บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สำรวจคนกรุงเทพฯ กับการใช้บริการหมอดู
ในช่วงระหว่างวันที่ 1-16 มิ.ย. โดยสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 1,407 คน
โดยกระจายกลุ่มตัวอย่างตามเพศ อายุและอาชีพ ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้พฤติกรรมในการใช้บริการหมอดูมีความแตกต่างกัน คาดว่าในปี 2549 คนกรุงเทพฯ เสียค่าใช้จ่ายในการดูหมอและธุรกิจเกี่ยวเนื่องประมาณ
2,400 ล้านบาท โดยแยกเป็นเม็ดเงินสะพัดในธุรกิจดูหมอ 1,700 ล้านบาท
และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอีก 700 ล้านบาท
ซึ่งยังแยกเป็นเม็ดเงินในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการทำบุญ สะเดาะเคราะห์ ประมาณ
500 ล้านบาท และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ อีก 200 ล้านบาท เช่น ธุรกิจหนังสือ
ตำราดูหมอ อุปกรณ์ต่างๆ ทัวร์ไหว้พระ อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจยังพบว่าคนกรุงเทพฯ
ที่ใช้บริการหมอดูนั้น ร้อยละ 14.6 ระบุว่าถูกหมอดูหลอก ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจ
โดยเฉพาะการเรียกเงินเป็นจำนวนสูงเพื่อทำพิธีสะเดาะเคราะห์
ผลการสำรวจยังพบว่า กลุ่มอาชีพที่ใช้บริการหมอดูมากที่สุดคือ กลุ่มอาชีพค้าขาย และกิจการส่วนตัว โดยมีความถี่ในการใช้บริการเฉลี่ย 6.62 ครั้งต่อปี เสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 568.58 บาทต่อครั้ง ปัญหายอดนิยมที่ต้องไปปรึกษาหมอดูคือ ปัญหาด้านการทำงาน ปัญหาด้านการเงิน และปัญหาครอบครัว นอกจากนี้กลุ่มนักเรียน นักศึกษา หรือกลุ่มวัยรุ่น ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่นิยมดูหมอ โดยมีความถี่ในการใช้บริการ 5.22 ครั้งต่อปี เสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 208.20 บาทต่อครั้ง และยังพบว่ากลุ่มนักเรียน นักศึกษา เป็นกลุ่มที่นิยมใช้บริการหมอดูทางอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ ถือว่ากลุ่มนี้ใช้เทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่ในการใช้บริการดูหมอ
สำหรับประเภทของหมอดูยอมนิยม 5 อันดับแรก คือ วัน เดือน ปีเกิด ลายมือ กราฟชีวิต ไพ่ทาโร่ และคนทรง กลุ่มตัวอย่างที่นิยมไพ่ทาโร่ ส่วนใหญ่จะอายุน้อยกว่า 30 ปี กลุ่มตัวอย่างที่นิยมหมอดูประเภทคนทรงส่วนใหญ่จะอายุมากกว่า 46 ปี กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียน นักศึกษา นิยมหมอดูประเภทไพ่ทาโร่และกราฟชีวิต