหลังจากนั้นก็เลิกทำไปเลย ดังนั้นเวลาบุญส่งผลก็ส่งช่วงเดียวจ่ะ!
2. คุณพ่อโดนคุณไสยจริง ๆ โดยคนที่ไม่ชอบมาทำใส่ครอบครัวจริง ๆ จ่ะ! แต่น้ำมันที่ไหลออกจากที่หลัง ไม่เกี่ยวกับคุณไสย แต่เป็นต่อมเหงื่อหรือไขมันที่ทำงานมากเกินไป ซึ่งก็ไม่ได้เป็นอันตรายใดใดกับท่านจ่ะ!
- “กระทง” ที่พี่ชายคนที่ 2 เห็น คือ “ควายธนู” ที่คนทำคุณไสยมาวางไว้ ซึ่งพอดีพี่เคยมีกรรมปาณาติบาต และเคยจ้างหมอไสยเวทไปทำร้ายคู่อริในอดีตตามมาส่งผลจ่ะ!
- พี่ชายเห็นเงาสีดำใหญ่วิ่งเข้าใส่ตัว จึงตกใจอย่างสุดขีด บวกกับกรรมเก่า จึงทำให้เสมหะไปตันคอจนตาย ซึ่งคุณไสยจะทำร้ายได้ก็ต่อเมื่อ คนนั้นเคยมีวิบากกรรมทำคุณไสยติดตัวมาจ่ะ!
- รูปปั้น “ตุ๊กตาหันหลังชนกัน” ที่พี่สาวเจอ ก็คือ คุณไสยที่เขาทำให้พ่อ – แม่ทะเลาะกัน และขี้เกียจทำงาน แต่คุณไสยเป็นแค่ของเสริมเท่านั้น , ซึ่งที่สำคัญจริง ๆ ก็คือ “บุญเก่า” ที่ทำไว้มันหมด แต่ถ้ามีบุญ คุณไสยก็ทำอะไรไม่ได้จ่ะ!
3. พี่ชายคนที่ 2 ตายแล้ว ก็วนเวียนอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ไปเกิดเป็น “มนุษย์” แล้วจ่ะ!
4. คุณพ่อมีกรรม “เหนียวหนี้” คือ ขอยืมแล้วขอลืม กับกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารทั้งอดีตและปัจจุบัน ตามมาส่งผลให้อุจจาระตันในลำไส้จนเต็ม และรับประทานอาหารไม่ได้ ทุกข์ทรมานมากจ่ะ!
- ลูกฝืนใจพ่อ โดยการใส่สายยางทางปากลงไปในกระเพาะ ทำให้พ่อทรมานมาก ก็ไม่มีวิบากกรรมอะไร เพราะลูกเจตนาดี อยากให้พ่อหาย จึงได้ทำตามหลักวิชาที่เรียนมา
- ถึงลูกจะใส่สายยางหรือไม่ใส่สายยาง พ่อก็ทรมานอยู่แล้ว แต่คนละแบบตามวิบากกรรมที่พ่อทำมาจ่ะ!
- กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารเป็นหลักและกรรมสุราเสริม จึงทำให้พ่อต้องทรมานจากการถูกใส่สายยาง หรือไม่ใส่สายยางก็ตามจ่ะ!
5. ก่อนตายพ่อสอดส่ายสายตาไปมา เพราะเห็นกรรมนิมิตภาพในอดีต ดีบ้าง , ไม่ดีบ้าง ปนเปกันไปจ่ะ!
- พ่อตายแล้ว ก็ไปเกิดเป็น “อากาสเทวา” ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว ก็ยิ่งทำให้ท่านมีสถานที่ดีขึ้นจ่ะ!
6. คุณแม่เป็น “เนื้องอกในสมอง” และ “เบาหวาน” เป็นเวลายาวนานนับสิบปี แต่ไม่มีอาการป่วยทรมานใด ๆ เพราะ …กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารในอดีตและปัจจุบัน ตามมาส่งผล โดยก่อนฆ่าก็มักจะ “ทุบหัว” ก่อน เช่น ฆ่าปลา ก็มักจะทุบหัวปลาก่อนจ่ะ! แต่มีบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนาตามมาส่งผล จึงไม่มีอาการปวดทรมานกระทั่งหมดอายุขัย
- ตายแล้วก็วนเวียนอยู่ พักหนึ่ง ปัจจุบันก็ไปเกิดใหม่เป็น “มนุษย์” แล้ว ด้วยบุญที่อุทิศให้จ่ะ!
7. “คุณยายของสามี” เป็นโรคความดันโลหิตสูง จนเส้นเลือดในสมองแตกและเป็นอัมพาต ทุกข์ทรมานมาก เพราะ…กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารในอดีตและปัจจุบัน
- โดยในอดีตได้เลี้ยงสัตว์ไว้ฆ่าขายและขายให้เขาฆ่า โดยก่อนที่จะขายก็มักจะ “มัดสัตว์” เอาไว้ก่อนที่จะขนส่งไป จนสัตว์ทุกข์ทรมานมาก กรรมได้ตามมาส่งผลจ่ะ
- ตายแล้วก็ไปเป็น “ภุมมเทวา” ระดับธรรมดา อยู่ที่หมู่บ้านภุมมเทวาแห่งหนึ่ง
- ได้รับบุญที่อุทิศไปให้ก็สาวและสวยขึ้น มีสภาพดีขึ้นทุกอย่างจ่ะ!
8. สามีลูกเป็น “คีรอยด์” เป็นแผลปูด ทั้งเจ็บและคันตั้งแต่ 10 ขวบ แผลโตขึ้นเรื่อย ๆ รักษาก็ไม่หาย เพราะ … “วจีกรรม”เป็นหลัก และกรรมทรมานสัตว์เสริม
- เรื่องมีอยู่ว่า หลายชาติหลายครั้งที่ผ่านมา มักจะพูด “ตอกย้ำ” ข้อผิดพลาดเขาเสมอ จนทำให้เขา “เจ็บช้ำน้ำใจ”
- กับกรรมทรมานสัตว์หลายรูปแบบมาเสริม เช่น ทุบ , ตี , เอาหนังสติ๊กยิงเล่นบ้าง แกล้งสนุก ๆ เป็นต้นจ่ะ!
- จะแก้ไขก็ต้องสั่งสมบุญทุกบุญ พูดแต่ปิยะวาจา ทั้งต่อหน้าและลับหลัง แล้วอุทิศบุญกุศลไปให้แก่ผู้ที่เราเคยไปเบียดเบียนเขาไว้จ่ะ!
9. ลูกและสามี ประสบความสำเร็จขายตรงเพราะ มีทานบารมีมาในอดีต กับชอบชวนคนทำความดีมาส่งผลจ่ะ!
- ส่วนที่ลูกปรารถนาจะให้ไปถึงจุดสูงสุดของธุรกิจนี้ ก็ต้องสั่งสมบุญปัจจุบันในทุกบุญ ทั้งทำด้วยตัวเองและชวนคนอื่นทำให้มาก ๆ แล้วอธิษฐานจิตตอกย้ำความตั้งใจของลูกให้บ่อย ๆ ทุกวันจ่ะ!
10. กัลยาณมิตรทั้งสองที่ชวนลูกและสามีเข้าวัด ก็เคยสร้างบุญร่วมกันมากับหมู่คณะ โดยกัลยาณมิตรทั้งสองก็เคยเป็นกัลยาณมิตรให้ลูกและสามีมาในอดีตจ่ะ!
11. ตัวลูก , สามีและลูกชาย ได้มาเป็นครอบครัวธรรมกายเพราะ เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาหลายชาติ แบบ “กองเสบียง” จ่ะ!
- ส่วนลูกชายก็เคยมีบุญบวชตลอดชีวิตมาหลายชาติ , บางชาติก็บวชช่วงสั้น , บางชาติก็เป็นกองเสบียง แต่พุทธันดรที่ผ่านมาได้บวชตลอดชีวิต
- ดังนั้นชาตินี้ก็ประคับประคองให้ดี เมื่อบุญเก่าที่เขาทำมาอย่างดีแล้วส่งผล ก็จะทำให้เขาตัดสินใจบวชเองจ่ะ!
- ชาตินี้มาเจอกันอีก ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ ทั้งทำด้วยตัวเองและชวนคนอื่นมาทำด้วย แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ!