มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต


[ 26 มิ.ย. 2549 ] - [ 18272 ] LINE it!

 
CASE  STUDY
มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
 

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ

        ขณะที่ลูกกำลังเรียบเรียง Case Study อยู่นี้ ลูกรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นชนวนเล็กๆที่ก่อให้เกิดตำราแพทย์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลก เพราะเรื่องราวที่ลูกกำลังเล่าต่อไปนี้ จะเรียกได้ว่าเป็น Case Study เชิงการแพทย์ก็ว่าได้ เพราะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ ที่วงการแพทย์ไม่สามารถหาสาเหตุในแง่ของกฎแห่งกรรมได้ และด้วยเหตุนี้เองลูกจึงขออนุญาตกราบเรียนปรึกษา..ศาสตราจารย์หมอที่เก่งที่สุด ที่ลูกรักและศรัทธายิ่งชีวิต ที่สามารถทำให้เห็นแจ้งถึงสาเหตุของโรคร้ายอย่างแท้จริง ผู้ที่ทั่วโลกชื่นชมยกย่องศรัทธาและรู้จักท่านในนามว่า  “คุณครูไม่ใหญ่”ครับ

        อาชีพหมอ เป็นอาชีพที่มีทั้งความดีใจและเสียใจเกิดขึ้นพร้อมกัน  ซึ่งหมอจะซาบซึ้งในคำพูดนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะหากคนไข้ผู้อยู่ในความดูแล ต้องเสียชีวิต เพราะการที่หมอรักษาคนไข้ไม่ได้ หมอก็เสียใจ   แต่ในขณะเดียวกัน หากหมอได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยชีวิตคนไข้ไว้ได้อย่างดีที่สุดแล้ว หมอก็จะรู้สึกดีใจ  และเหตุผลในการเลือกเรียนหมอของลูกก็เช่นกัน คือหมอ..เป็นอาชีพที่เปิดโอกาสให้ลูกได้ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ อีกทั้งยังได้รับการยอมรับในสังคมไทยสูงมาก ด้วยเหตุนี้ทำให้ลูกต้องใช้ความเพียรในการอ่านหนังสืออย่างหนัก เพื่อให้สอบเข้าคณะแพทย์จุฬาฯให้ได้ ซึ่งก็ได้จริงๆครับ 
 
        และ ณ ที่นั้นเอง ก็เป็นจุดเริ่มต้นในหนทางการสร้างบารมี เพราะลูกได้บวชธรรมทายาท ได้ทำกิจกรรมชมรมพุทธ และเป็นประธานชมรมพุทธ ครั้นเมื่อลูกเรียนจบ ก็ได้ใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ในการรักษาคนไข้ พร้อมกับการสร้างบารมีอย่างเต็มกำลัง และได้มาช่วยรับบุญรักษาบุคลากรของวัดในชมรมรัตนเวชในอุปถัมภ์ของ “ศาสตราจารย์หมอที่เก่งที่สุด” หรือ “คุณครูไม่ใหญ่”นั่นเอง 
 
        และด้วยเหตุนี้เองทำให้ลูกได้มารักษาอาการป่วยแบบเฉียบพลันของพระอาจารย์รูปหนึ่งที่วัด ซึ่งปัจจุบันท่านได้มรณภาพไปแล้ว แต่ภาพการมรณภาพของท่านยังคงติดตาและยังความรู้สึกเศร้าสลดมาสู่ลูกจนถึงทุกวันนี้ เพราะท่านเพิ่งมาบวชอยู่ในวัดได้เพียง 1 พรรษา ทั้งๆที่ท่านอยากจะเข้ามาบวชอุทิศชีวิตอยู่ในวัดตั้งแต่เมื่อ 7 ปีที่แล้ว แต่ติดภาระเรื่องครอบครัว ครั้นพอท่านเข้ามาบวช ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของหนทางการสร้างบารมีอย่างเข้มข้น ที่กำลังจะไปได้อย่างสวยหรู แต่อยู่ๆก็พบว่าท่านมีอาการไอแห้งๆ เป็นระยะๆ ซึ่งผลจากการตรวจฟิล์มเอ็กซเรย์ปรากฏว่าท่านมีอาการเหมือนกับคนเป็นวัณโรคปอด แต่ดูจากภายนอกแล้วท่านเหมือนคนปกติที่แข็งแรง ยิ้มแย้มเบิกบาน เล่าธรรมะได้คล่อง ซึ่งลูกก็ได้ติดตามเฝ้าระวังอาการท่านโดยการถวายยารักษามาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องรวมระยะเวลาได้ 10 วัน  
 
        แต่จู่ๆ ท่านก็มีอาการไข้ขึ้นสูงอย่างน่าประหลาด ท่านไอถี่และหอบอย่างหนัก จนต้องนำท่านเข้าพักในห้อง ICU ทันที เพราะผลจากการตรวจของห้องปฏิบัติการ ยืนยันว่า..ท่านเป็นโรคปอดอักเสบชนิดรุนแรง และติดเชื้อจนเชื้อลามเข้าสู่กระแสเลือด  ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ท่านได้มรณภาพจากไปกะทันหันมากๆ จนตัวลูกเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ..ลูกก็ได้ทำดีที่สุดโดยการทำให้ท่านอยู่ในบุญ นำเทปธรรมะและเทปสวดมนต์เปิดให้ท่านฟังตลอดเวลา จนกระทั่งท่านจากโลกนี้ไปด้วยอาการสงบ ซึ่งคนไข้เคสนี้เอง ยังความสะเทือนใจ และความเครียดมาสู่ลูกมากในฐานะที่ลูกเป็นแพทย์ผู้รักษา เพราะลูกทำใจได้ยากกับการจากไปของนักสร้างบารมีคนสำคัญของวัด

ชีวิตก็เป็นแบบนี้ไม่มีความแน่นอน...
ดังนั้นเราต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะต้องเจอเมื่อไหร่
 
        ส่วนคนไข้รายต่อไปคือ คุณพ่อของลูกเอง ท่านเป็นคนจีนที่มีพื้นฐานจิตใจดี แต่โชคร้ายที่ทั้งชีวิตของท่าน ได้รับความทรมานจากโรคภัยที่ร้ายแรง โดยไม่เว้นในแต่ละช่วงของชีวิต คือ

        ตั้งแต่วัยหนุ่มอายุ 21 ปี ท่านก็ได้เป็นโรคนอนไม่หลับมีอาการทางประสาท เพราะภาวะเครียดเรื่องงาน จนต้องเข้ารักษาด้วยการช๊อตไฟฟ้าทางศีรษะ ต้องช๊อตอยู่นานเป็นปี ถึงจะมีอาการดีขึ้น

        ครั้นพออายุได้ 36 ปี ก็ป่วยด้วยโรคที่ร้ายแรงมากในสมัยนั้น คือวัณโรค คุณพ่อมีอาการหนักมากถึงขั้น ไอเป็นเลือด เหนื่อยหอบอย่างหนัก แต่กลับมาหายได้จากการฉีดยารักษาด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่อง

        พออายุได้ 40 ปี คุณพ่อก็ป่วยอีก คือมีอาการปวดไหล่ซ้ายทรมานทุรนทุรายมาก ไปหาหมอกี่หมอก็ไม่หาย จนต้องพาไปหาพระที่มีวิชาทางไสยเวท ซึ่งพระได้บอกว่าคุณพ่อโดนของ จึงรักษาด้วยวิธีทางไสยเวท ซึ่งก็หายจนเป็นปกติได้อย่างน่าประหลาด

        ต่อมาเมื่อคุณพ่ออายุได้ 65 ปี ก็มีอาการปวดท้องตาเหลือง ตัวเหลือง ปัสสาวะเป็นสีเข้ม เนื่องจากเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีและท่อน้ำดี ซึ่งลูกให้คุณพ่อเข้ารักษาโดยการผ่าตัด และในขณะเดียวกันก็ตรวจพบว่าท่านเป็นพาหะของโรคไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งการเป็นพาหะนั้นก็คือ เชื้อไวรัสชนิดนี้เข้าไปอาศัยอยู่ที่ตับ และค่อยๆทำลายตับอย่างช้าๆ โดยที่คนไข้จะไม่แสดงอาการของโรคอย่างเด่นชัด เพราะดูเผินๆคนไข้จะมีสุขภาพดีเหมือนคนปกติทั่วไป แต่จะมีอาการเหนื่อยและอ่อนเพลียง่าย ซึ่งคนไข้ที่เป็นพาหะนี้มี%การหายขาดจากโรคน้อยมาก และจะมีโอกาสเป็นมะเร็งตับสูงมากกว่าคนปกติถึง 200 เท่า ซึ่งคุณพ่อของลูกก็อยู่ในเคสนี้ เพราะโรคนี้กำลังเป็นภัยคุกคามที่เกิดกับคนไทยที่มีจำนวนมากถึงร้อยละ 10 ของประชากร ซ้ำร้ายไปกว่านั้นในวงการแพทย์ยังไม่พบยาในการรักษาโรคนี้ให้หายขาดเลย และยังพบว่าเชื้อยังดื้อยาง่ายอีกด้วย 
 
        แต่ในทางกลับกัน ในคนไข้อีกประเภทหนึ่งที่ได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเหมือนกัน แต่สามารถสร้างภูมิและหายขาดได้เองภายในระยะเวลา 6 เดือน และหลังจากหายขาดแล้ว กลับมีภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองโดยธรรมชาติอีกด้วย ซึ่งคนไข้ผู้โชคดีประเภทนี้มีเป็นจำนวนน้อย   แต่คุณพ่อผมเป็นผู้โชคร้าย ที่ได้รับเชื้อแต่ไม่ได้อยู่ในเคสหลังนี้ และผลพวงต่อมาของโรคนี้เอง เมื่อคุณพ่ออายุ 72 ปี คุณพ่อเริ่มมีอาการผอมลงและเหนื่อยมากและตรวจพบมะเร็งตับมีขนาดโตถึง 13 ซม. มีเลือดออกในกระเพาะอย่างมาก ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ ต้องใส่สายล้างท้อง หนำซ้ำมีโรคแทรกซ้อนคือปอดติดเชื้อ ทำให้ต้องย้ายเข้าห้อง ICU โดยด่วน
 
        ซึ่งพอคุณพ่อเข้าห้อง ICU แล้ว  คุณพ่อจะลืมตาตลอดเวลา ทำยังไงก็ไม่ยอมหลับตา จนลูกต้องเอาผ้าก๊อตมาปิดให้ท่าน และในช่วงนั้นลูกได้พยายามทำให้ใจของท่านเป็นบุญมากที่สุดคือเอา MP3 ที่เป็นธรรมะของคุณครูไม่ใหญ่ให้ท่านฟังและนิมนต์พระอาจารย์มารับปัจจัยสร้างเสาแก้วกับมือท่านเองในห้อง ICU ถึง 2 ครั้ง
 
        ช่วงท้ายที่คุณพ่อป่วยนี้ ก่อนที่คุณพ่อจะตาย   ลูกได้พาคุณพ่อมาวัดสร้างบุญทุกบุญอย่างตลอดต่อเนื่อง ได้พาท่านมาวัดทุกวันอาทิตย์ มานั่งสมาธิกับคุณครูไม่ใหญ่ และก่อนจะกลับบ้านทุกครั้ง ลูกก็พาท่านไปที่มหาธรรมกายเจดีย์ แล้วบอกท่านว่า  ถ้าพ่อเป็นอะไรไป ให้มาเวียนประทักษิณรอบเจดีย์ เพราะบนเจดีย์นี้มีองค์พระบนโดมของพ่อ มีองค์พระภายนอก มีองค์พระแกนกลางที่ลูกสร้างให้   ซึ่งคุณพ่อก็รับรู้ทุกครั้งที่ลูกบอกครับ จนกระทั่งวาระสุดท้ายท่านจากไปด้วยอาการสงบด้วยวัย  74 ปี  การจากไปของท่านลูกได้ทำตามหลักวิชชาที่ครูไม่ใหญ่สอนมาตลอด..ลูกเข้าใจเรื่องการพลัดพรากมากขึ้นว่า...ความตายคือส่วนหนึ่งของชีวิต

        คุณแม่ของลูก เป็นคนแท้งลูกง่าย คือท่านได้แท้งลูกไป 1 คน แล้ว ก่อนที่ท่านจะตั้งท้องตัวลูกเอง และในขณะที่ท่านตั้งท้องตัวลูก ก็มีอาการเลือดไหลตลอดจนกระทั่งถึง 7 เดือน แต่เมื่อคลอดลูกออกมาแล้ว ตัวลูกกลับปกติสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกอย่าง ปัจจุบันคุณแม่เป็นโรคเริมที่ตะโพกขวา เป็นๆ หายๆ มีอาการแสบๆร้อน อีกทั้งคุณแม่ยังเป็นโรคปวดเข่าอย่างมาก  เป็นโรคข้อเข่าอักเสบ คือโรคนี้คุณแม่เป็นมาตั้งแต่เด็ก เพราะต้องทำงานหนักมาก มาตั้งแต่อายุได้เพียง 8 ขวบ ซึ่งปัจจุบันหาหมอมาทุกแผนแล้ว และทั้งๆที่ลูกเป็นหมอเองก็ยังไม่สามารถรักษาท่านให้หายขาดได้ครับ

ลูกขอเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ครับ

1.    บุพกรรมใดที่ทำให้พระอาจารย์เป็นโรคปอดติดเชื้อ และมรณภาพอย่างกะทันหัน   ,  บุญจากการบวชช่วยชีวิตต่อชีวิตท่านบ้างหรือไม่  หากท่านไม่บวชจะเป็นอย่างไรครับ  , ตอนนี้ท่านไปอยู่ที่ไหนครับ ,  ท่านเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร   ทำไมท่านถึงพึงพอใจในเพศนักบวชมาก แต่กลับได้มาบวชช้า

2.    บุพกรรมใดที่ให้คุณพ่อ เป็นโรคประสาท และต้องช็อตไฟฟ้าเพื่อรักษา , บุพกรรมใดที่ทำให้ท่านเป็นวัณโรค และบุญใดที่ทำให้ท่านหาย ทั้งๆที่ในสมัยนั้น คนที่เป็นโรคนี้ตายเป็นส่วนใหญ่

3.    ทำไมคุณพ่อถึงปวดไหลซ้ายมาก ท่านโดนของหรือไม่  ทำไมถึงหายได้ด้วยวิธีทางไสยเวทครับ

4.    บุพกรรมส่วนใหญ่ของคนไทยจำนวน10% ที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบีคืออะไร และบุพกรรมของผู้ที่เป็นไวรัสตับอักเสบบีแบบเป็นพาหะ กับแบบไม่ได้เป็นพาหะ(คือเป็นแล้วหายสนิทและแถมยังมีภูมิคุ้มกันโรคนี้อีกด้วย) คนไข้ 2 กลุ่มนี้มีบุพกรรมต่างกันอย่างไรครับ และจะต้องทำบุญอะไรที่จะไม่ให้วิบากกรรมของโรคนี้ส่งผลในชาติต่อๆไป

5.    บุพกรรมใดทำให้คุณพ่อเป็นพาหะไวรัสตับอักเสบแบบที่ภายหลังกลายเป็นมะเร็งตับตายครับ ซึ่งเคสนี้มีบุพกรรมต่างกับผู้ที่เป็นพาหะเหมือนกัน แต่สุดท้ายไม่เป็นมะเร็งตับเลยตลอดชีวิตอย่างไรครับ

6.    บุพกรรมใดทำให้คุณพ่อเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี และทำไมช่วงสุดท้ายของชีวิตผู้ป่วยแทบทุกคน ต้องเป็นหลายๆโรค ขึ้นมาอย่างพร้อมๆกันในทีเดียวครับ 

7.    บุพกรรมใดทำให้คุณพ่อมีชีวิตในวัยต้นที่ลำบากมาก และพี่น้องไม่รักท่าน แต่บั้นปลายชีวิตคุณพ่อกลับสุขสบายและมีโอกาสสร้างบุญได้มาก และลูกจะได้รับอานิสงส์อย่างไรที่พาพ่อแม่มาวัดทุกอาทิตย์ครับ

8.    ทำไมขณะคุณพ่อเข้าห้องICU ท่านลืมตาตลอดเวลา ท่านมีคตินิมิตก่อนตายเป็นอย่างไร ตายแล้วมาที่เจดีย์หรือไม่ ตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหน ได้รับบุญที่อุทิศไหมครับ ลูกอยากSMS ถึงท่านว่าลูกรักและคิดถึงท่านมาก ท่านมีอะไรฝากบอกแม่และลูกไหมครับ

9.    บุพกรรมใดทำให้คุณแม่แท้งง่าย และมีเลือดออกมากตอนตั้งท้องตัวลูกครับ ลูกและคุณแม่มีบุพกรรมร่วมกันมาอย่างไร   ,บุพกรรมใดทำให้คุณแม่เป็นโรคเริม และโรคข้อเข่าอักเสบ ต้องแก้ไขอย่างไรครับ

10.    บุพกรรมใดที่ทำให้เวลาลูกจะได้อะไรหรือประสบความสำเร็จอะไร ลูกต้องบากบั่นทำในสิ่งนั้นด้วยตนเอง  ด้วยความยากลำบากอย่างมาก ซึ่งผิดกับหลายคนที่ได้มาง่ายๆ และมีคนช่วย   ลูกต้องแก้ไขอย่างไรครับ

11.    ตลอดเวลาที่ลูกเป็นแพทย์ ลูกตั้งใจรักษาผู้ป่วยอย่างดีที่สุด แต่บางครั้งเกิดภาวะแทรกซ้อนโดยไม่ตั้งใจ หรือพยายามวินิจฉัยโรคแต่วินิจฉัยไม่ได้ ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตไปก่อน  ลูกจะมีวิบากอย่างไร  และลูกควรทำอาชีพหมออย่างไรเพื่อไม่ให้ตัวเองติดวิบาก และทำอาชีพนี้อย่างถูกหลักวิชชาครับ

12.    คุณแม่ และตัวลูกสร้างบารมีกับหมู่คณะมาในรูปแบบใด ทำไมชาตินี้ลูกถึงเป็นหมอ ลูกมีหน้าที่อะไรในกองทัพธรรม ลูกมีผังบวชตลอดชีวิตหนาแน่นมากน้อยแค่ไหน เคยเข้าถึงพระธรรมกายไหมครับ และได้ลงมาสร้างบารมีกับหมู่คณะกี่รอบ
 

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.    “พระอาจารย์” เป็นโรค “ปอดติดเชื้อ” มรณภาพอย่างกะทันหัน   เพราะ....เกิดจากกรรมปาณาติบาตหลายอย่างรวมกันโดยเฉพาะพุทธันดรที่ผ่านมา   ได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช     ได้ออกทำการรบฆ่าข้าศึกตายเป็นจำนวนมาก     ได้ทรมานข้าศึกโดยจับหัวข้าศึกกดลงไปในน้ำจนสำลักน้ำตาย      วิบากกรรมดังกล่าวมาส่งผล
 
 
  • บุญบวชก็ช่วยให้ยืดอายุไขยยาวขึ้นมาหน่อย   เพราะบวชตอนอายุมาก   ทำให้วิบากกรรมมาตัดรอนได้ง่าย    
  • มรณภาพแล้วก็กลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ “เขตนอก”   เพราะบุญบวชยังไม่พอถึงจุดที่จะอยู่เขตใน    
  • พุทธันดรที่ผ่านมาก็ตัดสินใจมาบวชช้าเหมือนชาตินี้จ่ะ !
 
2.    คุณพ่อเป็น “โรคประสาท” ต้องถูกช๊อตด้วยไฟฟ้า   เพราะ...กรรมในอดีตได้ดื่มสุรา    เมื่อเมามาแล้วก็ทุบซ้อมคนในบ้านบ้าง ผู้อื่นบ้าง    จนทำให้เขาบาดเจ็บ   มาส่งผลให้เป็นโรคประสาท  , ส่วนกรรมทุบซ้อมผู้อื่น   ก็ทำให้ถูกซ๊อตด้วยไฟฟ้า     ซึ่งเป็นวิธีการรักษาในยุคนี้   ทำให้อาการดีขึ้นสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้
 
 
  • เป็น “วัณโรค” และหายได้   เพราะ....กรรมในอดีตได้ดื่มเหล้า  ,  สูบยาเส้น  ,  ฆ่าสัตว์ทำกับแกล้ม  ,  ทรมานสัตว์ที่เลี้ยงไว้เพื่อฆ่า   โดยให้มันตากแดดฝน     วิบากกรรมดังกล่าวมารวมส่งผล แต่มีความรู้แบบหมอพื้นบ้าน   จึงช่วยเหลือเรื่องหยูกยารักษาเพื่อนบ้านมาตัดรอนวิบากกรรมให้หายได้จ่ะ !

  • ท่านปวด “ไหล่ซ้าย” มาก     แต่หายได้ด้วย “ไสยเวทย์” เพราะ...กรรมในชาติที่ขี้เมาแล้วชอบชกต่อยผู้อื่นมาส่งผล   ไม่ได้ “โดนของ” จ่ะ !     
  • แต่หายได้   เพราะบุญที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่เจ็บป่วยไข้ด้วยหยูกยา  ,  ไม่ได้หายด้วย “ไสยเวทย์” จ่ะ !
 
3.    คนไทยที่เป็นพาหะ “ไวรัสตับอักเสบบี”  จำนวน  10% เพราะ....กรรมในอดีต   ทรมานสัตว์กับดื่มสุราหรือเลี้ยงสุราผู้อื่นเป็นหลัก  คือ  ผิดศีลข้อที่  1  กับข้อที่  5  มารวมส่งผลจ่ะ !
 
 
  • คนที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี   เพราะ....กรรมดังกล่าวที่มีมากกว่าผู้ที่ไม่ได้เป็นพาหะจ่ะ !
  • คนที่ไม่ได้เป็นพาหะ  คือ  เป็นแล้วหายสนิทแถมมีภูมิคุ้มกันโรคด้วย   เพราะ...มีวิบากกรรมดังกล่าวบางกว่าผู้ที่เป็นพาหะจ่ะ !
 
  • ต้องทำบุญทุกบุญ   ทั้งทาน  ,  ศีล  ,  ภาวนา   โดยเฉพาะ   ยารักษาโรคและปล่อยสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่บ่อย ๆ     แล้วอธิษฐานจิตให้พ้นวิบากกรรมจ่ะ !
 
4.    คุณพ่อเป็นพาหะไวรัสอักเสบบี   และภายหลังเป็น “มะเร็งตับ” ตาย   เพราะ....กรรมปาณาติบาตที่ฆ่าสัตว์ทำอาหาร , ทำกับแกล้ม  ,  ฆ่าขาย   และเลี้ยงสัตว์ที่เอาไว้ฆ่าขาย   และขายให้เขาฆ่า     โดยปล่อยให้มันตากแดดตากฝนไม่ดูแลอย่างดี     รวมกับกรรมดื่มสุราดังกล่าวมารวมส่งผลจ่ะ !
  • ส่วนผู้ที่เป็นพาหะแต่ไม่เป็นมะเร็งตับ   เพราะกรรมปาณาติบาตของเขาหย่อนกว่าของคุณพ่อจ่ะ !
 
5.    คุณพ่อเป็น “โรคนิ่วในถุงน้ำดี”   เพราะ....กรรม “เก็บความโกรธไว้ในใจ” ความขุ่นมัวคั่งค้างได้มาส่งผลจ่ะ !
  • ช่วงสุดท้ายของชีวิตผู้ป่วยแทบทุกคนต้องเป็นหลาย ๆ โรคขึ้นมาอย่างพร้อมกันทีเดียว   เพราะ  --- เมื่อผู้ป่วยจะหมดอายุไขยสังขารใกล้จะแตกดับ    ก็ทำให้ระบบทุกอย่างในร่างกายรวน    ทำให้โรคที่อยู่ในกายก็ได้ช่องแทรกจ่ะ !
 
6.    คุณพ่อมีชีวิตวัยต้นลำบากมาก  ,  พี่น้องไม่รัก     แต่บั้นปลายชีวิตกลับสุขสบายและมีโอกาสได้สร้างบุญมาก   เพราะ....กรรม “ตระหนี่” ในช่วงต้นของชีวิตในอดีต   มาส่งผลให้ชีวิตลำบากในวัยต้น  ,  อีกทั้งไม่ได้ประกอบจิตเมตตาสงเคราะห์ญาติและไม่ทำทานโดยเคารพ     จึงทำให้พี่น้องไม่รักท่าน  ,  แต่บุญทำทานในชาติอื่นก็มาตามส่งผล   แต่ส่งผลช้า   เพราะมาปีติยินดีในการทำบุญในภายหลังจ่ะ !

  • ลูกจะได้รับอานิสงส์จากการพาพ่อแม่มาวัดทุกวันอาทิตย์โดยย่อ  คือ  ชาติต่อไปก็จะได้มีบุพการีที่ดี  ,  เป็นสัมมาทิฐิ  ,  เป็นครอบครัวบัณฑิตนักปราชญ์  ,  ครอบครัวกัลยาณมิตร   และจะสนับสนุนการเข้าวัดสร้างบารมีของลูก     อีกทั้งจะปิดอบายไปสวรรค์จ่ะ !
 
7.    คุณพ่อเข้าห้อง  ICU  ลืมตาตลอดเวลา   เพราะ....โรคภัยไข้เจ็บทำให้ประสาทตาค้าง
  • ก่อนตายมีคตินิมิตใสสว่าง   นึกถึงบุญได้  ,  ใจผ่องใส     แต่ไม่ได้มาที่เจดีย์   เพราะไม่ได้เจริญภาวนาเต็มที่
 
  • ตายแล้ว   ก็ไปแบบหลับแล้วตื่นขึ้นกลางวิมานทองของชั้น “ดาวดึงส์  เฟส  3”     ด้วยบุญที่ทำให้ท่านและให้ท่านทำในช่วงท้ายของชีวิตจ่ะ !    
  • ท่านได้รับบุญที่อุทิศไปให้     จึงทำให้มีสภาพที่ดีขึ้นในทุกด้านจ่ะ !   
  • ท่านปลื้มใจมากและรู้ว่าถ้าไม่ได้ลูกเป็นกัลยาณมิตรให้   ท่านก็คงไม่มีโอกาสมาอยู่ตรงนี้     จึงซาบซึ้งในตัวลูกมากจ่ะ !
 
8.    คุณแม่ “แท้งง่าย” และมีเลือดออกมากตอนตั้งท้องตัวลูก เพราะ...มีเศษกรรมที่ช่วยพาเพื่อนไป “ทำแท้ง” มาส่งผลจ่ะ !      
  • ลูกก็มีเศษกรรม “แนะนำ” ให้คนไปทำแท้งติดมา     แต่มีบุญช่วยรักษาผู้อื่นให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บมาช่วยเอาไว้  ,  แต่ไม่ได้มี     บุพกรรมร่วมกัน     แต่มีกรรมคล้ายกันจ่ะ !
 
  • คุณแม่เป็น “โรคเริม” และ “โรคข้อเข่าอักเสบ”   เพราะ....กรรมในอดีต   มีวจีกรรมที่พูดทำให้เขาเสียหายเจ็บแสบ  ,  มารวมกับกรรมแกล้งทรมานสัตว์   โดยเอาน้ำร้อนราดไล่สุนัขที่มาเพ่นพ่านแถวใกล้ ๆ ที่ตนเองทำอาหารในอดีต   มาส่งผลให้เป็น “โรคเริม”  ,  ส่วน “ข้อเข่าอักเสบ” นั้น   ก็เกิดจากกรรมใช้แรงงานทาสหนัก   เศษกรรมนี้มาส่งผลจ่ะ !    

  • ทำให้ชาตินี้ก็ต้องมาทำงานหนักจนข้อเข่าอักเสบจ่ะ !
 
  • จะแก้ไข   ก็ต้องทำบุญทุกบุญ  ทั้งทาน  ,  ศีล  ,  ภาวนา  แล้วอธิษฐานจิต   อุทิศบุญกุศลไปให้ผู้ที่เราเคยไปเบียดเบียนเขาเอาไว้บ่อย ๆ จ่ะ !
 
9.    เวลาลูกจะได้อะไรหรือสำเร็จอะไร   จะต้อง “บากบั่น” ทำในสิ่งนั้นด้วยตนเอง   ด้วยความยากลำบากมาก   เพราะ....ชาติก่อนก่อนจะมาสร้างบารมีกับหมู่คณะ   มักจะเชื่อเรื่องที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตนั้นต้อง “หนึ่งสมองสองมือ” เท่านั้น และไม่เชื่อเรื่องผลแห่งบุญ   ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตในภพชาติต่อไป  ,  ดังนั้นจึงไม่ค่อยได้ทำบุญในช่วงนั้นจ่ะ !

  • จะแก้ไข   ชาตินี้ก็ต้องสั่งสมบุญทุกบุญ  ทั้งทาน  ,  ศีล  , ภาวนา  ให้มาก ๆ     แล้วอธิษฐานจิตให้ดีในทุกเรื่องจ่ะ !
 
10.    ตลอดเวลาที่ลูกเป็นแพทย์   ลูกพยายามรักษาผู้ป่วยอย่างดีที่สุด     แต่บางครั้งเกิดภาวะแทรกซ้อนโดยไม่ตั้งใจ  ,  หรือพยายามวินิจฉัยโรค   แต่วินิจฉัยไม่ได้   ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตไปก่อนนั้น    ลูกก็ไม่ได้มี “วิบากกรรมอะไร”   เพราะไม่ได้มีเจตนาจ่ะ !
 
 
  • ลูกก็ต้องพยายามทำหน้าที่ของแพทย์ให้สมบูรณ์   ด้วยการรักษาทั้งกายและใจของผู้ป่วยด้วย  คือ  ทางกายลูกก็รักษาไปตามหลักวิชาของแพทย์  , 
  • ส่วนทางใจก็ให้แนะนำผู้ป่วยให้รู้ว่าโรคทั้งหลายล้วนเกิดจากวิบากกรรมทั้งสิ้น  ,  และคนเรามีความเจ็บ, ตายเป็นธรรมดา  , 
  • ดังนั้นก็ให้แนะนำผู้ป่วยให้รักษาใจด้วยการระลึกนึกถึงบุญที่ได้ทำมา     แล้วสวดมนตร์เจริญสมาธิภาวนา  ,   ถ้าลูกทำได้อย่างนี้   ลูกก็จะได้ชื่อว่าเป็นหมอพระโพธิสัตว์จ่ะ !   
  • ซึ่งก็จะมีอานิสงส์ใหญ่ได้ทั้งความแข็งแรง  ,  อายุยืนยาว  ,  ได้ปัญญาบารมี  ,  ได้มีดวงตาเห็นธรรม   และเป็นที่รักของมนุษย์เทวดา   เป็นต้นจ่ะ !
 
11.    คุณแม่สร้างบารมีกับหมู่คณะมา   โดยเป็น “กองเสบียง”  
  • ส่วนตัวลูกเมื่อพุทธันดรที่ผ่านมา   ได้เป็น “หมอทหารหรือเสนารักษ์” ของพระราชาองค์ที่ออกบวช  ,  ภายหลังก็ได้ออกบวชตามพระราชาจนตลอดชีวิต  ,  บวชแล้วทำหน้าที่ “เผยแผ่” ช่วยดูแลเพื่อนสหธรรมิกยามเจ็บป่วย  ,  มีผลการปฏิบัติธรรมได้เข้าถึงพระภายใน   กลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษได้อย่างสบายจ่ะ !    
  • ได้ลงมาสร้างบารมีกับหมู่คณะ  2  รอบจ่ะ !
 
  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว     ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต     ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม