กินยาดอง ดับอนาถ ตอนจบ


[ 24 เม.ย. 2555 ] - [ 18269 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2555
Case Study กรณีศึกษากฎแห่งกรรม
 
กินยาดอง ดับอนาถ ตอนจบ
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา 

ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ     
 
      สำหรับวิบากกรรมที่ทำให้ลูกชายคุณป้าของตัวลูก ต้องมาเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยอายุเพียง 45 ปีนั้น   ทั้งนี้ก็เป็นเพราะวิบากกรรมปาณาติบาตที่ตัวเขาได้เคยฆ่าสัตว์หลากหลายชนิดอยู่เป็นประจำในหลายภพหลายชาติก่อนๆ ได้ช่องตามมาส่งผล
 
ในยุคสมัยที่ไม่มีพระพุทธศาสนาบังเกิดขึ้น   ลูกชายคุณป้าของตัวลูกก็ได้มาเกิดเป็นกุลบุตรสุดหล่อเลือดเย็นในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง
 
ในยุคสมัยที่ไม่มีพระพุทธศาสนาบังเกิดขึ้นลูกชายคุณป้าของตัวลูกก็ได้มาเกิดเป็น
กุลบุตรสุดหล่อเลือดเย็นในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง

       เรื่องก็มีอยู่ว่าในภพชาติดังกล่าว ซึ่งเป็นยุคสมัยที่ไม่มีพระพุทธศาสนาบังเกิดขึ้น   ลูกชายคุณป้าของตัวลูกก็ได้มาเกิดเป็น “ กุลบุตรสุดหล่อเลือดเย็น ” อยู่ในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง   ซึ่งครอบครัวของตัวเขาจะประกอบอาชีพเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร
 
ตัวเขามีความเข้าใจผิดคิดว่าสัตว์ทั้งหลายเกิดมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์จึงทำให้ตัวเขามักจะชอบทำปาณาติบาต หรือฆ่าสัตว์อยู่เป็นประจำ  
 
ตัวเขามีความเข้าใจผิดคิดว่าสัตว์ทั้งหลายเกิดมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์
จึงทำให้ตัวเขามักจะชอบทำปาณาติบาต หรือฆ่าสัตว์อยู่เป็นประจำ 

      ด้วยความที่ลูกชายคุณป้าของตัวลูก ได้เกิดอยู่ในยุคสมัยที่ไม่มีพระพุทธศาสนาบังเกิดขึ้นนี้เอง จึงทำให้ตัวเขาไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต ไม่ว่าจะเป็น เรื่องกฎแห่งกรรม, เรื่องบุญ-บาป  หรือเรื่องนรก-สวรรค์  เป็นต้น นอกจากลูกชายคุณป้าของตัวลูก จะไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตแล้ว ตัวเขายังมีความเข้าใจผิดคิดว่า “ สัตว์ทั้งหลายเกิดมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์ ” อีกด้วย ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ตัวเขามักจะชอบทำปาณาติบาต หรือฆ่าสัตว์อยู่เป็นประจำ

เขาได้นำเอาพวกกุ้ง,  หอย,  ปู, ปลา ที่ตัวเขาจับมาได้นำมาต้มแบบเป็นๆ อยู่เป็นประจำ
 
เขาได้นำเอาพวกกุ้ง,  หอย,  ปู, ปลา ที่ตัวเขาจับมาได้นำมาต้มแบบเป็นๆ อยู่เป็นประจำ  

      ซึ่งในช่วงที่ลูกชายคุณป้าของตัวลูก เติบโตเป็นวัยรุ่น ตัวเขาก็ได้ออกไปช่วยงานคุณพ่อคุณแม่ทำไร่ทำสวน แล้วก็จับสัตว์ต่างๆ นำกลับมาที่บ้านด้วย  เมื่อลูกชายคุณป้าของตัวลูก ได้กลับมาถึงที่บ้านแล้ว ตัวเขาก็จะนำเอาสัตว์เหล่านั้นมาทำเป็นอาหารในทันที และด้วยความที่ตัวเขามีความเข้าใจว่า “ ถ้าหากต้องการที่จะได้รสชาติของเนื้อสัตว์แบบสดๆ ก็จะต้องนำเอาสัตว์เหล่านั้นมาต้มแบบเป็นๆ ”  ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เขาได้นำเอาพวกกุ้ง,  หอย,  ปู, ปลา ที่ตัวเขาจับมาได้นำมาต้มแบบเป็นๆ อยู่เป็นประจำ  
 
เขาชอบที่จะจับพวกเป็ดและไก่มาต้มแบบเป็นๆ ก่อนที่ตัวเขาจะนำไปทำเป็นอาหาร
 
เขาชอบที่จะจับพวกเป็ดและไก่มาต้มแบบเป็นๆ ก่อนที่ตัวเขาจะนำไปทำเป็นอาหาร

      นอกจากที่ลูกชายคุณป้าของตัวลูก จะชอบจับพวกกุ้ง,  หอย,  ปู, ปลา มาทำเป็นอาหารอยู่เป็นประจำแล้ว   ตัวเขายังชอบที่จะจับพวกเป็ดและไก่มาต้มแบบเป็นๆ ก่อนที่ตัวเขาจะนำไปทำเป็นอาหารอีกด้วย โดยลูกชายคุณป้าของตัวลูก จะใช้วิธีการล็อคปีกแล้วก็จับขาของพวกเป็ดและไก่มามัดเอาไว้ก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เหล่านั้นดิ้นในขณะที่ถูกแช่ลงไปในน้ำร้อน จากนั้นตัวเขาก็จะนำเอาพวกเป็ดและไก่ ค่อยๆ จุ่มลงไปในน้ำที่เดือดๆ  แล้วก็แช่เอาไว้อย่างเลือดเย็น จนกระทั่งสัตว์เหล่านั้นได้ตายลงด้วยความเร่าร้อนในน้ำเดือดนั่นเอง และเมื่อพวกเป็ดและไก่เหล่านั้นตายลงแล้ว ลูกชายคุณป้าของตัวลูก ก็จะนำเอาสัตว์เหล่านั้นมาถอนขนออกก่อนที่จะนำไปทำเป็นอาหาร ซึ่งตัวเขาจะทำเช่นนี้อยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ
 
วันหนึ่งเขาได้เห็นหนูกำลังกินข้าวที่ตัวเขาได้เพาะปลูกไว้เขาจึงเกิดไอเดียในการกำจัดพวกหนูขึ้นมาอย่างฉับพลัน 
 
วันหนึ่งเขาได้เห็นหนูกำลังกินข้าวที่ตัวเขาได้เพาะปลูกไว้
เขาจึงเกิดไอเดียในการกำจัดพวกหนูขึ้นมาอย่างฉับพลัน

       จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง ในขณะที่ลูกชายคุณป้าของตัวลูก กำลังออกไปตรวจดูนาข้าวของตัวเขาเองอยู่นั้น   ตัวเขาก็ได้เห็นหนูกำลังกินข้าวที่ตัวเขาได้เพาะปลูกเอาไว้ เมื่อลูกชายคุณป้าของตัวลูก ได้เห็นเช่นนั้น ตัวเขาจึงเกิดไอเดียในการกำจัดพวกหนูขี้ขโมยขึ้นมาอย่างฉับพลันว่า “ ตัวเขาจะต้องเอาเศษอาหารที่ผสมด้วยยาเบื่อ ไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ของนาข้าว เพื่อที่พวกหนูขี้ขมายเหล่านั้นจะได้มาทานเศษอาหารที่ผสมยาเบื่อเอาไว้  แทนการไปกัดกินเมล็ดข้าวและต้นข้าวของเขา และเมื่อพวกหนูขี้ขโมยเหล่านั้น ได้ทานเศษอาหารพิษดังกล่าวเข้าไปแล้ว   ฤทธิ์ของยาเบื่อก็จะทำให้พวกหนูตายนั่นเอง  เมื่อเป็นเช่นนี้พวกหนูขี้ขมายเหล่านั้นก็จะหมดไปจากนาข้าวของตัวเขาได้ในที่สุด ”

วิธีการกำจัดหนูด้วยยาเบื่อของตัวเขาทำให้ปริมาณประชากรหนูลดลงไปเป็นจำนวนมาก

วิธีการกำจัดหนูด้วยยาเบื่อของตัวเขาทำให้ปริมาณประชากรหนูลดลงไปเป็นจำนวนมาก
 
    เมื่อลูกชายคุณป้าของตัวลูก คิดวิธีการกำจัดหนูได้เช่นนั้น ตัวเขาจึงไม่รอช้า ได้รีบทำตามความคิดของตัวเขาเองในทันที ซึ่งวิธีการกำจัดหนูด้วยยาเบื่อของตัวเขานั้น ก็ได้ผลตามที่ตัวเขาได้คาดการณ์เอาไว้ นั่นก็คือปริมาณประชากรน้องหนูในนาข้าวของตัวเขาได้ลดลงไปเป็นจำนวนมาก นอกจากยาเบื่อของเขาจะทำให้ปริมาณประชากรหนูลดลงไปเป็นจำนวนมากแล้ว ยาเบื่อของเขายังทำให้สัตว์ชนิดอื่นๆ ที่มาทานอาหารที่ผสมด้วยยาเบื่อต้องล้มตาย ไปเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน และเมื่อลูกชายคุณป้าของตัวลูก เห็นว่าวิธีการกำจัดหนูในนาข้าว ด้วยยาเบื่อได้ผลดีเช่นนั้น ตัวเขาจึงได้ใช้วิธีการนี้มากำจัดหนูที่อยู่ภายในบ้านของตัวเขาเองด้วย  ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้หนูภายในบ้านของตัวเขาได้พากันล้มตาย ไปตามๆ กัน 
   
นอกจากจะฆ่าสัตว์อยู่เป็นอาจิณกรรมแล้วเขายังชอบดื่มเหล้าอยู่เป็นนิตย์ 
 
นอกจากจะฆ่าสัตว์อยู่เป็นอาจิณกรรมแล้วเขายังชอบดื่มเหล้าอยู่เป็นนิตย์
 
      นอกจากลูกชายคุณป้าของตัวลูก จะฆ่าสัตว์อยู่เป็นอาจิณกรรมแล้ว  ตัวเขายังชอบดื่มเหล้าอยู่เป็นนิตย์อีกด้วย ซึ่งลักษณะของเหล้าที่ลูกชายคุณป้าของตัวลูก ดื่มเป็นประจำนั้น ก็ไม่ได้เป็นเหล้าธรรมดาๆ แบบทั่วๆ ไป   แต่จะเป็นเหล้าชูกำลังที่ต้องดองด้วยสมุนไพรหลากหลายชนิด  อีกทั้งจะต้องดองด้วยสัตว์ที่เป็นๆ อีกด้วย ซึ่งสัตว์ที่ตัวเขาชอบจับมาดองแบบเป็นๆ ก็ได้แก่ พวกงู,  แมลงป่อง  หรือตะขาบ  เป็นต้น ด้วยความที่ลูกชายคุณป้าของตัวลูก มีนิสัยชอบดื่มเหล้าชูกำลังแบบพิสดารหรือแปลกๆ อยู่เป็นประจำนี้เอง จึงทำให้ตัวเขาต้องทำกรรมปาณาติบาต  ด้วยการจับพวกสัตว์เหล่านั้นมาดองเหล้าอยู่เป็นประจำนั่นเอง

ด้วยวิบากกรรมปาณาติบาตนี้เอง  จึงส่งผลทำให้ในภพชาติต่อๆ มา ตัวเขาต้องเกิดมามีอายุสั้น แล้วก็เสียชีวิตก่อนวัยอันควร
 
ด้วยวิบากกรรมปาณาติบาตนี้เองจึงส่งผลทำให้ในภพชาติต่อๆ มา
ตัวเขาต้องเกิดมามีอายุสั้น แล้วก็เสียชีวิตก่อนวัยอันควร

      ด้วยวิบากกรรมปาณาติบาตที่ลูกชายคุณป้าของตัวลูก ได้ฆ่าสัตว์หลากหลายชนิดอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ   โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิบากกรรมปาณาติบาตที่ตัวเขาได้ฆ่าเป็ดและไก่ด้วยการต้มแบบเป็นๆ นี้เอง  จึงส่งผลทำให้ในภพชาติต่อๆ มา ตัวเขาต้องเกิดมามีอายุสั้น แล้วก็เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ด้วยอาการที่ร้อนรุ่มเหมือนถูกไฟเผาอยู่ตลอดเวลา  ซึ่งจะคล้ายๆ กับอาการก่อนที่ตัวเขาจะเสียชีวิตในภพชาติปัจจุบันนี้ ติดต่อกันมาหลายภพหลายชาติแล้ว
 
จนในภพชาติปัจจุบันด้วยวิบากกรรมปาณาติบาตก็ได้บีบคั้นให้เกิดอาการคึกคะนองอยากที่จะดื่มยาดองเหล้าพร้อมกับเหล้าขาวซึ่งเป็นผลทำให้เขาเสียชีวิตลงด้วยใจที่เศร้าหมองอย่างสุดๆ
 
จนในภพชาติปัจจุบันด้วยวิบากกรรมปาณาติบาตก็ได้บีบคั้นให้เกิดอาการคึกคะนองอยากที่
จะดื่มยาดองเหล้าพร้อมกับเหล้าขาวซึ่งเป็นผลทำให้เขาเสียชีวิตลงด้วยใจที่เศร้าหมองอย่างสุดๆ

      จนกระทั่งมาถึงในภพชาติปัจจุบันนี้ด้วยวิบากกรรมปาณาติบาตดังกล่าวก็ได้บีบคั้นให้ลูกชายคุณป้าของตัวลูก เกิดอาการคึกคะนองอยากที่จะดื่มยาดองเหล้าพร้อมกับเหล้าขาว  ซึ่งก็เป็นผลทำให้ร่างกายของเขาเกิดอาการเร่าร้อนและทุกข์ทรมานเหมือนถูกไฟเผา   แล้วในที่สุดตัวเขาก็ได้เสียชีวิตลงด้วยใจที่เศร้าหมองอย่างสุดๆ เหมือนอย่างที่เป็นอยู่นี้นั่นเอง ดังนั้น ตัวลูกและทุกๆ คนในครอบครัวก็จะต้องตั้งใจ
สั่งสมบุญทุกๆ บุญให้เต็มที่เต็มกำลัง และเมื่อสั่งสมบุญทุกๆ บุญแล้ว ก็ให้หมั่นอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งไปให้ลูกชายคุณป้าของตัวลูก อยู่เป็นประจำ ซึ่งบุญที่ตัวลูกและทุกคนได้ทำแล้วก็อุทิศส่งไปให้เขานั้น ก็จะไปรอคอยตัวเขาอยู่ที่ยมโลก 
 
ถ้าใครใจหมอง ต้องไปอบาย
 
ถ้าใครใจหมอง ต้องไปอบาย

      หลังจากที่ลูกๆ ได้ฟังเรื่องราวของเคสนี้และเคสที่ผ่านๆ มา เราจะได้ยินได้ฟังมาหลายครั้งแล้วว่า “ ถ้าใครใจหมอง ต้องไปอบาย”   ซึ่งเราอาจจะยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ ใจหมองในแง่ของกฎแห่งกรรมตามหลักพระพุทธศาสนา ” ดังนั้น ในวันนี้เราจะมาทำความเข้าใจในความหมายที่แท้จริงของคำว่า  “ ใจหมองในแง่ของกฎแห่งกรรมตามหลักพระพุทธศาสนา ” ว่าเป็นอย่างไร
 
       ในความเป็นจริงแล้ว ใจของคนเรานั้นจะมีความประภัสสร หรือมีความผ่องใสสว่างไสวเป็นปกติอยู่แล้ว   แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ใจของเราถูกบาปอกุศลเข้าครอบงำให้ตัวเราคิด พูด  และทำในสิ่งที่ไม่ดี   ใจของเราก็จะเศร้าหมองไม่ผ่องใส
 
ด้วยความเศร้าหมองของใจที่ตัวเขาพลาดพลั้งไปทำบาปอกุศลมาอย่างยาวนานก็จะดึงดูดให้เขาไปสู่ภพภูมิที่มืดมิด
 
ด้วยความเศร้าหมองของใจที่ตัวเขาพลาดพลั้งไปทำบาปอกุศลมาอย่างยาวนาน
ก็จะดึงดูดให้เขาไปสู่ภพภูมิที่มืดมิด

      และถ้าหากใครคิด  พูด  และทำความชั่วอยู่เป็นประจำ ก็จะทำให้คนๆ นั้นเกิดความคุ้นชินกับความการทำความชั่ว ซึ่งจะส่งผลทำให้ใจของเขาเศร้าหมองเป็นปกติ โดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้เลยว่า “ใจของเขากำลังเศร้าหมองอยู่ ”   ยกตัวอย่างเช่น ในบางเคส เวลาที่คนกินเหล้า  เขาก็จะรู้สึกสนุกสนานเฮฮาหรือม่วนอยู่กับการกินเหล้า ซึ่งถ้าดูเพียงผิวเผินจากการแสดงออกภายนอก  เราอาจจะดูไม่ออกเลยว่า “ ใจของเขากำลังเศร้าหมองอยู่ ”   แต่ในความเป็นจริงแล้วภาพที่เห็นกับสิ่งที่เป็นมันตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งในจุดนี้เองถือเป็นความเข้าใจที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการดำเนินชีวิตในสังสารวัฎ เพราะเมื่อถึงเวลาที่เขาจะต้องละจากโลกนี้ไป ด้วยความเศร้าหมองของใจที่ตัวเขาพลาดพลั้งไปทำบาปอกุศลมาอย่างยาวนานก็จะดึงดูดให้เขาไปสู่ภพภูมิที่มืดมิด  นั่นก็คือการไปเกิดในอบายภูมิทั้ง 4 ได้แก่ สัตว์นรก  เปรต  อสูรกาย  และสัตว์ดิรัจฉาน
 
เมื่อจิตผ่องใสไม่เศร้าหมอง  สุคติเป็นที่ไปเมื่อจิตเศร้าหมองไม่ผ่องใส   ทุคติเป็นที่ไป 
 
เมื่อจิตผ่องใสไม่เศร้าหมอง  สุคติเป็นที่ไป  เมื่อจิตเศร้าหมองไม่ผ่องใส   ทุคติเป็นที่ไป
 
      ดังนั้น หลักคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสสอนเอาไว้ว่า “จิตเต  อสังกิลิฏเฐ   สุคติ   ปาฏิกังขา   เมื่อจิตผ่องใสไม่เศร้าหมอง  สุคติเป็นที่ไป,   จิตเต  สังกิลิฏเฐ  ทุคติ  ปาฏิกังขา  เมื่อจิตเศร้าหมองไม่ผ่องใส   ทุคติเป็นที่ไป”   จึงเป็นสิ่งที่พวกเราชาวพุทธควรจะตอกย้ำซ้ำๆ ให้คล่องปาก ให้ขึ้นใจ ให้เข้าใจ แล้วก็ทำกันให้ได้  เพื่อที่เราจะได้ไม่เผลอไปทำบาปอกุศล   ซึ่งจะเป็นเหตุที่ทำให้ใจของเราเศร้าหมองไม่ผ่องใส   และทำให้เราต้องพลัดไปสู่อบายนั่นเอง
 
 เราทุกคนล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น โดยไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่รู้เรื่องกฎแห่งกรรมก็ตาม แต่เราก็จะต้องรับผลของการกระทำ ที่เราได้เคยกระทำเอาไว้ทั้งหมด
 
เราทุกคนล้วนตกอยู่ภายใต้กฎ แห่งกรรมทั้งสิ้น โดยไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่รู้เรื่องกฎแห่งกรรมก็ตามแต่
เราก็จะต้องรับผลของการกระทำ ที่เราได้เคยกระทำเอาไว้ทั้งหมด

      จากเรื่องราวสะเก็ดข่าวสั้นทันปรโลกที่เราได้ศึกษาเรียนรู้กันมานี้ ก็สอนให้เราได้รู้ว่า “ เราทุกคนล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น โดยไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่รู้เรื่องกฎแห่งกรรมก็ตาม แต่เราก็จะต้องรับผลของการกระทำ ที่เราได้เคยกระทำเอาไว้ทั้งหมด  ดังนั้น เราจะต้องศึกษาเรียนรู้เรื่องกฎแห่งกรรม   ซึ่งมีเฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น  เพื่อที่เราจะได้ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท  ด้วยการตั้งใจสั่งสมบุญสร้างบารมี และประพฤติดีปฏิบัติชอบตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  เช่น ทำทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนา เป็นต้น  ถ้าเราทำได้เช่นนี้ ชีวิตการสร้างบารมีของเราจะได้อยู่รอดปลอดภัยและมีชัยชนะในเส้นทางการสร้างบารมีไปตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม”
 
สำหรับเรื่องราวสะเก็ดข่าวสั้นทันปรโลก ก็คงต้องจบลงพอสังเขปเพียงเท่านี้    

 

กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)

     บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป

     "วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
จดหมายจาก ทาเฮอเร่ห์ เมียซาอีจดหมายจาก ทาเฮอเร่ห์ เมียซาอี

ผลการปฏิบัติธรรม พระธรรมทายาทรุ่นบูชาธรรม 68 ปีฯผลการปฏิบัติธรรม พระธรรมทายาทรุ่นบูชาธรรม 68 ปีฯ

ผลการปฏิบัติธรรม พระธรรมทายาทโครงการ 1 แสนรูปผลการปฏิบัติธรรม พระธรรมทายาทโครงการ 1 แสนรูป



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน