เส้นทางสว่างของเด็กสลัม


[ 24 มิ.ย. 2554 ] - [ 18267 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2554
เส้นทางสว่างของเด็กสลัม

 
 
 
พลิกชีวิตด้วยการบวช
ตอน เส้นทางสว่างของเด็กสลัม
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
กราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ
 
        กระผม พระอเนชา กิตฺติพโล อายุ 21 ปี เข้าอบรมในโครงการบวชพระแสนรูป ภาคฤดูร้อน (รุ่นสามฤดู) ณ ศูนย์อบรมวัดต้นไทรย์ ซอยอ่อนนุช กรุงเทพฯ ปัจจุบันกระผมกำลังเตรียมตัวรับบุญเป็นพระพี่เลี้ยงในโครงการบวชพระหนึ่งแสนรูป รุ่นเข้าพรรษา (รุ่นที่ 4) ครับ
 
ชีวิตพระ เพศสมณะ อันสูงส่ง
ห่มจีวร ปฏิบัติธรรม กลั่นใจใส
หยุดใจนิ่ง ตรึกองค์พระ สว่างภายใน
สุขใดๆ มิเทียบเท่า บวชพระเอย
 
        หลวงพ่อครับ ยิ่งได้ใช้ชีวิตในเพศสมณะนานวันเข้า กระผมก็ยิ่งซาบซึ้งกับประโยคที่ว่า “ไม่มีชีวิตใดประเสริฐเท่าชีวิตสมณะ และไม่มีผ้าผืนใดในโลกจะสูงส่งและมีพลานุภาพเท่ากับผ้าชุดสุดท้ายที่กระผมสวมใส่นี้อีกแล้วจริงๆครับ” เหตุที่ทำให้กระผมรู้ซึ้งถึงชีวิตสมณะได้สุดๆแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้กระผมเคยใช้ชีวิตมาแบบชั่วสุดๆ จนไม่รู้จะหาคำใดมาเปรียบเทียบได้เลยครับ ก็จะให้ทำอย่างไรได้ครับ ชีวิตเด็กสลัมคนหนึ่งที่พ่อแม่ทิ้งไปตั้งแต่อายุสามเดือน หน้าพ่อหน้าแม่ก็ไม่เคยเห็น คำว่า “ครอบครัวอบอุ่น” ก็ไม่รู้จัก กระผมโตมากับยายแก่ๆคนหนึ่ง ที่วันๆเอาแต่ขายก๋วยเตี๋ยวหาเงินส่งเสียกระผมให้ได้เรียนหนังสือ ตั้งแต่เด็กจนโตเวลาที่โรงเรียนมีงานวันพ่อหรือวันแม่ เก้าอี้ผู้ปกครองของกระผมก็จะว่างเปล่า หรือไม่ก็จะมีภารโรงมานั่งเป็นพ่อแม่ให้กระผมกราบเท้าแทนครับ จนเพื่อนๆที่โรงเรียนต่างพากันล้อกระผมว่า “ไอ้เด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่” ทำให้กระผมรู้สึกอายเพื่อนมาก และคิดว่ามันเป็นปมด้อยของชีวิตกระผมมาตลอดครับ
 
พระอเนชา กิตฺติพโล
 
พระอเนชา กิตฺติพโล
 
        จนกระทั่งวันหนึ่ง กระผมกลับมาจากโรงเรียน ได้เห็นผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งอุ้มเด็กทารกที่กำลังร้องไห้อยู่ข้างๆยายของกระผม พอยายเห็นกระผมก็รีบตะโกนออกมาว่า “อ้าว...ลูกกลับบ้านแล้วหรือ นี่แม่...เข้ามาไหว้แม่สิ” วินาทีแรกที่กระผมได้ยินยายบอกว่าหญิงแปลกหน้าคนนี้ คือ “แม่” กระผมช็อคไปเลยครับ ตั้งตัวไม่ทัน ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี ตอนนั้นกระผมไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าท่าน ก้มหน้าก้มตาเดินถอยหลังและวิ่งออกจากบ้านมาทันที กระผมแอบไปนั่งร้องไห้คนเดียวอยู่ที่สนามฟุตบอลกลางหมู่บ้าน จนมีรุ่นพี่เดินมาเจอกระผม แล้วถามกระผมว่า “เฮ้ย...เป็นอะไร” กระผมจึงเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง เขาก็บอกว่า “ไม่เป็นไร วันนี้วันเกิดพี่ ไปกินเหล้ากันดีกว่า รับรองหายเครียด” กระผมเชื่อและตามเขาไป ก้าวแรกที่กระผมเหยียบเข้าไปในงานวันเกิด สิ่งแรกที่กระผมสัมผัสได้ คือ กลิ่นเหล้าและควันบุหรี่ครับ ยิ่งพอเดินเข้าไป บอกตรงๆครับว่าไม่ต่างอะไรกับปาร์ตี้ยาบ้าเลย เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่คนกำลังนั่งเสพยาบ้า หรือไม่ก็ดื่มเหล้าอยู่ในสภาพเมาไม่ได้สติ รุ่นพี่ยื่นเหล้าแล้วคะยั้นคะยอให้กระผมลองดื่มสักแก้วหนึ่ง พอดื่มเข้าไปแล้ว จำได้ว่าเมาไม่เป็นท่าเลยครับ หลับคาบ้านเขาเลยครับ
 
        หลังจากนั้น ชีวิตของกระผมก็สิงอยู่ที่บ้านรุ่นพี่คนนี้ตลอดครับ บ้านช่องไม่กลับ หนังสือหนังหาก็ไม่ไปเรียน วันๆเอาแต่กินเหล้า เมายา สูบบุหรี่ เล่นยาบ้า กัญชา เฮโรอีน ใช้ชีวิตเหลวแหลกไปวันๆ กระผมอยู่กับรุ่นพี่ได้สามวัน เขาก็เริ่มให้กระผมได้สัมผัสธุรกิจของเขา นั่นก็คือ...ธุรกิจค้ายาบ้านั่นเองครับ ช่วงนั้นกระผมจะช่วยเขาเอายาบ้าไปปล่อยให้ลูกค้าตามที่ต่างๆ เสร็จแล้วก็กลับมานั่งเสพยาที่บ้านกันต่อทั้งวันทั้งคืน
 
        จนกระทั่งวันหนึ่ง ระหว่างที่กระผมรอปล่อยยาให้กับลูกค้า อยู่ๆก็มีผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินเข้ามาหา กระผมตกใจและสงสัยว่า “หมอนี่น่าจะเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบแน่ๆ” ตอนนั้นกระผมตั้งท่าจะวิ่ง เพราะที่เอวของกระผมได้แนบยาบ้าไว้หลายเม็ด ถ้าถูกจับตอนนั้นต้องแย่แน่ๆ ระหว่างที่ตั้งท่าเตรียมจะวิ่ง ผู้ชายคนนั้นก็ได้พูดประโยคแรกกับกระผมว่า “พี่ชาย...สนใจบวชไหมครับ” กระผมคิดในใจว่า “หมอนี่จะมาไม้ไหน” จึงพูดกลับไปว่า “ไม่เอา ไม่บวช มาทางไหนไปทางนั้นเลย” แต่เขาก็ยังไม่ละความพยายาม ชวนกระผมต่อว่า “พี่ช่วยฟังผมสักห้านาทีได้ไหมครับ ผมมีโบร์ชัวร์ให้พี่ด้วยครับ” พร้อมกับยื่นให้กระผม และอธิบายรายละเอียดต่างๆให้ฟัง พอกระผมฟังได้แค่สองนาทีก็ทนไม่ไหวแล้วครับ ตัดสินใจเดินไปเขียนใบสมัครบวชตอนนั้นทันทีเลยครับ
 
        วันนั้น กระผมเดินกลับบ้านด้วยความดีใจสุดๆ เพราะตั้งใจว่าครั้งนี้จะบวชให้ยาย จนลืมไปเลยว่านัดส่งยาบ้าให้ลูกค้า กระผมรีบไปหายายที่บ้าน เมื่อยายเจอกระผม ท่านดีใจมาก กระผมจึงบอกยายว่า “ยายๆมานี่หน่อย มีอะไรจะคุยด้วย” พอยายเดินเข้ามาใกล้ๆกระผมก็บอกยายทันทีว่า “ยาย...ผมจะบวชให้ยายนะ” ยายอึ้งไปสักพักครับ แล้วก็พูดขึ้นมาว่า “บวชที่ไหนลูก ยายไม่มีเงินจัดงานนะ” กระผมจึงบอกว่า “บวชครั้งนี้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย” ยายดีใจจนน้ำตาไหลเลยครับที่หลานชายคนนี้จะบวชให้
 
พระอเนชา กิตฺติพโล
 
พระอเนชา กิตฺติพโล
 
        พอเข้าโครงการฯแล้ว กระผมตั้งใจหักดิบเลิกสิ่งไม่ดีทุกอย่างครับ ตั้งใจฝึกตัวและอยู่ในกฎระเบียบให้ได้ แรกๆยอมรับครับว่ามีหงุดหงิดบ้าง เพราะการใช้ชีวิตในโครงการฯนั้น แตกต่างจากเดิมแบบสุดขั้ว จากที่เคยเที่ยวเตร่สำมะเลเทเมาทั้งวันทั้งคืน ต้องมาตื่นตั้งแต่ตีสี่ จากชีวิตที่ไร้ระเบียบก็ต้องมาอยู่ในกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด แต่โชคดีครับที่กระผมได้รับการดูแลอย่างดีจากพระอาจารย์ทุกรูป ท่านเล่าธรรมะและสอนให้กระผมเข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรม รวมทั้งสอนให้กระผมรู้จักการนั่งสมาธิ จนกระผมได้พบกับความสุขภายใน วันนั้น...กระผมนั่งสมาธิ หลับตาเบาๆวางใจเฉยๆ ไม่คิดไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น สักพักกระผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตกเหวครับ มันวูบเหมือนดิ่งลงไปในท่อๆหนึ่ง และไม่นานกระผมก็เห็นดวงแก้วที่สว่างมากผุดลอยขึ้นมา ดวงแก้วนั้นสว่างเหมือนดวงจันทร์เต็มดวง สีขาวนวลใส ตอนนั้นกระผมรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ หลวงพ่อครับ หลังจากนั้นไม่ว่ากระผมจะลืมตาหรือหลับตา ดวงแก้วก็ยังสว่างอยู่ที่กลางท้อง ไม่ไปไหนเลยครับ
 
        สุดท้ายนี้ กระผมขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อ ที่ได้สร้างชีวิตใหม่ให้กับกระผมในเส้นทางสายสมณะนี้ครับ และกระผมจะขอทุ่มเทชีวิตและจิตใจในการทำหน้าที่พระพี่เลี้ยงในโครงการบวชพระแสนรูป รุ่นเข้าพรรษา ในครั้งนี้อย่างเต็มที่ กระผมจะเป็นต้นบุญต้นแบบที่ดีให้กับพระน้องชายทุกๆรูป และจะทำทุกๆภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากหมู่คณะให้ดีที่สุดครับ
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
พระอเนชา กิตฺติพโล
 
อ่านรายละเอียด...
 
รับชมวีดีโอ
ดีเจ อนุรุทธิ์ (ดีเจดรีมสเตชั่น) ชวนบวชพระแสนเข้าพรรษา

รับชมคลิปวิดีโอดีเจ อนุรุทธิ์ ชวนบวชพระแสนเข้าพรรษา 2554
ชมวิดีโอดีเจ อนุรุทธิ์ ชวนบวชพระแสนเข้าพรรษา 2554  MP3 ธรรมะดีเจ อนุรุทธิ์ ชวนบวชพระแสนเข้าพรรษา 2554   Download ธรรมะดีเจ อนุรุทธิ์ ชวนบวชพระแสนเข้าพรรษา 2554


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เรื่องของคนชอบชนไก่ ตอนที่ 2เรื่องของคนชอบชนไก่ ตอนที่ 2

ทนทุกข์ทรมานมาข้ามภพข้ามชาติ ตอนที่ 2ทนทุกข์ทรมานมาข้ามภพข้ามชาติ ตอนที่ 2

เยาวชนพีซเรฟโวลูชั่น ตอนที่ 5เยาวชนพีซเรฟโวลูชั่น ตอนที่ 5



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน