แนะรับมือน้ำท่วม อย่างน่ารัก เข้าใจง่าย

 

รู้สู้ แอนิเมชั่น แนะรับมือน้ำท่วม อย่างน่ารัก เข้าใจง่าย

 

 

 

ข่าวน้ำท่วมหลัก

 

 

        มารู้จักน้ำท่วมให้มากขึ้นถ้าเราลองสังเกตรอบตัวดูเราจะพบว่าในช่วงวิกฤตน้ำท่วมมีคนมากมายหลายประเภทบางคนติดตามข่าวเกาะติดสถานการณ์ตลอดแต่โทรทัศน์ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลที่อยากรู้หันไปหาข้อมูลที่อยากรู้ทางอินเตอร์เน็ตก็มีล้นซะจนเลือกไม่ถูกแค่ค้นหาว่าน้ำท่วมในกูเกิลก็จะเจอผลการค้นหาสามสิบหกล้านรายการทีนี้ยังที่ไม่ทันน้ำจะท่วมก็เจอข้อมูลท่วมซะก่อน

 

 

        บางคนทำทุกอย่างที่มีแชร์ในเฟสบุ๊ค ตุนข้าวของเอารถไปจอดในทางด่วนซื้อเรือตื่นตูมไปกับข่าวทุกข้อมูลแต่บางคนก็เฉยๆดูเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้นเลยทั้งหมดนี้ก็เกิดขึ้นเพราะเราไม่รู้ว่าตกลงมันจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

 

        ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมน้ำท่วมปีนี้ถึงหนักหนากว่าที่ผ่านมาน้ำมาจากไหนน้ำมาจากฝนที่ตกตามธรรมชาติทุกปีประเทศไทยเป็นประเทศลักษณะลาดอียงดังนั้นฝนที่ตกลงมาท่วมขังบนพื้นดินจะไหลลงภาคเหนือไปลงอ่าวไทยตามธรรมชาติ

 

 

        สมัยก่อนน้ำฝนที่ตกลงมาสู่พื้นดินจะไหลไปสู่วิถีดังกล่าวโดยมีผืนป่าเปรียบเสมือนเขื่อนธรรมชาติช่วยซึมซับชะลอความเร็วของน้ำเวลาผ่านไปเทคโนโลยีทำให้เรามั่นใจว่าเราจะควบคุมน้ำได้เราจึงสร้างเขื่อนเพื่อควบคุมการใช้น้ำวางแผนกักเก็บปล่อยมันตามที่เราต้องการป่าที่เปรียบเสมือนผืนที่ซับน้ำทยอยเป็นหมู่บ้านจัดสรร นิคมอุตสาหกรรม และอื่นๆจากที่วิถีของน้ำขึ้นอยู่กับธรรมชาติกับกลายมาควบคุมขึ้นอยู่กับมนุษย์แทนและเมื่อมีการควบคุมจึงมีความเป็นไปได้ที่จะเสียการควบคุม

 

 

        ปี 2554ปริมาณน้ำฝนตั้งแต่ต้นปีไม่แตกต่างจากปีก่อนๆมากนักแต่ด้วยที่เหตุฝนตกอย่างหนาแน่นตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมาจึงทำให้ปริมาณน้ำมีมากกว่าปกติจากทุกปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้ปีนี้เรามีมวลน้ำขนาดใหญ่ประมาณ 10,000ล้านลูกบาศก์เมตรค้างอยู่บนภาคพื้นดิน

 

 

        หากเทียบน้ำหนักน้ำทั้งหมดนี้ก็เปรียบได้กับปลาวาฬสีน้ำเงินประมาณ 50 ล้านตัวเมื่อเหล่าปลาวาฬอยู่ผิดที่จึงเป็นอุปสรรคต่อความเป็นอยู่ของประชาชนบ้างก็มีปลาวาฬในบ้านคนในบ้านก็ไปอาศัยอยู่บนหลังคาบ้างก็ทำลายเส้นทางจราจร

 

 

        ดังนั้นการแก้ปัญหาคือเราต้องพาปลาวาฬกลับสู่ทะเลอ่าวไทยให้ได้เร็วที่สุดเรามีเส้นทางการระบายปลาวาฬอยู่สามทาง คือ แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งทำให้เราพาปลาวาฬกลับสู่ทะเลได้เพียงวันละ หนึ่งล้านตัว นั่นหมายถึงเราต้องใช้เวลา 50 วันจึงจะพาปลาวาฬกลับสู่ทะเลได้หมด

 

 

        หลายคนมีคำถามว่าถ้าปล่อยน้ำท่วมกรุงเทพจะช่วยระบายน้ำได้ดีขึ้นไหมด้วยพื้นที่ 1600 ตารางกิโลเมตรของกรุงเทพ สมมุติปล่อยให้น้ำท่วม 1 เมตรทุกพื้นที่คือท่วมเท่าระดับหน้าอกเราจะแบ่งเบาปลาวาฬได้ 8 ล้านตัว แต่การระบายน้ำยังเท่าเดิมและเรายังต้องใช้เวลาอีก 42 วัน ในการระบายปลาวาฬ 42 ล้านตัวที่เหลือ

 

 

        แล้วเราจะทำยังไงดีปัญหานี้กำลังถูกแก้ยังไง นโยบายที่รัฐบาลกำลังดำเนินอยู่คือ ปกป้องคันกั้นน้ำให้ดีที่สุดระหว่างที่รอให้น้ำระบายออกให้หมดไม่ให้น้ำเข้ากรุงเทพซึ่งเป็นศูนย์กลางแก้ไขวิกฤตน้ำท่วมดังนั้นไม่ว่าวิธีการใดก็ตามประเทศไทยจะอยู่กับสถานการณ์น้ำท่วมอีก 1 เดือนเป็นอย่างน้อย

 

 

        อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือแรงดันน้ำนึกภาพปลาวาฬที่อยากลงทะเลเต็มแก่จึงออกแรงดันคันกั้นน้ำที่ขวางกั้นอยู่เมื่อไหร่ที่คันกั้นน้ำไม่สามารถทนแรงดันของปลาวาฬได้ปลาวาฬก็จะเข้ามาว่ายเล่นในกรุงเทพคำถามคือคันกั้นน้ำจะต้านทานได้ถึงเมื่อไหร่คำตอบจากนักวิชาการมีหลากหลายซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการประมาณการทั้งสิ้นนั่นแปลว่าตราบใดที่ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน

 

 

        เรื่องความเสี่ยงคนกรุงเทพก็ยังมีความเป็นไปได้เช่นกันที่จะตกเป็นผู้ประสบภัยในเมื่อเราคาดหวังเรื่องแก้ไขคำตอบไม่ได้การเสพข้อมูลจำนวนมากจะยิ่งทำให้เราตื่นตูมโดยเปล่าประโยชน์ดังนั้นสิ่งที่เราจะทำให้ดีกว่าในตอนนี้คือตั้งสติและตั้งคำถามว่าเราจะเตรียมตัวอย่างไรให้เราไม่ตกเป็นผู้ประสบ

ภัยแม้จะอยู่ในภาวะน้ำท่วม

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

กลุ่มอาสาสมัคร "รู้สู้ flood" ทำ Animate Infographic ที่อธิบายเรื่องน้ำท่วมในประเทศไทย และทำความเข้าใจแก่สังคมได้อย่างน่ารักและเข้าใจได้ง่าย