CASE STUDY
มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ
ขณะที่ลูกกำลังเรียบเรียง Case Study อยู่นี้ ลูกรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นชนวนเล็กๆที่ก่อให้เกิดตำราแพทย์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลก เพราะเรื่องราวที่ลูกกำลังเล่าต่อไปนี้ จะเรียกได้ว่าเป็น Case Study เชิงการแพทย์ก็ว่าได้ เพราะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ ที่วงการแพทย์ไม่สามารถหาสาเหตุในแง่ของกฎแห่งกรรมได้ และด้วยเหตุนี้เองลูกจึงขออนุญาตกราบเรียนปรึกษา..ศาสตราจารย์หมอที่เก่งที่สุด ที่ลูกรักและศรัทธายิ่งชีวิต ที่สามารถทำให้เห็นแจ้งถึงสาเหตุของโรคร้ายอย่างแท้จริง ผู้ที่ทั่วโลกชื่นชมยกย่องศรัทธาและรู้จักท่านในนามว่า “คุณครูไม่ใหญ่”ครับ
อาชีพหมอ เป็นอาชีพที่มีทั้งความดีใจและเสียใจเกิดขึ้นพร้อมกัน ซึ่งหมอจะซาบซึ้งในคำพูดนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะหากคนไข้ผู้อยู่ในความดูแล ต้องเสียชีวิต เพราะการที่หมอรักษาคนไข้ไม่ได้ หมอก็เสียใจ แต่ในขณะเดียวกัน หากหมอได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยชีวิตคนไข้ไว้ได้อย่างดีที่สุดแล้ว หมอก็จะรู้สึกดีใจ และเหตุผลในการเลือกเรียนหมอของลูกก็เช่นกัน คือหมอ..เป็นอาชีพที่เปิดโอกาสให้ลูกได้ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ อีกทั้งยังได้รับการยอมรับในสังคมไทยสูงมาก ด้วยเหตุนี้ทำให้ลูกต้องใช้ความเพียรในการอ่านหนังสืออย่างหนัก เพื่อให้สอบเข้าคณะแพทย์จุฬาฯให้ได้ ซึ่งก็ได้จริงๆครับ
และ ณ ที่นั้นเอง ก็เป็นจุดเริ่มต้นในหนทางการสร้างบารมี เพราะลูกได้บวชธรรมทายาท ได้ทำกิจกรรมชมรมพุทธ และเป็นประธานชมรมพุทธ ครั้นเมื่อลูกเรียนจบ ก็ได้ใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ในการรักษาคนไข้ พร้อมกับการสร้างบารมีอย่างเต็มกำลัง และได้มาช่วยรับบุญรักษาบุคลากรของวัดในชมรมรัตนเวชในอุปถัมภ์ของ “ศาสตราจารย์หมอที่เก่งที่สุด” หรือ “คุณครูไม่ใหญ่”นั่นเอง
และด้วยเหตุนี้เองทำให้ลูกได้มารักษาอาการป่วยแบบเฉียบพลันของพระอาจารย์รูปหนึ่งที่วัด ซึ่งปัจจุบันท่านได้มรณภาพไปแล้ว แต่ภาพการมรณภาพของท่านยังคงติดตาและยังความรู้สึกเศร้าสลดมาสู่ลูกจนถึงทุกวันนี้ เพราะท่านเพิ่งมาบวชอยู่ในวัดได้เพียง 1 พรรษา ทั้งๆที่ท่านอยากจะเข้ามาบวชอุทิศชีวิตอยู่ในวัดตั้งแต่เมื่อ 7 ปีที่แล้ว แต่ติดภาระเรื่องครอบครัว ครั้นพอท่านเข้ามาบวช ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของหนทางการสร้างบารมีอย่างเข้มข้น ที่กำลังจะไปได้อย่างสวยหรู แต่อยู่ๆก็พบว่าท่านมีอาการไอแห้งๆ เป็นระยะๆ ซึ่งผลจากการตรวจฟิล์มเอ็กซเรย์ปรากฏว่าท่านมีอาการเหมือนกับคนเป็นวัณโรคปอด แต่ดูจากภายนอกแล้วท่านเหมือนคนปกติที่แข็งแรง ยิ้มแย้มเบิกบาน เล่าธรรมะได้คล่อง ซึ่งลูกก็ได้ติดตามเฝ้าระวังอาการท่านโดยการถวายยารักษามาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องรวมระยะเวลาได้ 10 วัน
แต่จู่ๆ ท่านก็มีอาการไข้ขึ้นสูงอย่างน่าประหลาด ท่านไอถี่และหอบอย่างหนัก จนต้องนำท่านเข้าพักในห้อง ICU ทันที เพราะผลจากการตรวจของห้องปฏิบัติการ ยืนยันว่า..ท่านเป็นโรคปอดอักเสบชนิดรุนแรง และติดเชื้อจนเชื้อลามเข้าสู่กระแสเลือด ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ท่านได้มรณภาพจากไปกะทันหันมากๆ จนตัวลูกเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ..ลูกก็ได้ทำดีที่สุดโดยการทำให้ท่านอยู่ในบุญ นำเทปธรรมะและเทปสวดมนต์เปิดให้ท่านฟังตลอดเวลา จนกระทั่งท่านจากโลกนี้ไปด้วยอาการสงบ ซึ่งคนไข้เคสนี้เอง ยังความสะเทือนใจ และความเครียดมาสู่ลูกมากในฐานะที่ลูกเป็นแพทย์ผู้รักษา เพราะลูกทำใจได้ยากกับการจากไปของนักสร้างบารมีคนสำคัญของวัด
ชีวิตก็เป็นแบบนี้ไม่มีความแน่นอน...
ดังนั้นเราต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะต้องเจอเมื่อไหร่
ส่วนคนไข้รายต่อไปคือ คุณพ่อของลูกเอง ท่านเป็นคนจีนที่มีพื้นฐานจิตใจดี แต่โชคร้ายที่ทั้งชีวิตของท่าน ได้รับความทรมานจากโรคภัยที่ร้ายแรง โดยไม่เว้นในแต่ละช่วงของชีวิต คือ
ตั้งแต่วัยหนุ่มอายุ 21 ปี ท่านก็ได้เป็นโรคนอนไม่หลับมีอาการทางประสาท เพราะภาวะเครียดเรื่องงาน จนต้องเข้ารักษาด้วยการช๊อตไฟฟ้าทางศีรษะ ต้องช๊อตอยู่นานเป็นปี ถึงจะมีอาการดีขึ้น
ครั้นพออายุได้ 36 ปี ก็ป่วยด้วยโรคที่ร้ายแรงมากในสมัยนั้น คือวัณโรค คุณพ่อมีอาการหนักมากถึงขั้น ไอเป็นเลือด เหนื่อยหอบอย่างหนัก แต่กลับมาหายได้จากการฉีดยารักษาด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่อง
พออายุได้ 40 ปี คุณพ่อก็ป่วยอีก คือมีอาการปวดไหล่ซ้ายทรมานทุรนทุรายมาก ไปหาหมอกี่หมอก็ไม่หาย จนต้องพาไปหาพระที่มีวิชาทางไสยเวท ซึ่งพระได้บอกว่าคุณพ่อโดนของ จึงรักษาด้วยวิธีทางไสยเวท ซึ่งก็หายจนเป็นปกติได้อย่างน่าประหลาด
ต่อมาเมื่อคุณพ่ออายุได้ 65 ปี ก็มีอาการปวดท้องตาเหลือง ตัวเหลือง ปัสสาวะเป็นสีเข้ม เนื่องจากเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีและท่อน้ำดี ซึ่งลูกให้คุณพ่อเข้ารักษาโดยการผ่าตัด และในขณะเดียวกันก็ตรวจพบว่าท่านเป็นพาหะของโรคไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งการเป็นพาหะนั้นก็คือ เชื้อไวรัสชนิดนี้เข้าไปอาศัยอยู่ที่ตับ และค่อยๆทำลายตับอย่างช้าๆ โดยที่คนไข้จะไม่แสดงอาการของโรคอย่างเด่นชัด เพราะดูเผินๆคนไข้จะมีสุขภาพดีเหมือนคนปกติทั่วไป แต่จะมีอาการเหนื่อยและอ่อนเพลียง่าย ซึ่งคนไข้ที่เป็นพาหะนี้มี%การหายขาดจากโรคน้อยมาก และจะมีโอกาสเป็นมะเร็งตับสูงมากกว่าคนปกติถึง 200 เท่า ซึ่งคุณพ่อของลูกก็อยู่ในเคสนี้ เพราะโรคนี้กำลังเป็นภัยคุกคามที่เกิดกับคนไทยที่มีจำนวนมากถึงร้อยละ 10 ของประชากร ซ้ำร้ายไปกว่านั้นในวงการแพทย์ยังไม่พบยาในการรักษาโรคนี้ให้หายขาดเลย และยังพบว่าเชื้อยังดื้อยาง่ายอีกด้วย
แต่ในทางกลับกัน ในคนไข้อีกประเภทหนึ่งที่ได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเหมือนกัน แต่สามารถสร้างภูมิและหายขาดได้เองภายในระยะเวลา 6 เดือน และหลังจากหายขาดแล้ว กลับมีภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองโดยธรรมชาติอีกด้วย ซึ่งคนไข้ผู้โชคดีประเภทนี้มีเป็นจำนวนน้อย แต่คุณพ่อผมเป็นผู้โชคร้าย ที่ได้รับเชื้อแต่ไม่ได้อยู่ในเคสหลังนี้ และผลพวงต่อมาของโรคนี้เอง เมื่อคุณพ่ออายุ 72 ปี คุณพ่อเริ่มมีอาการผอมลงและเหนื่อยมากและตรวจพบมะเร็งตับมีขนาดโตถึง 13 ซม. มีเลือดออกในกระเพาะอย่างมาก ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ ต้องใส่สายล้างท้อง หนำซ้ำมีโรคแทรกซ้อนคือปอดติดเชื้อ ทำให้ต้องย้ายเข้าห้อง ICU โดยด่วน
ซึ่งพอคุณพ่อเข้าห้อง ICU แล้ว คุณพ่อจะลืมตาตลอดเวลา ทำยังไงก็ไม่ยอมหลับตา จนลูกต้องเอาผ้าก๊อตมาปิดให้ท่าน และในช่วงนั้นลูกได้พยายามทำให้ใจของท่านเป็นบุญมากที่สุดคือเอา MP3 ที่เป็นธรรมะของคุณครูไม่ใหญ่ให้ท่านฟังและนิมนต์พระอาจารย์มารับปัจจัยสร้างเสาแก้วกับมือท่านเองในห้อง ICU ถึง 2 ครั้ง
ช่วงท้ายที่คุณพ่อป่วยนี้ ก่อนที่คุณพ่อจะตาย ลูกได้พาคุณพ่อมาวัดสร้างบุญทุกบุญอย่างตลอดต่อเนื่อง ได้พาท่านมาวัดทุกวันอาทิตย์ มานั่งสมาธิกับคุณครูไม่ใหญ่ และก่อนจะกลับบ้านทุกครั้ง ลูกก็พาท่านไปที่มหาธรรมกายเจดีย์ แล้วบอกท่านว่า ถ้าพ่อเป็นอะไรไป ให้มาเวียนประทักษิณรอบเจดีย์ เพราะบนเจดีย์นี้มีองค์พระบนโดมของพ่อ มีองค์พระภายนอก มีองค์พระแกนกลางที่ลูกสร้างให้ ซึ่งคุณพ่อก็รับรู้ทุกครั้งที่ลูกบอกครับ จนกระทั่งวาระสุดท้ายท่านจากไปด้วยอาการสงบด้วยวัย 74 ปี การจากไปของท่านลูกได้ทำตามหลักวิชชาที่ครูไม่ใหญ่สอนมาตลอด..ลูกเข้าใจเรื่องการพลัดพรากมากขึ้นว่า...ความตายคือส่วนหนึ่งของชีวิต
คุณแม่ของลูก เป็นคนแท้งลูกง่าย คือท่านได้แท้งลูกไป 1 คน แล้ว ก่อนที่ท่านจะตั้งท้องตัวลูกเอง และในขณะที่ท่านตั้งท้องตัวลูก ก็มีอาการเลือดไหลตลอดจนกระทั่งถึง 7 เดือน แต่เมื่อคลอดลูกออกมาแล้ว ตัวลูกกลับปกติสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกอย่าง ปัจจุบันคุณแม่เป็นโรคเริมที่ตะโพกขวา เป็นๆ หายๆ มีอาการแสบๆร้อน อีกทั้งคุณแม่ยังเป็นโรคปวดเข่าอย่างมาก เป็นโรคข้อเข่าอักเสบ คือโรคนี้คุณแม่เป็นมาตั้งแต่เด็ก เพราะต้องทำงานหนักมาก มาตั้งแต่อายุได้เพียง 8 ขวบ ซึ่งปัจจุบันหาหมอมาทุกแผนแล้ว และทั้งๆที่ลูกเป็นหมอเองก็ยังไม่สามารถรักษาท่านให้หายขาดได้ครับ
ลูกขอเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ครับ
1. บุพกรรมใดที่ทำให้พระอาจารย์เป็นโรคปอดติดเชื้อ และมรณภาพอย่างกะทันหัน , บุญจากการบวชช่วยชีวิตต่อชีวิตท่านบ้างหรือไม่ หากท่านไม่บวชจะเป็นอย่างไรครับ , ตอนนี้ท่านไปอยู่ที่ไหนครับ , ท่านเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร ทำไมท่านถึงพึงพอใจในเพศนักบวชมาก แต่กลับได้มาบวชช้า
2. บุพกรรมใดที่ให้คุณพ่อ เป็นโรคประสาท และต้องช็อตไฟฟ้าเพื่อรักษา , บุพกรรมใดที่ทำให้ท่านเป็นวัณโรค และบุญใดที่ทำให้ท่านหาย ทั้งๆที่ในสมัยนั้น คนที่เป็นโรคนี้ตายเป็นส่วนใหญ่
3. ทำไมคุณพ่อถึงปวดไหลซ้ายมาก ท่านโดนของหรือไม่ ทำไมถึงหายได้ด้วยวิธีทางไสยเวทครับ
4. บุพกรรมส่วนใหญ่ของคนไทยจำนวน10% ที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบีคืออะไร และบุพกรรมของผู้ที่เป็นไวรัสตับอักเสบบีแบบเป็นพาหะ กับแบบไม่ได้เป็นพาหะ(คือเป็นแล้วหายสนิทและแถมยังมีภูมิคุ้มกันโรคนี้อีกด้วย) คนไข้ 2 กลุ่มนี้มีบุพกรรมต่างกันอย่างไรครับ และจะต้องทำบุญอะไรที่จะไม่ให้วิบากกรรมของโรคนี้ส่งผลในชาติต่อๆไป
5. บุพกรรมใดทำให้คุณพ่อเป็นพาหะไวรัสตับอักเสบแบบที่ภายหลังกลายเป็นมะเร็งตับตายครับ ซึ่งเคสนี้มีบุพกรรมต่างกับผู้ที่เป็นพาหะเหมือนกัน แต่สุดท้ายไม่เป็นมะเร็งตับเลยตลอดชีวิตอย่างไรครับ
6. บุพกรรมใดทำให้คุณพ่อเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี และทำไมช่วงสุดท้ายของชีวิตผู้ป่วยแทบทุกคน ต้องเป็นหลายๆโรค ขึ้นมาอย่างพร้อมๆกันในทีเดียวครับ
7. บุพกรรมใดทำให้คุณพ่อมีชีวิตในวัยต้นที่ลำบากมาก และพี่น้องไม่รักท่าน แต่บั้นปลายชีวิตคุณพ่อกลับสุขสบายและมีโอกาสสร้างบุญได้มาก และลูกจะได้รับอานิสงส์อย่างไรที่พาพ่อแม่มาวัดทุกอาทิตย์ครับ
8. ทำไมขณะคุณพ่อเข้าห้องICU ท่านลืมตาตลอดเวลา ท่านมีคตินิมิตก่อนตายเป็นอย่างไร ตายแล้วมาที่เจดีย์หรือไม่ ตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหน ได้รับบุญที่อุทิศไหมครับ ลูกอยากSMS ถึงท่านว่าลูกรักและคิดถึงท่านมาก ท่านมีอะไรฝากบอกแม่และลูกไหมครับ
9. บุพกรรมใดทำให้คุณแม่แท้งง่าย และมีเลือดออกมากตอนตั้งท้องตัวลูกครับ ลูกและคุณแม่มีบุพกรรมร่วมกันมาอย่างไร ,บุพกรรมใดทำให้คุณแม่เป็นโรคเริม และโรคข้อเข่าอักเสบ ต้องแก้ไขอย่างไรครับ
10. บุพกรรมใดที่ทำให้เวลาลูกจะได้อะไรหรือประสบความสำเร็จอะไร ลูกต้องบากบั่นทำในสิ่งนั้นด้วยตนเอง ด้วยความยากลำบากอย่างมาก ซึ่งผิดกับหลายคนที่ได้มาง่ายๆ และมีคนช่วย ลูกต้องแก้ไขอย่างไรครับ
11. ตลอดเวลาที่ลูกเป็นแพทย์ ลูกตั้งใจรักษาผู้ป่วยอย่างดีที่สุด แต่บางครั้งเกิดภาวะแทรกซ้อนโดยไม่ตั้งใจ หรือพยายามวินิจฉัยโรคแต่วินิจฉัยไม่ได้ ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตไปก่อน ลูกจะมีวิบากอย่างไร และลูกควรทำอาชีพหมออย่างไรเพื่อไม่ให้ตัวเองติดวิบาก และทำอาชีพนี้อย่างถูกหลักวิชชาครับ
12. คุณแม่ และตัวลูกสร้างบารมีกับหมู่คณะมาในรูปแบบใด ทำไมชาตินี้ลูกถึงเป็นหมอ ลูกมีหน้าที่อะไรในกองทัพธรรม ลูกมีผังบวชตลอดชีวิตหนาแน่นมากน้อยแค่ไหน เคยเข้าถึงพระธรรมกายไหมครับ และได้ลงมาสร้างบารมีกับหมู่คณะกี่รอบ
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
1. “พระอาจารย์” เป็นโรค “ปอดติดเชื้อ” มรณภาพอย่างกะทันหัน เพราะ....เกิดจากกรรมปาณาติบาตหลายอย่างรวมกันโดยเฉพาะพุทธันดรที่ผ่านมา ได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช ได้ออกทำการรบฆ่าข้าศึกตายเป็นจำนวนมาก ได้ทรมานข้าศึกโดยจับหัวข้าศึกกดลงไปในน้ำจนสำลักน้ำตาย วิบากกรรมดังกล่าวมาส่งผล
- บุญบวชก็ช่วยให้ยืดอายุไขยยาวขึ้นมาหน่อย เพราะบวชตอนอายุมาก ทำให้วิบากกรรมมาตัดรอนได้ง่าย
- มรณภาพแล้วก็กลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ “เขตนอก” เพราะบุญบวชยังไม่พอถึงจุดที่จะอยู่เขตใน
- พุทธันดรที่ผ่านมาก็ตัดสินใจมาบวชช้าเหมือนชาตินี้จ่ะ !
2. คุณพ่อเป็น “โรคประสาท” ต้องถูกช๊อตด้วยไฟฟ้า เพราะ...กรรมในอดีตได้ดื่มสุรา เมื่อเมามาแล้วก็ทุบซ้อมคนในบ้านบ้าง ผู้อื่นบ้าง จนทำให้เขาบาดเจ็บ มาส่งผลให้เป็นโรคประสาท , ส่วนกรรมทุบซ้อมผู้อื่น ก็ทำให้ถูกซ๊อตด้วยไฟฟ้า ซึ่งเป็นวิธีการรักษาในยุคนี้ ทำให้อาการดีขึ้นสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้
- เป็น “วัณโรค” และหายได้ เพราะ....กรรมในอดีตได้ดื่มเหล้า , สูบยาเส้น , ฆ่าสัตว์ทำกับแกล้ม , ทรมานสัตว์ที่เลี้ยงไว้เพื่อฆ่า โดยให้มันตากแดดฝน วิบากกรรมดังกล่าวมารวมส่งผล แต่มีความรู้แบบหมอพื้นบ้าน จึงช่วยเหลือเรื่องหยูกยารักษาเพื่อนบ้านมาตัดรอนวิบากกรรมให้หายได้จ่ะ !
- ท่านปวด “ไหล่ซ้าย” มาก แต่หายได้ด้วย “ไสยเวทย์” เพราะ...กรรมในชาติที่ขี้เมาแล้วชอบชกต่อยผู้อื่นมาส่งผล ไม่ได้ “โดนของ” จ่ะ !
- แต่หายได้ เพราะบุญที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่เจ็บป่วยไข้ด้วยหยูกยา , ไม่ได้หายด้วย “ไสยเวทย์” จ่ะ !
3. คนไทยที่เป็นพาหะ “ไวรัสตับอักเสบบี” จำนวน 10% เพราะ....กรรมในอดีต ทรมานสัตว์กับดื่มสุราหรือเลี้ยงสุราผู้อื่นเป็นหลัก คือ ผิดศีลข้อที่ 1 กับข้อที่ 5 มารวมส่งผลจ่ะ !
- คนที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี เพราะ....กรรมดังกล่าวที่มีมากกว่าผู้ที่ไม่ได้เป็นพาหะจ่ะ !
- คนที่ไม่ได้เป็นพาหะ คือ เป็นแล้วหายสนิทแถมมีภูมิคุ้มกันโรคด้วย เพราะ...มีวิบากกรรมดังกล่าวบางกว่าผู้ที่เป็นพาหะจ่ะ !
- ต้องทำบุญทุกบุญ ทั้งทาน , ศีล , ภาวนา โดยเฉพาะ ยารักษาโรคและปล่อยสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่บ่อย ๆ แล้วอธิษฐานจิตให้พ้นวิบากกรรมจ่ะ !
- ส่วนผู้ที่เป็นพาหะแต่ไม่เป็นมะเร็งตับ เพราะกรรมปาณาติบาตของเขาหย่อนกว่าของคุณพ่อจ่ะ !
- ช่วงสุดท้ายของชีวิตผู้ป่วยแทบทุกคนต้องเป็นหลาย ๆ โรคขึ้นมาอย่างพร้อมกันทีเดียว เพราะ --- เมื่อผู้ป่วยจะหมดอายุไขยสังขารใกล้จะแตกดับ ก็ทำให้ระบบทุกอย่างในร่างกายรวน ทำให้โรคที่อยู่ในกายก็ได้ช่องแทรกจ่ะ !
- ลูกจะได้รับอานิสงส์จากการพาพ่อแม่มาวัดทุกวันอาทิตย์โดยย่อ คือ ชาติต่อไปก็จะได้มีบุพการีที่ดี , เป็นสัมมาทิฐิ , เป็นครอบครัวบัณฑิตนักปราชญ์ , ครอบครัวกัลยาณมิตร และจะสนับสนุนการเข้าวัดสร้างบารมีของลูก อีกทั้งจะปิดอบายไปสวรรค์จ่ะ !
- ก่อนตายมีคตินิมิตใสสว่าง นึกถึงบุญได้ , ใจผ่องใส แต่ไม่ได้มาที่เจดีย์ เพราะไม่ได้เจริญภาวนาเต็มที่
- ตายแล้ว ก็ไปแบบหลับแล้วตื่นขึ้นกลางวิมานทองของชั้น “ดาวดึงส์ เฟส 3” ด้วยบุญที่ทำให้ท่านและให้ท่านทำในช่วงท้ายของชีวิตจ่ะ !
- ท่านได้รับบุญที่อุทิศไปให้ จึงทำให้มีสภาพที่ดีขึ้นในทุกด้านจ่ะ !
- ท่านปลื้มใจมากและรู้ว่าถ้าไม่ได้ลูกเป็นกัลยาณมิตรให้ ท่านก็คงไม่มีโอกาสมาอยู่ตรงนี้ จึงซาบซึ้งในตัวลูกมากจ่ะ !
- ลูกก็มีเศษกรรม “แนะนำ” ให้คนไปทำแท้งติดมา แต่มีบุญช่วยรักษาผู้อื่นให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บมาช่วยเอาไว้ , แต่ไม่ได้มี บุพกรรมร่วมกัน แต่มีกรรมคล้ายกันจ่ะ !
- คุณแม่เป็น “โรคเริม” และ “โรคข้อเข่าอักเสบ” เพราะ....กรรมในอดีต มีวจีกรรมที่พูดทำให้เขาเสียหายเจ็บแสบ , มารวมกับกรรมแกล้งทรมานสัตว์ โดยเอาน้ำร้อนราดไล่สุนัขที่มาเพ่นพ่านแถวใกล้ ๆ ที่ตนเองทำอาหารในอดีต มาส่งผลให้เป็น “โรคเริม” , ส่วน “ข้อเข่าอักเสบ” นั้น ก็เกิดจากกรรมใช้แรงงานทาสหนัก เศษกรรมนี้มาส่งผลจ่ะ !
- ทำให้ชาตินี้ก็ต้องมาทำงานหนักจนข้อเข่าอักเสบจ่ะ !
- จะแก้ไข ก็ต้องทำบุญทุกบุญ ทั้งทาน , ศีล , ภาวนา แล้วอธิษฐานจิต อุทิศบุญกุศลไปให้ผู้ที่เราเคยไปเบียดเบียนเขาเอาไว้บ่อย ๆ จ่ะ !
- จะแก้ไข ชาตินี้ก็ต้องสั่งสมบุญทุกบุญ ทั้งทาน , ศีล , ภาวนา ให้มาก ๆ แล้วอธิษฐานจิตให้ดีในทุกเรื่องจ่ะ !
- ลูกก็ต้องพยายามทำหน้าที่ของแพทย์ให้สมบูรณ์ ด้วยการรักษาทั้งกายและใจของผู้ป่วยด้วย คือ ทางกายลูกก็รักษาไปตามหลักวิชาของแพทย์ ,
- ส่วนทางใจก็ให้แนะนำผู้ป่วยให้รู้ว่าโรคทั้งหลายล้วนเกิดจากวิบากกรรมทั้งสิ้น , และคนเรามีความเจ็บ, ตายเป็นธรรมดา ,
- ดังนั้นก็ให้แนะนำผู้ป่วยให้รักษาใจด้วยการระลึกนึกถึงบุญที่ได้ทำมา แล้วสวดมนตร์เจริญสมาธิภาวนา , ถ้าลูกทำได้อย่างนี้ ลูกก็จะได้ชื่อว่าเป็นหมอพระโพธิสัตว์จ่ะ !
- ซึ่งก็จะมีอานิสงส์ใหญ่ได้ทั้งความแข็งแรง , อายุยืนยาว , ได้ปัญญาบารมี , ได้มีดวงตาเห็นธรรม และเป็นที่รักของมนุษย์เทวดา เป็นต้นจ่ะ !
- ส่วนตัวลูกเมื่อพุทธันดรที่ผ่านมา ได้เป็น “หมอทหารหรือเสนารักษ์” ของพระราชาองค์ที่ออกบวช , ภายหลังก็ได้ออกบวชตามพระราชาจนตลอดชีวิต , บวชแล้วทำหน้าที่ “เผยแผ่” ช่วยดูแลเพื่อนสหธรรมิกยามเจ็บป่วย , มีผลการปฏิบัติธรรมได้เข้าถึงพระภายใน กลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษได้อย่างสบายจ่ะ !
- ได้ลงมาสร้างบารมีกับหมู่คณะ 2 รอบจ่ะ !
- ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !