ภรรยาหาย ไม่เสียดายเท่าบุหรี่ดับ

ผลการปฏิบัติธรรม

กัลยาณมิตร แคนนี่ ลิม (บรูไน)

ผมชื่อ แคนนี่ ลิม อายุ 34 ปี ชาวจีน ในบรูไน ทำธุรกิจส่วนตัว ผมติดบุหรี่มาก ผมกับบุหรี่เป็นอะไรที่ขาดกันไม่ได้ ภรรยาหาย ไม่เสียดายเท่าบุหรี่ดับ ผมเองก็รู้ว่าเป็นมนุษย์ ไม่ควรจะพ่นควันออกจากปาก จากตัว จากปาก จากจมูก แต่ผมก็หักห้ามใจตัวเองไม่ได้สักที แฟนคนเก่าเคยอ้อนวอน ให้ผมเลิกสูบเถอะ อ้อนวอนจนอ่อนใจ แต่อ้อนยังไงผมก็ไม่ใจอ่อนสักที สุดท้ายเธอเลิกแล้วครับ เธอเลิกอ้อนวอนแล้วก็เลิกกับผมไปเลย ผมเลือกควัน แล้วเธอก็เลิกกับผมไป

แต่กระนั้น ผมกลับสูบจัดมากขึ้น ตายไม่ว่า บุหรี่อย่าดับ โดยไม่คิดจะเลิกเลยแม้สักนิดเดียว ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรในโลกนี้ทำให้ผมเลิกสูบได้ จนกระทั่ง มีชาวไทยคนหนึ่งมาแนะนำให้ผมได้นั่งสมาธิ และดู DMC ผมจึงได้เริ่มฝึกสมาธิ เขาแนะนำว่า ไม่ขัดแย้งกับการสูบบุหรี่ของผม

ตอนที่ผมนั่งสมาธิ ผมวางใจนิ่งๆ ไว้ที่ศูนย์กลางกาย ตัวผมเบาเหมือนลอยอยู่ และในขณะที่ใจนิ่งๆ ผมก็จะเห็นแสงสีขาว สว่างมาก ตอนที่ผมเห็นแสงนั้น ร่างกายของผม มันเหมือนจะครึ่งหลับ ครึ่งตื่น ผมสามารถปลดปล่อยทุกสิ่งได้ และไม่คิดถึงสิ่งใดๆ แค่นั่งลง และหลับตาเท่านั้น ผมรู้สึกว่า ตอนนั้นใจเป็นสมาธิจริงๆ ผ่อนคลายมากๆ แต่ต้องนั่งไม่เคร่งเครียด ผมไม่แน่ใจว่า สิ่งที่ผมเห็นมันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ หรือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น

ผมเริ่มทำสมาธิได้แล้ว ผมรู้สึกว่า สามารถควบคุมจิตใจของตัวเองได้ ไม่ต้องไปคิด หรือไปทำอะไรอื่นๆ สมาธิทำให้ผมลืมเรื่องงาน ใจผมสะอาดเหมือนได้ถูกชะล้างใจ ไปอยู่ที่แหล่งกำเนิดแห่งความสุข ใจจะสะอาด

ถ้าวันไหนว่างๆ หลังทำงาน ผมก็มักจะนั่ง 30 นาที และก่อนนอน ก็จะนั่งอีกครั้งครับ

การนั่งสมาธิทำให้จิตใจผมมั่นคง และไม่ค่อยมีปัญหา ไม่ต้องกังวลอะไร หลังนั่งสมาธิ ผมรู้สึกเหมือนกับว่าจิตใจนั้นสงบ ผมไม่ต้อง worry เพราะรู้สึกว่าไม่มีอะไรจะต้อง worry ผมปล่อยใจไปได้ และสามารถนึกถึง crystal ball ได้ทั้งวันครับ ซึ่งพอผมนั่งสมาธิแล้ว มันมหัศจรรย์มาก เหมือนผมได้รับพลังบางอย่าง ที่ทำให้ผมเลิกสูบบุหรี่ เป็นคนดีโดยไม่ต้องพ่นควั

" /> " />น

บางคนบอกว่า พ่นควันคลายเครียด แต่ตอนนี้ผมคิดว่า ไม่ใช่ ถ้าหากเราไม่สูบบุหรี่ ไม่มี ก็ไม่เครียด สบาย อยู่ตรงไหนก็ได้ ไม่แม้แต่จะแตะซองบุหรี่ แต่ก็ยอมรับว่า บางครั้งมันก็อยากจะสูบ เพราะความคุ้นเคย แต่ผมก็บอกกับตัวเองว่า “ไม่” ผมจะไม่เริ่มต้นสูบอีกครั้งเป็นอันขาด มาถึงตอนนี้นอกจากผมเลิกบุหรี่ได้ 100 % ผมยังเลิกดื่มได้อย่างเด็ดขาดด้วยครับ

" /> " /> " />

เวลาที่มีเพื่อนมาชวนผมไปแอบดื่มกัน ผมก็บอกไปตามตรงว่า “ผมจะไม่ดื่มอีกแล้ว ผมสัญญากับ Buddha แล้ว ว่าจะไม่ดื่ม” จงเชื่อในพระพุทธเจ้า เขียนป้ายสีแดงติดตามต้นไม้ จงเชื่อในพระพุทธเจ้า เท่านั้น เชื่อแล้วจะไม่ดื่ม ไม่สูบ แต่เพื่อนก็จะคะยั้นคะยอให้ดื่มนิดๆ รักษาน้ำใจกัน จิบๆ แล้วก็มาจอกๆ เพื่อมิตรภาพ แต่ผมก็ไม่เอา ผมคิดว่า เราควรไม่ดื่มเพื่อรักษาใจของตัวเองให้ดี มากกว่าดื่มเพื่อรักษาน้ำใจคนอื่น เราควรจะเป็นต้นบุญต้นแบบ ให้เขาเกิดแรงบันดาลใจ อยากเลิกดื่มด้วย

ผมอยากบอกทุกคนในโลกนี้สั้นๆว่า จงเชื่อในพระพุทธเจ้า นึกถึงพระพุทธเจ้าทุกๆวัน เพราะแม้เพื่อนที่รักที่สุดก็ไม่ได้อยู่กับเราทุกวัน แต่พระพุทธเจ้าอยู่กับเราทุกวัน อยู่ภายในตัวเรา ถ้าคิดถึงท่านบ่อยๆ ท่านก็ช่วยเราได้ ผมเชื่อว่าพระพุทธเจ้ามองเห็นว่า ผมกำลังทำอะไรอยู่ ผมไม่สามารถหลบหนีสายตาของพระพุทธเจ้าไปได้ พระพุทธเจ้าไม่มีพื้นฐานโทสจริต มักโกรธ เราต้องดูก่อนว่า ผู้ที่เราเคารพนับถือ มีโทสจริตไหม

" />

ตอนนี้ ผมนั่งสมาธิวันละ 2 เวลา สวดมนต์ทุกเช้า-เย็น ตอนนี้ชีวิตของผมเปลี่ยนไปมาก เพราะหลังจากที่ผมเลิกเหล้า-บุหรี่แล้วหันมาสวดมนต์แล้ว ผมได้งานใหม่ ที่มั่นคงกว่าเดิม

เพื่อนๆ เห็นผมเลิกสูบบุหรี่ ก็แซวว่า “นี่คุณเป็นพระไปแล้วหรือไง” ผมตอบว่า “ผมสัญญาต่อ Buddha แล้วว่าจะไม่สูบ ไม่ดื่มอีก และผมก็อยากเป็นพระจริงๆด้วย” ผมอยากจะเป็นพระสักครั้งในชีวิต ถ้าผมไม่มีภาระอะไรแล้ว ผมอยากเรียนรู้เรื่องสมาธิ การสวดมนต์ และชีวิตความเป็นพระ วัดพระธรรมกายช่วยได้ บวชเป็นพระแล้วไปอยู่ที่บรูไน

" />

ผมชอบสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อกำลังทำอยู่ คำสั่งสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อสามารถเปลี่ยนชีวิตผู้คนได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก ศาสนาพุทธ ไม่เคยคาดหวังอะไรเป็นสิ่งตอบแทน เหมือนกับที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อกำลังทำ เพราะอยากให้ทุกๆคน เป็นแค่คนดีเท่านั้น

พระเดชพระคุณหลวงพ่อ เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คน และที่สำคัญเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเลิกสิ่งไม่ดี และตอนนี้ผมทำความดีมากขึ้น กราบขอบพระคุณ พระเดชพระคุณหลวงพ่อมากครับ

" />