รวยแต่วัยรุ่น เพราะทำบุญกฐิน

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2553

ตอน รวยแต่วัยรุ่น เพราะทำบุญกฐิน

พลิกชีวิตด้วยบุญทอดกฐิน ตอน เถ้าแก่วัยกระเตาะ

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา

กัลฯอาชวิณ ชวาลารัตน์, รวยแต่วัยรุ่น เพราะทำบุญกฐิน

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ

ถ้าผมอายุสักสี่สิบกว่าปี แล้วประสบความสำเร็จจนเป็นเจ้าของกิจการ หรือเอามรดกจากพ่อแม่มาทำธุรกิจจนมีทุกอย่างเช่นวันนี้ ผมก็คงไม่เขียนจดหมายมาในวันนี้หรอกนะครับ แต่ว่าผมเริ่มทุกอย่างจากศูนย์ ไม่มีประสบการณ์และเงินลงทุนเลย แต่กลับก้าวไปสู่ความเป็นเถ้าแก่ด้วยอายุเพียง 21-ปีเท่านั้น ผมหนุ่มน้อย...อาชวิณ ชวาลารัตน์ หรือ แบงก์ ปัจจุบันอายุ 24-ปี เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทเดอร์มา อินโนเวชั่น จำกัด และ บริษัทแอดแมกซ์ เอเจนซี่ จำกัด เป็นเจ้าของธุรกิจขายปลีกและขายส่งเครื่องสำอาง อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก บนเว็บไซต์ และยังเป็นเจ้าของธุรกิจรับออกแบบเว็บไซต์ สร้างแบรนด์สินค้า วางแผนและผลิตสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ วิทยุ และนิตยสาร ครบวงจร

แม่พาผมเข้าวัดตั้งแต่ 12-ขวบ แล้วท่านก็จะให้สตางค์ผม 100-บาท เพื่อให้ผมไปทำบุญ ผมค่อยๆเกิดความรู้สึกลึกๆไว้ในใจว่า...สักวันหนึ่ง ผมต้องมีเงินทำบุญเป็นกอบเป็นกำที่หามาได้ด้วยตัวเอง จนกระทั่งเรียนปริญญาตรีปีสุดท้าย แม่ก็แนะนำให้ผมลองขายของทางอินเทอร์เน็ต ปรากฏว่าเวิร์คครับ ผมจึงเปิดบริษัทของตัวเองซึ่งผมก็ถือหลักวิชชาที่หลวงพ่อสอนผมมาตลอด โดยตั้งเป้าหมาย แล้วเอาบุญเป็นที่ตั้ง กล่าวคือ เมื่อผมเริ่มมีรายได้เป็นของตัวเองบ้างแล้ว แม้จะไม่มากนักก็ตัดสินใจทำบุญอย่างเต็มกำลังทันที โดยรวบรวมเงินรายได้ที่ได้จากธุรกิจก้อนแรก จำนวน 20,000-บาท ทุ่มทำบุญทอดกฐินสร้างอาคาร 60 ปีฯ />

จากนั้น ผมก็ขายดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงงานทอดกฐินปีต่อมา คือ สร้างหลังคามหารัตนวิหารคด ผมสามารถทำรายได้จนมีเงินทำบุญด้วยยอดที่เพิ่มขึ้นเป็น 30,000-บาท จนกระทั่งมาถึงงานทอดกฐินปีต่อมาอีก คือ กฐินหล่อรูปเหมือนทองคำ พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำฯ ตอนนั้นใจผมอยากทำบุญหล่อรูปเหมือนของท่านด้วยทองคำหนักสิบบาท ซึ่งตีเป็นยอดเงินในตอนนั้น 150,000-บาท หากเทียบแล้วก็เป็นอัตราที่มากกว่าการทำบุญกฐินปีที่ผ่านมาของผมถึง 5-เท่าตัว ขณะนั้นผมนึกไม่ออกเลยว่าจะเอาเงินมาจากไหน เพราะรายได้จากธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น ก็ไม่ได้มากถึงขนาดที่จะทำบุญได้ขนาดนี้ จนผมตัดสินใจไปอธิษฐานกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯว่า “หลวงปู่ครับ เงินที่ไหลเข้ามาในบัญชีของผมทั้งหมด นับจากวันนี้จนถึงวันทอดกฐิน มีเท่าไหร่ ผมถวายหลวงปู่หมดเลยครับ” />

พออธิษฐานเสร็จเท่านั้น ก็เกิดโกลาหลยกใหญ่เลยครับ เพราะไม่รู้ว่าผู้คนมาจากไหน โทรมาสั่งซื้อสินค้ากันจนผมแทบไม่ได้ทานข้าวกลางวันเลย สายเข้าชนิดที่ว่าสายซ้อนสายตลอดเวลา จานข้าวที่ผมตักมาวางไว้ตรงหน้า ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงก็ยังไม่ได้กินเลยครับ และยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้าโทรมาสั่งของกันตั้งแต่ตีห้า จนกระทั่งถึงวันทอดกฐิน ผมไปกดเงินในบัญชีปรากฏว่ามีเงินเป็นแสน ซึ่งมากเป็นประวัติการณ์เลยครับ ผมตื่นเต้นจนมือไม้สั่นขณะที่กดถอนเงินจนหมดบัญชี และในเวลาที่นำไปถวายทำบุญ...ผมปลื้มจนน้ำตาไหล เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยทำบุญถึงระดับแสนมาก่อนเลย พอถวายเสร็จปรากฏว่า...ลืมไปเลยครับว่าผมไม่มีเงินเติมแก็ส เดินทางกลับจันทบุรี อีกทั้งยังต้องจ่ายค่าทางด่วน 120 บาทด้วย

