พบรักที่สนามมวย (รักแรกพบบนเวทีมวย)


[ 26 ม.ค. 2548 ] - [ 18278 ] LINE it!
View this page in: 中文

Case study
พบรักที่สนามมวย
(รักแรกพบบนเวทีมวย)
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ
 
    ลูก เป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ที่ขอสารภาพว่า หลังจากได้ฟัง Case Study เกี่ยวกับเรื่องชกมวย ชนไก่ จึงทำให้ลูกนึกถึงความหลังเมื่อครั้งยังสาว จึงขอส่งเรื่องราว มาขอความเมตตาพระเดชพระคุณหลวงพ่อช่วยฝันในฝันให้ดังนี้ค่ะ
 
    สามีของลูก เป็นลูกชายเศรษฐีที่ดิน สมัยเขาเด็กๆ หลังจากเลิกเรียน ต้องไปดูการชนไก่ที่บ่อนแถวบ้านบ่อยๆ ทั้งๆที่คุณพ่อคุณแม่ ซึ่งเป็นคนเข้าวัด เข้าใจบุญบาป จะคอยห้ามเสมอว่า “มันเป็นสิ่งไม่ดี และการทำอย่างนี้จะทำให้เสียการเรียน” แต่สามีของลูก ก็ยังไปเพราะชอบดู ชอบเชียร์ ด้วยความสนุกเมามัน สะใจแบบเด็กวัยรุ่นทั่วไปที่มีความสนใจเรื่องบางเรื่องที่ตนชอบเป็นพิเศษ
 
    พอโตขึ้นได้สมัครเข้ารับราชการทหาร ซึ่งทหารทุกคนจะต้องฝึกศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวหลายอย่างเช่น ยิงปืน ขี่ม้า และแน่นอนที่สุดคือ ต่อยมวย ดังนั้นในค่ายทหารจึงมีค่ายมวยไว้ซ้อมแข่งขันชก และซ้อมฝีมือไว้เพื่อออกรบ   ดังนั้นทุกวันพุธ เหล่าทหารจากกองพันต่างๆ จะต้องส่งคู่ชกมาท้าประลองหมัด และเชียร์กันอย่างสนั่นหวั่นไหว ซึ่งสามีของลูกก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น
 
    เขาก็เป็นนักมวยสมัครเล่น เคยขึ้นเวทีชกที่งานวัดสมัยหนุ่มๆ   ซึ่งตอนนั้นลูกได้ไปดูเขาชก  รู้สึกว่าเขาเท่มาก เขาคงรู้ว่ามีสาวๆ เชียร์อยู่ จึงร่ายรำท่าไหว้ครูโชว์ลีลาเต็มที่ เขาบอกว่า “การต่อยมวยสนุกกว่าเต้นรำเสียอีก” จากนั้นเขาเข้าชกด้วยท่าแมนมาดมั่นสุดๆ ซึ่งหลังจากลงเวทีนี่เอง ลูกกับเขาก็ได้ไปมาหาสู่กันเรื่อยมา ประมาณ 5 เดือน เขาจึงยกขันหมากมาสู่ขอ ลูกก็ ตกลงทันที และแต่งงานจนมีลูก 5 คน
 
    แม้มีลูกแล้ว เขายังสอนลูกๆทุกคนให้รู้จักการต่อยมวยตั้งแต่อ้อนแต่ออก เขาหานวมให้คนละคู่ มีกระสอบทรายแขวนไว้ที่บ้าน ไว้ให้ฝึกซ้อม  เขามีนวมไว้ให้ลูกทุกคนไม่ว่าชาย หรือหญิง เขาจะสอนลูกๆว่า “อย่าทะเลาะกัน ให้พูดกันดีๆ” ถ้าทะเลาะกันจะส่งนวมให้คนละคู่ ต่อยกันจนรู้แพ้รู้ชนะเป็นเรื่องเป็นราวไปเลย ทุกวันพุธจะยกโขยงลูกไปเชียร์มวยข้างเวที เรียกว่า ออกท่าออกทางเชียร์ตะโกนมวยกันอย่างสุดฤทธิ์ติดขอบสังเวียนกันเลย โดยให้ลูกเดิมพันกันว่า จะเชียร์ฝ่ายไหน ถ้าใครเชียร์ฝ่ายไหน แล้วฝ่ายนั้นเกิดแพ้ คนเชียร์ฝ่ายแพ้นั้น จะต้องมีหน้าที่ไปรดน้ำผักสวนครัวในวันรุ่งขึ้น
 
    ส่วนตัวลูกเอง มีฐานะเป็นภรรยาทหาร มีความเป็นอยู่แบบสังคมเกษตรกรรม ในค่ายทหารจะมีการเลี้ยงม้า แข่งม้า ลูกก็เลยหันมายึดอาชีพผสมพันธุ์ม้าขาย และยังมีม้าของตัวเอง เลี้ยงไว้สำหรับแข่งอีกด้วย ชื่อเจ้าทวีคูณ ซึ่งที่ค่ายทหารจะมีการจัดแข่งม้าทุกวันอาทิตย์ ในแต่ละวันจะต้องให้มันซ้อม เมื่อถึงเวลาแข่ง คนในครอบครัวจะลุ้น จะไปเชียร์กัน แต่หลังจากแข่งแพ้ จึงขายให้คนอื่นไป แต่ลูกยังผสมพันธุ์ม้าขายอยู่อย่างนี้ต่ออีก 5 ปี จนม้าตาย จึงเลิก แล้วหันมาเลี้ยงลูกหมูขาย ต่อมาหมูตาย จึงเปลี่ยนมาทำอาชีพผสมพันธุ์วัว เอาลูกวัวมาขาย ทำจนกระทั่งได้มาดู DMC ลูกจึงหักดิบเลิกอาชีพพวกนี้ทั้งหมด เพราะกลัวบาป และห้ามไม่ให้ลูกๆทุกคนหันมาทำอาชีพพวกนี้อีกเลย จึงได้ส่งเสริมให้ลูกสาวคนที่3 และ 5 ลงทุนเปิดร้านกาแฟ ซึ่งเป็นจังหวะที่พวกเธอได้รับยื่นข้อเสนอจากเจ้าของที่ที่เปิดเป็นร้านกาแฟเดิมว่า จะยกที่ให้เช่าขาย 10ปี ลูกสาวของลูกจึงได้ลงทุนทำร้านใหม่ไป 7 แสนบาท พอเปิดขายวันแรกขายดีมากเป็นเทน้ำ เทท่า จนเจ้าของที่มาทวงขอที่คืน ซึ่งขณะนี้ก็ยังตกลงกันไม่ได้ค่ะ
 
    แม่ของลูก จะเป็นหญิงไทยใจนักเลง ที่สวยมาก ตอนมีชีวิตอยู่ชอบเล่นการพนันพื้นบ้านชนิดหนึ่ง เรียกว่า โบก โดยมีอุปกรณ์การเล่นคือ
 
1) เม็ดมะขาม 2 เม็ด นำมาผ่าซีก ก็จะได้ 4 ซีก
2) กระป๋องแป้งเม็ด บางทีก็ใช้กระบอกไม้ไผ่แทนได้ 
 
    วิธีเล่น จะเอาเม็ดมะขามซีก ใส่ลงไปในกระป๋องแป้งเม็ด จับขึ้นเขย่า แล้วเทคว่ำลง ซึ่งคนเล่นจะมามุงล้อมวงกัน วางเงินและเลือกกันว่าใครจะแทงคู่ หรือแทงคี่  โดยดูจากเม็ดมะขามที่ออกมาว่าคว่ำหรือหงายด้วยจำนวนคู่หรือคี่
 
    ซึ่งเป็นที่น่าแปลกมากๆ แม่ของลูกเล่นขึ้นมาก ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ ได้จนตั้งตัวได้ แม่เล่าให้ฟังว่าโดยเฉพาะตอนตั้งท้องลูก  แม่จะเอามือแตะท้อง แล้วบอกลูกในท้องก่อนวางเงินแทงว่า “ลูกเอ๊ย...แม่ยังไม่มีนาให้ทำเลย” ปรากฏว่าอัศจรรย์มาก แม่แทงถูกได้เงินเป็นจำนวนมาก แม่เลยเอาใหญ่ เล่นโบกเป็นอาชีพ แต่มีเคล็ดลับอยู่ว่า พอแทงทีไรก็ต้องแตะท้องบอกลูกในท้อง บอกประมาณว่า “ลูกเอ๊ย...แม่ยังไม่มีที่อยู่” พอบอกอย่างนี้ แทงทีไรได้ทุกที สรุปแล้ว บ้านและที่ดินที่มีอยู่ตอนนี้ แม่ซื้อได้จากเงินการพนันที่แม่เล่นได้ทั้งหมด
 
    ด้วยเหตุนี้หลังจากลูกคลอดออกมาแม่จึงตั้งชื่อลูกว่า “กระป๋อง” มาจากกระป๋องใส่เงิน นิสัยแม่นักเลงมากจะไม่ยอมให้ใครโกงเลย หากโกง แม่จะกระโดดเอามือโหนกิ่งไม้แล้วถีบมันเลย ขนาดโจรที่คิดจะมาปล้นบ้านท่าน ค่อยๆย่องแอบเข้ามาตอนกลางคืน พอท่านได้ยินเสียงไม่ชอบมาพากล รู้ว่าเป็นโจร ท่านรีบตะโกนทักทายโจรอย่างอาจหาญไม่กลัวว่า “เฮ้ย...กินข้าวกินปลารึยัง” ต้อนรับขับสู้ชวนโจรตั้งวงกินข้าวพูดคุย จนโจรเป็นงงแหยงๆ ทำท่าทางไม่ถูก จนต้องสารภาพภายหลังว่า จะมาปล้นบ้าน แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว วาระสุดท้ายท่านจากไปด้วยวัย 74 ปี
 
    ส่วน คุณพ่อของลูก เสียชีวิตเพราะเป็นมะเร็งที่อัณฑะ  เมื่ออายุ   75 ปี  หลังจากที่คุณแม่ และคุณพ่อตายแล้ว บ้านที่ท่านอยู่ก็กลายเป็นบ้านร้างไม่มีใครอยู่ แต่ชอบมีคนมาทักเสมอๆว่า ที่บ้านมีใครมาอยู่ใหม่หรือเปล่า คนมักจะเห็นผู้หญิงผมยาวสาวสวยมานั่งอยู่หน้าบ้าน คอยกวักมือเรียกคนที่เห็นเข้าไปหา ส่วนบ้านของลูกอีกหลังที่อยู่ติดกัน บางทีมีเสียงกระแอมไอ และลากเก้าอี้ เหมือนมีคนอยู่ในบ้าน ทั้งๆที่พอเปิดประตูเข้าไปก็มองไม่เห็นใครเลย และยิ่งไปกว่านั้นสระน้ำที่อยู่ในบริเวณบ้าน จะไม่มีใครกล้ามาขโมยจับปลาตอนกลางคืน เพราะมีคนเห็นคนสูงขาว ปรากฏขึ้นมาในบริเวณสวนสระน้ำ จนร่ำลือสงสัยกันว่า จะเป็นคุณพ่อ หรือคุณแม่ลูกที่ตายไปแล้วรึเปล่า
 
    ตาของลูก เคยบวชถึง 16 พรรษาเป็นคนใจบุญมาก ชอบทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เดินจงกรม  ไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า ทุกวันพระจะถือศีล 8 และนิมนต์พระมาเทศน์ที่บ้านเป็นประจำ    และจะไปบ่าวประกาศให้ชาวบ้านในหมู่บ้าน มาฟังธรรมที่บ้านเป็นจำนวนมาก และจะมีพานตั้งไว้เพื่อให้ทุกคนได้ทำบุญ คุณตาสร้างวัดวาอาราม สร้างพระ ยกที่ให้ทำสาธารณะประโยชน์มากมาย เช่นสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล สร้างศาลาว่าการอำเภอ แต่สุดท้ายด้วยวัยชรา    คุณตาก็จากพวกเราไปด้วยวัย 85 ปี
 
    ลูกสาวคนที่2ของลูก เกือบตายหลายครั้ง วันแรกที่คลอด สายสะดือที่ผูกไว้หลุดออกมา ทำให้เลือดออกจากสายสะดือจนตัวซีด ซึ่งถ้าไม่มีใครเห็นตอนนั้นก็คงไม่รอด ส่วนครั้งที่ 2 ตอนลูกสาวอายุ 3 ปี วิ่งซนอยู่บริเวณชั้น 2 แต่วิ่งอีท่าไหนไม่ทราบพลัดตกลงมาชั้นล่าง หัวไปเสียบกับปี๊บน้ำมันก๊าด ที่ตัดเป็นปากฉลามไว้ ทำให้มีแผลเป็นกลางกระหม่อมมาจนกระทั่งปัจจุบัน และลูกสาวของลูกยังเป็นคนกินอะไรลำบากตั้งแต่เด็ก เพราะกินเข้าไปแล้วอาหารมักจะลงคอน้อย ทำให้ไอสำลักจนกินอะไรได้ยาก ซึ่งปัจจุบันยังไม่หาย แต่ตอนเด็กๆ มีผลกระทบมาก คือทำให้เธอตัวผอมเหมือนเด็กเป็นตาลขโมย ลูกจึงซื้อยา กุมารอ้วนพี มาให้กิน  แต่ลูกสาวของลูกกลับกินเข้าไปจนหมดขวด ปรากฏว่าตัวแดง อ่อนไปทั้งตัว ลูกจึงใช้วิธีถอนพิษแบบโบราณ เอาเธอไปฝังในดินทรายกลบปิดทั้งตัว เหลือแต่จมูกไว้หายใจ เพื่อให้ดินดูดพิษออก จึงทำให้รอดมาได้ทุกวันนี้ จากนั้นเมื่อเธอโตขึ้นได้ขอมาช่วยงานที่วัด   โดยไปกราบลาพ่อ แม่พี่น้อง ญาติๆทุกคน ญาติๆต่างดีใจให้ศีลให้พรอำนวยอวยชัย ส่งเสริมและเข้าใจเป็นอย่างดี และหลังจากที่ลูกสาวคนนี้มาอยู่วัดแล้ว ก็ได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้กับที่บ้านอย่างต่อเนื่อง 
 
ลูกขอเรียนถามคำถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ค่ะ
 
1.บุพกรรมใดสามีของลูก ต้องมาพัวพันกับเรื่องการชกมวย เชียร์มวย ตีไก่ แข่งม้า  สามีของลูกจะต้องรับวิบากกรรรมเหล่านี้อย่างไรคะ แต่ปัจจุบันสามีได้เลิกหมดแล้ว เหลือแต่เลี้ยงไก่ชนไว้ดูเล่น โดยแยกให้มันอยู่คนละสุ่ม การเลี้ยงไก่ชนไว้ดูเล่นจะบาปหรือเปล่าคะ
 
2.บุพกรรมใดทำให้ลูกต้องมาพบรักที่สนามมวย และการที่ลูกผสมพันธุ์สัตว์แล้วเอาลูกมันมาขาย โดยเฉพาะผสมพันธุ์ม้า  ลูกจะต้องรับวิบากกรรมอย่างไร และมีวิธีแก้ไขอย่างไรคะ
 
3.บุพกรรมใดที่ทำให้ลูกสาวทั้ง 2 คนโดนเอาที่ที่ลงทุนทำร้านกาแฟคืน   ทั้งๆ ที่ก็ทำถูกต้องทุกอย่าง  ครั้นจะฟ้องร้องก็กลัวกฎแห่งกรรม   จะคืนเขาไปก็ไม่ถูกต้อง ควรจะทำอย่างไรดีคะ
 
4.บุพกรรมใดที่แม่ของลูก ตั้งตัวได้จากการพนัน ทำไมไม่รวยทางอื่น  และตอนที่แม่สะกิดบอกลูกขณะลูกอยู่ในท้อง  ลูกรู้สึกอย่างไร   ลูกได้ช่วยให้แม่รวยจริงหรือไม่
 
5.ทำไมแม่ถึงใจนักเลง ไม่กลัวขโมยที่ขึ้นบ้าน และโจรก็ไม่กล้าปล้นบ้าน   แม่และพ่อของลูกตายแล้วไปอยู่ที่ไหน ได้รับบุญที่อุทิศไหม มีอะไรอยากฝากบอกบ้างคะ
 
6.บ้านทั้ง 2 หลัง รวมทั้งสระน้ำ มีอะไรสิงอยู่จริงหรือไม่คะ
 
7.คุณตาคุณยายของลูก   พ่อแม่ของสามีตายแล้วไปอยู่ที่ไหน ได้รับบุญที่อุทิศไหมคะ
 
8.บุพกรรมใดทำให้สายสะดือลูกสาวหลุด ตกบ้านจนหัวไปเสียบกับปี๊บน้ำมันก๊าด ทำไมถึงแพ้ยาจนตัวแดงต้องนำไปฝัง และไอสำลักจนกินข้าวไม่ค่อยได้มาจนกระทั่งปัจจุบัน และต้องแก้ไขวิบากกรรมนี้อย่างไรคะ ทำไมการเข้าวัดของลูกสาวคนที่ 2 จึงสะดวกโยธินแบบมากๆ นอกจากญาติๆเห็นด้วยแล้วยังอวยพรให้โอวาทอีกด้วย    ลูกสาวได้สร้างบารมีกับหมู่คณะมาในรูปแบบใด เคยเข้าถึงธรรมกายไหมคะ มีหน้าที่อะไร
 
9.ลูกสาวมีเพื่อนสนิทอีก 2 คนที่สร้างบารมีด้วยกันมา เขาทั้ง 3 ทำหน้าที่คล้ายๆกัน เขาสร้างเหตุด้วยกันมาอย่างไรคะ จึงได้มาทำงานร่วมกันเป็นสิบปีแล้ว หัวหน้าชั้นเคยสร้างบารมีร่วมกันมากับลูกสาวคนที่ 2 และเพื่อนสนิท 2 คนนี้อย่างไรคะ ตั้งแต่อยู่แก้วภูธรจนปัจจุบัน 10 กว่าปีแล้วก็ยังมาทำงานร่วมกันอยู่ในทีมเดียวกันอีกค่ะ
 
10.ลูกและครอบครัวเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาไหมคะ
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ
 
1.สามีลูกในอดีตคบคนพาล จึงมีเชื้อชอบสิ่งเหล่านี้ คือ ชกมวย ตีไก่ แข่งม้า เชียร์มวย และสิ่งแวดล้อมก็เป็นอย่างนี้ด้วย
 
 
  • วิบากกรรมจะทำให้ไปอยู่ในวงจรนี้อีก และจะทำให้เจ็บไข้ได้ป่วย เช่นแข่งม้าจะเป็นโรคหอบหืด ตีไก่จะทำให้มีโรคภัย และประสบอุบัติเหตุให้เจ็บป่วย
 
 
  • เชียร์มวยจะทำให้เราอนุโมทนาบาปเป็นเหตุให้ถูกชกต่อยทำร้ายด้วยเหตุต่างๆ ชกมวยจะทำให้ไปอยู่ในหมู่ของผู้ที่ชอบใช้กำลังหรือหมู่นักเลง ซึ่งเสี่ยงต่อการก่อเวรยิ่งๆขึ้นไป
 
 
  • แม้ปัจจุบันจะเลิกเล่นชนไก่แต่ยังเลี้ยงไก่ชนไว้ดูเล่น จะทำให้มีเชื้อผูกพัน และทำให้ภาพในอดีตที่เคยชนไก่มาฉายให้เห็นเป็นกรรมนิมิตก่อนตาย จะทำให้ใจเศร้าหมองต้องไปเกิดเป็นไก่ชน ทางที่ดีปล่อยมันไป อย่าไปเลี้ยงเลย
 
 
2.ลูกและสามีเคยเป็นสามีภรรยากันในอดีตจึงปิ๊งกันทันทีที่เจอ
 
 
  • การผสมพันธุ์สัตว์ขายโดยเฉพาะพันธุ์ม้านั้น เป็นการพรากแม่ลูกกัน จะทำให้เรามีเหตุไม่ได้อยู่กับพ่อแม่หรือห่างครอบครัวตั้งแต่เด็ก ต้องอยู่ในวงจรการพนันม้า และวงจรของคนพาลที่ชอบการแข่งม้า
 
 
  • จะแก้ไขต้องทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาให้มากๆ แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้สัตว์เหล่านั้นบ่อยๆ หนักจะเป็นเบา เบาจะหาย
 
 
3.ลูกสาว 2 คนถูกเจ้าของที่เอาร้านกาแฟคืนทั้งๆที่ทำถูกต้องทุกอย่าง และลงทุนไปแล้ว 7 แสน เพราะบุพกรรมเวลาโกรธชอบทวงของคืน
 
 
  • ลูกทำตามกติกาสังคมกับคนพาล ไม่ได้เป็นการผิดหลักธรรมอะไร แต่ตอนนี้ให้แผ่เมตตาและพูดดีๆกับเขาไปก่อน ให้ใช้การเจรจาที่ประกอบไปด้วยปัญญา
 
 
4.แม่เคยทำทานในอดีตแล้วอธิษฐานว่า “ขอให้มือขึ้นในเวลาเล่นการพนัน ใครๆก็สู้ไม่ได้” คือหวังรวยทางลัด กับกึ่งบนบานว่า ถ้าถูกจะเอาเงินไปทำบุญ ดังนั้นชาตินี้จึงทำให้ตั้งตัวได้เพราะการพนัน
 
 
  • ตัวลูกเองก็มีเชื้อเหมือนแม่ของลูก จึงทำให้ต้องมาอยู่ในวงจรการพนัน เช่น พนันมวย พนันม้า เป็นต้น
  • ตอนแม่สะกิดลูกตอนอยู่ในท้อง ลูกไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่รู้เรื่องอะไรเลย และไม่ได้ช่วยให้แม่รวย แต่มีส่วนเสริมนิดหน่อย
 
 
5.แม่ใจนักเลงไม่กลัวโจรปล้นบ้านและโจรก็ไม่ปล้นบ้าน เพราะในอดีตตอนแม่เป็นผู้ชายมีนิสัยนักเลง และเป็นเซียนพนันต่างๆ นิสัยนี้ติดตัวมาเลยไม่กลัวโจร อีกทั้งไม่มีวิบากกรรมทางนี้ โจรแม้มาบ้านแล้วก็ไม่มีอารมณ์ปล้น
 
 
  • แม่ตายแล้วเป็นภุมมเทวาอยู่ที่บ้าน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้ทำให้มีสภาพดีขึ้น
  • พ่อตายแล้วเป็นภุมมเทวาอยู่ที่บ้าน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้ทำให้มีสภาพดีขึ้น
 
6.บ้าน 2 หลังมีกายละเอียดของพ่อแม่ซึ่งเป็นภุมมเทวาวนเวียนอยู่แถวนั้น ท่านมีอารมณ์สนุกอยากทักทายผู้คนแถวนั้น จึงมานั่งให้เห็นและทำเสียงให้ได้ยิน
 
 
7.คุณตาตายแล้วเป็นเทพบุตรสุดหล่อ ไปอยู่ชั้นนิมมานรดี
  • ส่วนคุณยายเป็นเทพธิดาเกิดในวิมานร่วมกันกับคุณตา เป็นภรรยาเหมือนตอนเป็นมนุษย์ เพราะทำบุญร่วมกันแล้วอธิษฐานจิตขอให้ไปเป็นสามีภรรยากันบนสวรรค์อีก
 
 
  • พ่อสามีกับแม่สามีเป็นเทพบุตรเทพธิดาอยู่ร่วมกันในวิมานทองเดียวกันของชั้นดาวดึงส์ เพราะทำบุญร่วมกันแล้วอธิษฐานขอให้ได้อยู่ร่วมกันบนสวรรค์
  • ทุกท่านได้รับบุญที่อุทิศไปให้หมด จึงมีทิพยสมบัติเพิ่มขึ้นจากเดิม
 
 
 
8.ลูกสาวคนที่ 2 เคยเป็นทหารนักรบของพระราชาองค์ที่ออกบวชเมื่อพุทธันดรที่แล้ว มีนิสัยเจ้าชู้ แต่ภายหลังก็ออกบวชตามพระราชาจนหมดอายุขัย
 
 
  • เป็นพระชอบเทศน์ ชอบชวนคนทำความดี ไม่ค่อยชอบนั่งธรรมะ แต่ได้ดวงสว่างพอประคองตัวรอดไปดุสิตบุรีได้
 
 
  • แต่ยังไม่พ้นกรรมเจ้าชู้ ด้วยบุญที่เป็นกัลยาณมิตรให้กับญาติโยมจึงทำให้เข้าวัดมาสร้างบารมีกับหมู่คณะได้สะดวกแถมได้รับคำอวยพรจากหมู่ญาติและทุกคนที่บ้าน
 
 
  • เศษกรรมปาณาติบาตเคยบีบคอข้าศึก และทรมานข้าศึกด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ทุบซ้อม บีบคอเค้นข่าว ทำให้ชาตินี้ทานข้าวไม่ค่อยได้ต้องไอแค๊กๆเหมือนถูกบีบอยู่
 
 
  • เคยเอาข้าศึกไปฝังโผล่แต่หัวเพื่อทรมาน จึงต้องมาถูกฝังทราย เพราะบุญที่เคยบวชอุ้มเอาไว้ จึงทำให้รอดปลอดภัยมาได้ทุกครั้ง
 
 
  • จะแก้ไขให้นั่งสมาธิเยอะๆ ให้เข้าถึงพระธรรมกาย อย่ามัวแต่พูดขี้โม้ แล้วสร้างบุญทุกบุญให้เต็มที่ จะพ้นกรรมเหล่านี้ได้ ชาตินี้จึงเป็นชาติสุดท้ายสำหรับวิบากกรรมดังกล่าวให้อดทนเอา
 
 
  • วจีกรรมจึงทำให้หน้าของลูกสาวคนที่ 2 เป็นฝ้า คือในอดีตตอนเป็นทหารมักชอบพูดให้เขาเสียหน้า ขัดคอ คัดค้านในที่ประชุม ทำให้บุคคลที่เสนอความเห็นรู้สึกเสียหน้า
 
 
  • ให้พูดแต่ปิยวาจา อย่าให้คำพูดเราไปกระทบใคร และหมั่นรับบุญทำความสะอาด สืบสานวัฒนธรรมคุณยายอาจารย์ หนักจะเป็นเบา
 
 
9.ลูกสาวคนที่ 2 กับเพื่อนสนิทอีก 2 คน รวมทั้งหัวหน้าชั้น เมื่อพุทธันดรที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นทหารนักรบของพระราชาองค์ที่ออกบวช ได้รู้จักคุ้นเคยกันมา จนกระทั่งมาบวชก็ยิ่งคุ้นเคยยิ่งขึ้น ทั้ง 4 คนได้มาเป็นนักเทศน์ ชวนคนทำความดี 
 
 
  • แต่ 1 ใน 4 นั้นเป็นทหารมหาดเล็กของพระราชาองค์ที่ออกบวช คอยรับใช้ต่างๆ ไม่ค่อยได้ออกไปทำการรบและบวชช้ากว่าเพื่อน เพราะมัวแต่เจ้าชู้ปากหวาน สาวๆติดกันตรึม กว่าจะละบังอรมาห่มจีวรได้ก็ใช้เวลานาน แต่ก็บวชตลอดชีวิต
 
 
10.ลูกและครอบครัวเคยสร้างบารมีแบบกองเสบียงกับหมู่คณะมา บางคนสร้างบารมีตามอารมณ์ ไม่ต่อเนื่องนัก ดังนั้นชาตินี้ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่อย่าให้ขาดเลยสักบุญ แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษอย่าได้พลัดกันเลย
 



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม