View this page in: English
Case study
ฝันถึงบั้งไฟพญานาค
เรียบเรียง จากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
กราบนมัสการพระเดชพระคุณที่เคารพอย่างสูง
ลูก มี น้องสาว 1 คน เมื่อตอนเกิดมา ลูกเป็นเด็กที่เลี้ยงยาก เพราะลูกเป็นโรคหัวใจ พอลูกอายุได้ประมาณ 8 ขวบ พ่อ-แม่ของลูก ก็ถูกยิงเสียชีวิตพร้อมกัน ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับจากทำงาน จากนั้นยายกับตาก็เป็นผู้เลี้ยงดูลูกมาจนโต พอลูกอายุ 14 ปี ก็ได้รับการผ่าตัดโรคหัวใจ จนหายเป็นปกติ เมื่อเรียนจบลูกก็มี แฟน แต่แฟนก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต หลังจากนั้นลูกก็แต่งงานมีครอบครัวอยู่กันได้ 7 ปี สามี ก็ล้มป่วยเสียชีวิต หลังจากนั้นลูกก็มีสามีอีก แต่สามีลูกเจ้าชู้ มีผู้หญิงคนใหม่ ในขณะนี้ ซึ่งลูกก็ยังไม่ได้เลิกกับสามีคนนี้
ลูกขอเล่าประวัติการมาวัดพระธรรมกายให้ฟังสักเล็กน้อยนะคะ ลูกมาวัดพระธรรมกายนานๆครั้ง ในช่วงมีงานบุญสำคัญๆ โดยการชักชวนของเพื่อนที่ทำงานเดียวกัน แต่ลูกก็ไม่ได้มีความผูกพัน หรือศรัทธาอะไรมากนัก มันเฉยๆ แบบว่า มาตามเขาเท่านั้น และที่บ้านของลูกก็ยังไม่ได้ติดจานดาวธรรม เพราะฉะนั้น เรื่องราวต่างๆที่หลวงพ่อเล่าเกี่ยวกับพญานาค ลูกจึงไม่เคยได้ยิน ได้ฟังมาก่อนเลย
อยู่มาคืนหนึ่ง ลูกฝันถึงพญานาค มาเล่าประวัติ และเรื่องราวต่าง ๆ ในการพ่นบั้งไฟพญานาค ลูกได้มาเล่าให้เพื่อนที่ทำงานฟัง พวกเขาก็พากันประหลาดใจกันเป็นอย่างมากว่า ทำไมตรงกับเรื่องราวที่คุณครูไม่ใหญ่เล่าใน โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทั้งๆที่ลูกเองไม่เคยดูเรื่องพญานาคมาก่อนเลย เรื่องราวความฝันของลูกเป็นดังนี้ค่ะ
ปกติเมื่อลูกนอน ลูกจะฝันว่า ได้อยู่ในน้ำ ได้ดำผุดดำว่ายอยู่ใต้น้ำเหมือนเงือก อย่างมีความสุข ในแหล่งน้ำแห่งหนึ่งที่ใหญ่มากเป็นน้ำจืด สีเขียว แต่ใสมาก และต้นไม้ พันธุ์ไม้ที่อยู่รอบๆ ก็โบราณมากจนไม่รู้ว่า เป็นต้นอะไร ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่มีอยู่แล้ว สถานที่นี้ลูกจะฝันว่าไปบ่อยมากๆ คือ ถ้าฝันว่า เล่นน้ำแบบหายใจในน้ำได้ จะต้องที่แห่งนี้ทุกครั้ง และแหล่งน้ำแห่งนี้ลูกไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต และเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา (เดือนกันยายน) น้องสาวซึ่งเป็นกัลยาณมิตรได้ชวนลูกไปดูบั้งไฟพญานาค แต่ลูกปฏิเสธเพราะไม่เคยสนใจ ไม่ค่อยเชื่อด้วยเจ้าค่ะ
ต่อจากนั้น คืนหนึ่ง ขณะที่ลูกกำลังหลับ ลูกก็เหมือนรู้สึกลืมตาขึ้นมา ลูกอยู่ในน้ำได้โดยที่หายใจแล้วน้ำไม่เข้าจมูก ลูกก็รู้สึกชอบ แล้วลูกมองออกไปตรงด้านหน้า ลูกก็เห็นพญานาคมากมาย ทั้งใกล้และไกลตัว หลายตัวมากๆ ทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ เป็นสีเขียว มีหงอนสีแดง บางตัวหงอนเป็นเพลิงขึ้นไปสูง บางตัวถึงจะตัวใหญ่แต่หงอนเตี้ย ส่วนตัวเล็กบางตัวก็มีหงอนสูง บางตัวก็มีหงอนเล็ก แต่ตัวใหญ่ เกล็ดจะแข็ง สีเขียวแวววาวเหมือนกระจกสวยมากเจ้าค่ะ (ลูกไม่ไปสัมผัสด้วยมือ แต่สัมผัสด้วยความรู้สึกเจ้าค่ะ) ต่ำลงมาจากหัวของพญานาคจะมีสายคาดแนบที่คอ แนบเนื้อไปเลยไม่รุงรังเหมือนกับจะถอดออกไม่ได้ และตรงกลางของสายคาดด้านหน้าก็จะมีอัญมณีอยู่ เม็ดใหญ่มากสีแดงเหมือนทับทิม บางตัวเป็นสีเหลือง แต่ตัวเล็กไม่มีเจ้าค่ะ เกล็ดของตัวเล็กจะไม่แวววาว รู้สึกไม่แข็งเหมือนกับตัวใหญ่ ลูกจะได้ยินเสียงรื่นเริงจากพญานาคตัวเล็กๆ ส่งเสียงหัวเราะสนุกสนานแบบเด็กๆ (เหมือนกับพญานาคตัวเล็กได้ออกมาจากที่อยู่ มารวมตัวกันในงานบุญ ซึ่งเหมือนกับงานบุญที่วัดในสมัยก่อนของมนุษย์ที่เด็กๆจะได้มาพบกัน) แต่ตัวใหญ่จะสงบนิ่งมากเจ้าค่ะ
ขณะที่ลูกเห็นพญานาค ลูกก็เห็นดวงไฟ ข้างในสีขาวใส แล้วมีขอบริมๆสีชมพูเหมือนกลีบดอกบัว และรอบๆดวงไฟมีรัศมีสีขาว ลอยอยู่ในน้ำมากมายหลายดวงเจ้าค่ะ ค่อยๆลอยขึ้นไป ลูกจึงแหงนมองดวงไฟที่ลอยขึ้นไป จึงเห็นก้นของท้องน้ำซึ่งเป็นพื้นดิน อยู่เหนือตัวลูก ส่วนตัวลูกอยู่ในน้ำใต้พื้นดินนั้น เห็นเป็นสีเขียว บ่งบอกว่า ลึกมากแต่น้ำใส ไม่ขุ่น ลูกจึงรู้ว่า พญานาคพ่นบั้งไฟอยู่ใต้พื้นดินที่มีน้ำ แล้วดวงไฟจะลอยทะลุดินขึ้นไปยังน้ำ แล้วก็ลอยไปในอากาศ ซึ่งเมื่อลอยขึ้นไปแล้ว แสงและความสวยงามของดวงไฟจะไม่สวยเหมือนมาเห็นใต้น้ำแบบนี้เจ้าค่ะ
ลูกจึงมองไปบริเวณรอบๆ ความรู้สึก รู้ว่าลึกมากๆเจ้าค่ะ ขณะที่ลูกดูการพ่นดวงไฟของพญานาค ลักษณะจะไม่ใช่การผลัก พ่น หรือดันดวงไฟออกมาด้วยพละกำลัง แต่พญานาคจะสงบนิ่งมีสมาธิมาก พออ้าปากดวงไฟก็จะลอยออกมาจากปากเอง พญานาคเยอะมากๆ ดวงไฟก็เยอะมากเจ้าค่ะ ขนาดของดวงไฟก็จะใหญ่เล็ก สวยงามต่างกัน ถ้าตัวไหนที่สงบมากๆ ดวงไฟก็จะใหญ่และสวยเจ้าค่ะ ตัวเล็กๆจะไม่ค่อยมีดวงไฟออกมา ถ้ามีออกมาก็ดวงเล็กๆ แล้วนานๆครั้งจึงจะออกมา คือ ตัวเล็กเหมือนจะติดในความสนุกที่ได้มาร่วมในงานนี้ ได้มาพบปะกัน แต่ก็จะมีช่วงเวลาหนึ่งที่พญานาคตัวเล็กจะสงบเป็นสมาธิ แล้วปล่อยลูกไฟออกจากปาก
