เถ้าแก่วัยกระเตาะ (ภาค 2)


[ 29 ส.ค. 2554 ] - [ 18275 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2554
เถ้าแก่วัยกระเตาะ ภาค 2
 
 
 
 
พลิกชีวิตด้วยบุญกฐิน
ตอน เถ้าแก่วัยกระเตาะ ภาค 2
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ
 
        ผมหนุ่มน้อย อาชวิณ ชวาลารัตน์ หรือ น้องแบงก์ แปลว่า “หล่อเหลือล้น รวยเหลือหลาย สร้างบารมีได้อย่างสบาย เพราะเป็นลูกชายของหลวงพ่อครับ” ปัจจุบันผมอายุ 25 ปี เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอร์มา อินโนเวชั่น จำกัด และ บริษัท แอดแม็กซ์ เอเจนซี่ จำกัด เป็นเจ้าของธุรกิจขายปลีกและขายส่งเครื่องสำอาง, อาหารเสริม, ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก บนเว็บไซต์ และยังเป็นเจ้าของธุรกิจรับออกแบบเว็บไซต์, สร้างแบรนด์สินค้า วางแผนและผลิตสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์, วิทยุและนิตยสาร ครบวงจรครับ
 
อาชวิณ ชวาลารัตน์, พลิกชีวิตด้วยบุญกฐิน, เถ้าแก่วัยกระเตาะ
 
คุณอาชวิณ ชวาลารัตน์
 
        วันนี้ ผมขอเขียนจดหมายมากราบรายงานหลวงพ่ออีกรอบครับ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ หลังจากที่ผมเพิ่งขึ้นเวทีรายการสู้ต่อไปของพี่วินิช พันธุ์วิริยรัตน์ หัวหน้าชั้นโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ไปหมาดๆ และได้ปวารณาทำบุญกฐินปีนี้ไปที่สามเอ็ม หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเรื่องแปลกขึ้นกับผมอีกแล้วครับ ซึ่งก่อนจะรู้ว่าจะเกิดสิ่งมหัศจรรย์กับผมอย่างไร มากน้อยแค่ไหนนั้น ผมขอเล่าย้อนถึงอดีตนิดหนึ่ง เผื่อคนที่ไม่เคยรู้เรื่องราวของผม จะได้ต่อเรื่องติดครับ
 
        ผมมาวัดตั้งแต่ 12 ขวบครับ และเป็นคนชอบทำบุญทอดกฐินแบบปิดบัญชีตั้งแต่เด็ก กล่าวคือ มี 20 บาทผมก็ทำหมด 20 บาท มีร้อยผมก็ทำหมดที่ร้อย มีเงินระดับพันก็ทำหมดที่พัน มีระดับหมื่นในสมัยที่ได้เงินค่าฝึกงานตอนเป็นนักศึกษา ผมก็ปิดบัญชีที่สองหมื่น และวันนี้มีล้าน ผมก็ปิดที่ล้าน ทำแบบนี้ทุกปีเลยครับ และล่าสุดปีที่แล้วที่ผมกวาดเงินจากทุกบัญชีมาทำบุญทอดกฐินหนึ่งเอ็ม หลังจากนั้นแค่สามเดือน รายได้ก็เข้ามาจากทุกทิศทุกทาง จนเงินงอกกลับคืนมาที่หนึ่งล้านเท่าเดิม และพอครบหนึ่งเอ็มก็ปวารณาเพิ่มภายในปีเดียวกันว่า “จะขอทำบุญกฐินเพิ่มไปที่ห้าเอ็ม ทั้งๆที่ตอนนั้นผมไม่มีเงิน
 
        หลังจากนั้น ผมไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากอธิษฐานขอกับพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำฯ แล้วดำเนินธุรกิจเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่อยู่ดีๆก็เจอแจ๊กพอตแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เพราะอยู่ๆลูกค้าของผมได้ซื้ออาหารเสริมไปให้เพื่อนกินแล้วเกิดได้ผลมาก จนเพื่อนของเขาหาทางติดต่อมาหาผม มาคุยว่าจะขอซื้อไปขายในช่องทางของเขา โดยสั่งซื้อที่ยอดสูงเกือบสิบล้านบาทต่อเดือน ตอนนั้นผมอึ้งไปหมดเลยครับ เพราะตั้งแต่ผมทำธุรกิจมา ยังไม่เคยมียอดการสั่งซื้อที่สูงมากขนาดนี้มาก่อน ผมทึ่งมากว่า “มันเป็นไปได้อย่างไร” เพราะลูกค้าคนนี้ ผมไม่ได้ไปเสาะแสวงหามาเลย แต่อยู่ๆเขาเข้ามาหาเราเอง อีกทั้งยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และมากไปกว่านั้น พอมีเจ้าอื่นมาเสนอขายสินค้าตัวเดียวกับที่ผมมีให้เขา ลูกค้าคนนี้ก็ไม่ยอมเปลี่ยนเจ้าไปไหน ยังคงพอใจที่จะซื้อกับผม
 
        หลวงพ่อครับ แทบไม่น่าเชื่อว่า หลังจากผมขยายใจที่จะทำบุญเพิ่ม ธุรกิจของผมก็ขยายตาม แถมโตเร็วอย่างเหลือเชื่อ และล่าสุดหมาดๆนี่เองครับ ในการทอดกฐินปี พ.ศ.2554 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ผมได้ปวารณาไว้ว่าจะทำที่สามเอ็มเป็นอย่างน้อย ทั้งๆตอนที่ผมขึ้นเวทีรายการสู้ต่อไป เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2554 ที่ผ่านมา ผมยังไม่มีเงินเลยครับ เพราะอยู่ในช่วงการลงทุนขยายกิจการและตกแต่งออฟฟิศแห่งใหม่  แต่พอปวารณาเสร็จ ลงจากเวทีไปแค่สามสัปดาห์ ก็เจอแจ๊กพอตอีกแล้วครับ อยู่ๆลูกค้าที่เพิ่งสั่งสินค้ากับผมไปเกือบสิบล้านบาทคนเดิม ได้สั่งสินค้าตัวใหม่เพิ่มอีกเกือบสิบล้านบาททันที จนผมรู้สึกอัศจรรย์แบบสุดๆครับ
 
อาชวิณ ชวาลารัตน์, พลิกชีวิตด้วยบุญกฐิน, เถ้าแก่วัยกระเตาะ
 
(ซ้าย) ออฟฟิศใหม่ที่กรุงเทพฯ มูลค่า 3.8 ล้านบาท
(ขวา) ออฟฟิศใหม่ที่จันทบุรี ที่ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำ มูลค่า 6 ล้านบาท
 
        ผมว่า “ธุรกิจของเราก็เป็นเหมือนการทำบุญของเรานั่นแหละครับ เพราะธุรกิจจะขยายตามบุญที่เราทำ เมื่อเราขยับขยายใจทำบุญมากขึ้น กิจการก็ขยับพุ่งขึ้นแบบพรวดพราด” ซึ่งหากทุกคนได้เห็นชีวิตของผมตั้งแต่เริ่มแรก ที่เป็นเด็กเพิ่งจบ ไม่มีเงิน ไม่มีมรดก ไม่มีทุน ไม่มีประสบการณ์ แต่ลองเริ่มธุรกิจจากการเอาของไปขายในอินเทอร์เน็ต โดยได้กำไรก้อนแรกแค่ 40 บาท และพอเข้าปีที่สอง คือ ปี พ.ศ.2551 จากเดิมมีแค่เว็บไซต์เดียว ก็ขยายเป็น 2 เว็บไซต์ จนปี พ.ศ.2553 ขยายเป็น 6 เว็บไซต์ มาปีนี้ ปี พ.ศ.2554 มีมากถึง 9 เว็บไซต์ อีกทั้งออฟฟิศก็ยังขยายเพิ่ม จากที่เคยมีออฟฟิศเล็กๆที่จังหวัดจันทบุรีหนึ่งแห่ง ก็ขยายมาอยู่ออฟฟิศใหม่ที่เพิ่งซื้อไปหกล้านบาท แต่เดี๋ยวนี้มีออฟฟิศเพิ่มที่กรุงเทพฯอีกหนึ่งแห่ง และบ้านใหม่ที่กรุงเทพฯอีกหนึ่งหลัง และมากไปกว่านั้นลูกน้องก็เพิ่มจากหนึ่งคนเป็น 10 คน และภายในแปดเดือนก็เพิ่มมาเป็น 20 คน ผมคิดว่า “เป็นเพราะผลบุญจากกฐินปีที่แล้วแท้ๆ” และก่อนนั้น ซื้อรถเบนซ์ให้คุณแม่ หนึ่งคัน แต่ปีนี้ซื้อรถเพิ่มถึง 2 คัน คือ คันแรกเป็นรถเก๋งเอาไว้ใช้เอง ส่วนอีกคันเป็นรถตู้ เพื่อจะได้พาคนไปวัดกับเราเพิ่มขึ้นครับ
 
อาชวิณ ชวาลารัตน์, พลิกชีวิตด้วยบุญกฐิน, เถ้าแก่วัยกระเตาะ
 
บ้านใหม่ที่กรุงเทพฯ รวมค่าตกแต่งแล้วราคาประมาณ 7 ล้านบาท
 
        สุดท้ายนี้ ผมอยากจะฝากข้อคิดไว้ว่า “หากอยากประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เราจะคิดจะทำอย่างคนธรรมดาๆไม่ได้ ต้องทำแบบเหนือธรรมดา ต้องทำไม่เหมือนคนอื่น และถ้าเราอยากก้าวข้ามความจนจริงๆ เราก็ต้องกล้าเอาชนะความตระหนี่ในใจของตัวเองให้ได้  ถ้าเราทำได้ บุญก็กลายเป็นของเรา ความอัศจรรย์ก็จะเกิดขึ้นกับเรา จนกลายมาเป็นความสำเร็จของเราครับ”
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
 
อาชวิณ ชวาลารัตน์
 
อาชวิณ ชวาลารัตน์, พลิกชีวิตด้วยบุญกฐิน, เถ้าแก่วัยกระเตาะ
 
รถตู้คันใหม่ที่เพิ่งถอยมาครับ
 
**********************************
 
อ่านรายละเอียด...
 
บทความที่เกี่ยวข้องกับเถ้าแก่วัยกระเตาะ (ภาค 2)
 
  
รับชมวีดีโอ เถ้าแก่วัยกระเตาะ ภาค 2
 

รับชมคลิปวิดีโอเถ้าแก่วัยกระเตาะ (ภาค 2)
ชมวิดีโอเถ้าแก่วัยกระเตาะ (ภาค 2)  MP3 ธรรมะเถ้าแก่วัยกระเตาะ (ภาค 2)   Download ธรรมะเถ้าแก่วัยกระเตาะ (ภาค 2)


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
DMC ที่โซโลมอนDMC ที่โซโลมอน

Solomon Islands หมู่เกาะมนุษย์กินคนSolomon Islands หมู่เกาะมนุษย์กินคน

เกาะที่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุด ที่มนุษย์อยู่ได้เกาะที่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุด ที่มนุษย์อยู่ได้



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน