‘เพลงป๊อปธรรมะ’ จูงใจคนเข้าหาพุทธศาสนา


[ 28 ก.ค. 2549 ] - [ 18270 ] LINE it!


ท่ามกลาง การเปลี่ยนแปลงของโลกที่มีการแข่งขันกันสูง ทำให้คนไม่มีเวลาที่จะหันมาดูว่าตนเองบกพร่องในเรื่องอะไร โดยเฉพาะคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งในภาวะปัจจุบันสังคมมีความตึงเครียดทำให้หลายคนต้องหันมาพึ่งพาพระสงฆ์ หรือแม้กระทั่งไสยศาสตร์ ส่วนเด็กและเยาวชนก็ห่างไกลคุณธรรม จริยธรรม หันไปสนใจกับวัตถุนิยม เพราะด้วยเหตุผลที่ว่า วัดนั้นน่าเบื่อ พระก็เทศน์อะไรไม่รู้ “ง่วง” คำเหล่านี้จึงทำให้พระสงฆ์จำเป็นจะต้องหาวิธีการที่จะนำหลักธรรมคำสั่งสอน ทางพระพุทธศาสนามาปรับเปลี่ยนให้เป็นความบันเทิง เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มชนสมัยใหม่ได้ซึมซับหลักคำสอนเหล่านี้นำไปใช้

ที่ผ่านมาการนำหลักธรรมคำสอนมาจัดทำให้อยู่ในรูปของเพลงนั้น  หลายคนอาจเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว แต่อาจจะอยู่ในรูปแบบเพลงลูกกรุง ซึ่งทำนองของเพลง เมื่อเด็กวัยรุ่นได้ฟังแล้วก็ยังบอกว่าอยากที่จะง่วงเหงาหาวนอน แต่พระแห่งวัดธรรมมงคล พระโขนง กรุงเทพฯ ได้คิดค้นการจัดทำเพลงเกี่ยวกับศาสนาในรูปแบบใหม่ ในลักษณะของเพลงป๊อป เพลงแจซซ์ เพลงเพื่อชีวิต รวมถึงเพลงลูกทุ่ง เพื่อให้การนำหลักธรรมทางศาสนาสามารถเข้าถึงประชาชน  โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนได้อย่างแท้จริง
 
พระสุพล ขันติพโล วัดธรรมมงคล ผู้คิดค้นซีดีเพลงธรรมะสไตล์ใหม่เร้าใจ เล่าให้ฟังว่า ตนอยากสร้างรูปแบบการเผยแผ่ธรรมะรูปแบบใหม่ เนื่องจากเคยเห็นเด็กนั่งฟังเทศน์จากพระหลาย ๆ รูปแล้ว ส่วนใหญ่จะไม่สนใจฟัง หรือนั่งหลับบ้าง จึงได้เข้าไปถามเด็กเหล่านั้นว่า เวลาฟังพระเทศน์ไม่รู้สึกสนุกหรือ ถึงได้ไม่ค่อยฟัง เขาก็จะตอบว่า มันน่าเบื่อมากพระอาจารย์ พระท่านพูดอะไรก็ไม่รู้ฟังยากแถมยังพูดช้า ๆ ยาน ๆ ฟังแล้วชวนง่วงนอน ทำให้ตนคิดว่าควรที่จะทำอย่างไรถึงจะหาทางใส่ธรรมะเข้าไปในจิตใจของเด็กวัย รุ่นและผู้ใหญ่ทั่วไปได้บ้าง จึงเห็นว่าเด็กสมัยนี้ชอบฟังเพลง ตนจึงได้คิดแต่งเพลงธรรมะขึ้นมาแล้วให้ลูกศิษย์ร้อง โดยใส่ดนตรีสมัยใหม่เข้าไป และเมื่อลองฟังดูก็รู้สึกว่าน่าสนใจดี น่าจะนำไปให้ญาติโยมได้ฟังบ้าง
 
“เพลงในยุคนี้ อาตมาเห็นว่าส่วนใหญ่จะมีเนื้อหาของความรัก รักร้าง อกหัก ผิดหวัง อาตมาจึงอยากให้เข้าใจว่า ความผิดหวังเหล่านั้น มันสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ สามารถเริ่มต้นกันใหม่ได้ อาตมาจึงแต่งเพลงที่มีเนื้อหาสอนใจว่าสิ่งเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยหลัก ธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า” พระสุพล กล่าว
 
พระสุพล เล่าอีกว่า ตอนนี้ได้จัดทำเพลงธรรมะออกมาเผยแพร่ให้ญาติโยมได้ฟังแล้วจำนวน 6 ชุด ได้แก่ ชุดสะสมบุญ ชุดบทเรียนชีวิต ชุดรักล้นใจ ชุดยุคไอซีที ชุดอุทาหรณ์สอนใจและชุดทะเลชีวิต นอกจากนี้ยังได้ผลิตเพลงธรรมะเป็นภาคภาษาอังกฤษ ใช้ชื่อชุดว่า Peace in The World ส่วนเนื้อหาของเพลงแต่ละชุดก็จะแตกต่างกัน โดยจำนวนเพลงก็มีตั้งแต่ 12-20 เพลง เริ่มจากชุด “สะสมบุญ” เนื้อหาของเพลงจะสอนให้คนหันมาสะสมความดี เพราะเมื่อเราตายจะมีแต่บุญกับบาปเท่านั้นที่จะนำติดตัวไปได้  ส่วนชุด “บทเรียนชีวิต” เพลงชุดนี้จะสอนให้คนรู้ว่า ชีวิตของเรานั้นจะมีทั้งผิดและถูก ดีและไม่ดี ถ้ากระทำผิดไปแล้วก็ควรที่จะแก้ไขปรับปรุง ไม่ใช่จะหาหนทางออกในทางที่ผิด อาทิ ไปกินเหล้าเมายา ฆ่าตัวตาย เป็นต้น
 
ส่วนชุด “รักล้นใจ” บางคนอาจจะคิดว่า เป็นพระจะแต่งเพลงประเภทนี้ได้ด้วยหรือ ซึ่งอาตมาก็ได้บอกไปว่า ไม่ได้แต่งเพลงในเชิงชู้สาวนะโยม เนื้อหาจะสอนใจเกี่ยวกับพ่อแม่ที่มีความรักให้แก่ลูก อยากให้ลูก ๆ ทุกคนรู้ว่า พ่อและแม่รัก   ลูกเสมอ ไม่ว่าลูกจะเป็นคนดีหรือคนเลวก็ตาม แม้กระทั่งชีวิตก็ยังเสียสละให้ได้ ส่วนชุดต่อไปเป็นชุดที่อาตมาแต่งขึ้นมาล้อกระแสสังคมที่อยู่ในโลกของไซเบอร์ ยุคของโลกาภิวัตน์ ชื่อชุดว่า “ยุคไอซีที” มีเนื้อหาเกี่ยวกับสังคมที่มีความทันสมัยทำให้คนที่เข้ามาพบกับแสง สี เสียง เกิดความหลงใหล เหมือนกับการเล่นเกมแล้วติด ทำให้เกิดความเสียหายต่อตนเอง ซึ่งอาตมาจะสอดแทรกคำสอนของพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับความอดทนและความพอเพียง เข้าไปด้วย เพื่อเป็นการเตือนสติให้ผู้ที่ฟังอย่าหลงระเริงไปกับแสง สี” พระสุพล กล่าว
 
นอกจากนี้ยังมีชุด “อุทาหรณ์สอน  ใจ” ซึ่งประกอบด้วยเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องของความไม่ประมาท เพราะชีวิตของเรานั้นมีโอกาสเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ตลอดเวลา และในชุดล่าสุด “ทะเลชีวิต” เนื้อหาของเพลงชุดดังกล่าวจะนำชีวิตของคนมาเปรียบเทียบกับทะเลว่า มันอาจจะมีขึ้นและลง อย่าไปเศร้าใจกับชีวิต ให้สู้กับชีวิตต่อไป อย่างไรก็ตามในภาวะที่สังคมโลกยังร้อนระอุด้วยภัยของสงคราม พระสุพลยังได้แต่งเพลงธรรมะภาษาอังกฤษที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสันติภาพความ สงบสุข ไว้เผยแพร่ด้วย เพื่อสร้างสรรค์สังคมโลกให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
 
เมื่อ เห็นว่าเพลงธรรมะรูปแบบใหม่มีความน่าสนใจอย่างไรกันแล้วลองมาฟังความคิด เห็นของผู้ที่เคยได้ฟังเพลงเหล่านี้กันบ้าง นายสิทธิศักดิ์ สถิตย์ตันติกร นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ บอกว่า รู้สึกแปลกหูดี เพราะไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนทำให้เราอยากฟังและอยากที่จะรู้ว่ามีเพลง อะไรอีก รวมทั้งยังทำให้เราได้ซึมซับคำสอนทางพระพุทธศาสนาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเพลงธรรมะดังกล่าวมีแนวดนตรีที่ทันสมัยมาก เสียงคนร้องก็เพราะจึงทำให้น่าฟัง ซึ่งแตกต่างจากสมัยก่อนที่ฟังบรรยายจากเทปธรรมะมีพระมาเทศน์ จะรู้สึกง่วงทุกครั้ง อีกทั้งยังแปลกใจด้วยว่า พระก็สามารถที่จะถ่ายทอดหลักธรรมคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนาออกมาเป็นเพลงดี ๆ ได้ด้วย ซึ่งถ้าพระสงฆ์ในบ้านเราสามารถที่จะสร้างสรรค์วิธีการจูงใจคนให้เข้าถึง ธรรมะโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนกันอย่างนี้ต่อไปคงมีเด็กเข้าวัดกันมากขึ้น
 
ด้าน น.ส.พรทิภา อภิสิทธิ์เวชการ พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง มองว่า รู้สึกประทับใจมาก เพราะเนื้อหาของเพลงสามารถสอนให้เราเข้าใจธรรมะได้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องมา แปลความอีกครั้ง รวมทั้งยังเป็นเพลงที่มีความทันสมัยเหมาะกับยุคสมัยอย่างมาก จึงอยากให้คนอื่น ๆ ได้ฟังบ้างโดยเฉพาะน้อง ๆ เยาวชน และเพลงดังกล่าวน่าจะฟังได้ทุกเพศทุกวัย สมควรที่พระสงฆ์สามารถนำมาปรับใช้ในการสั่งสอนประชาชนให้มีความทันสมัยมาก ขึ้น
 
ความคิดสร้างสรรค์สามารถก่อประโยชน์ให้กับหมู่มวลมนุษย์มา มากแล้ว ซึ่งวงการสงฆ์ไทยควรที่จะปรับทัศนคติบางอย่างออกไปจากความคิด เพราะการที่จะทำอะไรใหม่ ๆ และก่อให้เกิดสิ่งดี ๆ ต่อสังคมสมควรที่จะสนับสนุน มิใช่อ้างแต่กฎเกณฑ์เดิมที่ไม่ได้ก่อให้เกิดผลดีต่อสังคมอะไรเลย มิหนำซ้ำยังก่อให้เกิดอันตรายต่อศาสนา เพราะประชาชนกำลังขาดที่พึ่งทางจิตใจ ขาดหลักธรรมะในการดำเนินชีวิต ด้วยเหตุที่ว่าไม่อยากเข้าวัด เพราะพระเทศน์ฟังแล้วไม่เข้าใจ ฟังยาก แถมยังง่วงนอนอีกต่างหาก อย่างไรก็ตามหากประชาชน โรงเรียน หรือหน่วยงานใด สนใจจะนำไปเปิดกล่อมเกลาจิตใจสามารถติดต่อไปได้ที่ มูลนิธิหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร วัดธรรมมงคล หรือที่พระสุพล ขันติพโล โทร. 0-1343-0542, 0-2311-1387, 0-2311-3903.
 
 
 
 17 มิถุนายน 2549
  มนตรี ประทุม


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ฮือฮา! วัตถุประหลาดคล้ายนิ้วคน?ฮือฮา! วัตถุประหลาดคล้ายนิ้วคน?

เกิดมาไม่มีทั้งแขนและขา..มีแต่ตัวด้วน ๆเกิดมาไม่มีทั้งแขนและขา..มีแต่ตัวด้วน ๆ

เทคนิคเช็คปริมาณความดีของตัวเองเทคนิคเช็คปริมาณความดีของตัวเอง



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

DMC NEWS