ข่าวน้ำท่วมคลองหลวง คลองระพีพัฒน์

น้ำท่วมคลองหลวง

สถานการณ์น้ำท่วมคลองหลวง

น้ำท่วมคลองหลวง คลองระพีพัฒน์

เส้นทางการผันน้ำป้องกรุง

สถานการณ์น้ำท่วมที่คลองระพีพัฒน์

ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก กำลังเผชิญกับน้ำที่ไหลเข้าท่วมบ้านเรือน หลังจากลำคลองในละแวกนี้มีระดับน้ำสูงขึ้น เนื่องจากถูกใช้เป็นทางระบายน้ำลงสู่ทะเล โดยเฉพาะ "คลองระพีพัฒน์" หนึ่งในช่องทางระบายน้ำสำคัญ ที่จะช่วยผันน้ำจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้ไหลออกสู่ทะเลได้เร็วขึ้น

โดยเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ได้ตัดสินใจทดลองผันน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มาลงยังคลองระพีพัฒน์ ในช่วงจังหวัดปทุมธานี เพื่อผันน้ำให้ไหลลงคลองต่าง ๆ และลงสู่ทะเลต่อไป ซึ่งก็ช่วยให้การระบายน้ำจากลุ่มภาคกลางตอนล่างเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น แต่การผันน้ำลงคลองระพีพัฒน์นี้ ก็ได้ส่งผลให้บ้านเรือนในจังหวัดปทุมธานี รวมทั้งชุมชนริมคลองรังสิต และพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

สำหรับคลองระพีพัฒน์นั้น สายใหญ่มีความยาว 32 กิโลเมตร เริ่มต้นจากประตูระบายน้ำพระนารายณ์ ที่ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนจะไหลลงมาที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี และแยกออกเป็นสองสาย คือ คลองระพีพัฒน์แยกใต้ ระบายน้ำผ่านทางประตูน้ำพระศรีเสาวภาค ออกไปยังอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ความยาว 28.7 กิโลเมตร ส่วนอีกสายคือ คลองระพีพัฒน์แยกตะวันตก ระบายน้ำผ่านทางประตูน้ำพระศรีศิลป์ และไปสิ้นสุดที่ประตูน้ำพระอินทร์ราชา จังหวัดปทุมธานี ความยาว 36.6 กิโลเมตร โดยสามารถรองรับน้ำจากที่ไหลมาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้เต็มที่ 210 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งขณะนี้กำลังใกล้เต็มพื้นที่รับน้ำแล้ว แต่ทว่า...ยังคงมีน้ำเหนือที่จะไหลลงมายังคลองระพีพัฒน์อีกเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ สถานการณ์ปัจจุบัน การระบายน้ำในคลองระพีพัฒน์ที่มาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์นั้น ยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่นัก แต่ที่น่าห่วงก็คือ มวลน้ำก้อนใหญ่ที่ไหลมาจากนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพราะทำให้ปริมาณน้ำในคลองระพีพัฒน์สูงขึ้นมาก จนระบายไม่ทัน และส่งผลให้ประชาชนที่อยู่ตามเส้นทางที่คลองระพีพัฒน์ไหลผ่านได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะพื้นที่ทางการเกษตรในละแวกใกล้เคียงตั้งแต่คลอง 13 และรอบ ๆ บริเวณจังหวัดปทุมธานี

ด้วยเหตุนี้ กรมชลประทานจึงต้องเร่งระบายน้ำจากคลองระพีพัฒน์ฝั่งตะวันตก เข้าสู่คลองรังสิต 1-6 เพื่อให้คลองระพีพัฒน์สามารถรองรับน้ำที่จะไหลบ่ามาเพิ่มเติมได้ แต่นั่นก็จะทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่คลองรังสิต 1-6 ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นคลองเช่นกัน โดยกรมชลประทานคาดว่าระดับน้ำอาจสูงกว่าถนนไม่เกิน 1 เมตร ส่วนพื้นที่ตั้งแต่คลอง 7 เป็นต้นไปเป็นทุ่งนาความเดือดร้อนจะไม่มากเท่าช่วงคลองรังสิต 1-6 พร้อมกับยืนยันว่า น้ำจะไม่ไหลทะลักเข้าเขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร

เช่นนั้นแล้ว ในช่วงนี้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในช่วงคลองรังสิต 1-6 รวมทั้งเส้นทางที่อยู่ใกล้คลองระพีพัฒน์ จึงต้องเผชิญกับน้ำท่วม และคงต้องอดทนกับสถานการณ์เช่นนี้อีกพักหนึ่ง กว่าที่น้ำก้อนมหาศาลจะไหลลงทะเลได้ทั้งหมด ดังนั้น ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เผื่อว่าเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินระดับน้ำเพิ่มขึ้นสูง จะได้เตรียมการป้องกัน หรือร้ายที่สุดคือ จะได้สามารถอพยพออกมาได้ทัน

สถานการณ์คลองระพีพัฒน์ช่วงคลองสี่แตกเมื่อ 18 ตุลาคม 2554 และกู้ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภาพถ่ายทางอากาศของคลองระพีพัฒน์วันที่ 23 ตุลาคม 2554

คั้นกันน้ำคลองระพีพัฒน์

เสริมคันกั้นคลองระพีพัฒน์เพื่อปกป้องกรุง

คันดินคลองระพีพัฒน์แตกคลอง 7-9 เทคโนฯ ธัญบุรีเร่งอพยพคนพ้นศูนย์พักพิงหนีน้ำท่วม 24/10/54 15:00 น.

ที่ศูนย์พักพิงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี(มทร.)ธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้เร่งอพยพย้ายผู้ประสบภัยจำนวน 1,500คนออกจากศูนย์พักพิง ไปยังศูนย์พักพิงที่สนามกีฬาจังหวัดลพบุรี เนื่องจากน้ำจากคันดินคลองระพีพัฒน์ที่แตกพังทลายลงน้ำได้ไหล่บ่าเข้าท่วมในพื้นที่แล้ว

นายธีระวัฒน์ หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า น้ำจากคันดินคลองระพีพัฒน์ที่แตกพังทลายลงได้ทะลักเข้าท่วมพื้นที่อำเภอธัญบุรี ตั้งแต่คลอง 7-9 ในพื้นที่ 48 ชุมชน หมู่บ้านจัดสรร ร่วม 70 กว่าโครงการ ทำให้เทศบาลตำบลธัญบุรีท่วมหมด ระดับน้ำท่วมสูงอยู่ที่ 1เมตร บางจุดกว่า 1.50 เมตร เจ้าหน้าที่เทศบาลได้เร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวตามโรงเรียนต่างๆ ในเขตพื้นที่

"อยากจะให้ทางรัฐบาลเร่งเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านเหล่านี้โดยด่วน ด้วยการจัดหาศูนย์ผู้อพยพแห่งใหม่ไว้รองรับผู้อพยพในเขตพื้นที่อำเภอธัญบุรี ที่มีราว 6,000 คน พร้อมจัดหาอาหารน้ำดื่มมาบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น" นายธีระวัฒน์ กล่าว

มูลนิธิธรรมกาย วัดพระธรรมกายและชาวบ้านอ.คลองหลวงช่วยกันเสริมคันกั้นน้ำคลองระพีพัฒน์ช่วงคลองแอล 3,4

ศปภ.แถลงเตือน หลักสี่ ดอนเมือง ย้ายของขึ้นที่สูง 21/10/54

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย แถลงการณ์ ศปภ.ฉบับที่ 7 โดยระบุว่า

เนื่องจากมวลน้ำในคลองระพีพัฒน์มีปริมาณมาก และกำลังเคลื่อนที่เข้าสู่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จึงขอประกาศให้ประชาชนในเขตดอนเมือง และหลักสี่ รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียง เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติดังต่อไปนี้

1.ย้ายของมีค่าและปลั๊กไฟขึ้นที่สูง 1 เมตรขึ้นไป
2.เตรียมอุปกรณ์ส่องสว่างในเวลากลางคืน
3.ถ้ามีความประสงค์จะเคลื่อนย้ายรถยนต์ส่วนตัวไปไว้ที่อื่น ขอให้นำไปจอดที่ลานจอดรถสนามบินสุวรรณภูมิ

โดยในส่วนของการจัดหาสถานที่จอดรถนั้น นายวิม รุ่งวัฒนะจินดา โฆษก ศปภ. กล่าวว่า ขณะนี้ทาง ศปภ.ได้ประสานไปยังหน่วยราชการ และเอกชน เพื่อหาสถานที่จอดรถให้กับประชาชน แทนการนำไปจอดบนสะพานข้ามแยก และทางด่วน โดยสถานที่จอด จะมีทั้งโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิ สามารถจอดได้ 3,000 คัน บางนา-ตราด จอดได้ 2,500 คัน ถนนสายสี่ จอดได้ 600 คัน โรงเรียนนายเรืออากาศ และโรงเรียนนายเรือ จุดละ 2,000 คัน รวมทั้งหมดแล้วประชาชนน่าจะจอดรถได้ 7,000 คัน ทั้งนี้ ยังมีการประสานให้รถ บขส.และ ขสมก.มารับส่งจากจุดจอดรถเพื่อเข้ามาเขตเมือง สอบถามได้ที่โทร 1111 กด 5

มวลน้ำนวนครเข้ารังสิต วันนี้ 20 ตุลา

มวลน้ำจากนวนครจะเข้าสรังสิตวันนี้

ผู้ว่าฯกทม.เผยมวลน้ำจากนวนคร-น้ำทะลักคลองระพีพัฒน์ไหลลงคลองรังสิต 20 ต.ค.นี้ ถึงคลอง 2 - คลองหกวา 21 ต.ค. เร่งเสริมคันกั้นคลองหกวาสูงเป็น 3.5เมตร

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ขณะนี้มวลน้ำที่จะเคลื่อนมาจากทางภาคเหนือ อาจมาถึงเร็วก่อนกำหนดที่คาดการณ์ไว้ โดยน้ำจากย่านนิคมอุตสาหกรรมนวนคร และน้ำที่ทะลักจากแนวกั้นคลองระพีพัฒน์ จะเคลื่อนเข้ามาที่ คลองรังสิตประยูรศักดิ์ในคืนวันที่ 20 ต.ค.นี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคลอง2 และคลองหกวาในวันที่21ต.ค.นี้

ทั้งนี้กทม.ต้องเร่งระดมกำลังทหารจากกองทัพภาคที่1 และประชาชนที่มีจิตอาสาเข้ามาช่วยจำนวนมาก เพื่อบรรจุกระสอบนำไปเสริมแนวคันกั้นน้ำให้มความสูงจาก 3 เมตรเป็น 3.5 เมตรกว้าง3กระสอบ ยาว6กม. ให้เสร็จทันวันที่20ต.ค.นี้ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิม1วัน

นอกจากนี้ ได้ให้สำนักงานเขตสายไหม แจ้งต่อประชาชนในพื้นที่200 ครัวเรือนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำเรียบคลองหกวา และ 1,200 ครัวเรือน ที่อยู่ริมน้ำคลอง2 ให้เตรียมเคลื่อนย้ายไปศูนย์อพยพในเขตสายไหมทั้ง 12 แห่ง ขอย้ำว่ายังไม่เป็นการอพยพ

ทั้งนี้ศูนย์อพยพที่จัดเตรียมไว้ ประกอบด้วย 1.รร.สายไหม 2.รร.วัดเกาะสุวรรณาราม 3.รร.วัดราษฎร์นิยมธรรม 4.รร.วัดออเงิน 5.รร.ประชานุกูล 6.รร.ซอยแอนเนกซ์ 7.ร.ร.พรพระร่วงประสิทธิ์ 8.ร.ร.วัดหนองใหญ่ 9.รร.ฤทธิยะวรรณาลัย ประถม 10.รร.ฤทธิยะวรรณาลัย มัธยม 11.รร.ฤทธิยะวรรณาลัย2 12. โรงยิม มหาวิทยาลัยนอร์ท

"ขอให้รัฐบาลดูแลพื้นที่หลักหก พื้นที่การปะปานครหลวงติกคลองรังสิต และถนนพหลโยธินตัดคลองรังสิต เพราะอยู่นอกเขตของกทม. เพราะเราไม่มีกำลังคนมากพอจะไปดูได้ แต่เป็นพื้นที่ที่ยุทธศาสตร์ของกทม.ทั้งสิ้น ผมไม่ขออะไรมากขอแค่ให้ทุกหน่วยงานทำหน้าที่ของตนเท่านั้น "ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวแนะสร้างพนังยักษ์รับมือน้ำคลองระพีพัฒน์

นายชูชาติ ศุภวรรธนางกูล หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ กล่าวว่า เห็นว่าถึงเวลาที่คนกทม.และคนปทุมธานีต้องร่วมมือกัน มาสร้างคันกั้นน้ำที่มีความสูงและหนาสำหรับรับแรงดันน้ำทั้งหมด จากปริมาณน้ำที่บ่ามา ซึ่งรัฐบาลต้องเลือกว่าจะใช้เส้นคลองรังสิตหรือคลองหกวา เป็นแนวต้านน้ำ ซึ่งจะเป็นหนทางที่จะทำให้กทม.ชั้นในอาจจะรอด เพราะคันกั้นน้ำที่กทม.ทำไว้ในขณะนี้จากสภาพไม่น่าจะสามารถรับมือกับปริมาณน้ำที่กำลังจะมาได้

สำหรับสาเหตุของน้ำจำนวนมากที่ไหลบ่ามานั้นมาจากการที่ไม่สามารถเข้าไปทำคันกั้นน้ำที่ คลองข้าวเม่า คลองสาคู และคลองน้ำส้มได้ เพื่อควบคุมและชะลอน้ำให้กลับไปแม่น้ำป่าสัก เพื่อเข้าระบบออกแม่น้ำเจ้าพระยาได้ เนื่องจากประชาชนไม่ยินยอม ทำให้ปริมาณน้ำจากทุ่งต่างๆในทุ่งเจ้าพระยาตะวันออก ไหลบ่าเข้ามายังคลองระพีพัฒน์ในขณะนี้ปริมาณมาก จนล้นคลองลงมา ประกอบกับการเปิดประตูน้ำคลองรังสิตทั้ง 10 คลองทำให้ปริมาณน้ำบ่ามายังคลองรังสิต แต่ศักยภาพของเครื่องสูบน้ำที่ระบายน้ำออกประตูบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ไม่เท่ากันกับปริมาณน้ำที่บ่าเข้ามา ทำให้คลองรังสิตขณะนี้เริ่มวิกฤตแล้ว

ประชาชนหนีน้ำที่นวนคร

ศปภ.เตือน 5 จว.เก็บของหนีน้ำ - สั่งห้ามกลับเข้านวนคร

วานนี้ (19 ต.ค.) เวลาประมาณ 21.00 น. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) แถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ ความว่า

ประกาศศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ฉบับที่ 4 / 2554 เรื่องขอให้ประชาชนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ด้วยปรากฎว่าได้มีน้ำจำนวนมากได้ไหลผ่านทำนบชั่วคราวตามพนังกั้นน้ำคลองระพี พัฒน์แยกตก ได้ค่อยๆไหลท่วมทุ่งรังสิต ตั้งแต่คลอง 1 – 13 อย่างต่อเนื่อง จะมีผลทำให้น้ำในพื้นที่บริเวณโดยรอบและต่อเนื่องมีน้ำเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ตังแต่ 20 ต.ค. เป็นต้นไป มีความจำเป็นที่พี่น้องประชาชนต้องเตรียมการรับมือสถานการณ์ดังกล่าวโดยเร่งด่วน

ขอให้พี่น้องประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ลุ่มต่ำ และที่น้ำท่วมขังซ้ำซากของจังหวัดต่างๆ ดังต่อไปนี้

1.จังหวัดปทุมธานี ประกอบด้วย อำเภอเมืองปทุมธานี อำเภอคลองหลวง อำเภอหนองเสือ อำเภอสามโคก และอำเภอลาดหลุมแก้ว ซึ่งจะมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 0.50 เซนติเมตร – 1 เมตร

2. จังหวัดนครปฐม ประกอบด้วย อำเภอเมืองนครปฐม อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน อำเภอดอนตูม อำเภอกำแพงแสน และอำเภอพุทธมณฑล ซึ่งจะมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 30 – 50 ซม.

3.จังหวัดสมุทรสาคร ประกอบด้วย อำเภอเมืองสมุทรสาคร อำเภอบ้านแพร้ว อำเภอกระทุ่มแบน ซึ่งจะมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 30 – 50 เซนติเมตร

4.จังหวัดนนทบุรี ประกอบด้วย อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอบางใหญ่ อำเภอปากเก็ด อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางกรวย อำเภอไทรน้อย ซึ่งจะมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 50 เซนติเมตร – 1 เมตร

5.กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย เขตคลองสามวา เขตหนองจอก เขตมีนบุรี เขตคันนายาว เขตลาดกระบัง จะมีระดับน้ำคงที่อยู่ที่ประมาณ 1 – 1.20 เมตร หรือเพิ่มสูงขึ้นอีกเล็กน้อยสำหรับเขตที่ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ได้แก่เขตสายไหม และ เขตบางเขน

จึงขอให้พี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ตามประกาศข้างต้น ย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูง ให้เกินกว่าระดับน้ำ ที่อาจเพิ่มสูงขึ้นดังกล่าว และเฝ้าติดตามประกาศของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องอพยพประชาชนในพื้นที่ใดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

หลังจากนั้นศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ได้ออกประกาศเตือนฉบับที่ 5 / 2554 เรื่อง ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน และเจ้าของกิจการห้ามกลับเข้าไปในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร เนื่องจากขณะนี้ในพื้นที่มีระดับน้ำท่วมสูง 3 เมตร ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจึงขอให้ปฎบัติตามดังนี้

1.ให้ประชาชน และเจ้าของกิจการคำนึงถึงความปลอดภัยไม่กลับเขาไปในพื้นที่ จนกว่าศปภ.จะเห็นว่าสถานการณ์ระดับน้ำกลับสู่สภาวะปกติ

2.อย่าห่วงทรัพย์สินคำนึงความปลอดภัยเป็นที่ตั้ง ศปภ.จะจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล

3.หากมีความจำเป็นต้องเข้าพื้นที่ต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ก่อน เพื่อไม่ให้เป็นภาระการรักษาความปลอดภัย

4.ขอความร่วมมือปฎบัติตามประกาศดังกล่าว อย่างเคร่งครัด

ภาพเหตุการณ์คันกั้นน้ำคลองระพีพัฒน์แตก

กู้เรียบร้อยด้วยความร่วมมือจากชาวบ้านและวัดพระธรรมกาย

ผันน้ำจากประตูน้ำพระอินทร์ เข้าคลองระพีพัฒน์ ระบายน้ำที่ท่วมขัง 18/10/54

ชาวบ้านริมคลองหนึ่ง และคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ที่อาศัยอยู่ตลอดเส้นทางเลียบคลอง ได้ถูกน้ำในคลองระพีพัฒน์ เอ่อท่วมข้ามจากอำเภอคลองหลวงไปยังอำเภอธัญบุรี ระดับน้ำท่วมสูงจนล้นเข้าบ้านเรือนประชาชน สูง 80 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร 20 เซนติเมตร ชุมชนเทพกุญชร 10 ตำบลคลองหนึ่ง ต้องร้องขอความช่วยเหลือ ให้อพยพออกจากพื้นที่ เพราะน้ำท่วมสูงถึงระดับอก แล้ว ทั้งนี้น้ำที่สูงขึ้นมาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่รับน้ำจากโรจนะ และวังน้อย

ตลาดไท จังหวัดปทุมธานี น้ำได้เอ่อท่วมโซนด้านหลัง บริเวณลานไม้ดอกไม้ประดับ รวมไปถึงอู่รถประจำทางสายต่างๆ ภายในตลาดไท และท่วมบริเวณถนนเลียบคลองแอน ก่อนถึงตลาดไท ที่ติดกับริมคลองหนึ่ง ตำบลคลองหลวง ด้านประตูน้ำพระอินราชา ทางตลาดไท ได้ทำคันดิน และกระสอบทรายกั้นน้ำไม่ให้ทะลักเข้าในพื้นที่ แล้ว

ส่วนน้ำจากคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ได้ไหลจากประตูน้ำพระอินราชา รวมกับน้ำคลองเชียงราก ลงสู่คลองระพีพัฒน์ ซึ่งชลประทาน ได้ผันน้ำผ่านอำเภอคลองหลวง ไปยังอำเภอหนองเสือ ที่ประตูระบายน้ำคลอง 10 ก่อนผันน้ำไปที่ประตูระบายน้ำพระธรรมราชา คลอง 13 และไหลลงสู่คลองหกวา ตอนล่าง ก่อนไหลไปสู่คลองด่าน ออกทะเลที่จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งทำให้น้ำเอ่อเข้าท่วมในพื้นที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งคลองหลวง อำเภอธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี บางพื้นที่

น้ำท่วมตลาดไท

นท.สภ.คลองหลวง เผยถนนคลองแอน ด้านหลังตลาดไท น้ำท่วมหนักต้องปิดการจราจร ขณะที่น้ำบางส่วนไหลเข้าตลาดแต่ยังไม่มาก

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้น้ำทะลักเข้าท่วมถนนริมคลองแอน ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าตลาดไท ทางด้านหลังหมดแล้ว โดยได้ปิดการจราจรเนื่องจากรถทุกชนิดไม่สามารถวิ่งได้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาาม ทางด้านเจ้าหน้าที่ได้กันกระแสน้ำไม่ให้เอ่อเข้าท่วมตลาดไท

ขณะที่ พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า ถนนคลองแอน ที่อยู่ด้านหลังของตลาดไท ยังคงใช้การไม่ได้ เพราะน้ำท่วมสูง ไม่สามารถผ่านได้ ส่วนในพื้นที่ตลาดมีบางส่วนถูกท่วม แต่ไม่มากและเร่งสูบน้ำออกแล้ว โดยประชาชนสามารถสัญจรผ่านได้ทางด้านหน้าถนนพหลโยธิน ซึ่งยังไม่มีน้ำเอ่อท่วม ส่วนที่นิคมอุตสาหกรรมนวนครนั้น ทราบว่าทางทหารตรึงกำลังเต็มที่ เพื่อดูแลรักษาคันกั้นน้ำ โดยล่าสุดยังปลอดภัย

ชาวบ้านและมูลนิธิธรรมกายช่วยกันเสริมแนวคันกั้นน้ำคลองระพีพัฒน์

น้ำท่วมคลองหลวง

ชาวคลองหลวงผวาอีก 5 วัน น้ำท่วมถึงคอ เขื่อนริมคลองรพีพัฒน์เริ่มรั่ว อปท.วอนหน่วยงานรัฐช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่น้ำได้เอ่อล้นประตูน้ำพระอินทร์ราชา ทำให้ระดับน้ำในคลองระพีพัฒน์สูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนมีบางจุดล้นแนวป้องกันออกมา ทางประชาชนและ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)ในพื้นที่อำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานีและอาสาสมัครจากวัดธรรมกาย รวมทั้งสิ้นกว่า 3 พันคน ได้เร่งเข้าซ่อมแซมแนวกระสอบทรายกั้นอย่างเร่่่งด่วน โดยมีจุดรั่วเกินกว่าสิบจุดจากระยะทางร่วม 6 กิโลเมตร เลียบคลองรพีพัฒน์ หมู่ 16 ต.คลองสอง ถึง ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมีการประกาศตามหมู่บ้านต่างๆให้ชาวบ้านออกมาช่วยเพราะคันกันน้ำกำลังจะแตกแล้ว ขณะที่มีข่าวนิคมอุตสาหกรรมนวนครมีน้ำทะลักไหลเข้าทำให้ประชาชนเสียขวัญและตื่นตระหนกไปตามๆกัน แต่ก็ยังช่วยกันอย่างเต็มที่

ด้านนาย นิพนธ์ แก้วธรรม อดีตรองนายกอบต.คลองสาม กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำถือว่าอยู่ในระดับวิกฤตน่ากลัวมาก เพราะเขื่อนแห่งนี้มีความยาวกว่า 6 กิโลเกมตร ดูแลอำเภอคลองหลวงไม่ให้ท่วมทั้งอำเภอ ถือว่าเป็นจุดที่สำคัญแต่ไม่มีหน่วยราชการอื่นหรือทหารเข้ามาช่วยเหลือเลยมีแต่องค์การปกครองท้องถิ่นประชาชนและอาสาสมัครจากวัดธรรมกายเท่านั้น ต้องทำกันไปแบบความรู้แบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ตรงไหนรั่วเราก็อุดซึ่งปัจจุบันมีรอยรั่วเกิดขึ้นเรื่อยๆนับสิบจุดแล้ว ไม่รู้ว่าจะพังลงมาเมื่อไหร่ ขณะนี้จำเป็นต้องเปิดประตูระบายน้ำตั้งแต่คลองสองถึงคลองเจ็ดเพื่อให้ระดับน้ำลดลงเพราะเกรงว่าเขื่อนกั้นจะรับไม่ไหว โดยประสานกับเทศบาลเมืองรังสิตถ้าน้ำมากไปก็จะปิดประตูเพื่อไม่ให้ล้นเข้ากรุงเทพ ถ้ามีคนจากกรมชลประทานมาช่วยแนะนำก็ดี แต่นี่มาเพียงวันแรกมาดูๆก็หายๆไปติดต่อก็ให้ประสานไปทางรัฐบาลอย่างเดียว

นาย นิพนธ์ กล่าวต่อว่า เขื่อนกั้นน้ำตรงคลองรพีพัฒน์มีความสำคัญมากเพราะดูแลอำเภอคลองหลวงทั้งอำเภอ หากเขื่อนตรงนี้พังระดับน้ำจะสูงตั้งแต่เอวจนถึงคอแน่นอนทั้งอำเภอ ถ้าหากมีหน่วยงานราชการใดพอจะแบ่งคนมาช่วยเหลือทางนี้ได้จะเป็นทางดีเพราะจะเป็นการช่วยเหลือคนอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และป้องกันไม่ให้น้ำจำนวนมากมหาศาลพุ่งเข้าไปกรุงเทพอีกด้วย ซึ่งตรงนี้ตนเองคิดว่าจะต้านได้อีกเพียงอีก 5 วันเท่านั้น

ข่าวจาก เอกฆัมพร รุจิพุฒ/ปทุมธานี

คลองหลวงน้ำเพิ่มแน่นอน แต่รับมือได้ 18/10/54

นายอำเภอคลองหลวง เผย น้ำไหลเข้าท่วม อ.คลองหลวง คาดน้ำจะเพิ่มขึ้นแน่นอน ยันรับมือได้

นายผล ดำธรรม นายอำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี กล่าวถึง สถานการณ์น้ำขณะนี้ ในพื้นที่ ต.คลอองหนึ่ง อ.คลองหลวง น้ำได้ไหลเข้าท่วมแล้ว เนื่องจากมีการปล่อยน้ำจากประตูระบายน้ำพระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อผันน้ำให้ไปออกคลองสามวา เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร โดยคาดว่าจะมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน ส่วนในหมู่บ้านไวท์เฮ้าส์ คลองระพีพัฒน์ นั้นสถานการณ์น้ำยังทรงตัว ซึ่งจากการรายงานพบว่า ระดับน้ำได้ลดลงเหลือ 30 เซนติเมตร จากคันดินที่ทำไว้

สำหรับความแข็งแรงของคันดินนั้น ยืนยันว่า ยังคงแข็งแรง และสามารถรับมือกับน้ำที่จะไหลเข้ามาได้ ซึ่งขณะนี้ความสูงอยู่ที่ 1.5 เมตร ความกว้างก็ได้มีการเสริมอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ สถานการณ์ทั่วไปยังไม่จำเป็นถึงกับต้องมีการอพยพ แต่ชาวบ้านบางราย ซึ่งเป็นผู้ป่วย และคนชราขณะนี้ก็ได้มีการอพยพมาพักอาศัยที่ศูนย์อพยพบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้มีการจัดให้มีเจ้าหน้าที่ป้องกันดูแลตลอด 24 ชั่วโมง อย่างเต็มที่

รับชมวิดีโอ

รับชมคลิปวิดีโอ วัดพระธรรมกายและชาวคลองหลวง ร่วมใจป้องกันน้ำท่วม