ไขว่คว้าหาโลกใหม่


[ 23 พ.ค. 2555 ] - [ 18288 ] LINE it!

     ทันโลกทันธรรม
 
 
ตอน ไขว่คว้าหาโลกใหม่
 
    เมื่อไม่นานมานี้องค์กรนาซ่าได้ประกาศว่ามีการค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่ ซึ่งมีสภาพแวดล้อมคลายกับโลกปัจจุบันที่เราอาศัยอยู่ อุณหภูมิเท่าๆ กัน และมีการโคจรรอบดาวฤกษ์ที่คล้ายดวงอาทิตย์อีกด้วย ประเด็นน่าสนใจคือนักวิทยาศาสตร์บางคนมองว่าในอนาคตดาวเคราะห์ดวงนี้อาจจะเป็นที่อยู่แห่งใหม่ของมนุษย์
 
   
ดาวเคปเลอร์-22 บี
 
    ดาวเคราะห์ดวงใหม่ หรือ ดาวเคปเลอร์-22 บี อยู่ห่างจากโลกไป 600 ปีแสง ถ้าจะเดินทางด้วยญาณอวกาศก็จะใช้เวลาในการเดินทางนานถึง 22 ล้านปี
   
    สาเหตุที่มนุษย์ได้มีการค้นคว้าสำรวจหาดาวดวงใหม่เป็นเพราะว่า ความต้องการของปัจจัย 4 มีเพิ่มมากขึ้น เพราะปัจจัยเหล่านี้นับวันก็ยิ่งจะขาดแคลน เพราะมีการกระจายตัวไม่ทั่วถึง เหมือนสมัยที่รัฐเซียเกิดภาวะขาดอาหาร ในขณะที่มีเงินแต่ก็ขาดที่ซื้อหามาบริโภค และเหตุผลอีกข้อคือ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ซึ่งกระบวนการผลิตของระบบอุตสาหกรรมทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เช่น น้ำเสีย สารเคมีต่างๆ ที่ถูกปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
 
 
 
การละลายของน้ำแข็ง
 
สาเหตุหลักที่สำคัญ
ที่มนุษย์มีความวิตกกังวลมากที่สุดก็คือ
 
1.ภาวะโลกร้อน (Global Warming) เพราะภาวะโลกร้อนจะส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศได้อย่างเฉียบพลัน เช่นการละลายของน้ำแข็ง การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ลมพายุต่างๆ
2.มนุษย์เรามีความเชื่อเกี่ยวกับคำเล่าลือของวันสิ้นโลก 2012 จากคัมภีร์ของเผ่ามายา
 
    เหตุผลต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น เหล่านี้เมื่อมาประมวลรวมเข้าด้วยกันก็ทำให้มนุษย์วิตกกังวลคิดเสาะแสวงหาโลกใบใหม่เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยแทนโลกใบนี้
 
    ดาวเคปเลอร์-22 บี มีการค้นพบลำธารที่น่าจะเป็นแหล่งน้ำ อุณหภูมิที่ใกล้เคียงโลกของเรา แต่ติดปัญหาที่ว่า ต้องใช้เวลาเดินทาง 22 ล้านปี ซึ่งความน่าจะเป็นไปได้ที่เราจะไปถึงในเวลาอันอันรวดเร็ว โอกาสที่จะเป็นไปได้ก็น้อยมาก เช่นทางรูหนอนอวกาศ (WORM HOLE) ซึ่งทางวิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์ได้ แต่เป็นรูหนอนที่เกิดขึ้นแค่ช่วงระยะเวลาที่สั้นๆ
 
 
มนุษย์อวกาศลงสำรวจดวงจันทร์
 
    ความจริงแล้วแทนที่เราจะวิ่งไขว่คว้าสิ่งที่ไกลเกินตัว ในการที่จะหาโลกใหม่ เราลองมาย้อนมองดูตัวเองดีกว่า ว่ามนุษย์เรา เกิดการเพาะนิสัยอะไรที่ไม่ดีเอาไว้บ้าง
 
การบ่มเพาะนิสัยที่ไม่ดี
 
1.บ่มเพาะนิสัยใช้แล้วทิ้งกับทุกสิ่งทุกอย่าง ทำให้เกิดความสิ้นเปลืองของทรัพยากร ทำให้ใช้ทรัพยากรได้อย่างไม่คุ้มค่า
2.นิสัยอีกอย่างหนึ่งคือ เอาเขามาใส่ตัว หาแต่ผลประโยชน์อย่างเดียว อะไรที่เราไม่มี ทำอย่างไรก็ได้ที่จะเอามาเป็นของๆ เราให้ได้ เช่นข้าวหอมมะลิเป็นข้าวพันธุ์ดี ก็มีการถอดยีนแล้วก็จดสิทธิบัตรเป็นของตนเอง
 
 
มนุษย์ไม่เคยละความพยายามในการสำรวจดาวดวงอื่น
 
    นี่คือสิ่งที่เราควรจะต้องเปลี่ยนแปลง เราสามารถเปลี่ยนโลกใหม่ให้น่าอยู่ขึ้นได้ด้วยตัวของเรา ทำเรื่องเล็กๆ ที่สวยงามให้เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ จากจุดเล็กๆ ผ่านการปลูกฝังสร้างสิ่งดีๆ ขึ้นในจิตสำนึก ใช้สอยทรัพยากรอย่างรู้ประโยชน์ อย่างรู้คุณค่า รู้จักการแบ่งปัน คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม ประพฤติปฏิบัติตามหลักของศีลธรรม สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้
 
