ธรรมะ
เพื่อประชาชน
ฉบับอานิสงส์แห่งบุญ
..............................................................................................................
อานิสงส์ถวายมหาวิหารทาน
บุญถวายวิหารทานเป็นบุญใหญ่
สามารถพลิกชีวิตของปุถุชนคนธรรมดากลายมาเป็นพระอริยเจ้าได้
ธรรมดาของชีวิตที่มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และการดับไปในที่สุด ชีวิตหลังความตายเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้สั่งสมบุญเอาไว้ แต่สำหรับผู้เป็นบัณฑิตที่ได้สั่งสมบุญมาด้วยดีแล้วนั้น จะเห็นว่าการเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเพียงการเปลี่ยนภพเปลี่ยนที่อยู่ใหม่เท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายอะไรอย่างที่คนส่วนใหญ่มักจะทุกข์อกทุกข์ใจกัน แม้เมื่อหมู่ญาติอันเป็นที่รักได้จากไป ส่วนหลักประกันที่มั่นคงในการเดินทางไปสู่สัมปรายภพนั้น ก็คือการปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายในตัว ได้เข้าถึงที่พึ่งที่ระลึกภายใน เพราะพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ให้ความอบอุ่นใจและความปลอดภัยในชีวิต
ฉบับอานิสงส์แห่งบุญ
..............................................................................................................
อานิสงส์ถวายมหาวิหารทาน
บุญถวายวิหารทานเป็นบุญใหญ่
สามารถพลิกชีวิตของปุถุชนคนธรรมดากลายมาเป็นพระอริยเจ้าได้
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสไว้ในอาทิตตสูตรว่า
“นีหเรเถว ทาเนน ทินฺนํ โหติ สุนิพฺภตํ
ทินฺนํ สุขผลํ โหติ นาทินฺนํ โหติ ตํ ตถา
“นีหเรเถว ทาเนน ทินฺนํ โหติ สุนิพฺภตํ
ทินฺนํ สุขผลํ โหติ นาทินฺนํ โหติ ตํ ตถา
บุคคลควรนำสมบัติออกด้วยการให้ทาน เพราะสิ่งที่ให้แล้ว ได้ชื่อว่านำออกดีแล้ว
ทานวัตถุที่บุคคลให้แล้วนั้น ย่อมมีสุขเป็นผล ส่วนที่ยังไม่ได้ให้ ย่อมไม่เป็นเหมือนอย่างนั้น”
ทานวัตถุที่บุคคลให้แล้วนั้น ย่อมมีสุขเป็นผล ส่วนที่ยังไม่ได้ให้ ย่อมไม่เป็นเหมือนอย่างนั้น”
การให้ทานจัดเป็นบุญที่ทำได้อย่างง่ายๆ ยิ่งทำในขณะที่ใจหยุดนิ่ง อยู่ ณ ศูนย์กลางกาย จะยิ่งทำให้ได้รับอานิสงส์ใหญ่ ไม่มีวิบัติเข้ามาเจือปนเป็นเลย จะทำให้สร้างบารมีได้อย่างเต็มที่ไปจนตลอดอายุขัย ยิ่งให้สิริก็ยิ่งเกิดจะเป็นที่มานอนแห่งโภคทรัพย์สมบัติทั้งหลาย คือทรัพย์นั้นมาแล้วก็อยู่ไม่หายไปใหน ให้เราได้ใช้สร้างบารมีอย่างสะดวกสบาย บุญที่เราทำไม่ได้สูญหายไปไหน เมื่อถึงคราวส่งผลก็จะทำให้เราสมบูรณ์พร้อมในทุกสิ่ง จะมีแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จในชีวิตทุกด้าน ยิ่งถ้าได้ทำบุญถูกทักขิไณยบุคคล กำลังบุญก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นเป็นทับทวี
เพราะฉะนั้น บุญจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต ที่จะทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เจริญขึ้น จากยากจนเข็ญใจก็จะกลายเป็นมหาเศรษฐีได้ หรือจากสามัญชนคนธรรมดาให้กลายเป็นพระราชามหากษัตริย์ จนกระทั่งเป็นอริยชน หมดกิเลสอาสวะเป็นพระอริยเจ้าก็ได้ เหมือนดังเรื่องของพระราชามหากัปปินะ ผู้ได้เคยสร้างวิหารถวายสงฆ์เอาไว้ ทำให้ท่านได้บรรลุนิรามิสสุข เข้าถึงธรรมได้อย่างง่ายดาย
* ดังเรื่องมีอยู่ว่า ในสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ ท่านได้เกิดเป็นกุฎุมพีในกรุงพาราณสี เป็นหัวหน้าของช่างหูก อาศัยการทอผ้าเลี้ยงชีวิต มีอยู่วันหนึ่ง มหาชนได้ป่าวประกาศให้ไปฟังธรรมกันในพระวิหาร กุฎุมพีท่านนี้ได้ยินแล้ว ก็มีจิตเลื่อมใส จึงชักชวนภรรยาและเพื่อนบ้านไปฟังธรรม ในขณะที่ท่านเดินทางไปนั้น ฝนได้ตั้งเค้าขึ้นอย่างฉับพลันแล้วก็ตกลงมาโดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว
ญาติโยมที่มีความคุ้นเคยกับพระภิกษุสามเณรรูปไหน หรือเคยได้ร่วมบุญสร้างศาลาหลังไหนเอาไว้ ก็พากันเข้าไปพักพิงในกุฏิหรือศาลาเหล่านั้น เหลือแต่กุฎุมพีพร้อมด้วยภรรยาและเพื่อนๆ ที่ไม่กล้าเข้าไปหลบฝนในศาลาหลังไหน เพราะว่าตนเองไม่มีความคุ้นเคยและไม่รู้จักภิกษุสามเณรรูปใดเลย อีกทั้งยังไม่เคยได้สร้างศาลาวิหารเอาไว้ จึงได้แต่ยืนกลางร่มอยู่กลางแจ้ง ต้องเปียกปอนไปตามๆ กัน
หัวหน้าช่างหูกเป็นคนฉลาด ปรารภเหตุที่ตัวเองต้องมายืนตากฝนอย่างนี้ จึงได้เอ่ยขึ้นว่า ที่เราต้องยืนตากฝนเปียกปอนไปตามๆ กัน ก็เพราะเราไม่เคยได้ทำบุญสร้างศาลาวิหารถวายวัดเลย เราควรร่วมมือร่วมใจกันสร้างวิหารหลังใหญ่สักหลังหนึ่ง จะได้อาศัยร่มเงาในบวรพระพุทธศาสนาเพื่อสร้างบารมีอย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องลำบากกันอย่างนี้ เกิดกี่ภพกี่ชาติจะได้มีที่อยู่อาศัย มีเสนาสนะไว้สำหรับประพฤติธรรมอย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องมายืนเปียกฝนเช่นนี้อีกต่อไป
เพื่อนๆ ได้ฟังอย่างนั้นก็เห็นด้วย จึงร่วมกันบริจาคทรัพย์สร้างมหาวิหารให้ใหญ่กว่าของใครๆ ไว้ในบริเวณวัดนั้น หัวหน้าช่างหูกได้บริจาคทรัพย์หนึ่งพันกหาปณะ คนที่เหลือก็บริจาคกันคนละ ๕๐๐ พวกผู้หญิงบริจาคคนละ ๒๕๐ แล้วเริ่มทำการก่อสร้าง หวังไว้ว่ามหาวิหารนี้จะเป็นที่สร้างบารมีและเป็นที่ประทับของพระบรมศาสดา แต่เมื่อทรัพย์ไม่เพียงพอในการก่อสร้าง หัวหน้าช่างหูกก็เทกระเป๋าทุ่มสุดตัวสุดหัวใจ อีกทั้งภรรยาและเพื่อนๆ ก็ได้ทุมเทเช่นนั้นตามด้วย เพื่อให้การก่อสร้างสำเร็จทันใช้งาน เมื่อสร้างสำเร็จก็ได้ทำการฉลองด้วยการถวายมหาทานแก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขตลอด ๗ วัน แล้วจัดจีวรถวายพระทั้งสองหมื่นรูป
ฝ่ายภรรยาของหัวหน้าช่างหูก นอกจากจะทำบุญเหมือนคนอื่นๆ แล้ว ยังตั้งใจจะถวายทานที่พิเศษกว่าใครๆ จึงได้ถือเอาผอบดอกอังกาบกับผ้าสาฎกที่มีสีเหลืองเหมือนดอกอังกาบน้อมเข้าไปถวายพระบรมศาสดา แล้วตั้งความปรารถนาว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอสรีระของหม่อมฉันจงมีสีดุจดอกอังกาบนี้ และขอให้หม่อมฉันจงมีนามว่าอโนชาด้วยเถิด” พระบรมศาสดาก็ได้ทรงอนุโมทนา
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา หัวหน้าช่างหูกและเพื่อนๆ ก็เป็นผู้ที่คุ้นเคยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า และหาโอกาสสั่งสมบุญเรื่อยมา ทำให้จิตผูกพันกับพระรัตนตรัย เมื่อละโลกไปแล้ว ด้วยอานิสงส์ที่ได้ทำบุญถวายวิหารในครั้งนั้น ทำให้ได้ไปเสวยทิพยสมบัติในสวรรค์เป็นเวลานานถึงหนึ่งพุทธันดร เมื่อจุติจากอัตภาพนั้น ก็มาบังเกิดในราชตระกูล ในกุกกุฏวดีนคร ได้เป็นพระราชาพระนามว่ามหากัปปินะ พระองค์มีมเหสีคู่บุญชื่อว่า อโนชา ซึ่งมีผิวพรรณเหมือนดอกอังกาบตามที่ปรารถนาเอาไว้
ส่วนผู้ที่เคยร่วมบุญกันมา ก็ตามลงมาเกิดเป็นอำมาตย์ข้าราชบริพาร
มีอยู่วันหนึ่ง เพียงแค่ได้ยินถ้อยคำอันเป็นสิริมงคลว่า พุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นแล้วก็เกิดมหาปีติซาบซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย ทั้งพระราชา มเหสี รวมไปถึงเสนาอำมาตย์ข้าราชบริพาร ต่างก็พร้อมใจกันเดินทางไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทันที พระบรมศาสดาทรงเห็นว่าพระเทวีและบริวารได้สั่งสมบุญมาดี เคยถวายผ้าไตรจีวรเอาไว้มาก จึงประทานการบวชด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา และในการฟังธรรมครั้งที่ ๒ ก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา เข้าถึงความเต็มเปี่ยมของชีวิตกันหมดทุกคน
เราจะเห็นว่าการทำบุญถวายวิหารทานนี้ เป็นบุญใหญ่จริงๆ เพราะเป็นสถานที่รองรับผู้มีบุญที่จะมาสร้างบารมี บุญนั้นเป็นบุญใหญ่ที่ส่งผลข้ามภพข้ามชาติ ทำให้ได้ทั้งมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติและนิพพานสมบัติ เหมือนอย่างนายช่างหูก ผู้พลิกผันชีวิตจากสามัญชนกลายมาเป็นพระราชา จากชีวิตของปุถุชนคนธรรมดากลายมาเป็นพระอริยเจ้าได้
หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ (พระมงคลเทพมุนี สด จนฺทสโร) ท่านเป็นผู้มีใจใหญ่เยี่ยงพระบรมโพธิสัตว์ ท่านรักการปฏิบัติธรรมยิ่งชีวิต มุ่งค้นคว้าวิชชาธรรมกายเพื่อไปปราบมาร เพราะท่านรู้ว่า ที่มนุษย์เราต้องเวียนว่ายตายเกิดกันอยู่อย่างนี้ เพราะพญามารเขาบังคับ บังคับให้โลภให้โกรธให้หลง ให้สร้างกรรมและก็มีวิบากเป็นผลของการกระทำนั้นๆ ทำให้ชีวิตต้องทุกข์ทรมานไม่ได้พบกับแสงสว่าง ถ้าหลุดจากตรงนี้ไปได้ ก็จะหลุดหมด ดังนั้นทั้งชีวิตท่านจึงทุ่มเทอุทิศชีวิตให้กับการทำวิชชาเพื่อมุ่งไปปราบมาร ให้ถึงที่สุดแห่งธรรม
ฉะนั้น บุญที่เราทำกับท่านจึงมีอานิสงส์มาก มากพอที่จะทำให้เราไปถึงที่สุดแห่งธรรมได้ทีเดียว นอกจากนี้เรายังจะได้บุญใหญ่จากคุณยายอาจารย์ ซึ่งเป็นผู้สืบทอดวิชชาธรรมกายให้มาถึงพวกเรา ท่านเป็นผู้เลิศด้วยวิชชาและจรณะ เมื่อพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำได้มอบหมายให้ท่านสานต่อมโนปณิธานในการเผยแผ่วิชชาธรรมกายให้กว้างขวางออกไปทั่วโลก ท่านก็ทุ่มเทชีวิตจิตใจทำสิ่งนี้ให้เกิดขึ้น เพราะถ้าคุณยายท่านไม่ได้สานต่อวิชชาศักดิ์สิทธิ์นี้ ก็จะสูญหายไป ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย ดังนั้นทั้งหลวงปู่วัดปากน้ำและคุณยายจึงเป็นบุคคลที่สำคัญต่อชาวโลกตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งหลาย ท่านเป็นมหาปูชนียาจารย์ที่เราควรมาเอาบุญใหญ่กับท่าน ด้วยการมาร่วมบุญสร้างวิหารหลวงปู่วัดปากน้ำกัน เพราะบุญเท่านั้นเป็นที่พึ่งของพวกเราในปรโลก และเป็นที่พึ่งตลอดไปของการเดินทางไกลในสังสารวัฏ
..............................................................................................................
* มก. มหากปิชาดก เล่ม ๔๑ หน้า ๓๐๑