ขณะที่ผมกับแม่กำลังปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรดี ก็เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น กล่าวคือ มีโทรศัพท์เข้ามาสั่งสินค้า บอกว่า “จะเอาเดี๋ยวนี้”_โดยบอกให้ไปส่งสินค้าที่หน้าบ้านพร้อมจ่ายเงินสดค่าสินค้าทันที 4,000-บาท ทำให้วันนั้น...ผมรอดครับ />

หลังจากทำบุญกฐินงานนี้ พี่หนึ่ง (ผู้ประสานงาน)_ได้บอกผมว่า ปีหน้าจะให้ผมเป็นประธานรองกฐิน 1-M_พอผมฟังอย่างนี้ ผมถึงกับอึ้งไปเลย แต่ก็สนใจครับ เพราะลึกๆในใจผมอยากเป็นประธานกฐินด้วยตัวเองให้ได้ในสักวันหนึ่ง ผมคิดอย่างนี้อยู่แล้ว แต่ไม่เคยบอกใคร และไม่คิดว่าจะต้องเร็วขนาดนี้ ที่สำคัญเงินก็หมดเกลี้ยงบัญชีแล้ว แต่ปรากฏว่าอานุภาพบุญส่งผล เพราะหลังจากที่ผมทำบุญกฐินหมดบัญชีไป ปีนั้นเกิดอะไรขึ้นไม่ทราบ ยอดขายทะลุทะลวงจากทุกทิศทุกทางจนผมเองก็อึ้งไปหมด ทั้งๆที่เป็นปีที่เศรษฐกิจดาวน์ลงขนาดหนัก แต่ผมกลับมีเงินเข้ามามาก ถึงขนาดสามารถเป็นประธานรองกฐินสร้างอาคาร 100-ปี คุณยายอาจารย์ ได้สำเร็จจริงๆ ซึ่งเงินก้อนนี้ คือ M_แรกของชีวิตที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงจริงๆครับ และผมก็ภูมิใจที่สุดกับการที่ได้ทำบุญนี้ />

ตอนนั้น ผมทำบุญมาก จนเพื่อนในกลุ่มของผมตกใจมาก ถามผมว่า “แบงก์...บ้าไปหรือเปล่า ทำไมทำบุญอะไรมากขนาดนี้”_ผมก็ตอบเขาไปว่า...ที่ผมมีทุกอย่างในวันนี้ ก็เพราะทำบุญทอดกฐินอย่างสุดกำลังมาโดยตลอด ซึ่งเขาก็เห็นพัฒนาการในชีวิตของผมมาตลอดว่า เราเรียนจบมาพร้อมกัน แต่วันนี้เราต่างจากเพื่อนหลายๆคนที่ย่ำอยู่ที่เดิม หรือทำงานได้เงินเดือนสูงสุดก็ไม่เกิน 15,000-บาท หรือบางคนแย่หน่อย...เปลี่ยนงานบ่อยมาก ส่วนผู้ที่ร่ำรวยพ่อแม่เลี้ยงได้ ก็ยังไม่มีความภาคภูมิใจจากการสร้างสมบัติอะไรให้เกิดขึ้นได้ด้วยตัวเองเลย แต่ตอนนี้ผมสามารถซื้อรถเบนซ์ป้ายแดงให้แม่ได้ และซื้อตึกใหม่ขยายกิจการมูลค่าหกล้านได้อีกด้วย อีกทั้งยังเป็นเจ้าของบริษัท มีลูกน้องที่ดีหลายคน มีเงินทำบุญได้มากกว่า M_ไปแล้ว ทั้งๆที่เพิ่งทำงานมาได้แค่สามปี และยังประสบความสำเร็จด้วยวัยเพียง 24-ปีเท่านั้น ทั้งๆที่ไม่ได้มีประสบการณ์อะไรเลิศเลอมาจากไหนเลยครับ

สุดท้ายนี้ ผมขอถามทุกคนว่า อยากรวยไหมครับ ถ้าอยาก ผมขอเชิญมาฟัง know-how_รวย ในงานหลานยายใจเกินร้อย ในวันศุกร์ที่ 27-สิงหาคม พ.ศ.2553_ซึ่งเป็นวันธรรมชัย ณ บ้านแก้วเรือนทองคุณยาย กันนะครับ />

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง

อาชวิณ ชวาลารัตน์

สนใจรายละเอียด อาคาร 100 ปี คุณยายอาจารย์ คลิกที่นี่

ชม สกู๊ปพิเศษ อานุภาพบุญ ตอน ต้นทุนบุญสู่ความสำเร็จ

มีปัญหาการรับชมวิดีโอ กรุณากดที่นี่ เพื่อใช้เครื่องเล่นแบบเก่า window media player