4G เทคโนโลยีใหม่มาแรง 3G และ 4G ต่างกันอย่างไร


[ 4 ก.พ. 2554 ] - [ 18299 ] LINE it!

 
 3G และ 4G เทคโนโลยีใหม่มาแรง
">
 
">
     
เมื่อก่อนเราใช้โทรศัพท์เป็นโทรศัพท์ คือใช้โทรได้อย่างเดียว นั้นเรียกว่ายุค 1G พอยุค 2G โทรศัพท์ก็สามารถถ่ายรูปได้ ส่งข้อความได้ ส่งอีเมล์ได้ แต่ยังติดขัดอยู่ในเรื่องของสัญญาณติดๆ ขัดๆ เวลาเคลื่อนไหว ส่วน 3G จริงๆ แล้วก็คือระบบโทรศัพท์ที่พัฒนาอีกขั้นหนึ่งให้มีการเชื่อมต่อตลอดเวลา ในเรื่องของข้อมูล เฉพาะฉะนั้นในด้านการเชื่อมต่อข้อมูลจะดีกว่า อีกทั้งยังไม่ได้คิดราคาตามเวลาการใช้ แต่จะคิดตามอัตราการโหลดข้อมูล และมีความเร็วในการใช้งานที่มากขึ้น เพราะฉะนั้นโทรศัพท์ในยุค 3G จึงไม่ใช่แค่เพียงโทรศัพท์อีกต่อไป 3G ทำให้การพูดคุยสามารถเห็นหน้ากันได้ หรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องของซอฟท์แวร์ก็จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในโทรศัพท์ ก็คืออีกสักหน่อยโทรศัพท์อาจจะส่งสัญญาณให้ควบคุมสิ่งของที่บ้าน เช่น ส่งให้เปิดปิดตู้เย็น เปิดปิดหม้อหุงข้าว เป็นต้น หรือข้อมูลอะไรต่างๆ ที่มีพื้นที่การเก็บข้อมูลมากๆ 3G ก็จะให้ประโยชน์เหล่านี้นั้นเอง อย่างเช่น แผนที่เราก็สามารถดาวน์โหลดได้จากอินเตอร์เนตเข้ามาที่โทรศัพท์โดยผ่านระบบ 3G นี้ได้เลย
 
">
">
 
">
">
">
4G 3G คืออะไร
">
">
">
">
">
">
 
4 G เทคโนโลยีใหม่
">
">
">
">
"> 
      
คำว่า 3G ในเรื่องของโทรศัพท์ก็คือมาตรฐานการพัฒนาซึ่งแบ่งเป็นยุคๆ ตั้งแต่ยุค 1G ที่โทรศัพท์เป็นแบบเซลลูล่าอันใหญ่ๆ ใช้สัญญาณอนาลอก หรือสัญญาณคลื่นวิทยุซึ่งเกิดในปี 1981 ยุคต่อมาคือ 2G เริ่มในปี 1992 โดยใช้ระบบดิจิตอล คือการนำสัญญาณเสียงมาบีบอัดให้เล็กลงจนเป็นสัญญาณอิเล็กโทรนิค ต่อมาในปี 2001 ก็เริ่มมีการใช้โทรศัพท์ 3G ที่ญี่ปุ่นเป็นที่แรกที่นำระบบ 3G เข้ามาใช้จนถึงทุกวันนี้ จุดเด่นของ 3G คือรับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น ส่วนจุดอ่อนของ 3G คือ การเปลี่ยนจาก 2G ปัจจุบันในประเทศไทยเรานั้นน่าจะเรียกว่าระบบ 2.9G คือจากระบบ 2G เป็น 2.5G จนมาเป็น 2.9G เช่น สามารถถ่ายภาพแล้วก็อัฟเดตขึ้น Facebook ได้เลย แต่ก็ยังต้องคอยอยู่ดี แต่ถ้าเป็น 3G แล้วก็จะเร็วขึ้นนั่นเอง เพราะฉะนั้นก็เลยถือว่ามันไม่ได้ตอบสนองโจทย์ทั้งหมด เพราะถ้าจะพัฒนาระบบทั้งหมดให้เป็น 3G ต้องใช้งบลงทุนมากมายมหาศาล แต่สิ่งที่ได้มาบางทีอาจจะไม่คุ้มกับการใช้งานจริง ในส่วนของประเทศที่ใช้ 3G มานานแล้วเขามองว่าจะเปลี่ยนเป็นระบบ 4G กันแล้ว 4G เป็นเหมือนการสร้างมาตรฐานอุตสาหกรรมขึ้นไปเรื่อยๆ ทุกๆ 10 ปี
">
">
 
">
">
    4G มีลักษณะแตกต่างจาก 3G คือ ในเรื่องของการเชื่อมต่อแบบเคลื่อนไหวไร้รอยต่อ 4G เป็นเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงชนิดพิเศษ หรือเป็นเส้นทางด่วนสำหรับข้อมูลที่ไม่ต้องอาศัยการลากสายเคเบิล โดยระบบใหม่นี้จะสามารถใช้งานได้แบบไร้สาย รวมถึงคุณสมบัติ การเชื่อมต่อเสมือนจริงในรูปแบบสามมิติ (three-dimensional) ระหว่างผู้ใช้โทรศัพท์ด้วยกันเอง นอกจากนั้น สถานีฐาน ซึ่งทำหน้าที่ในการส่งผ่านสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่จากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง และมีต้นทุนการติดตั้งที่แพงลิ่วในขณะนี้ จะมีให้เห็นกันอย่างแพร่หลายเช่นเดียวกับหลอดไฟฟ้าตามบ้านเลยทีเดียว
">
">
 
     สำหรับ 4G จะสามารถส่งผ่านข้อมูลแบบไร้สายด้วยระดับความเร็วสูงที่เพิ่มขึ้นถึง 100 เมกะไบต์ต่อวินาที ซึ่งห่างจากความเร็วของชุดอุปกรณ์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ที่ระดับ 10 กิโลบิตต่อวินาที นอกจากนี้ การพัฒนาต่างๆ ที่ ระบบ 3G รองรับ ระบบ 4G ก็จะรองรับในเวอร์ชั่นที่สูงกว่า อย่างเช่น การใช้งานมัลติมีเดียที่ดีขึ้น การรับส่งข้อมูลในรูปแบบภาพเคลื่อนไหวที่ไหลลื่นกว่า การเข้าถึงข้อมูลที่เป็นสากลและความสามารถในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ รูปแบบต่างๆ ได้ ผู้ที่อยู่ในแวดวงการอุตสาหกรรมต่างยังลังเลที่จะคาดการณ์ ทิศทางที่เทคโนโลยีในอนาคตอันใกล้จะเป็นไป แต่ก็คาดว่าการพัฒนาของ ระบบ 4G ได้รวมเอาความสามารถในการค้นหาสัญญาณเครือข่ายได้ทั่วโลกเข้าไว้ ด้วย ระบบ 4G อาจจะเชื่อมต่อโลกทั้งใบและสามารถกระทำได้ในทุกที่ไม่ว่าจะอยู่บนหรือแม้จะอยู่เหนือพื้นผิวของโลกได้อย่างแท้จริง
">
 
 
">
">
">
">
">
">
">
">
">
">
">
 
 นวัตกรรม 3G และ 4G
">
">
">
">
">
 
">
">
">
">
">
      3G มาไม่ทันไร 4G ก็ออกมาอีกแล้ว แต่มีเทคโนโลยีหนึ่งที่ไม่เคยเก่าและไม่เคยตกรุ่นเลย อีกทั้งยังเป็นสุดยอดเทคโนโลยี สุดยอดนวัตกรรม จะกี่หมื่นกี่แสนล้านปีก็ยังใหม่อยู่เสมอ หรือจะต่อไปในอีกแสนล้านปี ก็รับประกันได้ว่ายังใหม่เสมอ นั่นก็คือ ตัวของเรานี่แหละ ซึ่งประกอบด้วย กายกับใจ นี่คือสุดยอดนวัตกรรมสุดยอดของโลกที่จะหาใดมาเปรียบ ไม่ว่าเทคโนโลยีใดก็ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ เพราะการบรรลุธรรมนั้นต้องอาศัยกายมนุษย์เท่านั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ต้องมาเกิดบนโลกได้กายมนุษย์ แล้วบำเพ็ญเพียรจึงจะบรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้
">
เทคโนโลยี 3G หรือ 4G นั้นแม้จะมีความเร็วมากมายเพียงใด ก็เป็นเพียงความเร็วในการส่งข้อมูล เช่น ดาวน์โหลดหนังเรื่องหนึ่งในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที แล้วเราต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการนั่งดูหนังเรื่องนั้น 3G หรือ 4G เป็นพียงเทคโนโลยีที่มีความเร็วในการรับส่งข้อมูล แต่ไม่เคยมีใครเอ่ยถึงความเร็วในการรับรู้ข้อมูล  เช่น เราโหลดหนังเรื่องหนึ่งใช้เวลา 2 นาที แต่เราต้องใช้เวลาในการดูถึง 2 ชั่วโมง จะทำให้การดูเร็วขึ้นโดยการเพิ่มความเร็วก็ไม่ได้ เดี่ยวตาลาย งงเอา
 
     แต่ถ้าเป็นเทคโนโลยีทางใจแล้วล่ะก็จะข้ามพ้นขีดจำกัดตรงนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าเป็นอกาลิโก คำว่าอกาลิโก มีความหมาย 2 นัยคือ นัยแรก หมายถึง ความเร็วในการรับส่งข้อมูลต้องบอกว่าไร้ขีดจำกัด ยกตัวอย่างเช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงระลึกชาติได้ไม่มีที่สิ้นสุด แว๊บเดียวก็สามารถระลึกได้ไม่รู้กี่พันชาติ อีกทั้งการรับส่งข้อมูลและการรับรู้ข้อมูลประสานเป็นเนื้อเดียวกัน 3G หรือ 4G ทำอย่างนี้ได้รึเปล่า อีกนัยหนึ่งคือว่า สามารถรับรู้ได้ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต  ซึ่งด้านนี้ยังไม่มีเทคโนโลยีใดสามารถทำได้เลย นี่แหละอกาลิโก
">
">

">
">
">
">
">
">
ไม่มีนวัตกรรมไหนจะมาก้าวพ้นข้าม กายกับใจของเรา
">
">

">
">
">
">
">
">
     เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า ใจของเราเป็นเทคโนโลยีที่ละเอียด ลึกซึ้ง ซับซ้อน ชนิดที่ว่าไม่มีเทคโนโลยีใดสามารถเทียบได้เลย มนุษย์จะพัฒนาเทคโนโลยีไปอีกเท่าใดๆ ก็ตาม ไม่มีนวัตกรรมไหนจะมาก้าวพ้นข้าม กายกับใจ ของเราเองได้ การศึกษาเทคโนโลยีทางโลกศึกษาแล้วสักพักก็เชยได้ แต่เทคโนโลยีทางใจ ศึกษาไว้ยังไงก็ไม่เชย ละโลกไปแล้วก็ยังเอาไปใช้ได้อีก ถึงเราจะต้องเรียนเทคโนโลยีทางโลกเพื่อใช้ในการครองชีวิต ก็เรียนไปเถอะ แต่ว่าอย่าลืมเทคโนโลยีทางใจซึ่งเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งแล้วคุณประโยชน์ต่อตัวเราเองทั้งปัจจุบัน แล้วก็ต่อเนื่องไปข้ามภพ ข้ามชาติ
 
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ 3G และ  4G
 
       เทคโนโลยี LTE หรือ Long Term Evolution เป็นชื่อเรียกที่รู้จักกันว่า 4G (โทรศัพท์ยุคที่ 4 ) เป็น เทคโนโลยีอนาคต ที่ต่อยอดจาก 3G  ซึ่งมีคุณสมบัติที่สามารถตอบสนองการใช้งานบรอดแบนด์ไร้สายความเร็วสูง โดยทำความเร็วตั้งแต่ 100 Mbps – 1024 Mbps (1Gbps) เลยทีเดียว เร็วกว่า 3G เดิมถึง 7 เท่า

       เทคโนโลยี LTE หรือ Long Term Evolution เป็นชื่อเรียกที่รู้จักกันว่า 4G (โทรศัพท์ยุคที่ 4 ) เป็น เทคโนโลยีอนาคต ที่ต่อยอดจาก 3G  ซึ่งมีคุณสมบัติที่สามารถตอบสนองการใช้งานบรอดแบนด์ไร้สายความเร็วสูง โดยทำความเร็วตั้งแต่ 100 Mbps – 1024 Mbps (1Gbps) เลยทีเดียว เร็วกว่า 3G เดิมถึง 7 เท่า

       ด้วยความเร็วของ 4G  ที่เร็วแรงกว่า 3G นี้ การให้บริการ 4G ผ่าน Wifi Adaptor จะทำให้เพิ่มโอกาสในการเข้าถึง Internet ได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพียงมี Aircard 4G และ Wifi Adaptor เมื่อเชื่อมต่อแล้ว สามารถแชร์สัญญาณ 4G เพื่อให้ใช้พร้อมกันกับอุปกรณ์ที่รองรับสัญญาณ Wifi ได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เสมือนกับถนนที่มีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น ก็สามารถที่จะรองรับรถได้มากขึ้น และวิ่งเร็วได้มากขึ้นด้วย

      นอกจากนี้ 4G ยังสามารถส่งไฟล์วีดีโอความละเอียดสูง และการถ่ายทอดสดแบบ Live Broadcast แบบ Realtime การประชุมทางไกลแบบ Interactive ที่สามารถโต้ตอบแบบทันที บริการ cloud service  สนับสนุนการเรียนผ่านทาง e-learning, การรักษาโรคทางไกล (Telemedicine) และ รวมไปถึงการชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งเหมาะสำหรับการทำธุรกิจด้านมัลติมีเดียและวีดีโอออนไลน์ในอนาคต
 
4G 3G คืออะไร
 
ภาพแสดงแผนที่ต่างประเทศที่ทดสอบ 4G

       ต่างประเทศที่ทดสอบ 4G แล้วส่วนใหญ่อยู่ในแถบทวีปยุโรป  เช่นสวีเดน (ประเทศแรกของโลกที่ทดสอบ 4G)  ญี่ปุ่น สวิสเซอร์แลนด์ โปแลนด์   จีนก็เริ่มทดสอบแล้วเมื่อปี 2554 สิงค์โปรก็กำลังทำอยู่
 
 
     สุดท้ายนี้ขอฝากคำกลอนไว้สั้นๆ ว่า
 
">
">
“โลกภายนอกกว้างไกล ใครๆ รู้  โลกภายในลึกซึ้งอยู่รู้บ้างไหม
          
จะมองโลกภายนอก มองออกไป  จะมองโลกภายในให้มองตน”
 
">
">
">
">
">
 
">
">
">
">
">
">
">
">
">
">
VDO รายการทันโลกทันธรรม ตอน เทคโนโลยีใหม่
 

รับชมคลิปวิดีโอเทคโนโลยีใหม่ 3G และ 4G
ชมวิดีโอเทคโนโลยีใหม่ 3G และ 4G  MP3 ธรรมะเทคโนโลยีใหม่ 3G และ 4G   Download ธรรมะเทคโนโลยีใหม่ 3G และ 4G

">
">
">


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
มหาสมุทรแห่งการแข่งขัน (Blue Ocean Strategy)มหาสมุทรแห่งการแข่งขัน (Blue Ocean Strategy)

ขุนเขาแห่งตำนานและประวัติศาสตร์แห่งเขาแก้วเสด็จขุนเขาแห่งตำนานและประวัติศาสตร์แห่งเขาแก้วเสด็จ

ความขัดแย้งในการทำงาน วิธีแก้ไขความขัดแย้งในทีมงานความขัดแย้งในการทำงาน วิธีแก้ไขความขัดแย้งในทีมงาน



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

Review รายการ