 
โรงงานอุตสาหกรรมมีการกระจายตัวเพิ่มมากขึ้นในโลกใบนี้
 
โลกและจักรวาลในแง่มุมของธรรมะ
 
    ถ้าจะถามว่า จริงๆ แล้วในจักรวาลนี้ มีดาวเคราะห์ที่มนุษย์เราสามารถจะอยู่ได้อีกหรือไม่? คำตอบคือมี เฉพาะในทางช้างเผือกมีดาวเคราะห์ลักษณะคล้ายโลกที่มนุษย์อยู่ได้ อีก 3 ดวงและก็มีมนุษย์อาศัยอยู่แล้ว หน้าตาก็เหมือนมนุษย์เรา รวมโลกก็เป็น 4 ดวงและมีดาวเคราะห์น้อยที่มนุษย์เราอยู่ได้อีก 2000 ดวง ในกาแล็กซี่ทางช้างเผือก พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงได้ไปเห็นด้วยข่ายพระญาณของท่าน ว่ามีดาวที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ ถึง 2000 กับ 4 ดวง
 
 
โรงงานอุตสาหกรรมปล่อยของเสียลงสู่แม่น้ำ
 
    กาแล็กซี่อื่นอีกมากก็ยังมีมนุษย์อยู่เช่นกัน แต่ก็ไม่ได้หมายรวมถึงทุกกาแล็กซี่ โดยเฉลี่ยกาแล็กซี่ที่มีมนุษย์อยู่มีประมาณ 1 ใน 4 แล้วแต่ละกาแลกซี่ มีมนุษย์อยู่ 2004 ดวง คำนวนดูแล้วเราจะพบว่ามีดาวเคราะห์เป็นล้านๆ ดวงที่มีมนุษย์อาศัยอยู่
 
    ดาวแต่ละดวงที่มนุษย์อยู่ได้ ก็จะมีมนุษย์เป็นเจ้าของครอบครองอยู่แล้ว ในสมัยอยุธยามีประชากรไทยทั้งประเทศมีประมาณ  1 ล้านคน ณ ปัจจุบันมีประชากร 65 ล้านคน เพิ่มขึ้น 65 เท่าตัว ถ้าเพิ่มแบบนี้ไปเรื่อยๆ อีกแค่ 200-300 ร้อยปี เราจะหาดาวเคราะห์อย่างโลกของเรานี้อีก 65 ดวงก็คงจะไม่พอกับปริมาณของประชากรที่เพิ่มขึ้น
 

แผนผังของนาซ่าแสดงให้เห็นว่าดาวเคปเลอร์ 22-บี อยู่ในตำแหน่งที่ห่างจากดวงอาทิตย์พอๆ กับโลก
 
    ความจริงแล้วอยู่ที่วิธีคิดและการบริหารจัดการทรัพยากรในโลกอย่างไร เพื่อให้อยู่บนโลกใบนี้ได้ ใช้ทรัพยากรที่หมุนเวียนได้ ไม่ใช้แบบทิ้งขว้าง บริหารให้เกิดความสมดุลเราก็สามารถอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุข
   
    แรงขับเคลื่อนแท้จริงที่ทำให้มนุษย์เราเสาะแสวงหาโลกใหม่ ความจริงแล้วเป็นความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ว่าเรามีเพื่อนร่วมจักรวาลอีกมากน้อยแค่ไหน เพื่อนร่วมเอกภพมีอีกหรือเปล่า จักรวาลในพระพุทธศาสนาก็คือกาแล็กซี่ ถ้าเอกภพ (universe) ก็คือ 1 โลกธาตุขนาดใหญ่ แล้วยังมีเอกภพอีกมากมายนับไม่ถ้วน เพื่อนร่วมโลกเพื่อนร่วมจักรวาล เพื่อร่วมเอกภพ เพื่อนร่วมสังสารวัฏก็มีอีกมากมาย  
 
 
ดวงดาวในกาแล็กซี่
 
    หากเราต้องการไขว่คว้าหาโลกใหม่ อย่าเสียเวลามองโลกภายนอก ให้เราย้อนกลับมามองภายในตัวเอง โลกทั้งโลกสามารถใส่ลงไปในศูนย์กลางกายของเราได้ จักรวาลทั้งจักรวาลก็สามารถใส่ลงไปในศูนย์กลางกายของเราได้ แล้วใจของเราก็จะขยายกว้างออกไปจะทำให้เราเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องการจะรู้ได้อย่างถูกต้องที่สุด
 
โลกภายนอก กว้างไกล ใครๆ รู้     โลกภายใน ลึกซึ้งอยู่ รู้บ้างไหม
จะมองโลก ภายนอก มองออกไป      จะมองโลก ภายใน ให้มองตน
 
รับชมวิดีโอ
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ข้อคิดรอบตัว เรื่อง วัดพระธรรมกายตอนที่ 1ข้อคิดรอบตัว เรื่อง วัดพระธรรมกายตอนที่ 1

ทุกวันอาทิตย์ เสา E6 รวมพลัง dmc.tvทุกวันอาทิตย์ เสา E6 รวมพลัง dmc.tv

ทบทวนบุญวันมาฆบูชา วันที่ 28 ก.พ. 2553ทบทวนบุญวันมาฆบูชา วันที่ 28 ก.พ. 2553



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

Review รายการ