อุปสรรคและการแก้ปัญหา
การฟันฝ่าอุปสรรคด้วย เอคิว
อุปสรรค ความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคA.Q : (Adversity Quotient)
คนที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นจะต้องมีทั้ง ไอคิว (Intelligence Quotient) อีคิว (Emotional Quotient) และ เอคิว (Adversity Quotient) แต่ละประเภทนั้นส่งผลต่อการประสบความสำเร็จในชีวิตเราอย่างไร ต้องลองมาศึกษาดูกันค่ะ..การฝ่าฟันอุปสรรคด้วยเอคิว
ปัจจุบันนี้เพียง ไอคิว อีคิว นั้นไม่พอที่จะทำให้คนคนหนึ่งประสบความสำเร็จได้ดีเท่าที่ควร จึงจำเป็นที่จะต้องมาทำความรู้จักกับความฉลาดอีกประเภทหนึ่งนั่นคือ เอคิว (Adversity Quotient) หรือความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรค นั่นเองโทมัส อัลวา เอดิสันยกตัวอย่าง โทมัส อัลวา เอดิสัน (อังกฤษ: Thomas Alva Edison) เป็นนักประดิษฐ์และนักธุรกิจชาว อเมริกัน ผู้ซึ่งประดิษฐ์อุปกรณ์ที่สำคัญต่าง ๆ มากมาย ทดลองทำอะไรต่างๆ ด้วยตนเอง ทดลอง ถึง 20 ปี (ประมาณ 50000 ครั่ง ล้มเหลวประมาณ 40000 กว่าครั้ง) ซึ่งถ้าหากเป็นคนธรรมดา เพียงล้มเหลวแค่ 100 ครั้งก็อาจทำให้ถอดใจล้มเลิกได้ หากแต่เขายังมีความพยายามที่จะฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านั้นมาจนผลิตไฟส่องสว่างให้พวกเราได้ใช้จนถึงทุกวันนี้...ในเรื่องของ เอคิว (Adversity Quotient) หรือความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรค นั่น มีท่านผู้รู้ท่านหนึ่งที่จะพยายามอธิบายให้เราเห็นภาพว่า โดยเปรียบเทียบจากการปีนเขา ของบุคคล 3 ประเภท คือผู้มองเห็นอุปสรรคปัญหาตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น (Quitters )
1. ผู้มองเห็นอุปสรรคปัญหาตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น (Quitters ) มีลักษณะ
o ปฏิเสธความท้าทาย
o ไม่กล้าเริ่มต้น ไม่เชื่อมั่นในตนเองว่าจะแก้ปัญหานี้ได้
o ไม่ชอบการเสี่ยง
o ความทะเยอทะยานต่ำ ไม่มีแรงจูงใจ
o ถ่วงความก้าวหน้าในองค์กรพักระหว่างทางเมื่อพบที่ปลอดภัย2. ผู้ที่หยุดพักเมื่อทำไปแล้วพบที่ปลอดภัย ( Campers ) มีลักษณะ
o วิ่งไปสักระยะ แล้วหยุด
o หาพื้นที่ปลอดภัย ไร้อุปสรรค หรืออุปสรรคน้อย
o ไม่ชอบการเรียนรู้ ไม่ตื่นเต้นกับการเติบโต ไม่ปรารถนาความสำเร็จระดับสูง
o ทำงานในระดับพอเพียง ไม่ต้องการเด่นเกินหน้าใคร
คือบุคคลประเภท รู้โครงสร้างองค์กร เป็นนักวางระบบ เจอปัญหาใดจะแก้ปัญหาอย่าไร แต่ขาด วิสัยทัศน์(Vision) ที่จะไปต่อ จึงประสบความสำเร็จได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ยังไม่สูงสุดผู้ไม่ยอมแพ้แก่สรรพสิ่ง
3. ผู้ที่ไม่ยอมแพ้ในสรรพสิ่ง ( climbers ) มีลักษณะ
o มุ่งไปสู่จุดที่ดีขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
o พยายามอย่างไม่ลดละ
o สร้างสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นทั้งตัวเองและส่วนรวม
o มีแรงจูงใจให้ตนเอง และมีวินัยแก่ตนเอง
o สนุกกับการท้าทายใหม่ๆ
ความเข้าใจแนวความคิดด้านเอคิว ( A.Q. )ทำให้เข้าใจถึงวิธีที่บุคคลตอบสนองต่ออุปสรรคหรือสิ่งท้าทายตลอดทุกแง่มุมของชีวิต ด้วยวิธีการค้นหาว่า ตนเอง ณ จุด ใดของงานนั้นๆ จากนั้นจึงวัดและพัฒนางานนั้นให้ดีขึ้นตลอด บันไดในการ กำหนดเป้าหมาย และการไปให้ถึงได้แก่
ขั้นหนึ่ง คือ การจินตนากาสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ( Dream the Dream )
ขั้นสอง คือ แปลงจินตนาการให้เกิดภาพที่ชัดเจน ( Making the Dream the Vision )
ขั้นที่สาม คือ คงสภาพและพยามทำตามจินตนาการนั้นจนบรรลุเป้าหมาย ( Sustaining the Vision)
อย่าลืมว่าหัวใจของเอคิว( AQ. )คือดำเนินต่อไปไม่หยุดยั้ง ไม่ท้อถอย รู้จักที่จะให้กำลังใจตนเองสู้ต่อไป เพิ่มพลังให้ตนเอง เพื่อให้ถึงสิ่งที่ต้องการคือ เป้าหมายที่ชัดเจน
ประโยชน์ของการเรียนรู้เรื่อง AQ.1. ทำให้บุคคลนั้นมีความคล่องตัวอยู่เสมอ สดชื่น กับการได้ฝึกสมองตลอดเวลาทำให้มีความคิดความจำที่ดีอยู่ตลอด2. เป็นคนมองโลกในแง่ดี คิดแต่ในสิ่งที่ดีๆ3. วิธีการตอบสนองต่ออุปสรรค โดยการใช้ เอ.คิว มีความสัมพันธ์ทางตรงกับ สุขภาพกาย และ สุขภาพจิต ผู้ที่มีจิตใจต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อ ทำให้มีภูมิคุ้มกันต่อความเจ็บป่วยดีขึ้นบุคคลผู้ที่มี AQ ดีที่สุด ที่เราควรยกไว้เป็นต้นแบบคือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เพราะฉะนั้นเราเอง บุตรพระพุทธเจ้า ให้ดูพระองค์เป็นแบบอย่าง พระองค์ทรงสั่งสมสร้างบารมี 20 อสงไขยกับแสนมหากัป ไม่ทรงท้อเลย แล้วเราเองต้องอดทน ผู้ที่ประสบความสำเร็จในโลก จะเป็นคนที่คิดในทางบวกจะมองเห็นโอกาสและความหวังเสมอในอุปสรรคนั้นๆ ปัญหาทุกปัญหามีทางออก แก้ไขได้...รับชมวิดีโอรายการวิดีโอที่เกี่ยวข้อง