พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนที่ 72 พุทธภูมิธรรม 4 ประการ (2)


[ 12 ก.พ. 2554 ] - [ 18283 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554

ตอน พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 72 พุทธภูมิธรรม 4 ประการ (2)

 
พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า
ตอนที่ 72 "พุทธภูมิธรรม 4 ประการ (2)"
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
        ความเดิมจากตอนที่แล้ว... เมื่อพระโพธิสัตว์ได้มีธรรมสโมธานครบทุกประการแล้ว และได้สั่งสมบุญสร้างบารมีเรื่อยมา จนกระทั่งท่านได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ใดพระองค์หนึ่งว่าท่านจักได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตแล้ว ท่านก็ไม่ได้ย่อหย่อนต่อการสั่งสมบุญสร้างบารมีเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ท่านกลับเร่งประกอบความเพียรสั่งสมบุญสร้างบารมีอย่างตลอดต่อเนื่อง โดยสังเกตได้จากคุณลักษณะพิเศษที่เป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึงความเป็นผู้มุ่งมั่นปรารถนาพุทธภูมิแต่เพียงอย่างเดียว
 
        สำหรับคุณลักษณะพิเศษนี้ จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นประจำใจของพระโพธิสัตว์ผู้ที่ได้รับพุทธพยากรณ์ทุกๆท่านไปทุกภพทุกชาติ ซึ่งไม่ว่าท่านจะไปถือกำเนิดเกิดเป็นอะไรก็ตาม ท่านก็จะมีลักษณะพิเศษที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วๆไป กล่าวคือ ท่านจะมีน้ำใจที่ประกอบไปด้วย พุทธภูมิธรรม อันยิ่งใหญ่ ซึ่งมีด้วยกันอยู่ทั้งหมดสี่ประการ ดังต่อไปนี้
 
พุทธภูมิธรรม ข้อที่ 1.ได้แก่ อุสสาหะ หมายความว่า พระโพธิสัตว์เป็นผู้มีจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเพียรพยายามในการสั่งสมบุญสร้างบารมีอย่างมั่นคง ไม่ลดละ และไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ซึ่งถ้าหากท่านตัดสินใจที่จะลงมือทำสิ่งใดแล้ว ท่านจะมีความมุ่งมั่นทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจที่จะทำสิ่งนั้นอย่างเต็มที่เต็มกำลัง ชนิดที่เรียกว่า...เอาชีวิตเป็นเดิมพันกันเลยทีเดียว
 
        ด้วยความที่ท่านเป็นผู้มีจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเพียรนี้เอง จึงทำให้ตลอดทุกภพทุกชาติที่ท่านเกิดมานั้น ท่านจะมีความพากเพียรพยายามในการที่จะสั่งสมบุญสร้างบารมีให้ยิ่งๆขึ้นไป อย่างเต็มที่เต็มกำลัง แม้ว่าในหนทางของการสร้างบารมีนั้น ท่านจะต้องประสบพบเจอกับอุปสรรคต่างๆนานาอย่างมากมาย แต่ในใจของท่านนั้นคิดอยู่เสมอว่า “ถ้าหากเราท้อแท้และท้อถอยในสิ่งเล็กๆน้อยๆ ซึ่งอยู่ในวิสัยที่เราสามารถจะทำได้แล้ว เราจะทำงานสร้างบารมีเพื่อความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่เกินกว่าวิสัยของมนุษย์ทั่วไปให้สำเร็จได้อย่างไร”-ด้วยความคิดนี้เอง จึงเป็นพลังขับเคลื่อนภายในอันสำคัญยิ่งที่ทำให้ท่านสามารถเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้นมาได้ จนกระทั่ง...ท่านสามารถที่จะทำความปรารถนาของท่านให้สำเร็จได้ในที่สุด
 
พุทธภูมิธรรม ข้อที่ 2.ได้แก่ อุมมัคคะ หมายความว่า พระโพธิสัตว์เป็นผู้มีปัญญาอันเฉียบแหลมที่สามารถจะสั่งสอนตักเตือนตนเองและผู้อื่นได้ โดยก่อนที่ท่านจะลงมือทำสิ่งต่างๆนั้น ท่านจะคิดพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนว่า “สิ่งนั้นถูกหรือผิด ควรทำหรือไม่ควรทำ รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นหรือไม่”-ถ้าหากสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ควรทำ รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นแล้ว ท่านจึงจะตัดสินใจที่ลงมือทำสิ่งนั้น และท่านจะทำสิ่งนั้นอย่างเต็มที่เต็มกำลังชนิดที่เรียกว่า เอาชีวิตเป็นเดิมพัน กันเลยทีเดียว
 
พระโพธิสัตว์เป็นผู้มีปัญญาอันเฉียบแหลม ที่สามารถจะสั่งสอนตักเตือนตนเองและผู้อื่นได้
 
        ด้วยความที่ท่านเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญาอันเฉียบแหลมนี้เอง จึงทำให้ท่านเป็นผู้ที่ประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่เป็นกุศลกรรมอย่างเดียวเท่านั้น จนทำให้จิตใจของท่านสะอาดบริสุทธิ์ผ่องใสด้วยกระแสแห่งบุญล้วนๆ และทำให้ท่านสามารถที่จะสั่งสมบุญสร้างบารมีได้ยิ่งๆขึ้นไป ตลอดทุกภพทุกชาติที่ท่านได้เกิดมาอีกด้วย
 
 พระโพธิสัตว์จะประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่เป็นกุศลกรรม อย่างเดียวเท่านั้น
 
พุทธภูมิธรรม ข้อที่ 3.ได้แก่ อวัตถานะ หมายความว่า พระโพธิสัตว์เป็นผู้มีความสามารถที่จะวางแผนการดำเนินชีวิตของตนเองได้อย่างชัดเจน ด้วยการอธิษฐานจิตตั้งความปรารถนาที่จะให้ได้บรรลุพระสัพพัญญุตญาณอยู่เป็นประจำ ในทุกๆครั้งที่ท่านได้สั่งสมบุญสร้างบารมี จนกระทั่ง คำอธิษฐานจิตนี้ติดแน่นอยู่ในใจของท่านอย่างมั่นคง
 
 พระโพธิสัตว์เป็นผู้มีความสามารถที่จะวางแผนการ ดำเนินชีวิตของตนเองได้อย่างชัดเจน
 
        ด้วยความที่ท่านหมั่นอธิษฐานจิตตอกย้ำซ้ำเดิมอยู่เป็นประจำ ทุกภพทุกชาตินี้เอง จึงทำให้มโนปณิธานของท่านที่ได้ตั้งความปรารถนาจะบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เคยที่จะง่อนแง่น คลอนแคลน หรือเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่นเลยแม้แต่น้อย แต่มโนปณิธานนั้นกลับมั่นคง แนบแน่น และติดอยู่ในใจของท่านอยู่ตลอดเวลา
 
 พระโพธิสัตว์จะมีมโนปณิธานที่มั่นคงในการที่จะ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
 
        ซึ่งไม่ว่าท่านจะต้องไปถือกำเนิดเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ตาม แต่มโนปณิธานในใจของท่านนั้นก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ได้ โดยที่ท่านก็ไม่ได้มีจิตใจหวั่นไหวหรือคลอนแคลนเลยแม้สักเล็กน้อย มีแต่จะมุ่งหน้าสั่งสมบุญสร้างบารมีให้ยิ่งๆขึ้นไป ตลอดทุกภพทุกชาติที่ท่านได้เกิดมา
 
 ไม่ว่าพระโพธิสัตว์จะเกิดเป็นอะไรก็ตาม มโนปณิธานในการที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เคยคลอนแคลน
 
พุทธภูมิธรรม ข้อที่ 4.ได้แก่ หิตจริยา หมายความว่า ท่านเป็นผู้มีจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายเป็นปกติ และด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ท่านไม่มีความคิดที่จะมุ่งประทุษร้ายหรือว่าร้ายผู้อื่นเลย มีแต่จิตที่คิดจะชื่นชมยินดีในความสำเร็จของผู้อื่นอยู่เสมอ และมีความตั้งใจที่จะบำเพ็ญประโยชน์ช่วยเหลือเกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่ตลอดเวลา
 
พระโพธิสัตว์เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาต่อสรรพสัตว์ ทั้งหลายเป็นปกติ
 
        จากที่กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นได้ว่า พุทธภูมิธรรม หรือคุณลักษณะพิเศษทั้งสี่ประการนี้ ถือได้ว่าเป็นเครื่องหมายและองค์ประกอบที่สำคัญอย่างยิ่ง ในการสั่งสมบุญสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ผู้ที่ได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วว่า ตัวท่านจักได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต
 
พุทธภูมิธรรมถือได้ว่าเป็นเครื่องหมายและองค์ประกอบ ที่สำคัญในการสั่งสมบุญสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ ผู้ที่ได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
 
 
ชม Video Scoop พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 72
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
มาก่อนมาหลังไม่สำคัญ ปัจจุบันลุยสะบั้นหั่นแหลกมาก่อนมาหลังไม่สำคัญ ปัจจุบันลุยสะบั้นหั่นแหลก

ธุดงค์ธรรมยาตรา...พัฒนาวัดร้างให้รุ่งเรืองธุดงค์ธรรมยาตรา...พัฒนาวัดร้างให้รุ่งเรือง

พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนที่ 73 อานิสงส์พิเศษ 18 ประการของพระโพธิสัตว์พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนที่ 73 อานิสงส์พิเศษ 18 ประการของพระโพธิสัตว์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน