คิดสั้นทำไม


[ 29 มิ.ย. 2549 ] - [ 18272 ] LINE it!

 
CASE  STUDY
คิดสั้นทำไม
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง   
 
        ลูกเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา  เข้าวัดตั้งแต่ปี 2537  ขณะนั้น อายุ 10 ขวบ ปัจจุบันลูกกำลังเรียนอยู่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะบัญชี  ปี 3  เมื่อตอนปิดเทอมภาคฤดูร้อนปีที่ผ่านมา ลูกได้มีโอกาสอบรมธรรมทายาทรุ่นที่ 32  ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์อันมีค่าไว้มากมาย   ลูกได้ฟังคำสอนของคุณครูไม่ใหญ่มาโดยตลอด   ทำให้ทราบการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องว่าสิ่งใดดี สิ่งใดไม่ดี  ลูกจึงไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มของมึนเมาทุกชนิด ตั้งใจรักษาศีล 5 ตลอดมา  ลูกขอกราบขอบพระคุณคุณครูไม่ใหญ่อย่างสูงครับ   ที่ได้ชี้แนะการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องให้กับลูก
 
ครูไม่ใหญ่ก็ภาคภูมิใจที่ลูกจะได้เป็นต้นแบบเยาวชนที่ดี
 
แต่ลูกก็สงสารเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้มีโอกาสรู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต   เขาเหล่านั้นอีกหลายๆ คนยังไม่มีที่พึ่งของชีวิต และไม่รู้ว่าจะตัดสินแก้ไขปัญหาชีวิตของตนเองได้อย่างไร   ดังเช่นเรื่องราวของเพื่อนคนหนึ่งของลูกครับ   

        เพื่อนชายของลูกคนหนึ่ง ซึ่งเรียนอยู่คณะบัญชีปี 3 ที่จุฬาฯ เช่นเดียวกับลูก  ได้กระโดดตึกอาคารเรียนจากชั้น 4 ลงมา อาการสาหัสและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลใน 1 ชม.ต่อมา   ในช่วงระยะ 7 วันหลังจากการเสียชีวิต ได้เกิดเหตุการณ์แปลกๆหลายอย่างดังนี้

    - หลังจากที่เพื่อนของลูกเสียชีวิตซึ่งเป็นเวลาเช้า  ตอนบ่ายมีเพื่อนของลูกหลายคนสังเกตเห็นสุนัขไปดมๆในอากาศบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ เหมือนกับกำลังเล่นกับอะไรบางอย่างอยู่

    - วันต่อมาเพื่อนสนิทของเพื่อนที่ตาย  ได้เห็นชื่อและภาพของเพื่อนที่ตายว่ากำลังเล่นอินเตอร์เน็ทอยู่  เพื่อนคนนั้นเข้าใจว่าเป็นพี่ชายของเพื่อนที่ตาย มาใช้เครื่องคอมพิวเตอร์  จึงพิมพ์ข้อความทักทายไป   แต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆ ภายหลังจึงทราบว่า ไม่มีใครเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เลย

    - คืนหนึ่ง รปภ.ประจำตึกนั้นเห็นเหมือนมีคนมาร้องไห้อยู่ใต้ตึก แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร

    - ในเช้าวันครบรอบวันที่ 7 หลังจากเสียชีวิต  มีรุ่นน้องที่อยู่บนอาคารเรียนชั้น 4 เห็นคนปีนจากระเบียงตรงนั้นแล้วกระโดดลงมา  จึงรีบวิ่งไปที่ระเบียง แต่ก็ไม่พบอะไร

        เพื่อนชายของลูกคนนี้เป็นคนร่าเริง นิสัยดี  เป็นนักกีฬาและเป็นนักร้องนำของวงดนตรีในคณะด้วย  ในวันเกิดเหตุ เขาได้คุยกับเพื่อนหญิงที่ระเบียง จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น  ข่าวเพื่อนของลูกได้ลงหนังสือพิมพ์หน้า 1 แทบทุกฉบับ ซึ่งเขียนไปในทางเดียวกันว่าน้อยใจจึงคิดสั้น ซึ่งความจริงแล้ว ไม่มีใครทราบเรื่องราวที่แท้จริง เพราะขณะเกิดเหตุ เพื่อนของลูกอยู่กับเพื่อนหญิงตามลำพังเท่านั้น

        ลูกและเพื่อนๆรู้สึกสะเทือนใจและเป็นห่วงเพื่อนคนนี้มาก เพราะลูกทราบดีว่าการฆ่าตัวตายนั้น ย่อมมีทุคติเป็นที่ไป  ลูกจึงตัดสินใจชักชวนเพื่อนๆรวมกันได้ 7 คน บวชหน้าไฟให้เขาในวันเผาซึ่งเป็นวันที่ 7 พอดี  นอกจากนี้ลูกยังได้ทำบุญเสาแก้ว 300 ต้นใส่ชื่อของเขาเป็นจำนวนเงิน10,000บาทด้วย

        ข่าวการกระโดดตึกของนิสิตนักศึกษานี้ ไม่ได้มีแต่เพียงเพื่อนของลูกเท่านั้น  แต่ยังมีข่าวแบบนี้อีกหลายรายในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน  ลูกจึงอยากให้เรื่องนี้เป็นเครื่องเตือนใจเพื่อนๆนิสิตนักศึกษาทุกคนว่า ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้  อย่าแก้ปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย  เพราะการฆ่าตัวตายไม่ได้ช่วยให้ตัวเองพ้นทุกข์เลย แต่กลับทำให้ตัวเองต้องทุกข์มากขึ้นไปอีกในปรโลก และญาติพี่น้องก็ต้องเศร้าโศกเสียใจด้วย 

    ลูกอยากจะขอเล่าเรื่องตาของลูกดังนี้ครับ 

        ตาของลูก  เป็นคนจีน  มาอยู่ประเทศไทยตั้งแต่อายุ 5 ขวบ  ตาต้องอดทนต่อสู้ชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก  จนกระทั่งเข้าสู่วัยหนุ่ม ตาก็ได้มาตั้งโรงงานทอกระสอบที่ย่านฝั่งธนฯ  ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับบ้านพักของยายของลูก   ตามักจะพาเพื่อนๆมาตีแบดใกล้ๆบ้านของยาย  ทำให้ยายได้เห็นตา แต่ก็ไม่มีโอกาสได้คุยกัน  ตาของลูกเป็นคนหนุ่มที่ผิวขาว รูปร่างสูง จึงมีสาวโรงงานมาสนใจตาหลายคน แต่ตาก็ไม่ได้สนใจใครเลย  ยายได้มีโอกาสรู้จักกับตาตอนที่ยายสนใจจะเรียนทอกระสอบ ตาจึงยินดีสอนให้ แต่สุดท้ายยายก็ไม่ได้ไปทำงานในโรงงานทอกระสอบแห่งนี้และไม่ได้สนิทกับตา

        ต่อมาครอบครัวของยายได้ย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นโดยไม่ได้บอกให้ตาทราบ  ส่วนโรงงานทอกระสอบของตาต่อมาเกิดไฟไหม้ ตาจึงต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นเช่นเดียวกัน  โดยต่างฝ่ายต่างไม่ทราบที่อยู่ของกันและกัน   หลายปีผ่านไป วันหนึ่งตาได้บังเอิญผ่านมาแถวบ้านใหม่ของยายโดยที่ไม่ทราบเลยว่ายายพักอยู่แถวนี้  ตาได้พบกับน้องสาวของยายซึ่งกำลังเดินเล่นอยู่แถวนั้นพอดี  ตาดีใจมาก บอกให้น้องสาวของยายรีบพาไปบ้านของยายทันที  ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ตากับยายได้มีโอกาสพบกันอีกครั้ง จึงสนิทกันและแต่งงานกันในเวลาต่อมา ตาเป็นคนดี ขยันขันแข็ง มีความอดทนสูง   เป็นนักสู้ที่ไม่ย่อท้อชีวิต  และเป็นคนไม่ติดเหล้า ไม่เจ้าชู้ ทำให้ครอบครัวมีความสุข ฐานะดีขึ้นตามลำดับ สามารถซื้อบ้านของตัวเองและได้อยู่อย่างสุขสบาย

        ตาเป็นคนชอบทำอาหารและชอบทานส่วนขาของสัตว์เช่น ขาไก่ ขาเป็ด ขาหมู มีความเชื่อแบบคนจีน ชอบไหว้เจ้า แต่ก็ไม่เคยขัดการทำบุญแบบไทยของลูกหลาน  ตาเคยมาวัดพระธรรมกายหลายครั้ง ในช่วงท้ายของชีวิต ตาหกล้มกระดูกต้นขาหัก  ต้องผ่าตัดต่อกระดูกถึง 3 ครั้ง ตาเป็นคนที่มีความอดทนและอ่อนน้อมมาก ไม่เคยบ่นเรื่องความเจ็บป่วยเลย และทำตามที่หมอแนะนำทุกอย่างจนหมอหลายคนต้องเอ่ยปากชม แต่สุดท้ายก็ยังเดินไม่ได้อยู่ดี เนื่องจากอายุมากแล้ว ขาจึงไม่มีแรง    ต่อมาหมอได้ตรวจพบว่าตาเป็นมะเร็งที่ตับ ถุงลมโป่งพองและน้ำท่วมปอด เพราะเคยสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 20 ปี และเลิกตอนอายุ 60 ปี  เนื่องจากเส้นเลือดในสมองตีบจึงหยุดสูบ   นอกจากนี้ตาเคยผ่าตัดไส้เลื่อนและตัดต่อมลูกหมากทิ้งด้วย    

        ในช่วงที่ตาป่วย ตาได้มีโอกาสสร้างพระธรรมกายประจำตัวอีก 2 องค์   รวมกับที่เคยทำไปแล้วเป็น 4 องค์      ได้ถวายภัตตาหารเพลและผ้าไตรแด่พระอาจารย์ซึ่งลูกมักจะนิมนต์มาที่บ้านอยู่เสมอ ตาป่วยหนักต้องเข้าห้องไอซียูหลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งคิดว่าจะไม่รอดแล้ว แต่ก็รอดกลับมาบ้านได้ทำบุญเพิ่มอีกทุกครั้ง จนกระทั่งครั้งสุดท้ายที่ตาเข้าห้องไอซียู ตานอนหลับไม่รู้สึกตัวเป็นเวลาหลายวัน จนกระทั่งเสียชีวิต  รวมอายุได้ 83 ปี   หลังจากตาละโลกแล้ว ยายยังคงคิดถึงตาทุกวัน  จนกระทั่งทุกวันนี้  ในทุกๆเย็น หลังจากสวดมนต์ทำวัตรเย็นเสร็จ จะมีภาพเทวรถลอยขึ้นบนสวรรค์ ยายจะประนมมืออธิษฐานฝากความคิดถึง ไปถึงตาทุกวัน   ผ่านทางหน้าจอ DMC ช่องนี้ช่องเดียว 

        น้องชายของยาย ซึ่งลูกเรียกว่า “เหล่ากู๋” ตอนยังเป็นทารกอายุได้ 2 เดือน ป่วยหนักเป็นโรคหัดหลบใน  ในหมู่บ้านนั้นมีเด็กเป็นโรคนี้หลายคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นแล้วตาย    น้องชายยายก็เกือบจะตาย  จนขนาดต้องเตรียมกล่องกระดาษมาไว้ใส่ร่างแล้ว   แต่วันนั้นพอดีมีชีปะขาวผ่านมาที่บ้าน ได้ถามหาเด็กที่หัวโตๆที่กำลังป่วย    พอชีปะขาวท่านนั้นเห็นหน้าน้องชายยาย  ก็ด่าและพูดว่า “ไอ้นี่แหละ มันกวนทุกคืนเลย ทำให้กูนอนไม่ได้”  จากนั้นชีปะขาวสั่งให้นำดอกไม้ 7 สี และธูป 7 ดอกมาทำพิธีให้ โรคที่น้องชายยายเป็นอยู่ก็หายเป็นอัศจรรย์   ชาวบ้านแถวนั้นบอกว่า ก่อนที่ชีปะขาวจะมาถึงบ้านน้องชายยาย  ท่านได้ไปถามหาเด็กหัวโตๆจากบ้านอื่น แต่เมื่อชาวบ้านอุ้มลูกหลานของตนออกมาให้ดู ท่านก็บอกว่าไม่ใช่ แล้วเดินตามหาไปเรื่อยๆอีกหลายบ้าน จนกระทั่งมาถึงบ้านน้องชายยายนี่เอง ท่านจึงว่าใช่และรักษาให้   หลังจากที่ชาวบ้านเห็นว่าชีปะขาวรักษาโรคของน้องชายยายให้หายได้  จึงมาขอร้องให้ท่านช่วยรักษาลูกหลานของตนบ้าง แต่ชีปะขาวก็ไม่ได้รักษาให้ใคร และก่อนที่จะจากไป พ่อของยายอยากจะให้เงินทองเพื่อเป็นค่ารักษา ท่านก็ไม่รับ  พ่อของยายจึงบริจาคผ้าสีขาวยาวหลายเมตรให้ท่านไว้ใช้เนื่องจากที่บ้านเปิดเป็นร้านขายผ้าอยู่แล้ว

        อีกเหตุการณ์หนึ่งของน้องชายยายซึ่งไม่คาดคิดมาก่อนเลยก็คือ เช้าวันหนึ่ง น้องชายยายขี่จักรยานไปตลาดตามปกติ พอขากลับมาถึงหน้าประตูบ้าน  มีคนขี่มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งผ่านมาและหยุดถามทางกับน้องชายยาย   น้องชายยายจึงคุยด้วย ทันใดนั้นเอง ชายคนนั้นก็ชักปืนออกมาจี้ บังคับให้ถอดสร้อยทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองซึ่งมีอยู่เต็มคอ  น้องชายยายจึงต้องจำใจถอดให้  น้องชายยายรู้สึกเสียดายพระมากกว่าเสียดายสร้อยทองคำ เพราะน้องชายยายเป็นนักสะสมพระ พระแต่ละองค์นั้นหายากมาก

        ปัจจุบันน้องชายยายเป็นอัมพาต เนื่องจากเส้นเลือดฝอยในสมองแตก ต้องนอนบนเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้มาเป็นเวลา10 ปีแล้ว  เหตุเกิดในคืนวันหนึ่ง หลังจากที่น้องชายยายอาบน้ำเสร็จกำลังจะเข้านอน ก็เกิดหมดสติล้มลง หัวไปกระแทกกับขอบเตียงแล้วแน่นิ่งไป ภรรยาของน้องชายยายจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล  หมอได้วินิจฉัยว่าเส้นเลือดฝอยในสมองแตกเนื่องจากความดันโลหิตสูง   เป็นผลทำให้ร่างกายเป็นอัมพาตไปครึ่งซีก  น้องชายยายรู้สึกทุกข์ใจและหมดหวังในชีวิตอย่างมากมาจนถึงทุกวันนี้ อย่าท้อแท้..คนที่แย่กว่าเรามากๆเขายังคิดเลยสู้และไม่ยอมแพ้เลย

ลูกกราบขอความเมตตาเรียนถามคุณครูไม่ใหญ่ดังนี้ครับ

1.    ก่อนที่เพื่อนของลูกจะกระโดดตึกลงมา เขาคิดอย่างไร และ เมื่อละโลกแล้ว เขารู้สึกอย่างไรและมีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง   บุญที่เพื่อนๆถึง 7 คนบวชหน้าไฟให้ รวมถึงบุญที่ลูกได้ถวายเสาแก้วด้วย ช่วยเขาได้อย่างไรบ้างครับ ปัจจุบันเขาอยู่ที่ไหน และมีข้อความอะไรฝากมาถึงครอบครัวและเพื่อนๆบ้างครับ

2.    เหตุการณ์ประหลาดต่างๆที่หลายคนได้พบ คือ สุนัขไปดมอากาศบริเวณที่เกิดเหตุ  ,  คอมพิวเตอร์ปรากฏชื่อของเพื่อนที่ตาย ทั้งๆที่ไม่มีใครใช้เครื่องคอมพิวเตอร์  ,  รปภ. เห็นคนมาร้องไห้อยู่ใต้ตึก , รุ่นน้องเห็นคนปีนระเบียงจะกระโดดตึก   เป็นเรื่องจริงหรือไม่ครับ

3.    ตากับยายของลูกจากกันไปแล้ว แต่ก็ได้กลับมาพบกันโดยบังเอิญอีกครั้งจนกระทั่งได้แต่งงานกัน  เป็นเพราะเหตุใดครับ

4.    การที่ตาต้องถูกผ่าตัดไส้เลื่อน ตัดต่อมลูกหมาก ผ่าตัดกระดูกหลายครั้ง รวมถึงโรคแทรกซ้อนต่างๆ เกิดจากกรรมอะไรครับ

5.    ก่อนเสียชีวิต ตานอนหลับไม่ได้สติ   ตาจะรู้ตัวก่อนตายและมีความนึกคิดอะไรบ้างหรือไม่ครับ   ขณะนี้ตาอยู่ที่ไหนครับ และมีข้อความอะไรฝากมาถึงครอบครัวบ้างครับ

6.    การทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัว 2 องค์ ให้ตาขณะป่วยโดยตาเป็นผู้ถวายพระอาจารย์เอง และบุญที่สร้างพระธรรมกายประจำตัวอีก 1 องค์และสร้างเสาแก้วให้ตาหลังจากที่ละโลกไปแล้ว 3 วัน  ช่วยตาได้อย่างไรบ้างครับ

7.    ชีปะขาวที่มาช่วยน้องชายยายตอนเด็กๆเป็นใครและมีความเกี่ยวข้องกับน้องชายยายอย่างไรบ้างครับ

8.    บุพกรรมใดที่ทำให้น้องชายยายต้องถูกโจรจี้ชิงสร้อยคอและพระไป

9.    ลูกจะบอกน้องชายยายรวมถึงผู้ป่วยคนอื่นๆอย่างไรครับ เพื่อให้เขารู้สึก alert มีกำลังใจที่จะต่อสู้ชีวิตต่อไปครับ

ลูกขอกราบแทบเท้าขอบพระคุณคุณครูไม่ใหญ่ครับ 
ลูกและครอบครัวขอติดตามตามติดหลวงปู่ คุณครูไม่ใหญ่และคุณยายอาจารย์ 
สร้างบารมีไปถึงที่สุดแห่งธรรมครับ

 
ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.    เพื่อนกระโดดตึกตาย   เพราะ...“ประชดแฟน” ในปัจจุบัน     กอปรกับเคยมีวิบากกรรมฆ่าตัวตาย   เพราะ “ความรัก” มาในอดีตชาติแล้ว     แต่กระโดดเหวแทนกระโดดตึก  ,  ทำซ้ำเดิมต่างแต่เปลี่ยนสถานที่ใหม่เท่านั้นจ่ะ !
 
  • ตายแล้วก็วนเวียนอยู่  7  วัน   แถวตึกบริเวณที่เกิดเหตุ    โดยพยายามที่จะสื่อสารกับทุกคน   แต่ไม่มีใครรู้เรื่อง  ,  ระหว่างช่วงนั้นก็เดินไปมาจ่ะ !    
  •  เมื่อครบ  7  วัน   ก็มีเจ้าหน้าที่มารับตัวไป “ยมโลก”   และถูกพิพากษาให้ “โดดลงไปในเหว” จนตาย   แล้วก็ “แว๊บ” เกิดขึ้นมาใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า   ทุกข์ทรมานมากจ่ะ !    
  • ได้รับบุญที่ทุกคนทำอุทิศไปให้แล้ว   ก็ได้รับลดหย่อนผ่อนโทษลงมาจ่ะ !   
  • เขารู้ว่าเขาใกล้จะพ้นกรรมแล้ว   เพราะบุญบวชของเพื่อนและครอบครัวที่ทำบุญอุทิศไปให้จ่ะ !

2.    เหตุการณ์ประหลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและหลายคนพบ  เช่น สุนัขไปดมอากาศในที่ ๆ เกิดเหตุ  ,  คอมพิวเตอร์ปรากฏชื่อของเพื่อนที่ตายทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครไปใช้คอมพิวเตอร์เลย  ,  ร.ป.ภ.มาเห็นคนร้องไห้ที่ใต้ตึก  ,  รุ่นน้องเห็นคนปีนระเบียงจะโดดตึกอีกนั้น    ก็เป็นเรื่องไม่จริงจ่ะ !    
 
  • เพราะจิตของเขาอ่อน   เศร้าหมองด้วยการกระทำของตนเอง     จึงไม่อาจปรากฏตัวให้ใครเห็นได้  ,  เป็นแค่เพียงอุปทานของคนที่อยู่บริเวณนั้น   เพราะเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญ     ดังนั้นมักจะผูกโยงในสิ่งที่ตัวสัมผัสกับเรื่องของการโดดตึกตายจ่ะ !

3.    ตากับยายจากกันไปแล้ว   แต่กลับมาพบกันในภายหลังอีกเป็นเหตุให้ได้แต่งงานกันนั้น   เพราะ...บุญที่เคยทำร่วมกันมา   อีกทั้งเคยเป็นสามี - ภรรยาร่วมกันมาในอดีต   และความเกื้อกูลกันในปัจจุบันด้วยจ่ะ !


4.    คุณตาถูกผ่าตัด “ไส้เลื่อน”  ,  ตัด “ต่อมลูกหมาก”  ,  “ผ่าตัดกระดูก”  หลายครั้ง     รวมทั้งโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ   เพราะ....กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารในอดีตเป็นหลัก   ในสมัยที่เกิดในสังคมเกษตรกรรมหลาย ๆ ครั้ง   มารวมส่งผลจ่ะ !


5.    ก่อนเสียชีวิตตานอนหลับไม่ได้สติ   ก็เหมือนคนนอนหลับในภวังค์   แต่จิตก็ผ่องใส
  • ตายแล้ว   ก็ไปเกิดเป็น “อากาสเทวา”   มีวิมานเป็นทอง      มีความสุขมาก   หน้าตาหนุ่ม   นั่งยิ้มแย้มแจ่มใส   และได้รับบุญทุกบุญที่อุทิศไปให้จ่ะ !     ได้มีความเชื่อในเรื่องบุญอย่างเต็มที่แล้วเพราะกำลังได้เสวยผลจากบุญที่ได้ทำเอาไว้ตอนเป็นมนุษย์จ่ะ !

6.    การสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว  2  องค์ให้คุณตาขณะท่านป่วย     โดยคุณตาเป็นผู้ถวายพระอาจารย์เอง     รวมทั้งบุญที่สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวอีก  1  องค์   และสร้างเสาแก้วให้คุณตาภายหลังท่านละโลกได้  3  วันนั้น    ก็ทำให้ไปสว่าง ได้มาเกิดเป็น “อากาสเทวา”   มีวิมานทองขนาดปานกลางและมีความสุขดังกล่าวจ่ะ !


7.    “ชีปะขาว” ที่มาช่วยน้องชายยายตอนเด็กนั้น  ก็คือ  นักบวชประเภทหนึ่งที่รักการเจริญสมาธิภาวนา     เป็นมนุษย์อย่างพวกเรานี่แหละ     แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็น “ผู้สำเร็จ” จ่ะ !    
  • ท่านเคยเป็นอาจารย์เก่าในอดีตของน้องชายยาย     และเคยถูกยกให้เป็น    ลูกท่านมาหลายชาติ     จึงทำให้ไปปรากฏในสมาธิของท่าน   ด้วยบุญที่เนื่องกันมาจ่ะ !

8.    “น้องชายยาย” ถูกโจรจี้ชิงสร้อยคอและพระไป   เพราะ....กรรมในอดีต   ตอน “วัยรุ่น” ได้เคยขโมยเงินพ่อ - แม่ไปซื้อ ขนมกิน   และนำไปเล่นการพนันด้วยหลายครั้ง   มาส่งผลทำให้สมบัตินี้มีเชื้อวิบัติติดตัวมา  ,  เชื้อวิบัติก็บันดาลให้มีโจรมาจี้ชิงทรัพย์ดังกล่าวจ่ะ !


9.    ลูกจะต้องแนะนำน้องชายยายและผู้ป่วยคนอื่น ๆ  คือ บอกให้ทุกคนได้รับทราบความจริงของชีวิตว่า   เรามีความเจ็บป่วยเป็นธรรมของสังขาร  ,  และเรามีวิบากกรรมเป็นของตนเอง  ,  เมื่อกรรมส่งผลก็เป็นดังนี้  ,

 
ดังนั้นอย่าได้ไปทุกข์ใจเลย  ,  ให้คุณหมอรักษากายเรา  ,  แต่เราต้องรักษาใจด้วยการตรึกระลึกนึกถึงบุญที่ทำผ่านมา     แล้วเจริญภาวนาหาที่พึ่งภายในให้พบ  ,  จะได้มีความสุขในปัจจุบัน   และพร้อมเสมอที่จะเผชิญในทุก ๆ สถานการณ์จ่ะ !
 
  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว     ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต     ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม