ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2554
สานฝันเป็นจริงได้ด้วยบุญ
พลิกชีวิตด้วยบุญกฐิน
ตอน สานฝันเป็นจริงได้ด้วยบุญเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
ลูกชื่อ บำเพ็ญ นามวงษ์ สามีของลูกชื่อ ธีระพัฒน์ นามวงษ์ เจ้าของบริษัทไทยระพัฒน์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และบริษัท ที.บี.พี. คอนสตรัคชั่น จำกัด ก่อนเข้าวัดพระธรรมกาย ลูกและสามีมีชีวิตที่ลำเค็ญแสนเข็นค่ะ กล่าวคือ เข็นเท่าไหร่...ก็ไม่ขึ้น เพราะสามีเป็นเพียงคนงานก่อสร้างที่ยากจน มีความรู้แค่ ม.ปลาย ส่วนตัวลูกก็เป็นแค่แม่บ้านที่ต้องคอยหอบเสื่อผืนหมอนใบ เร่ร่อนตามสามีไปเช่าห้องเล็กๆอยู่กันแบบตามมีตามเกิด ระหกระเหินไปตามไซด์งานก่อสร้างต่างๆทั่วไทย แต่เนื่องจากสามีมีความใฝ่ฝันว่า “สักวันจะต้องเป็นเถ้าแก่ เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างให้ได้” เขาจึงลาออกจากงานประจำ มากู้เงินลงทุนทำกิจการรับเหมาก่อสร้างเอง แต่พอทำไปทำมาก็เจ๊งค่ะ ขาดทุนป่นปี้ จนมีหนี้สินท่วมหัวและต้องเลิกกิจการ กลับมาสมัครเป็นลูกจ้างทำงานก่อสร้างเหมือนเดิม แต่ชีวิตของลูกจ้างก็ใช่ว่าจะรุ่งนะคะ แถมยังร่วงหนัก คือ นอกจากไม่รวยแล้ว ยังแย่หนักกว่าเดิมอีก กล่าวคือ ในปี พ.ศ.2541 เพื่อนของสามีได้โกงค่าแรงคนงานไปห้าแสนบาท ทางบริษัทจึงให้สามีชดใช้เงินแทนเพื่อนทั้งหมด เพราะเขาได้ไปค้ำประกันเพื่อนเอาไว้ หนำซ้ำทางบริษัทยังบอกว่าหลังจากใช้หนี้แล้วให้เคลียร์ตัวเองออกจากบริษัทโดยด่วน ทำให้ลูกและสามีเครียดสุดๆ เพราะหนี้เก่าก็ยังไม่ทันหมด มีหนี้ใหม่อีกห้าแสนบาท แถมยังโดนไล่ออกอีก
จากนั้น สามีของลูกก็รับใบอนุโมทนาบัตรจากลูกขึ้นจบท่วมหัวทีละใบ ขอกราบเรียนหลวงพ่อตามตรงว่าในช่วงนั้นสภาพจิตใจของลูกเหมือนตกจากหอไอเฟล (Eiffel Tower) เพราะถ้าสามีเห็นยอดเงินในใบอนุโมทนาบัตรแล้ว ลูกคงต้องมีอันเป็นไปแน่ๆ แต่ทันใดนั้นเองค่ะ อยู่ๆสามีเกิดเป็นอะไรไม่ทราบ เขาเงียบกริบ...นิ่ง ไม่พูดกับลูกไปนาน 7 วันเลยค่ะ และพอเข้าวันที่ 8 เท่านั้นก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นจนได้ กล่าวคือ จากที่เงียบๆสามีก็หัวเราะร่ากลับบ้าน แล้วมาบอกลูกว่า “เพ็ญ...อยู่ๆทางบริษัทก็ยกหนี้ให้พี่ห้าแสน และไม่โดนไล่ออกด้วย แถมยังให้รับงานใหญ่เพิ่ม ซึ่งทำให้เราได้เงินจากงานนี้สี่ถึงห้าแสนบาทเลย” แต่ลูกก็ยังไม่หายคาใจค่ะว่าทำไมสามีเห็นใบอนุโมทนาบัตรแล้วไม่ว่าลูกเลยสักคำ ซึ่งลูกก็เพิ่งมารู้ความจริงเมื่อเร็วๆนี้เองค่ะว่าตอนนั้นเขากำลังปีติจึงไม่ทันดูตัวเลข และในขณะที่เขารับใบอนุโมทนาบัตรจากลูกขึ้นมาจบท่วมหัว อยู่ๆจากที่เขาเครียดๆ...มันหายวับเป็นปลิดทิ้ง จนเขาเองก็งงเหมือนกันค่ะ
แต่เนื่องจากปี พ.ศ.2541 เป็นช่วงไอเอ็มเอฟ (IMF) งานก่อสร้างซบเซาสุดขีด ทางบริษัทไม่มีงานเข้ามาเลย สามีจึงออกจากงานแล้วต้องเปลี่ยนอาชีพมาวิ่งรถขายข้าวสารไปตามหมู่บ้านต่างๆ ช่วงนั้นเราทำงานกันหนักแบบอาบเหงื่อต่างน้ำ กว่าจะได้เงินมาแต่ละบาทก็ยากแสนยาก แต่พอลูกทราบข่าวว่าทางวัดจะมีงานสลายร่างคุณยายอาจารย์ ลูกเป็นอย่างไรไม่ทราบ อยากจะทำบุญเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะไม่มีจะกินอยู่แล้ว แต่ลูกอยากจะทำบุญระดับเอ็มขึ้นมาแบบสุดขีด ลูกจึงขายข้าวสารไป บอกบุญไป ทำอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน บอกบุญทั้งวันทั้งคืน แล้วในที่สุด...คนไม่มีจะกินอย่างลูกก็ได้ทำบุญล้านแรกของชีวิตสมปรารถนา