ขณะที่ลูกกำลังดูอยู่นั้น ตลอดเวลาลูกจะได้ยินเสียงเล่าจากพญานาคตัวหนึ่ง ลูกหันไปดู ก็เห็นพญานาคตัวใหญ่มาก มีสีทอง เกล็ดแข็งแวววาว ใหญ่ที่สุดในจำนวนที่ลูกเห็น ในขณะที่เขาเล่า ลูกจะเห็นทั้งพญานาค และข้างหน้าของพญานาคก็จะเป็นตัวมนุษย์ (คล้ายรูปภาพที่ในหนังสือพญานาคที่ออกตอนต้นเดือนตุลาคม แต่เขาจะมีอายุมากกว่านั้น) หัวเกล้าจุก มีเส้นสีเขียวๆรัดตรงจุก เสื้อแนบเนื้อเป็นสีทองเหมือนถอดออกไม่ได้ มีเครื่องประดับเป็นสังวาล มีทับทิมสีแดงอยู่ตรงกลาง เขาตัวใหญ่ และรู้สึกว่า เป็นทั้งคนและพญานาคในตัวเดียวกัน ตัวของเขาเป็นสีทอง หงอนแดงสูงมาก เป็นพญานาคตัวใหญ่มาก ลูกรู้สึกว่า ตัวลูกเล็กกว่าเขา แต่ลูกก็ตัวใหญ่กว่าพญานาคตัวอื่นที่กำลังพ่นดวงไฟ แล้วรู้สึกว่า แม่น้ำโขงเล็กมากเจ้าค่ะ ทั้งที่ปกติที่ไม่ได้อยู่ในความฝัน แม่น้ำโขงจะกว้างใหญ่ที่สุด
ในนั้นเหมือนลูกนอนคุย พญานาคที่คุยกับลูกจะเป็นพญานาคที่มีอำนาจ และเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในนั้น (เหมือนเป็นหัวหน้าเจ้าค่ะ) มีขนาดใหญ่และสวยงาม ส่องแสงเป็นประกายมากกว่าตัวอื่น แต่ก็ไม่แก่หง่อมแบบมีเครา ถ้าเทียบกับอายุมนุษย์ก็ประมาณ 30 กว่าเจ้าค่ะ ดูภูมิฐาน แล้วพญานาคตัวนี้ก็เล่าถึงประวัติความเป็นมาของการพ่นดวงไฟ ให้ลูกฟัง โดยมีภาพนิ่งประกอบด้วยเจ้าค่ะ เหมือนภาพสไลด์เล็กๆประกอบการเล่า โดยเล่าถึงเหตุผลของการพ่นดวงไฟ ว่าเดิมพญานาคกลุ่มอื่นไม่ได้มีการพ่นดวงไฟแบบนี้ และตัวเขาก็ไม่ใช่เป็นตัวแรกที่พ่นดวงไฟ แต่เขาทำตามบรรพบุรุษ แล้วก็จะมีภาพๆหนึ่ง เป็นภาพที่มนุษย์ผู้ชายคนหนึ่ง กำลังคุกเข่า ถวายของสิ่งหนึ่งเพื่อบูชาคุณของพระพุทธเจ้า ผู้ชายคนนี้ที่นับถือพระพุทธเจ้า เพราะพระพุทธเจ้าทำให้เขาหมดความทุกข์ (ผู้ชายคนนี้เคยเกิดความทุกข์ร้อน) และนับถือพระพุทธเจ้าตลอดมา ซึ่งชายคนนี้เป็นเหมือนปู่หรือพ่อของเขา แล้วเขาก็ศรัทธาพระพุทธเจ้าสืบต่อกันมาตามบรรพบุรุษของเขา จากนั้นก็จะมีภาพบอกถึงวันเวลาของการพ่นดวงไฟว่า จะมารวมตัวกันและพ่นดวงไฟในวันไหน ก็จะมีภาพพระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากบันไดที่ทอดยาวลงมา ยาวมาก แล้วมีคนเกล้าผมมวย ไม่ใช่มนุษย์เจ้าค่ะ แต่เป็นอะไรไม่รู้จากภาพ เห็นแสงสีสวยมากเปล่งรัศมีออกมาจากคนที่มารออยู่ตรงบันได หลายสีแตกต่างกันไป แต่แสงจากรอบๆตัวพระพุทธเจ้าจะสว่างที่สุด ยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ แต่เย็น พญานาคบอกว่า เขาพ่นดวงไฟเพื่อบูชาพระพุทธเจ้าในวันนั้น แล้วจึงได้ทำสืบต่อกันมานานมากจนถึงทุกวันนี้ โดยทุกครั้งที่ออกมาพ่นดวงไฟจะดูจากวันที่พระจันทร์สุกสว่างกลมโตเหมือนลูกจันทร์ ก็จะมีภาพพระจันทร์ขึ้นมาให้ดู
ในวันที่พระจันทร์สุกสว่างแล้วมีการพ่นดวงไฟ เปรียบเหมือนงานบุญ (งานวัด) ของโลกมนุษย์ที่ทุกคนจะมาช่วยกัน เพื่อแสดงความศรัทธาต่อพระพุทธเจ้าและเป็นการสร้างบุญด้วย แล้วเขาก็เล่าต่อไปอีกว่า ไม่ใช่นาคทุกตัวที่จะออกมาพ่นดวงไฟแบบเขา พญานาคกลุ่มอื่นในช่วงเวลานี้ก็ถือศีลอย่างเดียวอยู่ในที่ของเขา ก็จะมีภาพพญานาคถือศีลอยู่ในที่ของเขา (เขาจะขดตัว จะไม่ได้นอนยาวๆ) ในที่ที่ถือศีลจะเป็นช่องๆ ของใครของคนนั้น เป็นช่องเป็นโพรง ไม่มีน้ำ แล้วก็เล่าว่า เดิมบรรพบุรุษของเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่อพยพมาจากที่อื่น ที่ที่เขาอยู่ไม่มีใครเชื่อว่ามีเขาและไม่สนใจเรื่องการสร้างบุญ
ทันใดนั้น ลูกก็เห็นภาพเมืองที่เหมือนสถาปัตยกรรมอินเดีย มีแม่น้ำอยู่หน้าเมือง ซึ่งก็คือที่เดิมที่เขาเคยอยู่ รูปการอพยพของเขาไม่ใช่เลื้อยมาตามแม่น้ำ เหมือนวื้ดมา เป็นเวลาที่เร็วของเขา แต่เป็นเวลานานมากของโลกมนุษย์ นานมากเจ้าค่ะ เขาเห็นแสงของการสร้างบุญของมนุษย์ และความเชื่อต่อพญานาค ณ ที่แห่งนี้ จึงอพยพมา ซึ่งโดยส่วนใหญ่มนุษย์ฝั่งโน้นเชื่อถือเขา และศรัทธาในพระพุทธเจ้ามากกว่าฝั่งนี้เจ้าค่ะ ลูกก็รู้สึกว่าฝั่งโน้นของเขาคือประเทศลาว แต่พญานาคเขาไม่ได้พูดว่า ประเทศลาว และฝั่งนี้ก็คือประเทศไทย คนฝั่งลาวจะเชื่อถือเขาในเรื่องการพ่นดวงไฟมาก แต่ฝั่งไทยส่วนใหญ่ที่มา จะมาดูเพื่อความสนุกมากกว่าศรัทธา
เขาเล่าให้ลูกฟังอีกเยอะมาก จำได้ว่า เขาได้ถามถึงสารทุกข์สุขดิบของลูกว่า “เป็นอย่างไรบ้าง” แต่ลูกไม่ค่อยสนใจฟังและไม่ตอบ แถมรำคาญเขาด้วยซ้ำ ว่าเล่าอยู่ได้ คุยอยู่ได้ จำคร่าวๆว่าเขาเล่าว่า ตอนนี้ชีวิตของเขาเป็นยังไงบ้าง แต่ลูกก็จำไม่ได้เจ้าค่ะ เขาใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า “ข้า” และใช้สรรพนามแทนตัวลูกว่า “เจ้า” เช่น “เจ้าล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง” ให้ลูกเชื่อในสิ่งที่เขาเล่า ความรู้สึกของลูกที่มีต่อพญานาคตัวนั้น เหมือนเขาเป็นญาติผู้ใหญ่ ที่สนิทมากๆ เพราะลูกไม่กลัวและถ้าจะโต้ตอบ ก็โต้ตอบได้โดยที่เขาจะไม่ทำโทษ ทั้งที่ลูกทำสีหน้าเบื่อหน่ายและรำคาญ แต่เขาก็ยังเล่าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ด้วยเสียงนุ่มนวลกังวานเหมือนไม่ได้เจอกันมานาน แล้วลูกก็รู้สึกอบอุ่นเหมือนได้กลับมาอยู่ในกลุ่มญาติพี่น้องอีกครั้ง และเขาเหมือนอยากจะฝากบอกถึงมนุษย์ให้มนุษย์ได้รู้ถึงประวัติ ความเป็นมาของการพ่นดวงไฟ และให้เชื่อว่าการพ่นดวงไฟของเขา (พญานาค) เป็นเพราะศรัทธาที่มีต่อพระพุทธเจ้า ให้มนุษย์ศรัทธาพระพุทธเจ้า และร่วมจิตร่วมใจขณะที่เขาพ่นดวงไฟด้วย เพราะที่ผ่านมามีแต่เฮฮา สนุกสนาน ซึ่งเขาจะเห็นแสงแห่งบุญสว่างอยู่ทางฝั่งลาวมาก แต่ทางฝั่งไทยจะมีแต่เสียงเฮฮา สนุกสนาน ไม่เลื่อมใสศรัทธาในสิ่งที่เขาทำ
เขาไม่ต้องการให้มนุษย์คิดว่า การพ่นดวงไฟเป็นสิ่งแปลกประหลาด แต่อยากให้ศรัทธา และเชื่อในบุญกันมากๆ ให้เป็นไปด้วยความสงบ การพ่นดวงไฟของเขาก็จะดีมากขึ้น สุกสว่าง มากกว่าทุกวันนี้ ทั้งที่ลูกยังเถียงในใจว่า มาเล่าให้ฟังทำไม ลูกไม่ได้มีความสามารถที่จะไปบอกให้มนุษย์ทุกคนเชื่อได้ คืนนั้นลูกมีความสุขมากเจ้าค่ะ แต่พอตื่นเช้ามาลูกก็ลืมว่า ได้ฝันเรื่องนี้ จนกระทั่งน้องสาวพูดเรื่องจะไปดูบั้งไฟพญานาค ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนฝันถึงพญานาคทั้งคืน
ในความฝัน พญานาคเหมือนอยากให้ลูกเป็นสื่อบอกถึงมนุษย์ทุกคนว่า สิ่งที่เขาได้เล่าให้ลูกฟังนั้นเป็นเรื่องจริง ตอนนั้นลูกยังเถียงในใจว่า ลูกไม่มีความสามารถที่จะไปสื่อให้มนุษย์เชื่อลูกได้ แต่ตอนนี้ลูกรู้แล้วว่า การที่ลูกได้เขียนมาให้หลวงพ่อได้เล่าในรายการฝันในฝันนี้ จะทำมนุษย์รับทราบได้ พญานาคเขาต้องไม่ผิดหวังที่ให้ลูกเป็นสื่อ และลูกรู้สึกดี หมดความกังวล ที่จะได้เห็นแสงแห่งบุญสว่างไสว ทั้งสองฝั่งโขงร่วมสวดสรรเสริญคุณของพระพุทธเจ้าไปพร้อมๆกับเขา (พญานาค)
ลูกมีคำถามที่จะกราบเรียนถามหลวงพ่อดังนี้เจ้าค่ะ
1.ลูกเป็นโรคหัวใจรั่วแต่กำเนิด เนื่องจากบุพกรรมใดเจ้าคะ แล้วปัจจุบันโรคหัวใจหายดีหรือยังเจ้าคะ แล้วลูกควรสร้างบุญอะไรที่จะช่วยให้กรรมนี้เบาบางลงได้เจ้าคะ
2.บิดา มารดา ของลูกทำบุพกรรมใด ถึงได้โดนยิงตายพร้อมกันเจ้าคะ และลูกกับน้องทำบุพกรรมใดร่วมกันมา ถึงได้กำพร้าบิดา มารดา ตั้งแต่ยังเด็กเจ้าคะ
3.บิดา มารดาของลูกตายใหม่ๆไปที่ไหน แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหนเจ้าคะ สบายดีรึเปล่าเจ้าคะ มีข้อความฝากถึงลูกไหมคะ
4.ลูกทำบุพกรรมใดมาเจ้าคะ ถึงไม่เคยสมหวังในความรัก และชีวิตคู่ในปัจจุบันอยากให้ราบรื่น ลูกควรปฏิบัติอย่างไรเจ้าคะ
5.ที่ลูกฝันได้ไปดำน้ำในแหล่งน้ำแห่งนั้นเป็นประจำ ลูกเพ้อเจ้อ หรือเป็นเรื่องจริงเจ้าคะ ถ้าเป็นเรื่องจริงแหล่งน้ำแห่งนั้นคือที่ไหนเจ้าคะ
6.คืนนั้น ที่ลูกฝันเห็นพญานาคทั้งคืนเป็นเรื่องจริงไหมคะ ถ้าจริงทำไมลูกถึงฝันและลูกเกี่ยวข้องอะไรกับพญานาคตัวนั้น เขาถึงต้องมาเล่าเรื่องราวให้ลูกฟังเจ้าคะ
7.ลูกควรจะไปดูบั้งไฟพญานาคไหมคะ และถ้าไป ลูกจะมีโอกาสเห็นพญานาคด้วยตาเนื้อไหมคะ
8.เมื่อไหร่ลูกจะมีโอกาสได้ไปอยู่ในที่ๆ ลูกได้ฝันเห็น และจะไปด้วยวิธีการใด เพราะลูกรู้สึกผูกพัน และมีความสุขที่ได้อยู่ที่นั่น และทำไมลูกถึงรู้สึกผูกพันกับพญานาคตัวนั้นเหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดเจ้าคะ
9.ลูกเคยทำบุพกรรมใดมาเจ้าคะ ทำไมลูกถึงเห็นองค์พระได้ง่าย ทั้งที่ลูกไม่ได้ปฏิบัติธรรมอยู่เป็นประจำ
10.ทำไมลูกถึงฝันเห็นคุณยาย ทั้งที่ไม่เคยรู้จัก และทำไมถึงฝันเห็นหลวงพ่อทั้งที่ไม่เคยนึกถึง และที่ลูกฝันถึงคุณยาย และหลวงพ่อเป็นจริงหรือคิดไปเอง ถ้าเป็นจริงทำไมลูกถึงฝันถึงเจ้าคะ
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ
1.ลูกเป็นโรคหัวใจรั่วมาแต่กำเนิด เพราะเศษกรรมในอดีตเกิดในสังคมเกษตรกรรม ใช้แรงงานทาสและแรงงานสัตว์ มากเกินไป
-
จะแก้ไขต้องแผ่เมตตา ปล่อยสัตว์ปล่อยปลา เป็นต้น รวมทั้งให้ทำบุญทุกบุญ ทั้งทาน ศีล ภาวนา ให้เข้าถึงพระธรรมกาย เมื่อเข้าถึงแล้วก็ให้รักษาไว้อย่าให้หาย จะทำให้ใจใส มีความสุข และวิบากกรรมเบาบางลงไปอีก
2.พ่อแม่โดนยิงตายพร้อมกัน เพราะกรรมในอดีตที่พ่อแม่ได้เป็นสามีภรรยากันเหมือนชาตินี้ แต่เป็นเจ้ามือการพนัน เคยสั่งให้ลูกน้องไปฆ่าลูกหนี้ที่ติดหนี้การพนันแล้วไม่จ่าย
-
ลูกกับน้องเป็นกำพร้า เพราะมีเศษกรรมคล้ายกัน แต่ต่างคนต่างทำ คือฆ่าสัตว์แม่ลูกอ่อน โดยเอาลูกไปขาย ส่วนตัวแม่เอาไว้กิน ดังนั้นจึงมักจะพลัดพรากจากคนที่ตนรักเป็นประจำ
3.พ่อแม่ตอนตายใหม่ๆวนเวียนอยู่ใกล้ลูกๆด้วยความห่วงใย ต่อมาเมื่อลูกๆโตจิตก็คลายความห่วงใย จึงได้ไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์ได้เมื่อไม่นานนี้ ทั้งสองท่าน โดยเกิดคนละที่ในครอบครัวฐานะปานกลาง
4.ลูกมีเศษกรรมเจ้าชู้ในสมัยที่เป็นผู้ชายจึงได้สามีเจ้าชู้ จะประคองชีวิตครอบครัวให้ราบรื่น (1) ลูกต้องรู้ว่านี่เป็นเศษกรรมของลูกที่ลูกทำมาจึงได้มาเจอสามีเจ้าชู้
(2) ลูกต้องอดทนทำหน้าที่ของภรรยาให้ดีที่สุด ให้ใจเย็นๆ อย่าโวยวาย ค่อยพูดค่อยจา ให้ยิ้มแย้มแจ่มใส อย่าไปกังวลใจกับเรื่องนี้มากเกินไป
-
เพราะเราเกิดมาสร้างบารมี ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ ใจจะได้มีบุญกับพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง จะทำให้ทุกข์มากก็ทุกข์น้อย ถ้าทุกข์น้อยก็พ้นทุกข์
