เมื่อพุทธันดรที่ผ่านมา ท่านคีร์ซานได้เกิดเป็นเจ้าเมืองในแคว้นฝั่งด้านทิศตะวันตกของแคว้นพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งแคว้นนี้เป็นแคว้นที่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว ในยุคนั้น...พระราชาผู้ยิ่งใหญ่ก็ได้ส่งคนไปเจริญสัมพันธไมตรีกับแคว้นนั้นเป็นอย่างดี มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากันตลอดมา

 

 

        เมื่อพระราชาผู้ยิ่งใหญ่มีศรัทธาในวิชชาธรรมกาย ก็ได้ไปชักชวนท่านคีร์ซานให้มาร่วมบุญในวาระโอกาสต่างๆกับหมู่คณะอยู่เสมอ และเมื่อท่านคีร์ซานได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับพระเถระอดีตพระราชาองค์ที่ออกบวชแล้ว ก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธาในปฏิปทาของพระเถระอดีตพระราชาองค์ที่ออกบวชเป็นอย่างมาก และได้รับคำแนะนำในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย ในแคว้นที่ท่านคีร์ซานได้เป็นเจ้าเมืองด้วย 

 

        ภายหลังที่กลับไปที่แคว้นของตนแล้ว ท่านคีร์ซานก็ได้นำหลักธรรมคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย มาเผยแผ่ยังแคว้นของตนเอง โดยท่านคีร์ซานจะทำตนเป็นต้นบุญต้นแบบในการทำความดีให้กับชาวเมืองได้เห็น ซึ่งตัวของท่านคีร์ซานเอง ก็ได้ปกครองแผ่นดินโดยธรรม จนกระทั่งหมดอายุขัย

 

 

 

        ในพุทธันดรที่ผ่านมา ท่านคีร์ซานก็มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี สามารถเข้าถึงดวงธรรมใสๆ ครั้นเมื่อละจากโลกไป ก็ได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรในสังคมชั้นสูง บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟสหนึ่ง หรือเขตดาวดึงส์ของสังคมชั้นสูงนั่นเอง

 

คำถามข้อที่ 4.ทำไม ท่านคีร์ซานจึงเก่งในเรื่องหมากรุก

 

        สาเหตุที่ทำให้ท่านคีร์ซานเก่งในเรื่องการเล่นหมากรุกนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะผลแห่งบุญและคำอธิษฐานจิตที่ท่านคีร์ซานได้เคยอธิษฐานจิตเอาไว้ เกี่ยวกับเรื่องการเล่นหมากกระดาน ในพุทธันดรก่อนๆโน้น (ก่อนภัทรกัปนี้)-ได้ติดตามมาส่งผล แล้วก็เป็นผลทำให้ท่านคีร์ซานมีอัธยาศัยชอบเล่นเกมประเภทหมากกระดาน ติดตัวมาหลายภพหลายชาติแล้ว เรื่องก็มีอยู่ว่า...ในภพชาติดังกล่าว ท่านคีร์ซานได้เกิดเป็นกุลบุตรรูปงามที่อาศัยอยู่ในเมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งในภพชาตินั้น ท่านคีร์ซานก็ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา และยังเป็นพุทธศาสนิกชนที่แท้จริงอีกด้วย 

 

        อยู่มาวันหนึ่ง ที่เมืองแห่งนั้นก็ได้มีการจัดมหกรรมแข่งขันหมากกระดานกันขึ้น ซึ่งลักษณะของหมากกระดานในสมัยนั้น ไม่ได้มีลักษณะเป็นตารางหรือมีช่องสีขาวสีดำสลับกันเหมือนอย่างในสมัยนี้ แต่ก็มีตัวหมากวางเอาไว้เหมือนกัน เมื่อท่านคีร์ซานได้ไปยืนดู ก็เกิดความสนใจอยากที่จะเล่นบ้าง ด้วยเหตุนี้ ท่านคีร์ซานจึงกลับไปลองหัดเล่นหมากกระดานชนิดนี้

 

 

 

        ภายหลังจากที่ท่านคีร์ซานเล่นได้เก่งขึ้นแล้ว ท่านคีร์ซานก็ได้บอกเพื่อนว่า...จะลองลงสมัครเข้าแข่งขันดู แต่เพื่อนๆก็สบประมาทเอาไว้ว่า “ไม่ชนะหรอก”-ด้วยความที่ท่านคีร์ซานเป็นผู้ที่มีความมุมานะ ไม่ท้อแท้ ท้อถอย ท่านคีร์ซานจึงได้ตัดสินใจเข้าแข่งขัน แต่เนื่องจากท่านคีร์ซานยังอ่อนประสบการณ์ จึงทำให้ท่านคีร์ซานแพ้จากการแข่งขันในครั้งนั้น

 

 

 

        ภายหลังจากการแข่งขัน เพื่อนๆก็มาพูดทับถมกันอีกรอบ จึงทำให้ท่านคีร์ซานรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่คุณแม่ของท่านคีร์ซานในภพชาตินั้น ก็ได้ช่วยปลอบใจ จนทำให้ท่านคีร์ซานเกิดกำลังใจที่จะฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งการลุกขึ้นสู้ในครั้งนี้ ท่านคีร์ซานหวังที่จะได้รับชัยชนะ ด้วยเหตุนี้เอง ท่านคีร์ซานจึงได้ไปหาคนสอนเทคนิคการเล่นหมากกระดาน และท่านคีร์ซานก็ได้ไปเจอคนสอนที่เป็นระดับเซียนหลายๆคน ซึ่งเซียนเหล่านั้นก็เต็มใจและพร้อมที่จะสอนให้กับท่านคีร์ซาน 

 

        และในตอนนั้น ทุกๆเช้า...ท่านคีร์ซานก็จะตักบาตรร่วมกับคุณแม่อยู่เป็นประจำ ซึ่งในทุกๆครั้งที่ท่านคีร์ซานได้ตักบาตรหรือทำบุญต่างๆ ท่านคีร์ซานก็มักจะอธิษฐานจิตว่า...ขอให้ตนเองเล่นหมากกระดานได้เก่งๆ พ่วงกับคำอธิษฐานจิตอื่นๆไปด้วย 

 

        ด้วยความที่ท่านคีร์ซานมีความมุมานะในการเล่นหมากกระดาน จนมีประสบการณ์มากขึ้นนี้เอง จึงทำให้ท่านคีร์ซานเล่นหมากกระดานชนะคนอื่นมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคนรอบข้างและเพื่อนๆเห็นความก้าวหน้าของท่านคีร์ซานแล้ว ทุกคนก็ได้ให้กำลังใจจนทำให้ท่านคีร์ซานรู้สึกมั่นใจในฝีมือของตัวเองมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เมื่อมีการแข่งขันหมากกระดานขึ้นอีกครั้ง ด้วยความที่ในครั้งนี้...ท่านคีร์ซานมีความพร้อมมากกว่าครั้งที่แล้ว จึงทำให้ท่านคีร์ซานสามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันครั้งนี้ได้ในที่สุด

 

 

 

        สาเหตุที่ทำให้ท่านคีร์ซานสามารถชนะการแข่งขันในครั้งนี้ได้นั้น ทั้งนี้เป็นเพราะความสามารถของท่านคีร์ซาน กอปรกับผลบุญและคำอธิษฐานจิตที่ท่านคีร์ซานได้ตอกย้ำซ้ำๆอยู่เป็นประจำ ได้ช่องตามมาส่งผลนั่นเอง ภายหลังจากที่ท่านคีร์ซานชนะแล้ว ท่านคีร์ซานก็ได้นำรางวัลไปให้คุณแม่ คุณแม่จึงได้แนะนำให้ท่านคีร์ซานนำเงินรางวัลที่ได้นั้นไปทำบุญสร้างวัด ซึ่งท่านคีร์ซานก็ได้ทำตามที่คุณแม่ได้บอกไว้ทุกประการ

 

 

 

        จากนั้น ท่านคีร์ซานก็ได้ลงแข่งขันอีกหลายครั้ง และสามารถคว้าชัยชนะจากการแข่งขันได้เป็นส่วนใหญ่ จนเป็นผลทำให้ท่านคีร์ซานเป็นที่ยอมรับของคนทั้งเมือง อีกทั้งในทุกๆครั้งที่ท่านคีร์ซานได้เงินรางวัลจากการแข่งขันมาแล้ว ท่านคีร์ซานก็จะนำเงินรางวัลไปทำบุญสร้างวัดตามที่คุณแม่บอกโดยตลอด ซึ่งทุกครั้งที่ทำบุญ ท่านคีร์ซานก็จะอธิษฐานจิตให้เล่นหมากกระดานได้เก่งๆ เหมือนที่เคยอธิษฐานจิตเอาไว้ตั้งแต่ตอนแรกๆ

 

        เมื่อมาถึงในภพชาติปัจจุบัน ด้วยความที่ท่านคีร์ซานเป็นคนที่มีความคิดอย่างเป็นระบบระเบียบ และเป็นนักวางแผน เมื่อมารวมกับผลบุญในอดีตกับคำอธิษฐานจิตในภพชาติดังกล่าว จึงส่งผลทำให้ท่านคีร์ซานมีความคุ้นเคยและมีทักษะในการเล่นหมากกระดานมากเป็นพิเศษ จนกลายเป็นยอดฝีมือทางด้านการเล่นหมากรุก แบบหาตัวจับยากตั้งแต่อายุยังน้อย และสามารถแข่งขันจนคว้าแชมป์หมากรุกของคาลมิเกีย ได้ตั้งแต่อายุ 14 ปี