คนที่ทำมาหากินไม่ขึ้นเกิดจากกรรมใด


[ 23 ก.พ. 2555 ] - [ 18312 ] LINE it!

หลวงพ่อตอบปัญหา
 
 
 

คำถาม: ผู้ที่ทำมาหากินไม่ขึ้น นอกจากจะเกิดจากกรรมในปัจจุบันชาติแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่กรรมในอดีตชาติส่งผลหนุนมาด้วย?

 
คำตอบ: เป็นไปได้ แต่ก่อนอื่น อย่าเพิ่งไปห่วงว่ากรรมในอดีตชาติเป็นอย่างไร เพราะยังไงก็ต้องทำมาหากิน ไม่ใช่คิดว่า เรามันทำอะไรไม่ค่อยมีโชค ชาติที่แล้วเราคงทำไม่ดีไว้ เพราะฉะนั้นพ่อนอนดีกว่า ว่าแล้ววันๆ พ่อก็ไม่ทำอะไรเลย รอให้ชาวบ้านเขาแจกให้กิน อย่างนี้มันก็ไม่ใช่วิสัยของคนนะ
 
ถ้าทำมาหากินไม่ค่อยขึ้น ก็ยิ่งต้องขยันให้มาก
ถ้าทำมาหากินไม่ค่อยขึ้น ก็ยิ่งต้องขยันให้มาก
 
        เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ถ้าทำมาหากินไม่ค่อยขึ้น ก็ยิ่งต้องขยันให้มากเป็น 5 เท่า 10 เท่า แล้วก็มีความสังเกต มีความรอบคอบให้มากยิ่งขึ้น ส่วนในอดีตชาติจะทำมายังไง ถ้าเราไม่เข้าถึงธรรมะจริงๆ เราก็ไม่ทราบ
 
        เพราะฉะนั้นให้ขยันทำมาหากินเรื่อยไป แล้วระหว่างที่ทำมาหากินก็ตั้งใจให้ทานไป ทำทานไว้ให้เป็นบุญ เป็นทุนของเรา แม้จะยังไม่ออกดอกออกผลในชาตินี้ ก็ยังชื่นอกชื่นใจ เหมือนได้ร่มเงา อย่ารอให้รวยเสียก่อนค่อยทำบุญ มันจะสายเกินไป ทำไปเถอะลูก
 

คำถาม: ทำไมคนส่วนใหญ่จึงชอบทำผิดทั้งๆ ที่รู้คะ?

 
คำตอบ: การทำผิดทั้งๆ รู้มีอยู่ 3 ลักษณะด้วยกัน คือ
 
        1. ทำผิดเพราะติดนิสัยมักง่ายมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งความผิดประเภทนี้ มักเป็นความผิดเล็กน้อย ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง เช่น เดินลัดสนาม ไม่ข้ามถนนตรงทางม้าลาย ทิ้งขยะไม่เลือกที่ ฯลฯ
 
        2. ทำผิดเพราะหลงคิดว่า คนเราตายแล้วสูญ ชาติหน้าไม่มี เขามีความคิดว่า ความดีความชั่วที่ทำไว้ มีผลเฉพาะชาตินี้เท่านั้นเอง ฉะนั้นถ้าเขามีอำนาจหรือสามารถหลีกเลี่ยงได้ กฎหมายจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน เขาก็จะไม่ถูกลงโทษ และไม่มีผลอะไร
 
คนบางคนก็ชอบทำผิดทั้งๆ ที่รู้ว่าผิด
คนบางคนก็ชอบทำผิดทั้งๆ ที่รู้ว่าผิด
 
        คนทำผิดลักษณะนี้ถือว่าเป็นความผิดเนื่องจากขาด หิริโอตตัปปะ คือ ขาดความละอาย ขาดความเกรงกลัวต่อผลของบาป คนพวกนี้เขาจะรู้สึกว่าตัวเองเก่ง เมื่อสามารถคดโกงเอาเปรียบคนอื่นได้ คนบางคนของในบ้านทั้งหมด ทั้งของกินของใช้ ล้วนแต่เป็นของที่โกงเขามาทั้งนั้น
 
        3. ทำผิดเพราะขาดกำลังใจที่จำทำความดี ความผิดประเภทนี้ทำทั้งๆ ที่รู้ว่าผิดกฎหมายและรู้ด้วยว่าบาป แต่ก็ทำ เพราะเขาไม่มีกำลังใจที่จะตัดใจไม่ให้ทำชั่ว และขาดกำลังใจที่จะทำความดี ปล่อยให้ความอยากมีอำนาจเหนือจิตใจ การแก้ไขคนทำผิดทั้งรู้ จะต้องปูพื้นฐานให้ตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กๆ โดย
 
        1). พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ต้องไม่ปล่อยปละละเลยเด็ก ต้องฝึกเด็กในเรื่องระเบียบวินัยตั้งแต่ยังเล็ก โดยถือว่า วินัยต้องเริ่มที่บ้าน แล้วต่อเติมที่โรงเรียน
 
        2). อบรมให้เด็กรู้บุญรู้บาป เพื่อว่าต่อไปในภายภาคหน้า เมื่อมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น จะได้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง เพราะมีพื้นฐานใจที่ละอายต่อความชั่ว กลัวบาป ไม่กล้าทำความชั่วความผิด ทำให้เด็กสามารถเตือนตนเองได้ บังคับตัวเองได้
 
       3). ฝึกให้ไหว้พระสวดมนต์ ให้นั่งสมาธิก่อนนอนทุกคืน จะได้มีกำลังใจละเว้นการทำความชั่วทุกรูปแบบ และมีกำลังใจพร้อมที่จะทำความดีทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตนเอง
 
คำถาม: หลวงพ่อครับ ทำไมคนที่เล่นการพนัน ถึงแม้จะได้เงินมากแต่ไม่เคยรวยจริงๆ สักที?
 