หลังจากนั้น ชีวิตของลูกก็พลิกเลยค่ะ กล่าวคือ บุญบีบคั้นให้ชีวิตพ่อค้าแม่ค้าตกยากที่ต้องเร่ตะลอนๆขายข้าวสารไปวันๆ หันกลับมาเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างเป็นของตัวเองอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว เพราะอยู่ๆก็มีคนมาติดต่อให้รีบเข้ามารับงานก่อสร้าง แต่ต้องเข้ามาในรูปแบบบริษัทถึงจะได้งานนี้ ทำให้ลูกและสามีต้องเลิกขายข้าวสารและกู้เงินมาทำบริษัทก่อสร้างอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับรุ่งค่ะ จนกระทั่งภายในปีเดียวกัน (พ.ศ.2545) ลูกมีเงินทำบุญด้วยตัวเองและบอกบุญเป็นประธานกองกฐินปีแรกได้หนึ่งเอ็มกว่าๆ และนับจากนั้นชีวิตก็พุ่ง รุ่งอย่างแรง จนสามารถทำบุญทอดกฐินได้มากกว่าหนึ่งเอ็มทุกปี จนกระทั่งปี พ.ศ.2553 ล่าสุดที่ผ่านมา ลูกทั้งทำด้วยตัวเองและทำหน้าที่บอกบุญเป็นประธานกองกฐินได้ ถึง 6.5 เอ็ม ซึ่งทันทีที่ปิดกองก็มีงานใหญ่เข้ามาแบบอัศจรรย์ คือ โครงการสร้างบ้าน 100 หลังเข้ามาทันที และโครงการใหญ่ๆแย่งกันเข้ามาอย่างโกลาหล จนลูกต้องเปิดบริษัทเพิ่มอีก 1 บริษัทในต้นปี พ.ศ.2554 เพื่อรองรับงานทั้งหมด 3 ไซด์งานในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังมีงานมารอจ่อคิวอีก 2 โครงการอย่างเหลือเชื่อค่ะ
กัลฯบำเพ็ญ - กัลฯธีระพัฒน์ นามวงษ์ และครอบครัว
ในช่วงนั้นเอง ลูกได้มีโอกาสมาวัดพระธรรมกายครั้งแรก ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2541 พอมาวัด ก็อยากสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวเป็นอย่างยิ่ง จึงกดเงินในเอทีเอ็ม (ATM) สี่หมื่นบาทสุดท้ายของครอบครัว สร้างองค์พระไปหมดเลยค่ะ คือ สร้างให้ตัวเอง สร้างให้สามีและลูก 2 คน เมื่อได้ทำบุญสร้างองค์พระแล้วก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าสามีเพิ่งจะกำชับว่า “พี่กำลังจะตกงาน ถ้าจะใช้เงินอะไร ให้คุยกันก่อน” ซึ่งตอนนั้นลูกไม่รู้จะทำอย่างไรดีค่ะ จึงยกใบอนุโมทนาบัตรขึ้นท่วมหัวอธิษฐานว่า “ด้วยบุญสร้างพระที่เพิ่งทำไปด้วยความปลื้มปีตินี้ ขออย่าให้สามีตำหนิลูกเลย ขอให้เขาอย่าได้พูดอะไรทั้งนั้น” เมื่อกลับไปถึงบ้าน ลูกก็บอกเขาว่า “พี่จ๋า...ฉันไปสร้างพระมา เอาบุญมาฝาก ช่วงนี้พี่มีปัญหาอะไร ก็ให้พี่อธิษฐานเอาบุญช่วยนะจ๊ะ ปัญหาที่มีอยู่จะได้หมดไป”
ทีมงานที่ช่วยกันบอกบุญได้ 6.5 M
หลวงพ่อคะ จากอดีต เรา คือ พวกก่อสร้างเร่ร่อน อยู่อย่างแร้นแค้น ไม่มีบ้านจะอยู่ ไม่มีความรู้ แถมมีหนี้สินมหาศาล นับตั้งแต่ทำบุญบูชาธรรมกับคุณยายอาจารย์ และทำบุญทอดกฐิน ชีวิตของลูกก็ทั้งพลิก ทั้งพุ่ง รุ่งไร้เทียมทาน จนปัจจุบันมีบ้านทั้งหมด 3 หลัง มีรถ 7 คัน เป็นเจ้าของบริษัทก่อสร้าง 2 บริษัท และสามารถเป็นประธานกองกฐินไม่ต่ำกว่าหนึ่งเอ็มทุกปี และในปีนี้ลูกตั้งเป้าไว้ที่ 10 เอ็มค่ะ ซึ่งเรื่องราวชีวิตและการทำหน้าที่กัลยาณมิตรอย่างเข้มข้นของลูกจะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามชมจากสกู๊ปพิเศษได้เลยค่ะ
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
บำเพ็ญ นามวงษ์