5.ที่ลูกฝันว่า ไปดำน้ำในแหล่งน้ำนั้นเป็นประจำ นั่นคือสัญญาเก่าของอดีตที่ลูกเคยเป็นนางพญานาคก่อนมาเกิดเป็นมนุษย์ในชาตินี้
-
แหล่งน้ำนั้นเป็นบึงใหญ่แห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากริมแม่น้ำโขงนัก แต่อยู่ในฝั่งไทยซึ่งปัจจุบันบึงนี้ตื้นเขินแล้ว แทบจะไม่เหลือร่องรอยให้เห็น ลูกได้เป็นนางพญานาคที่เมืองบาดาลใต้บึงนี้อีกที
6.คืนที่ลูกฝันเห็นพญานาคนั้นเป็นเรื่องจริง โดยลูกกับพญานาคท่านนั้นเป็นญาติกันเหมือนเป็นลูกพี่ลูกน้องตอนเป็นพญานาค เคยเล่นกันมาตอนเด็กๆ
-
เมื่อรู้ว่า ลูกมาเกิดเป็นมนุษย์ก็เลยตามมาเข้าฝัน เพื่อให้กลับไปเยี่ยมเยียน เพราะตอนลูกเป็นพญานาค ลูกอยากจะมาเกิดสร้างบารมี แต่เมื่อลูกมาเกิดแล้วไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจไว้ พญานาคผู้พี่จึงได้มาเข้าฝันเพื่อเตือนลูก
-
อีกประการหนึ่งต้องการผ่านเรื่องบั้งไฟพญานาคให้มาถึงครูไม่ใหญ่ เพื่อบอกให้ชาวโลกรู้ว่า เป็นเรื่องจริง
7.ลูกควรไปดูบั้งไฟพญานาค เพราะถ้าลูกไปดู พญานาคผู้พี่ก็จะดีใจและอาจจะทำให้มีโอกาสเห็นพญานาคด้วยตาเนื้อได้ เพราะลูกเคยมีเชื้อสาย
8.ลูกอย่าไปอยู่ที่ใต้บาดาลเลย เพราะตอนลูกเป็นพญานาค ลูกก็เคยผิดหวังเรื่องชีวิตคู่กับแฟนพญานาค
-
เพราะแฟนพญานาคเจ้าชู้ มีภรรยานาคมาณวิกาเยอะ
-
และลูกเป็นแค่นางมาณวิกาคอยรับใช้ปรนนิบัติเท่านั้น จึงเบื่อชีวิตเช่นนี้
-
เลยตั้งใจว่าเมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์แล้วจะสร้างบารมีให้เต็มที่
-
ตอนนี้ลูกก็เป็นมนุษย์แล้ว ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ ไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษดีกว่า อย่าถอยหลังกลับไปเลย
9.ที่ลูกเห็นองค์พระได้ง่ายทั้งๆ ที่ไม่ได้ปฏิบัติธรรมเป็นประจำ เพราะในอดีตลูกเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา
แล้วปฏิบัติธรรมได้ดี โดยเคยเป็นอุบาสิกา
-
แต่ก็พลาดไปมีความรัก เลยออกไปมีครอบครัว
-
แล้วก็อายที่จะกลับคืนมาสู่หมู่คณะอีก เลยพลัดกันไปในชาตินั้น เมื่อพุทธันดรที่แล้ว
-
แล้วก็เวียนว่ายตายเกิด เป็นอะไรหลายอย่างกระทั่งมาเป็น นางนาคมาณวิกา และได้มาเป็นมนุษย์ในชาตินี้
-
ที่เจอกันอีกเพราะบุญเคยสร้างกันมา แต่ไม่ได้สม่ำเสมอ เพราะห่างหาย กันไปนาน บุญตรงนี้เลยหย่อนไป
10.บุญที่เคยเป็นอุบาสิการักษาศีล สร้างบารมีกับหมู่คณะมา จึงทำให้เห็นคุณยายทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักในชาตินี้ และฝันเห็นหลวงพ่อทั้งๆ ที่ไม่เคยนึกถึง
บทความที่เกี่ยวข้องกับพญานาค
Desktop Version