คำตอบ: คนเล่นการพนันไม่เคยรวยจริง เพราะว่า ก่อนที่เขาจะได้เงินจากการพนัน เขาได้ผลาญสิ่งที่มีค่าเกินกว่าที่เงินทั้งโลกจะซื้อได้ไปแล้ว คือ
 
        1. ผลาญความเป็นคนของตัวเอง ความเป็นคนจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความซื่อตรง ทันทีที่เราเล่นการพนัน ความมีเหลี่ยมมีคูมันจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ความซื่อสัตย์สุจริตจะหายไป เพราะเมื่อมีการพนันเกิดขึ้นที่ไหน การคดโกงจะเกิดขึ้นที่นั่น ถ้าครั้งใดในวงพนันไม่มีการโกงก็ขอให้เข้าใจว่า ไม่ใช่ว่าไม่คิดโกง แต่เป็นเพราะยังไม่มีโอกาสจะโกงต่างหาก
 
        2. ผลาญปัญญา นักพนันเมื่อตอนที่เงินขาดมือ เขาจะมองเงินเหมือนเทพเจ้าที่สามารถบันดาลอะไรๆ ให้เขาได้ เขาลืมไปว่ายังมีอีกหลายๆ สิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ ครั้นพอเขาได้เงินมาแล้ว เนื่องจากเขารู้ดีว่าเงินเหล่านี้คงจะอยู่กับเขาไม่นาน อาจจะเสียการพนันหมดเนื้อหมดตัวไปเมื่อไรก็ไม่รู้
 
        เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเสียไปเขาจึงต้องรีบกินรีบใช้ รีบจ่ายเสียก่อนที่มันจะไปอยู่กับคนอื่น ของบางอย่างไม่ควรใช้ก็ใช้ ไม่ควรจ่ายก็จ่าย กลายเป็นคนฟุ่มเฟือย ไม่รู้จักค่าของเงินตามความเป็นจริง ตอนนั้นเขาเห็นเงินเหมือนเศษกระดาษ ครั้นเงินหมดเขาก็หิวเงินอีกต่อไป กลายเป็นว่าเขาต้องหิวเงินทั้งชาติ ปัญญาที่มีอยู่แทนที่จะใช้ให้เป็นประโยชน์ก็เอาไปคิดคดโกงเขา
 
        3. ผลาญเวลา นักพนันเมื่อลงมือเล่น เขาจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง แม้เวลาเขาก็ลืม ถึงคราวเสียก็จะยิ่งทุ่มเท หาทางเอากลับคืนมาให้ได้ ถ้ายังไม่ได้ก็ไม่เลิก หรือกว่าจะเลิกก็ต้องรอให้เงินหมดเสียก่อน ถึงได้ก็ไม่รู้จักพอ วันเวลาก็ผ่านไปๆ เรื่อยๆ เสียงานเสียการอย่างอื่นโดยเขาไม่รู้ตัว
 
        4. ผลาญสุขภาพ นักพนันเมื่อลงมือเล่นแล้ว ก็มักจะต้องอดตาหลับขับตานอน กลั้นอุจจาระปัสสาวะ กินอาหารไม่เป็นเวลาในที่สุดสุขภาพก็เสื่อม โรคภัยไข้เจ็บก็เบียดเบียน
 
        รวมความแล้ว การพนันผลาญทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ความเป็นคน ถึงได้เงินมา เงินนั้นไม่อาจจะเก็บรักษาไว้ให้เกิดประโยชน์ได้นานเขาจึงไม่รวยจริงสักที หาความมั่นคงในชีวิตไม่ได้
 
คนเล่นการพนันไม่เคยรวยจริง
คนเล่นการพนันไม่เคยรวยจริง
 
        การพนันแม้เล่นกันสนุกๆ ไม่ถึงกับเสียทรัพย์ ก็ไม่สมควรเล่น เพราะถึงอย่างไรก็เสียเวลาเปล่า และที่สำคัญคือ เพาะนิสัยให้เป็นคนชอบเสี่ยง ขาดเหตุผล กลายเป็นคนเชื่อเรื่องดวง เชื่อโชคชะตา มิหนำซ้ำยังเพาะนิสัยให้เป็นคนชอบพูดเพ้อเจ้อ เพราะต้องกระเซ้าเย้าแหย่คู่แข่งให้เขาเผลอสติ จะได้มีโอกาสเล่นชนะได้ง่ายเข้า เป็นการเพาะนิสัยให้เป็นคนที่มีเหลี่ยมมีคู และอื่นๆ อีกหลายอย่าง ขึ้นชื่อว่าการพนัน ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบไหน ล้วนเป็นที่ตั้งแห่งความเสื่อมและความประมาททั้งนั้น อย่าเล่นเลยดีที่สุด


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ธรรมะบทที่ควรนำไปสอนประชาชนเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันมากที่สุดธรรมะบทที่ควรนำไปสอนประชาชนเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันมากที่สุด

ถ้าเราถูกนินทาโดยไม่มีมูลความจริงควรทำอย่างไรถ้าเราถูกนินทาโดยไม่มีมูลความจริงควรทำอย่างไร

หลักธรรมในการแก้ปัญหาให้หมดสิ้นไปหลักธรรมในการแก้ปัญหาให้หมดสิ้นไป



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

หลวงพ่อตอบปัญหา