ผู้ที่นอนหลับยากและตื่นง่ายเกิดจากกรรมอะไร


[ 16 มี.ค. 2555 ] - [ 18293 ] LINE it!

 
หลวงพ่อตอบปัญหา
 
 
 

คำถาม: ผู้ที่นอนหลับยาก ตื่นง่ายเกิดจากกรรมอะไรครับ?

 
คำตอบ: เกิดจากกรรมหลายอย่าง พวกนอนหลับยากแต่ตื่นง่าย แสดงว่ามีความกังวลมาก โบราณเวลาท่านให้พรลูกหลานที่มาขอพร ท่านมักพูดว่า “ลูกเอ๊ย นอนหลับให้ได้เงินหมื่น นอนตื่นให้ได้เงินแสน” ถ้าหลับๆ ตื่นๆ ล่ะครับ? “หลับๆ ตื่นๆ ก็หนี้เป็นหมื่นเป็นแสนซิลูก”
 
ปัญหาของคนที่นอนหลับยาก ตื่นง่าย
ปัญหาของคนที่นอนหลับยาก ตื่นง่าย
 
        คนที่นอนไม่หลับ ก็แสดงว่ามันเครียด มันกังวล ความเครียด ความกังวลของคนนั้นเกิดได้หลายสาเหตุ อาจจะเครียด อาจจะกังวลเพราะเรื่องการทำมาหากิน บางคนไม่ใช่การทำมาหากิน แต่ว่าเครียดเรื่องลูกเรื่องหลาน เรื่องครอบครัว บางทีก็เรื่องสัพเพเหระต่างๆ
 
        แต่โดยสรุปแล้ว คนที่นอนหลับยาก ตื่นง่าย คือคนที่ใจยังไม่เป็นสมาธิ เพราะฉะนั้นลงมือฝึกสมาธิเสียตั้งแต่วันนี้ แล้วอาการเหล่านั้นจะหายไปเป็นปลิดทิ้ง
 

คำถาม: ทำอย่างไร จึงจะสามารถโน้มน้าวจิตใจให้คนสละเวลาในชีวิตมาช่วยงานวัดได้ครับ? (พระเรียนถามมา)

 
คำตอบ: วิธีที่ดีที่สุด คือ เรา ซึ่งเป็นพระภิกษุจะต้องมีศรัทธาตั้งมั่นในพระพุทธศาสนา ชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพัน หรือใช้สำนวนว่า “เอาหัววางเขียงให้ได้ก่อน” ประพฤติปฏิบัติตนให้เขาเห็น แล้วมั่นใจว่าหลวงพ่อของเขา
 
        1) หัวเด็ดตีนขาดไม่สึกแน่
 
        2) หัวเด็ดตีนขาด ไม่ยอมทำอะไรที่ผิดวินัย คือเป็นต้นแบบให้เขาได้
 
        3) ตั้งใจประพฤติอยู่ในพระธรรมวินัย หวังจะไปพระนิพพานอย่างเดียว
 
        เมื่อชาวบ้านเขาเห็นเราเป็นแบบอย่างแล้ว เขาจะทำตาม แต่ถ้าตัวเราเองก็ยังสงสัยตัวเองว่า จะอยู่หรือจะสึก จะสึกหรือจะอยู่ นั่งถามตัวเองอย่างนี้ แล้วปล่อยวันคืนให้ล่วงไป เป็นเดือน เป็นปีละก็ไม่มีใครเขาศรัทธามาอยู่ด้วยหรอก
 
ศรัทธาของชาวบ้านที่ช่วยงานพระศาสนา
ศรัทธาของชาวบ้านที่ช่วยงานพระศาสนา
 
        เมื่อวันที่ผมบวช วันที่ 19 ธันวาคม พุทธศักราช 2514 เช้าวันนั้น ตอนโกนผม ทันทีที่ผมปอยแรกตกไปที่พื้น ผมก็หยิบขึ้นมาแล้วก็อธิษฐานว่า “ถ้าเส้นผมปอยนี้ไม่กลับมาติดบนหัวอีก ชาตินี้ไม่สึก” แล้วตั้งแต่นั้นมา ผมไม่เคยนึกถึงเรื่องสึก นึกแต่จะลุยงานพระศาสนากันเรื่อยไป
 
        ถ้าหลวงพ่อของเขาศรัทธาต่อพระศาสนาอย่างนี้ ก็ไม่ต้องห่วงว่าลูกศิษย์จะไม่ศรัทธาหลวงพ่อ แต่ว่าถ้าหลวงพ่อของเขายังเป็นประเภทว่าจะอยู่หรือจะสึก จะสึกหรือจะอยู่ ยังไม่มั่นใจตัวเอง ก็อย่าหวังเลยว่าจะได้ลูกศิษย์ที่มีศรัทธาสละชีวิตมาช่วยงานวัด ประเด็นสำคัญอยู่ตรงนี้เอง
 
คำถาม: ตัดสินใจอยู่คนเดียวเป็นโสด ไม่ยอมให้บ่วงผูกคอ แต่ยังกังวลอยู่ว่า ถ้าบังเอิญเราอายุยืน แก่หง่อมแล้วก็ยังไม่ตาย ตัวคนเดียวไม่มีพ่อแม่พี่น้องคงลำบากมาก ท่านมีคำแนะนำอย่างไร จึงจะทำให้อยู่ได้ โดยไม่เป็นที่น่าสมเพชเวทนาของคนอื่น?
 
คำตอบ: คุณโยมจำเอาไว้ มีสุภาษิตจีนอยู่บทหนึ่งบอกว่า “ถ้ามีเงินเสียอย่างเดียว ก็จ้างผีโม่แป้งได้
 
        ดูซิแม้แต่ผียังมารับจ้างโม่แป้งเลย เพราะฉะนั้นตอนนี้ขอให้คุณโยมปฏิบัติธรรมไปเรื่อยๆ ในเวลาเดียวกัน ให้เริ่มสะสมเงินทองตั้งแต่วันนี้ โดยตั้งเป้าว่า
 
        1. ต้องมีบ้านเรือนของตัวเองให้ได้ ถึงแม้จะหลังเล็กๆ ก็ยังดี ขอให้มีพอซุกหัวนอนเถอะ จะได้ไม่เป็นคนจรจัด
 
        2. มีเงินสะสมไว้ตามกำลัง เพื่อไว้ใช้ยามชรา
 
        คนเราตอนแก่มีบ้านอยู่ มีเงินใช้ถึงไม่มีลูกหลานก็จะมีคนมาดูแลเราเอง แต่ว่าเราต้องหมั่นทำบุญทำทานเอาไว้อย่างต่อเนื่องด้วยนะ ชีวิตจึงจะไม่ลุ่มๆ ดอนๆ มีแต่ความสุข มีความอบอุ่น แม้ยามเราแก่เฒ่า
 
คนเราตอนแก่มีบ้านอยู่ มีเงินใช้ถึงไม่มีลูกหลานก็จะมีคนมาดูแลเราเอง
คนเราตอนแก่มีบ้านอยู่ มีเงินใช้ถึงไม่มีลูกหลานก็จะมีคนมาดูแลเราเอง
 
        คนที่ไม่มีทรัพย์ ทั้งยังไม่ทำบุญ ก็เลยไม่มีบุญ ถึงมีลูกเป็นสิบๆ คน เขาก็ไม่มาดูแลหรอก ลูกแต่ละคนก็จะอ้างภาระความรับผิดชอบครอบครัวของตัวเอง บางทีจะได้ยินคำพูดชนิดที่ว่า “แม่ก็ดูแลตัวเองไปซิ ฉันเองก็แทบเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว” หรือบางทีลูกอยากให้อยู่ แต่แม่เองกลับไม่ชอบขี้หน้าลูกเขย ลูกสะใภ้ เกิดทนกันไม่ได้ ก็ให้มีเหตุสารพัดที่ต้องมาอยู่ตามลำพังนั่นแหละ เกิดทนกันไม่ได้ ผู้เฒ่าประเภทนี้ ก็มีให้เห็นไม่ใช่น้อยหรอกนะในยุคนี้ คนเราถ้าทำดีมาตลอดชีวิต ก็จะมีคนมาดูแลเอง บางทีคนที่อาสามาดูแลกลับไม่ใช่ลูกหลายของตัวเองเสียด้วยซ้ำไปนะ


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เราสามารถฝึกการให้อภัยได้อย่างไรเราสามารถฝึกการให้อภัยได้อย่างไร

ทำอย่างไรจึงจะอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นสุขทำอย่างไรจึงจะอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นสุข

ทำอย่างไรจึงจะเลิกนิสัยอิจฉาชาวบ้านได้ทำอย่างไรจึงจะเลิกนิสัยอิจฉาชาวบ้านได้



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

หลวงพ่อตอบปัญหา