พลิกชีวิตด้วยบุญทอดกฐิน ตอน กลายเป็นเจ้าของกิจการแบบปุ้บปั้บ


[ 16 ต.ค. 2555 ] - [ 18271 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2555
พลิกชีวิตด้วยบุญทอดกฐิน
 
 
ตอน...กลายเป็นเจ้าของกิจการ แบบปุ้บปั้บ
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ
 
        ผมชื่อ วงกต จันทร์กุล อายุ 32 ปี ส่วนคู่บุญของผมชื่อ ภัธศา จันทร์กุล อายุ 24 ปี ครับ
 
(จากขวา) กัลฯ วงกต และกัลฯ ภัธศา จันทร์กุล เจ้าของธุรกิจเครื่องสำอาง
 
(จากขวา) กัลฯ วงกต และกัลฯ ภัธศา จันทร์กุล เจ้าของธุรกิจเครื่องสำอาง
 
        ปัจจุบันเราสองคน เป็นเจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางยี่ห้อ luxuryface ที่ใครใช้แล้วหน้าจะเด้ง ดูสวยใส ไฮคลาส และรวยครับ
 
ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของผมครับ
 
ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของผมครับ
 
        หลวงพ่อครับ ผมเป็นน้องใหม่ไฟแรงที่เพิ่งเข้าวัดในปีพ.ศ.2554 นี้เองครับ ซึ่งก่อนหน้านี้ ผมเป็นเพียงมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่ไม่ได้มีธุรกิจอะไรเป็นของตัวเองหรอกครับ ส่วนคู่บุญของผม ก็เป็นเภสัชกรสาวแสนสวย ที่เป็นเพียงลูกจ้างร้านขายยาทั่วๆ ไปเท่านั้น
 
        แต่อยู่มาวันหนึ่ง คู่บุญของผมเกิดอะเลิร์ทอะไรขึ้นมาก็ไม่ทราบ ได้ถ่ายรูปขวดเครื่องสำอางของเกาหลีที่เธอใช้ไป โพส-ลงอินเตอร์เน็ตในระบบ Social Network  ที่เขาเรียกกันว่า Facebook และอยู่ๆ ก็มีคนมาขอซื้อเครื่องสำอางนั้นครับ จากตรงนี้เอง ทำให้เราเกิดความคิดเริ่มต้นทำธุรกิจ ขายเครื่องสำอางเกาหลีทางอินเตอร์เน็ต นับตั้งแต่บัดนั้น แต่พอขายไปสักระยะหนึ่ง ผมก็พบปัญหาใหญ่ครับ คือ มีคนไปโพสข้อความวิจารณ์สินค้าของผมในเฟสบุ๊ก ทำให้หลายร้อยคนที่เป็นสมาชิกในเครือข่ายได้มาอ่านคำวิจารณ์นั้นไปด้วย เลยทำให้เกิดกระแสการโพสวิจารณ์สินค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ผมเกิดอาการหงุดหงิด และที่แย่ไปกว่านั้นคือ เครื่องสำอางเกาหลีที่ผมรับมาขาย ยังไปซ้ำกับเจ้าอื่นๆ อีกหลายเจ้า เพราะเขาก็รับของเกาหลีมาขายเหมือนกัน ก็จะทำไงได้ล่ะครับ ในเมื่อสมัยนี้ คนไทยเรานิยมแต่ของเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นหนังเกาหลี กระเป๋าเกาหลี เสื้อผ้าเกาหลี ขนาดมาม่าก็ยังเกาหลีเลยครับ
 
        ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้คนที่นำของเกาหลีเข้ามาขาย จะขายดิบขายดี แม้ไม่ได้โฆษณา และด้วยเหตุที่ใครๆ ก็แห่เอาแต่เครื่องสำอางเกาหลีมาขายนี่เองครับ จึงทำให้วงการนี้มีคู่แข่งเยอะมาก ทำให้ลูกค้าก็มีสิทธิ์เลือกเยอะ คือ ถ้าสินค้าเหมือนกัน ผู้ที่ขายถูกกว่า และจัดส่งทางไปรษณีย์ได้เร็วกว่า หรือมีของแถมให้ลูกค้าได้มากกว่า ลูกค้าก็จะมาซื้อกับเจ้านั้นครับ ด้วยปัญหาทั้งหมดทั้งมวลนี้ ทำให้ผมเกิดอาการหงุดหงิดขั้นจัดหนักมากขึ้นทุกวันๆ ซ้ำร้ายยังเครียดจนคิดจะเลิกขายแล้วครับ แต่อยู่ๆ บุญเกิดได้ช่องยังไงก็ไม่ทราบ ผมจึงเกิดความคิดขึ้นมาว่า เราน่าจะทำแบรนด์ หรือตั้งยี่ห้อเครื่องสำอางขึ้นมาใหม่ซะเองเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องไปซ้ำใคร
 
        แต่หลวงพ่อครับ แค่คิดน่ะมันง่าย แต่พอเอาเข้าจริงๆ ไม่ใช่ง่ายเลยครับ เพราะในวงการเครื่องสำอางคู่แข่งทางการตลาดเยอะมาก ยิ่งถ้าเป็นยี่ห้อใหม่ด้วยแล้วล่ะก็ยากที่จะขายได้ครับ เพราะยังไม่มีใครเชื่อถือ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่กลัวว่า ถ้าซื้อไปทาแล้วหน้าจะพัง อีกทั้งการขายทางอินเตอร์เน็ต ช่องทางการตลาดมันแคบกว่าการทำโฆษณาทางทีวีเยอะมาก สรุปแล้วก็คือ หากจะทำขายเอง โอกาสที่จะเจ๊งมีสูงมากครับ เพราะเขาเจ๊งกันไปหลายรายแล้ว แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจเสี่ยงที่จะทำครับ แต่การตัดสินใจของผมไม่ได้เสี่ยงแบบสุ่มสี่สุ่มห้านะครับ แต่เสี่ยงแบบถูกหลักวิชชา คือ ผมเอาบุญช่วยครับ โดยการตัดสินใจปิดบัญชีทำบุญทอดกฐินปี พ.ศ.2554 ครั้งแรกในชีวิตรวม 2 S ครับ เพราะผมเชื่อว่า คนจะรวยแบบจัดหนักได้ ก็ต้องทำบุญแบบจัดเต็ม แล้วผมก็ได้อธิษฐานว่า ด้วยบุญนี้ ขอให้สินค้าผมขายดิบขายดีแบบเกินควรเกินคาด รวยแบบขั้นเทพ ถึงขั้นสามารถมีโรงงานผลิตเครื่องสำอางเป็นของตัวเองเป็นอัศจรรย์ ซึ่งก็เหลือเชื่อครับ หลังจากทำบุญไปปุ๊บ ปรากฏว่า เครื่องสำอางน้องใหม่ที่เพิ่งเกิดในวงการของผม ขายดีอย่างเหลือเชื่อครับ จากเดิมที่ขายได้วันละ 1,000 บาท กลับเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 5,000 บาท ทำให้ภายใน 1 เดือน ผมมีรายได้เข้าเป็นแสน และที่น่าอัศจรรย์ไปกว่านั้น ยอดขายได้พุ่งขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง จนขายได้ถึงวันละ 1 แสนบาท ทำให้ผมมีกำไรมากถึง 3-5 หมื่นบาทต่อวัน รวมแล้วมียอดขายต่อเดือนเป็นเลข 7 หลักอย่างเหลือเชื่อครับ อีกทั้งลูกค้าใช้แล้วก็เกิดความพอใจ เพราะได้ผล จนเกิดกระแสการบอกต่อ สุดท้าย ผมต้องไปขอลาออกจากงานประจำ มาเป็นเถ้าแก่ เพื่อช่วยภรรยาสุดสวยของผมขายเครื่องสำอางครับ
 
        หลวงพ่อครับ ผมรู้สึกว่าตัวเองคิดไม่ผิดเลยครับ ที่ตัดสินใจปิดบัญชีทำบุญทอดกฐินปีที่แล้ว เพราะบุญนี้ส่งผลเร็วแรงเหลือเชื่อ ซึ่งอย่าหาว่าผมโม้เลยครับ เพราะตอนนี้สินค้าของผมขายดี จนเล่นเอาของเกาหลีเสียเซ้ลฟ์(Self) ไปแล้วครับ คือ ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อเกาหลี เกาลัด เกาหลัง หรือเกาอะไรก็แล้วแต่ มาเจอของผม ก็ต้องเกาหัวครับ เพราะงงที่ผมขายดี จนพลิกชีวิตไปเลยครับ คือ จากมนุษย์เงินเดือนธรรมดา อยู่ๆ ปุ้บปั้บ ก็กลายเป็นเถ้าแก่แบบเฉียบพลันด้วยวัยเพียง 30 ต้นๆ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ที่ชาวบ้านชาวเมืองเขาหาเงินไม่ค่อยจะได้
 
        สุดท้ายนี้ ผมก็ขอกราบขอพรจากหลวงพ่อให้ผมรวยอัศจรรย์ และได้เป็นประธานกองให้สำเร็จอย่างเป็นอัศจรรย์ด้วยครับ ซึ่งตอนนี้ ผมขอประเดิมทำบุญที่ 2 S ก่อนครับ
  

รับชมคลิปวิดีโอเพลง กฐินบุญนี้ต้องทำ
ชมวิดีโอเพลง กฐินบุญนี้ต้องทำ   Download ธรรมะเพลง กฐินบุญนี้ต้องทำ



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ปรโลกนิวส์ คุณแม่เทียมจิตละโลกแล้วไปไหน ตอนที่ 2ปรโลกนิวส์ คุณแม่เทียมจิตละโลกแล้วไปไหน ตอนที่ 2

ปรโลกนิวส์ คุณแม่เทียมจิตละโลกแล้วไปไหน ตอนจบปรโลกนิวส์ คุณแม่เทียมจิตละโลกแล้วไปไหน ตอนจบ

พลิกชีวิตด้วยบุญทอดกฐิน ตอน รื้อผังจนแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวหัวใจเกินล้านพลิกชีวิตด้วยบุญทอดกฐิน ตอน รื้อผังจนแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวหัวใจเกินล้าน



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน