รายงานข่าว การเตรียมงานพิธีจุดวิสาขประทีป ณ ประเทศมองโกเลีย
ครั้งแรกในประวัติศาสตร์มองโกล
จากสำนักข่าว DNN (Dhammakaya News Network)
รายงาน ณ วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2551
เหลือเวลาอีกไม่ถึง 48ชั่วโมง พิธีจุดโคมวิสาขประทีป ที่กำลังอยู่ในความสนใจอย่างฟู่ฟ่าจากคนทั่วโลก ก็กำลังจะเริ่มขึ้น ผู้สื่อข่าว DNN ประจำมองโกเลีย ขอรายงานสถานการณ์ ณ ตอนนี้ว่า ทีมงานผู้บากบั่นของเรา ทั้งภิกษุ อุบาสก อุบาสิกา จับมืออย่างเหนียวแน่นกับทีมภิกษุ สามเณร และชาวบ้านจากมองโกเลีย นำโดย พระมุงจากัล มาช่วยปักโคมอย่างครึกครื้น ใครว่างเช้า ก็มาช่วยตอนเช้า ใครว่างเย็น ก็มาช่วยตอนเย็น เจ้าหน้าที่บางคน ทำงานจนถึงกับมือแตกก็มี อาสาสมัครหญิงบางคนใจสู้ นอนพักสักครู่ ก็ลุกขึ้นมาทำงานต่อกันเลยค่ะ
การเตรียมงานที่นี่ ต่างจากการปล่อยโคมที่ล้านนามาก เพราะนอกจากจะเป็นงานประเพณีครั้งแรกของที่นี่แล้ว ทีมทำงานก็ค่อนข้างน้อย ความสามารถของทุกคนที่กลั่นออกมาจึงแพงกว่าน้ำมันหลายร้อยเท่า ใครทำอะไรไม่เป็นก็ต้องทำให้เป็น ขนาดผู้สื่อข่าว DNN อย่างเจ้าหญิงมองโกล ยังต้องปล่อยไมค์ชั่วคราว ไปช่วยประสานงาน เสมือนเป็นเลขาของพระมุงจากัลไปด้วยเลย
ส่วนพระอาจารย์ก็ต้องดูแลทั้งสถานที่ ลงมือทั้งวางแนวเสา ตอกเสาโคม หล่อเทียน ขันน๊อตถ้วยประทีปเข้ากับเสา และเตรียมงานภาคสนามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งเตรียมบทพิธีกร เวทีและเครื่องเสียง ถือเป็นบุญอันน่าตื่นเต้น ที่ต้องมาลองถึงได้รู้ว่าการเตรียมงานที่นี่ จำกัดทั้งเวลาและภาษา เช่น เมื่อต้องคุยกับชาวท้องถิ่น เราแทบไม่ต้องพูดเลย เพราะใช้ภาษามืออย่างเดียว
ตลอดเวลาแห่งการรับบุญ จึงต้องหมั่นรักษาใจของเรายิ่งกว่าไข่ในหิน ห้ามหงุดหงิด ทำงานให้สนุกเบิกบาน ดังคำของพระมุงจากัลที่ว่า Don’t worry, No problem, I can do it, Go now (ไม่ต้องกังวล, ไม่มีปัญหา, ผมจัดการได้, ไปกันเดี๋ยวนี้เลย) ซึ่งเป็นประโยคยอดฮิตของทีมงาน ที่เรายึดถือปฏิบัติกันมาโดยตลอด
พระอาจารย์บุญช่วย กล่าวว่า กิจกรรมนี้เหมือนเป็นการจุดประกายให้ชาวพุทธหันหน้าเข้าหากัน เมื่อตามองตา ใจเราก็ตรงกัน การจุดประทีปครั้งนี้ จึงไม่ใช่เป็นการลบล้างความเชื่อของเขา แต่เป็นการแนะนำวิธีบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกรูปแบบหนึ่ง และยกพระสงฆ์ให้สูงค่า สมกับเป็นหนึ่งในพระรัตนตรัยของโลก โดยให้พระมุงจากัลเป็นกำลังสำคัญในการจัดงานนี้
ผู้สื่อข่าว DNN ฟังแล้ว ปลื้มไม่หยุด ฉุดไม่อยู่จริงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็คงต้องขอบุญบารมีคุณครูไม่ใหญ่ ให้งานทุกอย่างสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ขอให้ลมไม่แรง คนมาให้ล้น ทุกอย่างราบรื่นไปเลย
นอกจากนี้ เรายังซ้อมลอยโคมกันทุกวัน วันละ 3-4ดวง เพื่อเช็คว่า ลมจะแรงขนาดไหน จะได้หาช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด และในงานยังจะมีนิทรรศการวันวิสาขบูชา Version ภาษามองโกเลียมาจัดแสดงด้วย ซึ่งคุ้มค่ามากเพราะ คนที่นี่เขาไม่รู้เลยว่า วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา วันอาสาฬหบูชา คือวันอะไร แตกต่างกันอย่างไร นับว่า เราได้มาฟื้นฟูพระพุทธศาสนาแบบดั้งเดิมจริงๆ
ในวันวิสาขบูชาปีนี้ จะมีเด็กดี V-Star มาวัดพระธรรมกายถึง 200,000คน ในฐานะผู้สื่อข่าวต่างแดน ก็ต้องขออนุโมทนากับผู้มีส่วนในบุญทุกคนค่ะ แม้ที่มองโกเลียจะมีคนร่วมงานน้อยกว่ามาก แต่หากจะนับภุมมเทวา อากาศเทวา เข้าไปด้วย ก็มีสิทธิ์ครบ 200,000 ได้เหมือนกันนะคะ
สะเก็ดข่าวส่งท้ายในวันนี้ คือ เนื่องจากโรงแรมที่เราอยู่ มีผู้คนขวักไขว่ และต่างก็ไม่เคยเห็นพระในชุดจีวรสีส้มกันทั้งสิ้น เราจึงทำให้ผู้คนตื่นตากันได้ทุกวัน เวลาที่จะออกจากโรงแรมเพื่อข้ามถนนไปสนามเบสบอล เมื่อออกมาข้างนอก จะสังเกตเห็นว่า รถที่มองโกเลียจะบุบแทบทุกคัน จากการปะทะกันบ่อย สะพานลอยก็ไม่มี ดังนั้นเมื่อจะข้ามถนน เหล่าพระภิกษุก็จะมารวมใจ ว่าอย่างไรว่าตามกัน จึงสามารถข้ามถนนไปพร้อมกันได้อย่างปลอดภัย
ตอนนี้ ทีมงานนักร้องชาวมองโกเลีย ต่างสนุกสนานกับการซ้อมร้องเพลงลอยโคมวิสาขประทีปเป็นภาษามองโกเลีย เพื่อจะได้อัดเสียงไปเปิดในวันงานด้วย นับเป็นเรื่องน่าดีใจจริงๆ แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพานไปนานแล้ว แต่พระจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่เหนือฟ้ามองโกเลียยามนี้ ก็ยังคงเป็นจันทร์ดวงเดิม ที่เคยส่องสว่างเหนือโพธิ์พฤกษ์ในวันที่เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนนี้ จึงเหลือเพียงการรอคอย เมื่อจันทร์กลางฟ้าเต็มดวงเมื่อใด จันทร์กลางใจของชาวมองโกลก็คงจะเต็มดวงเมื่อนั้น ในวันวิสาขบูชานี้เองค่ะ
Desktop Version
